จันทรุปราคาเต็มดวง 16 มิ.ย. 54 อย่ายิงปืนไล่ราหู
เชิญร่วมรณรงค์ให้หยุดการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อขับไล่ราหูตามความเชื่อ ด้วยการเผยแพร่โลโก้นี้ไปเท่าที่จะทำได้ครับ และหากรู้จักใครที่ชอบยิงปืน ก็ขอให้ไปบอกเค้าด้วยนะครับ
หากยังอยากเล่นอยู่ ให้จุดประทัดหรือตีเกราะเคาะไม้หรือกระทำอื่นใดที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับคนอื่นครับ อย่าคิดว่ายิงกระสุนขึ้นฟ้าไปแล้วไปลับ หรือคิดว่ากระสุนตกลงมาแล้วคงไม่อันตราย คนที่คิดอย่างงี้ 70% คงเคยเรียนเรื่องการตกของวัตถุมาแล้ว ทำให้ทราบว่าความเร็วที่ขว้างขึ้นย่อมเท่ากับความเร็วที่ตกลงมา แต่ทำไมไม่นำมาประยุกต์ จะเพราะท่องแต่สูตรการคำนวณตามมาตรฐานการศึกษาไทย หรือลืมไปตามกาลเวลาก็ตาม ความเชื่อผิดๆนี้ มีอยู่ทั่วไปไม่ว่าประชาชน หรือระดับหัวหน้าทหารที่สั่งยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อไล่ม๊อบก็ตาม
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sompop&month=04-2009&date=25&group=15&gblog=12 เรียน คุณสมภพ สำหรับกระสุนที่ยิงขึ้นฟ้าไปแล้ว โดยหลักของฟิสิกส์จะต้องตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลก แต่จะไม่มีความเร็วในการทะลุทะลวงเหมือนยิงจากปากกระบอกปืน เนื่องจากไม่มีแรงขับจากดินส่งกระสุนครับ มันจะคล้ายกับมีของตกจากที่สูง ซึ่งลูกกระสุนมีขนาดเล็กผมคิดว่าน่าจะไม่เป็นอันตราย และการยิงปืนของทหารขึ้นฟ้าจะยิงในมุมเฉียงซึ่งจะเป็นอันตรายน้อยกว่าการยิงในแนวมุมฉากครับ
ที่ผมต้องนำมาลงอย่างงี้ ก็ไม่ได้จะประจานท่านนัก โดยหวังว่าเรื่องนี้จะมีผลไปถึงกลุ่มผู้มีอาชีพติดอาวุธได้ไม่มากก็น้อย ให้ได้ตระหนักเรื่องนี้ให้มากขึ้น หรือเปลี่ยนมายิงกระสุนกระดาษแทนก็ได้
อย่างไรก็ดี แม้ว่าแรงเสียดทานจากอากาศจะช่วยชะลอความเร็วของกระสุนลงได้ (ใครคำนวณได้ก็ช่วยๆกันด้วยนะครับ) แต่ปรากฎว่าความเร็วก็ยังสูงมาก ดังข่าวการยิงปืนขึ้นฟ้าฉลองปีใหม่ แล้วกระสุนตกลงมาใส่คนบาดเจ็บหลายราย ตกใส่พื้นไม้ก็เป็นรอยบุ๋มลงไป (ใครมีรูปช่วยเอามาโพสด้วยนะครับ) แปลกว่าทำไมข่าวปีนี้เยอะกว่าหลายๆปี เพราะคนมีปืนเยอะขึ้นหรืออย่างไร? ตัวอย่างชาวบ้านที่โดนกระสุนปืนที่ยิงใส่ราหูตกใส่บาดเจ็บครับ
//www.gungold.com/forums/index.php?topic=4556.0 นางศิริเพ็ญ ให้การว่า เมื่อคืนวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา เวลา 01.15 น. ตนพร้อมด้วยน.ส.ศุภนิตา บุญทรัพย์ อายุ 15 ปี ลูกสาว นำเก้าอี้มานอนดูราหูอมจันทร์ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน ขณะนั้นได้ยินเสียงตีเกราะเคาะไม้ของชุมชนในย่านละแวกใกล้เคียง และมีเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด สักครู่รู้สึกร้อนผ่าว เหมือนมีวัตถุที่มีความร้อนตกลงมาใส่ที่หน้าขา มองดูหมอนที่รองไว้ที่หน้าขามีรอยทะลุ และที่หน้าขาข้างขวามีเลือดออก เป็นแผลที่เกิดจากความร้อนกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร โดยมีหัวกระสุนปืนฝังลึกเข้าเนื้อประมาณ 1 เซนติเมตร
กระทู้เตือนภัย -----> กระสุนปริศนาจากการยิงปืนเฉลิมฉลอง + ความคนองที่ไร้ความรับผิดชอบ
การป้องกันตัวเอง การอยู่ในบ้านก็พอบรรเทาได้ เพราะกระสุนทะลุหลังคา ทะลุฟ่าลงมา ก็ช่วยชะลอความเร็วกระสุนลงได้ สำหรับคนที่อยากดูจันทรุปราคาในที่กลางแจ้งอยู่ ก็ให้คอยฟังเสียงปืนไว้ ในคืนที่เงียบสงัด คงได้ยินเสียงปืนได้ไม่ยาก ว่ากันตามหลักการแล้ว คนยิงคงเล็งไปใส่ดวงจันทร์ ดังนั้น หลักป้องกันตัวก็คือ เมื่อเรายืนหันหน้าไปทางดวงจันทร์ ถ้าได้ยินเสียงปืนดังมาจากข้างหลัง ก็ให้หาที่หลบได้เลย แต่ถ้าเสียงปืนมาจากด้านข้าง หรือด้านหน้า ก็คงไม่ซีเรียสนัก เพราะกระสุนคงไม่มาทางเรา (เว้นแต่เค้าเจตนายิงมาใส่เรา) หากเกิดจันทรุปราขึ้นตรงจุดเหนือศรีษะ ก็ยิ่งดีครับ เพราะคนยิงจะยิงขึ้นตรงๆ กระสุนก็จะตกลงมาไม่ไกลนัก ทำให้เราได้ยินเสียงปืนใกล้ๆ (เว้นแต่คนยิงจะบ้าใช้ปืนเก็บเสียงยิง) ไม่อยากแช่งให้กระสุนตกใส่คนยิงหลอกนะ แต่อยากแช่งให้กระสุนตกใส่ปากกระบอกปืนเหมือนเดิมหนะ จะได้ประหยัดดี
แต่จันทรุปราคาครั้งนี้ ไม่ได้เกิดอยู่ตรงจุดเหนือศรีษะหนะสิครับ แต่ละจังหวัดก็จะมีมุมเงยแตกต่างกันไปเล็กน้อย โดยมุมที่อันตรายที่สุดคือ มุมเงย 45 องศา ที่กรุงเทพฯจะเป็นเวลา 1:55 น. เพราะมุม 45 เป็นมุมที่ขว้างวัตถุไปแล้วจะไปตกไกลที่สุด นั่นหมายความว่า เสียงปืนที่เป็นอันตรายกับเราย่อมห่างออกไปไกลที่สุด ทำให้โอกาสได้ยินเสียงปืนลดลง เราจะภาวนาให้วันนั้นท้องฟ้ากระจ่าง ให้เห็นจันทรุปราคาชัดเจน หรือจะภาวนาให้มีเมฆบังดี เพราะคงไม่มีใครยิงปืนใส่จันทรุปราคาทั้งที่มีเมฆบังหนาทึบนะ
ควรพิมพ์ติดประกาศห้ามยิงปืนขึ้นฟ้าในที่สาธารณะหรือไม่ การเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ตนี่ ทำให้แพร่ไปได้ทั่วไปก็จริง แต่ก็จำกัดเฉพาะคนที่เล่นเน็ตเท่านั้น ซ้ำก็ยังไม่ทั้วถึงทุกคน ดังนั้น หากจะป้องกันตัวจริงๆ น่าจะปริ้นท์มาแปะไว้ในหมู่บ้าน ตรงไหนดี ก็ตรงที่ป้ายหาเสียง ส.ส. ชอบไปติดนั่นหละ ทำเลดีนัก หรืออาจจะมีหลักฮวงจุ้ยในการหาตำแหน่งปิดประกาศซักหน่อย จากการคำนวณแล้ว คุณควรไปติดยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้าน ดีนักแล เนื่องจากจันทรุปราคาคราวนี้เกิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ดังนั้น คุณควรไปห้ามมือยิงที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (ที่เค้าอาจจะยิงมาตกทางบ้านคุณ) ยังไงหละครับ ไอเดียกระฉูด
ข้อมูลจันทรุปราคาครั้งนี้จากสมาคมดาราศาสตร์ไทย ลองเข้าไปชมนะครับ จันทรุปราคาเต็มดวงคราวนี้ มีบังดาวฤกษ์ด้วยหละครับ
ชมภาพล่วงหน้าของจันทรุปราคาคราวนี้ครับ
หากรอดจากคืนนั้นไปแล้ว ยังต้องมาลุ้นกันอีกครั้งกับจันทรุปราเต็มดวงฉลองวันรัฐธรรมนูญ 10 ธ.ค. 54 โอ่
ปีนี้มีจันทรุปราคาเต็มดวงถึง 2 ครั้งนะนี่ เกิดมาเคยเห็นมาก่อนมั้ยนี่ สำหรับในครั้งที่สองนี้ ก็คงน่ากลัวไม่แพ้กัน เพราะพระจันทร์ก็อยู่ในช่วงมุมเงยราว 45 องศาเหมือนกัน แถมมาอยู่ในช่วงขาขึ้นซะด้วย โดยวันนั้นพระจันทร์จะเข้าสู่มุมเงยอันตราย 45 องศา ที่กรุงเทพฯเวลา 21:06 น. ผมรู้สึกว่าน่าจะอันตรายกว่าคราวที่แล้ว เพราะจันทรุปราคาเกิดขึ้นก่อนเที่ยงคืน ซึ่งคนเห็นน่าจะมีมากกว่า เพราะยังไม่ค่อยนอน จึงอาจจะมีเสียงปืนเยอะกว่าหน่อย (โดยเฉพาะพวกวงเหล้ายังไม่นอนกัน)
ภาพจากสมาคมดาราศาสตร์ไทย
ชมภาพล่วงหน้าอีกครับ
จันทรุปราคาเต็มดวงเห็นได้ที่กรุงเทพฯ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา 4 มีนาคม 2550, 5 พฤษภาคม 2547, 10 มกราคม 2544, 16 กรกฎาคม 2543 (เป็นจันทรุปราคาเต็มดวงที่ยาวนานที่สุดในรอบ 140 ปี แต่ถูกเมฆบังทั่วประเทศ), 17 กันยายน 2540, 4 มิถุนายน 2536, 10 ธันวาคม 2535 (เกิดวันรัฐธรรมนูญครั้งแรกนับตั้งแต่ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญ), 10 กุมภาพันธ์ 2533, 20 กุมภาพันธ์ 2532, 18 ตุลาคม 2529, 24 เมษายน 2529 (อีก 2 วันต่อมาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิลก็ระเบิด), 29 ตุลาคม 2528, 5 พฤษภาคม 2528, 30 ธันวาคม 2525, 10 มกราคม 2525
จันทรุปราคาเต็มดวงที่จะเห็นได้ที่กรุงเทพฯ อีก 10 ปีข้างหน้า (ขี้เกียจดูไปไกล) 10 ธันวาคม 2554, 8 ตุลาคม 2557, 4 เมษายน 2558 (อันนี้ไม่เต็มดวง แต่อีกนิดดดดเดียวจะเต็มดวง), 31 มกราคม 2561, 28 กรกฎาคม 2561
Create Date : 09 มิถุนายน 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 29 สิงหาคม 2554 13:29:54 น. |
Counter : 3156 Pageviews. |
|
|
|