Bloggang.com : สมภพ เจ้าเก่า : วิกฤตปากน้ำ ร.ศ. ๑๑๒

วิกฤตปากน้ำ ร.ศ. ๑๑๒

       หลังจากนาย ม.ปาวี ได้ก่อชนวนสร้างความร้าวฉานในสายสัมพันธ์ หวังรุกรานแดนไทย เหตุการณ์ต่างๆจึงเริ่มร้อนระอุ เมื่อเดือนมีนาคม ร.ศ.๑๑๒ นายมาสซี กงสุลฝรั่งเศส ประจำหลวงพระบางที่มาแทนนาย ม.ปาวี และฆ่าตัวตามที่จำปาศักดิ์เพราะรักษาไม่ทัน ทำให้ฝรั่งเศสคิดทำการยึดดินแดนแถบนี้อย่างจริงจัง เพราะถือว่าคนในราชการคุ้มคลั่งฆ่าตัวตาย อันเป็นสาเหตุมาจากความเครียดที่ถูกไทยบีบคั้นเรื่องดินแดนแถบนี้
        วันที่ ๑๔ มีนาคม ฝรั่งเศสส่งเรือลูแตง (Lutin) เข้ามาตรึงกำลังอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยาหน้าสถานทูตฝรั่งเศส เพื่อเรียกร้องให้ไทยยอมรับว่า ดินแดนญวนจดฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง รัฐบาลสยามคัดค้านโดยจะเชิญให้สหรัฐอเมริกามาเป็นผู้ตัดสิน แต่ฝรั่งเศสไม่ยอมรับและเตรียมจะขับไล่ไทยออกจากแม่น้ำโขง
        ฝ่ายอังกฤษกลัวจะเสียหน้าบวกกับเสียดินแดนจึงส่งเรือรบ ชื่อเรือสวิฟท์ (Swift) เข้ามาถึงในกรุงเทพ จอดหน้าสถานทูตอังกฤษ โดยอ้างว่า จะนำมาปกป้องคนในปกครองที่อยู่ในประเทศไทย เพราะกลัวจะมีเหตุพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส

        และแล้วฝรั่งเศสกับไทยก็ระเบิดสงครามปืนใหญ่กันขึ้น ณ ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้เริ่มขึ้นในเวลาเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ กรกฏาคม ร.ศ. ๑๑๒ เรือรบ ๔ ลำของไทย ออกไปจอดรอรับเจ้าอาชดุกแห่งกรุงออสเตรีย ครั้นเวลา ๕ โมงเย็นเกิดฝนตกหนัก คนบนเรือรบและคนบนฝั่งมองแทบไม่เห็นกัน เรือรบฝรั่งเศส ๒ ลำ อันได้แก่ เรืออินคอนสะตองค์และเรือ เย.บี.ซี ก็แล่นเข้ามาในปากน้ำเจ้าพระยาอย่างอุกอาจโดยไม่บอกล่วงหน้า ทหารที่ป้อมพระจุลจอมเกล้าจึงยิงปืนใหญ่ไม่ใส่กระสุน ๓ นัดบอกสัญญาณให้ถอยกลับไป แต่เรือรบฝรั่งเศสหาฟังไม่ ทหารบนฝั่งจึงต้องยิงซ้ำ เรือบุกรุกทั้งสองลำได้ชักธงชาติฝรั่งเศสขึ้นพร้อมยิงปืนขึ้นมาที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า ทหารบนป้อมพระจุลฯ และเรือรบไทยจึงช่วยกันยิงปืนทุกกระบอกเข้าใส่ เกิดความโกลาหลวุ่นวายอย่างหนัก ครั้นเวลา ๕ ทุ่ม เสียงปืนจึงสงบลงด้วยเพราะเป็นคืนเดือนมืดมองไม่เห็นกัน แต่เรือฝรั่งเศสก็ยังไม่หยุดแล่น เรือรบไทยจึงแล่นตามหวังล่มเรือให้จงได้

ครั้งรุ่งเช้า กัปตันวอลฮอก ผู้บัญชาการป้อมพระจุลฯ จึงให้ทหารไปจับตัวทหารฝรั่งเศสผู้บุกรุกทั้งหมดเข้ากรุง ๑๔ กรกฏาคม ม.เดอแวล์รู้ข่าวก็โทรเลขมายัง ม.ปาวี ว่าเราได้แจ้งให้ไทยแล้วว่าจะไม่มีการรบ จะนำเรือเข้ามาด้วยจุดประสงค์เดียวกับอังกฤษ การรบนั้นไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน รัฐบาลฝรั่งเศสจึงยื่นคำขาดแก่รัฐบาลไทยรวม ๖ ข้อ และถ้าสยามไม่ทำตามจะทำการปิดอ่าวทันที

จากกรณีพิพาทครั้งนี้ ไทยเป็นฝ่ายเสียเปรียบส่งผลให้ไทยเสียดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง และถูกปรับเป็นเงิน ๒ ล้านฟรังส์ คิดเป็นเงินไทย ๑ ล้านบาท ฝรั่งเศสเรียกเงินมัดจำเงินบาทถึง ๓ ล้านบาท แล้วส่งทหารไปยึดเมืองจันทบุรีไว้ตามสัญญาระหว่างไทยฝรั่งเศส

พระพุทธเจ้าหลวงทรงประชวน ไม่ยอมสรง ไม่ยอมเสวย ทรงทอดพระอาลัยหมด วันคืนของเราขมขื่น แต่เรา รักษาเอกราชเอาไว้ได้

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2549

Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2549 21:53:46 น.

7 comments

Counter : 1728 Pageviews.

เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นหวาดเสียวสำหรับสยามในช่วงนั้นจริง ๆ ครับ ขอบคุณครับที่เอามาให้อ่าน มีภาพดึงมาจากหนังทวิภพ ด้วย ผมว่าเค้าก็ทำดีนะครับ แต่อาจจะมีบางอย่างที่ไม่ค่อยเข้าตาคนดู

โดย: Johann sebastian Bach