เมื่อจัดแจงเก็บข้าวของเสร็จแล้วก็ไปเช่าผ้าห่มกะหมอนและไปจ่ายค่าเช่าพื้นที่กางเต้นท์ของอุทยาน คนล่ะ 30 บาท

ค่าเช่าต้องจ่ายนะคะ เพราะตอนกลางคืนเจ้าหน้าที่จะมาที่เต้นท์เพื่อเก็บตั๋วที่เราไปจ่ายมา งานนี้ห้ามแอบเนียนนะแจ่ะ อิอิ^^

พอเริ่มเย็นอากาศก็จะลดต่ำลงเรื่อยๆชั่วโมงล่ะ 1 องศา แนะนำให้ใส่หมวกไหมพรมด้วยนะจะได้ไม่เป็นหวัด อิอิ

ส่วนอาหารการกินคืนแรกเราเหนื่อยก็เลยตกลงกันว่าจะไปกินที่ร้านอาหารซึ่งทางอุทยานจะมีร้านอาหารไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยว

ค่ำคืนนี้เราเลือกกินหมูกะทะกันค่ะราคาชุดล่ะ 250 บาท ย่างกันหัวนี้หอมกันเลยที่เดียว555

นอกจากหมูกะทะก็สั่งผักกูดน้ำมันหอยราคาจานล่ะ 90บาทมาลองทาน รสชาติใช้ได้ค่ะ

กินกันจนพุงกางก็กลับมานอนพักผ่อนเอาแรง เก็บแรงไว้ไปดูแสงแรกของวันพรุ่งนี้

เช้านี้ตืนกันตั้งแต่ตีห้าเพื่อจะรีบออกไปดูแสงแรกของวันนี้กันค่ะ

การเดินทางออกจากที่พักไปยอดภูเรือจะมีรถสองแถวคอยให้บริการเราจะต้องต่อรถ 2 ต่อ ราคาเที่ยวล่ะ 10 บาท ไป-กลับ คนล่ะ 40 บาท

ภาพแรกที่ขึ้นมาถึงยอดภูเรือ  กำลังเห็นแสงพระอาทิตย์กำลังโผล่พ้นขอบฟ้า^_^ 

บรรยากาศที่ยอดภูเรือผู้คนต่างพากันจับจ้องที่แสงแรกของวัน

ขอบฟ้าสีทอง

จุด Landmark ป้ายบอกองศา วันที่ 6 ธ.ค. 2557 เช้านี้อากาศไม่หนาวเท่าไหร่

ในใจคิดไว้ว่าอยากมาเจอแบบต่ำกว่า 10 องศาอิอิ ผิดหวังเล็กน้อย T__T

เมื่อแสงแรกหมดไปพระอาทิตย์โผล่ขึ้นมาหมดแล้วก็ได้เวลากลับเต้นท์

ขากลับเราจะเดินลงเพราะอยากเดินชมธรรมชาติ ข้างๆทางค่ะ

ภาพสวยๆจากทางลงยอดภูค่ะ

ทางเดินกลับลงจากยอดภูประมาณ 1 km.  หากใครไม่อยากเดินก็ขึ้นรถกลับก็ได้เช่นกันค่ะ

เมื่อเดินมาถึงจุดกางเต้นท์จุดแรกจะมีร้านอาหารเช้าขายให้บริการแก่นักท่องเที่ยว เช่น ซาลาเปา กาแฟ โอวัลติน 

บรรยากาศภายในร้านอาหารคึกคัก เนื่องจากส่วนใหญ่ก็เพิ่งกลับลงมาจากยอดภูจะเหนื่อยมากและหิวมากก^_^

เมื่อเรากลับมาที่เต้นท์ก็จัดแจงกินอะไรอุ่นๆรองท้อง

เตรียมตัวออกเที่ยวกันต่อจ้าา^_^

ที่แรกเราแวะกันที่ร้านขายของที่ระลึก เกี่ยวกับ ผีตาโขน มีของฝากและโพสการ์ดจำหน่ายค่ะและยังมีหุ่นหัวผีตาโขน

ลองใส่ดูด้วย มาถึงที่แล้วก็ต้องลองนิสสส 5555

จากนั้นก็เริ่มใกล้เที่ยงขับรถออกมาเรื่อยเจอร้านอาหาร ที่อยู่ตรงข้าม พระธาตุศรีสองรักชื่อร้านด่านน้ำใจ-ภูเรือ ภายในคนแน่นร้านเลยค่ะ

เราสั่งอาหารมาหลายอย่างแต่ดันลืม -_-! ถ่ายรูปมาแค่สองอย่างแต่อร่อยค่ะ คอนเฟริม ^_^

อิ่มแล้วออกเดินทางต่อไปยังวัดเนรมิตวิปัสสนา

วัดเนรมิตวิปัสสนา

อยู่ห่างอำเภอด่านซ้าย ๑กิโลเมตร เป็นวัดที่มีพระอุโบสถทำจากศิลาแลงที่สวยงามที่สุดภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานของ 

พระพุทธราชชินราชจำลองและมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างเขียน ชาวด่านซ้าย วัดนี้สร้างด้วยทุนทรัพย์มหาศาลซึ่งก่อสร้างได้เพราะบุญบารมีของ 

พระครูภาวนาวิสุทธิญาน (หลวงพ่อมหาพัน)ที่มรณภาพไปแล้ว เป็นสถานที่ที่ใครเดินทางมาถึงด่านซ้ายไม่ลืมแวะไปนมัสการและเที่ยวชม

ตั้งอยู่สูงเด่นอยู่เนินเขาห่างจากพระธาตุศรีสองรักษ์เพียงเล็กน้อย พระอุโบสถและเจดีย์ภายในวัดก่อสร้างด้วยศิลาแลงทั้งหลัง 

ที่เกิดจากจินตนาการสร้างสรรค์ออกแบบโดยพระและเณร ภายในพระอุโบสถตกแต่งไว้ตามแบบศิลปะ ส่วนกลาง มีพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธาน

และมีหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุทโธซึ่งเป็นผู้ริเริ่ม และได้มรณภาพแล้ว ประดิษฐานอยู่และมีภาพจิตกรรมที่สวยงามประดับอยู่โดยรอบพระอุโบสถ

นอกจากนี้บริเวณพื้นที่โดยรอบมีการจัดแต่งสวนต้นไม้ที่ร่มรื่นสวยงามและมีต้นไม้ที่ สำคัญทางพุทธศาสนา 

คือ " ต้นสาละ"เป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติ

ข้อมูลจาก CR. //place.thai-tour.com/loei/dansai/272

เที่ยวเสร็จก่อนกลับที่พักเราแวะโลตัสซื้อหมู ซื้อผัก และน้ำจิ้มสุกี้ มาทำสุกี้กินกัน เราทำสุกี้หมูกินกันง่ายๆค๊าฟคืนนี้แคมป์ปิ้งงงกันน

อยากบอกว่ามันอร่อยมากกกเนื่องจากคงหิว555 อากาศเย็นๆแบบนี้หมูยังไม่ทันสุกก็หมดหม้อได้นะ555

เช้าวันรุ่งขึ้นขากลับแวะชมเทศกาลต้นคริสต์มาสภูเรือครั้งที่ 3 จะอยู่ตรงทางขึ้นภูเรือเลยค่ะ หาไม่อยาก

พาเที่ยวชมสวนต้นคริสต์มาสสีแดงสด บนพื้นที่ กว่า 5 ไร่

ภายในบริเวณจะมีร้านจำหน่ายสินค้าฤดูหนาว  อาหาร ขนม ของฝาก ใครมาภูเรือก็ห้ามพลาดเช่นกันนะคะ

จบการรีวิว ❃ พาเที่ยว ภูเรือ ด้วยสองล้อ จ้าา ❃แล้วจ้า 

ใช้เวลานานหน่อยเพราะยังไม่คล่องจริงๆๆ ^_^

ขอบคุณที่แวะมาชมค่ะ

พบกันใหม่รีวิวหน้านะคะ จุ๊ฟๆๆ