Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
1 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 
ประชาธิปไตยในคูหา 3 กรกฎา ไปเลือกตั้ง

ขอเชิญคนไทยทุกหมู่เหล่า ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในคูหาวันที่ 3 ก.ค. 54 อย่านอนหลับทับสิทธิ์นะครับ
ไม่(ค่อยได้)เขียนบทความเรื่องการเมืองการปกครองหรือประชาธิปไตยนัก งั้น Blog นี้ขอจัดเต็มๆหน่อยนะครับ


เลือกคนดีเข้าสภา?
แล้วคุณเอาคนไม่ดีมาใส่ในบัตรเลือกตั้งทำไมหละ? หรือว่าคุณก็ยังแยกแยะไม่ออกระหว่างคนดีกับคนไม่ดี แล้วอย่างงี้จะมาให้ประชาชนแยกแยะออกได้ยังไง
ทางที่ดีควรบอกเพียงว่า กาบัตรเลือกตั้งช่องที่พอใจจะกาก็พอ ซึ่งทุกคนก็จะกาช่องที่พอใจอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่องลงคะแนนให้คน หรือให้พรรค หรือไม่ประสงค์จะลงคะแนนก็ตาม อย่างหลังนี่น่าสนใจ เพราะการบอกให้เลือกคนดีเข้าสภา เหมือนเป็นการหว่านล้อมให้เลือกใครคนใดคนหนึ่ง แล้วจะทำช่องไม่ประสงค์จะลงคะแนนขึ้นมาทำไม จึงบอกให้ไปใช้สิทธิ์ในคูหาเลือกตั้งก็น่าจะพอแล้ว


อย่าเลือกคนเผาบ้านเผาเมือง
คุณไม่ได้กำลังตำหนิประชาชนที่จะเลือกคนเผาบ้านเผาเมืองอย่างเดียว แต่คุณกำลังตำหนิ กกต.ที่เอาคนเผาบ้านเผาเมืองมาใส่ในบัตรเลือกตั้งด้วย ใช่มั้ย….?
ไม่ว่าเค้าจะมีอดีตมายังไง เคยยุให้คนเผาบ้านเผาเมือง เคยพาพวกปิดสนามบิน เคยยึดทำเนียบ เคยเผารถเมล์ เคยสั่งทหารสลายม๊อบจนพลาดโดนคนตาย แต่เค้าก็ไม่ได้เอาเรื่องร้ายๆเหล่านั้นมาใช้หาเสียงเพื่อชูอนาคตประเทศซักหน่อย ทำไมไปมองหาแต่ด้านลบๆของเค้า หรือทำแล้วมีความสุข ทั้งคุณและเค้าและประชาชนได้อะไร แต่เรื่องในอดีตบางส่วนก็อาจจะเอามาคิดประกอบด้วยก็ได้ เพราะสามารถใช้ดูสันดานคนๆนั้นในอนาคตได้ แล้วประชาชนจะตัดสินใจเองครับ


ไม่เลือกเรา เขาก็มา
แล้ว “เรา” มีค่าเพียงเข้าไปกั้นไม่ให้ “เขา” เข้ามาแค่นั้นเองหรือ ดูมันเหมือนเข้าไปนั่งทื่อๆพิกลแฮะ (พูดอย่างงี้แล้วนึกถึงนายกคนไหน)
ดังนั้น ไม่เลือกเขา เราก็มา เช่นกัน


เลือกคนที่ให้ประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อส่วนตนและพวกพ้อง
ถ้าอย่างงั้น ก็อย่าเอานักการเมืองที่เลือกตั้งได้ที่โหล่ขึ้นมาบริหารประเทศสิครับ เพราะพวกที่โหล่นั้น น่าจะมีเพียงพวกพ้องของเค้าเท่านั้นที่ลงคะแนนให้


มันแค่ขนมหลอกเด็ก แต่จริงๆเค้าโกยไปมากเท่าไหร่
งั้นก็ให้พรรคที่ให้ผลประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติมากที่สุดสิ เพราะจะทำให้ข้อครหาว่าเค้างุบงิบเงินประเทศนั้นน้อยลงไปได้ พรรคไหนให้ผลประโยชน์น้อยกว่า แสดงว่างุบงิบเก่งกว่า
ควรผลาญเงินประเทศเก่งงั้นหรือ? เงินนะครับ ถ้าเก็บไว้เฉยๆก็ไม่มีประโยชน์อะไร แต่ถ้าเอามาใช้อย่างไม่คิด มันก็จะเกิดผลเสียได้ และพรรคนั้นก็จะเสื่อมลงไปเองครับ


อย่าเลือกคนโกง
เพราะปัจจุบันเริ่มมีแนวโน้มประชาชนยอมรับคนโกงได้?
จริงเหรอครับ ลองไปถามเค้าใหม่ซิครับ ว่าถ้าให้คนโกงคนนั้นมาร่วมงานด้วยจะเอามั้ย อย่าว่าแต่ให้ทำงานใหญ่โตเลยครับ เอาแค่ให้ไปเป็นคนใช้ในบ้านเค้าเนียะ เค้าจะยอมมั้ย
โพลที่ไปสำรวจอย่างงี้ ยุติธรรมพอหรือเปล่า ให้นิยามของคำว่า "โกง" ถูกต้องแล้วหรือเปล่า เช่น เค้างุบงิบเงินเรา ก็ควรเรียกว่าโกง? แต่ถ้าเค้าบอกแล้วว่า มันจะมีรายได้ส่วนหนึ่งที่เค้าจะถือเอา (จะบอกหรือไม่บอกตัวเลขก็ได้) แล้วเรายอม เพราะเห็นว่าเค้าเก่ง อย่างงี้เรียกว่าโกงได้หรือไม่ จะใช้กฎหมายตัดสินหรือใช้ความพอใจตัดสินดี หากใช้ความพอใจตัดสิน ก็ต้องฝากให้ กกต.ช่วยจัดคูหา ทำประชามติให้หน่อย


ควรเลือกนักการเมืองที่สอนให้ประชาชนตกเบ็ด ไม่ใช้ตกเบ็ดให้ประชาชน
เพราะถ้าวันนึงเค้าไม่ตกเบ็ดให้คุณกิน คุณก็จะไม่มีกิน
งั้นก็คงต้องเลือกนักการเมืองที่ให้ปูนให้เหล็กแก่ประชาชนเอาไปสร้างถนนสร้างสะพานเองด้วยใช่มั้ย ก่อนอื่นต้องตอบให้ได้ก่อนว่า เรามีนักการเมืองเพื่ออะไร มีนายกฯเพื่ออะไร ทำไมต่างคนต่างไม่ทำอาชีพของตัวเองไป ไม่ต้องเก็บภาษี ฯลฯ ดังนั้น ถ้าจะถามกันให้หลังชนฝาแล้ว ไม่เพียงเลือกนักการเมืองที่สอนให้ตกเบ็ดเป็น แต่ต้องเลือกนักการเมืองที่สอนวิธีทำเบ็ดด้วย สอนให้เลือกซื้อเบ็ดด้วย สอนให้เลือกร้านขายเบ็ดด้วย สอนให้ขึ้นรถเมล์ไปร้านขายเบ็ดด้วย ฯลฯ
ดังนั้น จะตกเบ็ดให้กินหรือสอนตกเบ็ด ก็ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะหากประเทศนี้มีรายได้มากพอ ก็สมควรที่รายได้นั้นจะตกถึงประชาชนอย่างชอบธรรม เหมือนประเทศรวยๆบางประเทศ นักการเมืองหรือผู้ถือรายได้ของประเทศนี้อยู่ ไม่ควรนำไปเสวยสุขแต่เพียงผู้เดียว แล้วอ้างให้ประชาชนไปตกเบ็ดกินเอง อย่างน้อยให้คนว่างงานหรือคนประสบปัญหาทางร่างกาย ควรได้มีรายได้พอกินไปวันๆบ้าง


ทำไมไม่จำกัดสิทธิเลือกตั้งไว้ที่คนมีการศึกษาดีๆเท่านั้น
เพราะการจะได้ผู้นำที่ดี น่าจะมาจากการเลือกสรรของผู้มีคุณภาพในสังคม
มันก็อาจจะจริงนะครับ แต่
1. การหาเสียงเพื่อเอาใจฐานเสียงของนักการเมือง ก็จะจำกัดอยู่แต่บุคคลผู้มีคุณภาพในสังคมเหล่านั้น มะรุมมะตุ้มกันอยู่แค่นั้น คนอื่นก็จะนั่งมองตาละห้อย
2. หากคิดว่าตัวเองเป็นคนไม่มีคุณภาพ (หรือระดับล่าง) ไม่มั่นใจในการกาบัตรเลือกตั้งของตัวเอง ก็ไปฟังคนที่คิดว่ามีคุณภาพกว่าก็ได้ครับ ไม่ว่าเขาจะเป็นนักวิชาการประจำพรรค(อันนี้เอียงหน่อย) หรือนักวิชาการอิสระ ฯ คุณไม่จำเป็นต้องโอนกรรมสิทธิเลือกตั้งตัวเองไปให้เค้า (ไม่มีกฎให้ทำได้) ก็เพียงแค่คุณมากาบัตรเลือกตามที่เค้าแนะนำก็พอแล้ว เพราะหากวันหน้าคุณไม่พอใจคนนั้นขึ้นมาหละ จะไม่ต้องไปทำเรื่องโอนกรรมสิทธิเลือกตั้งกลับคืนมาหรือ ก็แค่ไม่กาบัตรเลือกตั้งตามเค้าเท่านั้นเอง ง่ายจะตายไป โดยหันไปฟังคนอื่นแทน หรือจะคิดเองก็ได้ เพราะไหนๆก็ฟังเค้ามามากแล้ว
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะแบ่งคนประเทศนี้ออกเป็นกี่ชนชั้นก็ตาม ชนชั้นถัดลงไป หากไม่พอใจชนชั้นที่อยู่เหนือตัวเขา เขาย่อมเรียกร้องสิทธิ์จากชนชั้นที่อยู่เหนือตัวเขา คือ เรียกร้องกันเป็นทอดๆ ท้ายที่สุด การเรียกร้องสิทธิ์นี้จึงกระจายไปสู่คนทุกระดับโดยอัตโนมัติเอง ตั้งแต่นักเรียนนอกยันคนที่ไม่ได้เรียนหนังสือเลยครับ (แต่อย่างน้อยต้องอ่านบัตรเลือกตั้งออกหน่อย)


การซื้อเสียง
การซื้อเสียงนั้น เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอยู่แล้วหละครับ แต่….มันดีกว่านักการเมืองที่มาจากรัฐประหารครับ เพราะการซื้อมา ดีกว่าการปล้นมาครับ
รับเงินเค้ามาแล้ว ไม่กาให้เค้านั้น บาปนะครับ แต่ถ้าคุณกาให้เค้า ก็ถือว่าคุณขายเสียง ดังนั้นอย่ารับครับ อย่ารับในที่นี้ หมายรวมถึงรับปากด้วย การรับเงินหรือรับปากเค้ามา แล้วไม่กาให้เค้า เป็นการโกงเค้า หักหลังเค้า เหมือนที่นักการเมืองสัญญากับคุณไปแล้วไม่ทำตาม ก็เรียกว่าโกงไม่ต่างอะไรกันครับ
ทางเลี่ยง ในฐานที่ผมก็ได้รับเงินเค้ามาเหมือนกัน แต่เค้าบอกว่าให้ค่ารถเท่านั้น (ซึ่งไม่ทราบว่าให้ทำไม) ผมก็จะรับรู้เพียงเจตนาเค้าแค่การให้ค่ารถผมฟรีๆเท่านั้น ไม่ได้คิดปรุงแต่งไปอื่นใด ดังนั้น เงินนั่นจึงไม่ได้ผูกมัดให้ผมต้องกาบัตรให้เค้าหรือไม่ แต่อย่างใดครับ
การซื้อเสียงส่วนใหญ่ก็คงจะซื้อกับคนจน เพราะแต่ละคนก็ได้ 1 เสียงเท่ากัน แต่ซื้อคนจนจะใช้เงินน้อยกว่า? ก็จริงครับ แต่จะทำยังไงหละครับ ต้องออกกฎห้ามคนจนมีสิทธิเลือกตั้งหรือเปล่าครับ ถ้าทำได้จริงๆนะครับ เงินของนักการเมืองก็จะประหยัดลง และถูกรวบรวมมาซื้อเสียงกับคนฐานะปานกลางแทน มิวายจะต้องออกกฎให้คนฐานะปานกลางไม่มีสิทธิเลือกตั้งอีก - -! สรุปว่า ทำยังไงให้คนมีสิทธิเลือกตั้งมีให้มากที่สุดดีกว่า จะได้ซื้อเสียงยากๆหน่อย หรือจะลดอายุคนมีสิทธิเลือกตั้งอีกหน่อยก็ได้ครับ


เลือกใครอย่านึกถึงผลประโยชน์ส่วนตัว แต่นึกถึงประเทศ
แล้วรู้มั้ยว่า “ประเทศ” คืออะไร เป็นเพียงแผ่นดินรูปขวานเท่านั้นหรือ แต่ความจริงแล้ว ก็ประกอบไปด้วยหน่วยย่อยๆมากมาย โดยที่หน่วยย่อยที่สุดก็คือประชาชนแต่ละคนนั่นเองครับ เมื่อได้ประโยชน์แก่ประชาชนส่วนใหญ่ ก็จึงใกล้เคียงผลประโยชน์ประเทศเข้าไปทุกทีครับ เพราะถ้าจะถามว่า ผลประโยชน์ประเทศสิ่งเดียว สิ่งนั้นคืออะไรกันแน่ครับ?


ควรกำหนดโทษแก่ผู้ที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือไม่
ไม่ค่อยเห็นด้วยครับ แม้มันจะเป็นโทษที่เบาๆ (ตัดสิทธิทางการเมืองบางอย่าง) เพราะการเลือกตั้งก็เป็นการมอบอำนาจให้กับประชาชน ประชาชนจึงพอใจที่จะออกไปใช้อำนาจ ส่วนใครไม่พอใจที่จะออกไปใช้อำนาจน่าจะปล่อยเค้า เค้าไม่สนใจเอง จะไปสนใจทำไมกับบัตรคะแนนที่ไร้พลัง เลือกแค่ขอไปที แค่ขอผ่านไป หรือไม่ก็กาไม่ประสงค์จะลงคะแนนซะอีก
หากวันหน้าเค้าเกิดปัญหาขัดแย้งขึ้นกับผู้บริหารประเทศ หรือเกิดใจตรงกันกับนักการเมืองคนใดคนหนึ่งขึ้นมา อย่างให้เค้าอยู่นานๆ (กลัวคะแนนคนอื่นเบียดขึ้นมา) มันก็จะเป็นพลังบีบให้เค้าออกไปเลือกตั้งเอง


ทุกช่องในบัตรก็เหมือนอาหารที่ผ่าน อย.มาแล้ว
ทุกช่อง ทุกคน ทุกพรรค มีคุณสมบัติเพียงพอหมดแล้วครับ และไม่มีใครมีสิทธิผูกขาดตำแหน่งเหนือใคร เค้าจึงผลักภาระมาให้นักช๊อปปิ้งต้องตัดสินใจเอง คุณจะตัดสินด้วยอะไร ราคา คุณภาพ รสชาติ น้ำหนัก หีบห่อที่สวยงาม โฆษณาที่ถูกใจ ความเคยกินมาแล้ว ความอยากเปลี่ยน ความรังเกียจผู้ผลิต หรือไม่ถูกใจสินค้าไหนเลย เพราะเห็นว่าค้ากำไลเกินควรกันทั้งนั้น อย่างหลังนี่ ถ้าบ่อยเข้าก็ระวังอดตายได้นะครับ ไม่งั้นต้องสร้างตัวเองให้กลายเป็นผู้ผลิตสินค้าเสียเองให้ได้


ไม่ประสงค์จะลงคะแนน
ช่องนี้มีไว้เพราะไม่พอใจในคนหรือพรรคใดๆที่มีเลย คุณจะต้องไล่ดูพรรคไล่ดูให้หมดก่อน หากไม่พอใจเลยแล้วค่อย vote no ช่องนี้ไม่ได้มีไว้เป็นเป้าหมายแรกในการเข้าคูหา แต่เป็นเป้าหมายสุดท้าย หากการเลือกตั้งนี้มีพรรคเดียว หรือสองสามพรรค ก็อาจ vote no ได้ครับ แต่นี่มีถึง 40 พรรค รวมกี่ชีวิตก็ไม่ทราบ คุณแน่ใจหรือว่าพวกเค้าแย่หมด หากคุณเห็นว่ายังมีคนดีเหลืออยู่บ้าง แต่คุณก็ยังกาช่องไม่ลงคะแนน นั่นคุณก็กำลังเหยียบย่ำคนดีคนนั้นด้วย…..
คุณ vote no เพราะเห็นว่าเลือกพรรคไหนก็แพ้ทักษิณเหรอ จึงรวมพลัง vote no ขึ้นไปต่อรองอำนาจแทน? พวกคุณแตกกับพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่พอ พวกคุณยังมาแตกกับพรรคการเมืองใหม่ที่พวกคุณปั้นขึ้นมากับมือด้วย พลังสามัคคียังไม่มีแล้วจะไปทำอะไรที่มากกว่านี้ได้ หรือถ้าคุณเห็นว่าคุณไม่สามารถสร้างมวลชนให้พรรคการเมืองใหม่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปคานอำนาจทักษิณได้ แล้วคุณจะสามารถสร้างมวลชน vote no ขึ้นไปคานอำนาจทักษิณได้อย่างไร? หากตอนนั้นคุณไม่ลอยแพพรรคการเมืองใหม่ ป่านนี้ป้าย vote no จำนวนมากในขณะนี้ อาจกลายเป็นป้ายหาเสียงพรรคการเมืองใหม่ไปแล้วก็ได้!
ถ้าพลัง vote no มากพอ จะทำให้เปิดสภาไม่ได้ (หยุดระบอบทักษิณได้) แล้ววันหน้าหละ สัปดาห์หน้าหละ เดือนหน้าหละ ปีหน้าหละ?................. ต้องอยู่กันไปอีกนาน ในบ้านหลังนี้
ถามว่ากระผมเคย vote no มั้ย ก็เคยครับ แต่นั่นเป็นเพราะผมไปทำงานต่างจังหวัด ต้องกลับมาเลือกตั้ง อบต.ที่บ้าน ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย ผมจึงให้อำนาจกับคนอื่นๆเลือกแทน โดยที่ผมไม่อยากมีโทษเสียสิทธิทางการเมืองเท่านั้น แต่ก็มีปัญญาพอที่จะไม่ทำบัตรเสีย เลยไม่ประสงค์จะลงคะแนนไป ผมจึงมองการ vote no ว่าเป็นการให้อำนาจคน vote yes ครับ
หลังวันเลือกตั้ง 3 ก.ค. 54 ไปแล้ว อย่ามาเสียใจที่คะแนน vote no มันไม่มากดังคาดนะครับ เพราะมันจะไม่มากไปกว่า 2 เม.ย. 49 แน่นอนครับ แต่ผลของคะแนน vote no 3 ก.ค. 54 เนียะ มันจะส่งผลต่อพรรคประชาธิปัตย์มาก สงสัยว่ามันอาจจะเป็นผลกรรมของอภิสิทธิ์ที่ให้เค้า vote no ไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 49 ครับ


สูญญากาศทางการเมืองมีจริงหรือไม่
ในทางวิทยาศาสตร์ จะทำหลอดสูญญากาศขึ้นมาได้ ก็ต้องเป็นหลอดที่ไม่มีรูให้อากาศเข้าได้แม้แต่นิดเดียว หากมีรูไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ อากาศก็จะเข้าไปจนเต็มจนไม่อาจเรียกว่าหลอดสูญญากาศได้
ดังนั้น หากคุณถูกขังอยู่ในที่ๆรายล้อมด้วยกำแพงสูง แต่เห็นมีช่องทางออกขนาดเท่ากับตัวเองพอดี คุณก็ต้องไปออกทางนั้นครับ จะดูแคลนว่ามันเป็นทางที่แคบเลยไม่ไปออกไม่ได้ เหมือนวัวควายที่เค้าเปิดประตูให้ออกไม่พอ ก็ยังต้องไปตีให้มันออกอีก หนำซ้ำมันยังจะพยายามไปมุดออกทางอื่น
ดังนั้น หากคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าวัวควาย ก็ต้องเลือกทางออกที่ริบหรี่นั้นมาเป็นทางออกให้ตัวเองให้ได้ อย่ามัวแต่อ้อนวอนฟ้าให้ประทานพรลงมา อย่าให้เค้าถึงกับต้องขับ ฮ เข้าไปรับ ดังนั้น หากมีคนอาสาตัวแม้เพียงคนเดียว คนนั้นก็จะได้ตำแหน่งไปโดยชอบธรรมทันที (พูดโดยไม่อิงกฎหมายใดๆ) แต่หากมีสองคนขึ้นไป จึงค่อยมาโหวตกัน และหากบัตรเลือกตั้ง vote no กันหมด มีการกาบัตรเพียงคะแนนเดียว คนนั้นก็ต้องชนะเลือกตั้งครับ
สูญญากาศทางการเมือง จะมีได้ก็ต่อเมื่อไม่มีผู้อาสาตนเองต่างหากครับ ซึ่งถึงขนาดนั้นจริงๆ ค่อยอ้อนวอนฟ้าประทานก็ยังได้ครับ
แต่หากคะแนนเท่ากันทั้งสองคน เห็นด้วยให้จับฉลาก เพราะจะไปออกทางไหนก็ได้ ไม่ใช่ว่ามีทางออกสองทางเหมือนกัน ไม่รู้จะไปทางไหนดี เลยพาลไม่ออกทั้งสองทาง และขอให้เค้าขับ ฮ เข้าไปรับ - -!


Create Date : 01 กรกฎาคม 2554
Last Update : 1 กรกฎาคม 2554 15:06:03 น. 3 comments
Counter : 1166 Pageviews.

 
เลือก พรรคภูมิใจไทยเบอร์ 16 เลย ได้มั้ย อะคับ


โดย: กะลังคิดเลือก IP: 122.154.16.246 วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:16:20:04 น.  

 
ปองดอง จ๊ะ


โดย: arisagirl วันที่: 1 กรกฎาคม 2554 เวลา:19:51:32 น.  

 
อุตส่าห์เขียน Blog เชิญชวนให้ไปเลือกตั้ง
แต่แย่จัง ตัวเองมีชื่อใช้สิทธิ์อยู่ที่สระบุรี แต่ตัวอยู่ปากช่อง เพราะปี 50 เคยขอใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าที่สระบุรี (เพราะตอนนั้นทำงานที่นั่น) ไม่ทราบว่ามันจะมีผลผูกพันธ์มาถึงตอนนี้ด้วย (คิดว่าจบแล้วจบไป) หนำซ้ำไม่มีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่งมาที่บ้านเลย แต่ก็เหมือนเราผิดเอง ที่ไม่ไปตรวจสอบรายชื่อที่หน่วยเลือกตั้งก่อน


โดย: สมภพ เจ้าเก่า วันที่: 3 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:41:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมภพ เจ้าเก่า
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




รูปภาพทั้งหมดในนี้ สามารถนำไปใช้ได้ฟรีนะครับ แต่ไม่ควรลบสัญลักษณ์แสดงความเป็นเจ้าของในรูปออกไป รูปใดไม่มีสัญลักษณ์ อยากให้ช่วยอ้างอิง จาก sompop.bloggang.com ด้วยครับ
Blog ล่าสุด
* สัมภาษณ์เทวดาในพระแก้วมรกต 18 มิ.ย. 60
* การสำรวจหินลอยได้ที่เขาคิชฌกูฏ 3 มี.ค. 60
* บทสัมภาษณ์เจ้าพ่อหลักเมือง กทม. 16 ธ.ค. 59
เรื่องเล่าบอกต่อ
* บั้งไฟพญานาค ถ่ายจากโดรนมุมสูง
* เชิญโหลด 7 ภาพยนต์เฉลิมพระเกียรติ
* เช็คอันดับ Blog ของคุณกับ truehits
Blog แนะนำ
* บทสัมภาษณ์เจ้าพ่อหลักเมืองกรุงเทพฯ 19 ก.ย. 57
* ยานพาหนะที่แล่นตามและทวนน้ำได้โดยไม่ใช้พลังงานอื่น
* ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ปี 2012
New Comments
Friends' blogs
[Add สมภพ เจ้าเก่า's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.