Group Blog
 
 
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 

เศรษฐศาสตร์ในความเห็นของผม

คำนิยามยอดฮิทของการเรียนเศรษฐศาสตร์ กล่าวไว้ว่าการศึกษาวิชาเศรษฐศาสตร์นั้นเป็นการศึกษาเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด เพื่อที่จะตอบรับความต้องการที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดให้ได้ดีที่สุด ผมว่ามันก็มีความจริงอยู่ในคำนิยามนี้อยู่เยอะพอดูนะครับ แต่ผมว่ามันเป็นคำนิยามที่ไม่ค่อยดี เพราะอาจจะทำให้เกิดความคาดหวังที่ผิดๆ จากนักเศรษฐศาสตร์ได้ เช่น อาจจะมีคนคิดว่านักเศรษฐศาสตร์ที่เก่ง ต้องจัดสรรทรัพยากรเก่ง แล้วเอานักเศรษฐศาสตร์ไปเป็นนักบริหาร ผมว่าบริษัทนั้นต้องเจ๊งแน่ๆ!

แล้ววิชาเศรษฐศาสตร์มันเกี่ยวกับอะไร? ในความเห็นของผมเศรษฐศาสตร์เป็นวิชาที่ใช้ศึกษาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของ การพักผ่อน การทำงาน การผลิต การทุจริต หรือแม้แต่การกินอาหารเยอะไปจนอ้วน! และก็รวมเป็นเหตุการณ์ใหญ่ๆ เช่น การเติบโต วัฎจักรขึ้นลง และวิกฤษติการณ์ของทั้งประเทศ หรือของโลก

ผมว่าเราจะพูดให้มันกว้างๆกว่านั้นก็ได้ เศรษฐศาสตร์ไม่ใช่แนวความคิดที่จะสามารถใช้อธิบายความเป็นไปของมนุษย์อย่างเดียว ที่จริงเทคนิคทางเศรษฐศาสตร์นั้นสามารถเอามาปรับใช้อธิบายสี่งมีชีวิตได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์โลก สัตว์ หรือมนุษย์ต่างดาว! แต่มีข้อแม้ว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นจะต้องมีจุดมุ่งหมายในชีวิต

ในกรณีของมนุษย์โลกจุดมุ่งหมายนั้นก็คือการกอบโกยผลประโยชน์ให้ตัวเองให้ได้มากที่สุด และนี่ละมั้งที่เป็นจุดกำเนิดของคำนิยามของเศรษฐศาสตร์ยอดฮิทที่เกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากร นักเศรษฐศาสตร์สร้างทฤษฎีที่ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดจากมนุษย์โดยการตั้งสมมุติฐานว่าธรรมชาติของมนุษย์คือความเห็นแก่ตัว ดังนั้นมนุษย์ทุกคนจะต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ตัวเองมากที่สุด ผู้บริโภคก็ต้องซื้อของที่ถูกใจที่สุด และผู้ผลิตก็ต้องทำกำไรให้ได้มากที่สุด

แม้แต่ธนาคารแห่งชาติก็ไม่เว้น! นักเศรษฐศาสตร์สามารถที่จะอธิบายการใช้นโยบายการเงินได้โดยการตั้งลักษณะความชอบของธนาคารแห่งชาติขึ้นมา และดูว่าธนาคารนี้ชอบหรือเกลียดอะไรมากกว่ากัน ระหว่างอัตราเงินเฟ้อ และอัตราการว่างงาน

เมื่อมีสมมุติฐานนี้ นักเศรษฐศาสตร์สามารถที่จะสร้างทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ขึ้นมาได้โดยการศึกษาว่าเมื่อเอเจ้นที่เห็นแก่ตัวมาเจอกันในสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่มีสมมุติฐานขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับจุดมุ่งหมายของเอเจ้นนี้ ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ก็จะไม่มี เพราะมันหมายความว่าเราจะไม่รู้ว่าอะไรเกี่ยวกับการกระทำของเอเจ้นแต่ละตัวเลย ดังนั้นเราจึงไม่สามารถที่จะอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเอเจ้นเหล่านั้นได้เลย!

โดยสรุปวิชาเศรษฐศาสตร์เป็นวิชาที่ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำของมนุษย์ โดยตั้งอยู่บนสมมุติฐานความเห็นแก่ตัว หรือจะพูดแบบกว้างๆว่าเศรษฐศาสตร์เป็นวิชาที่ใช้อธิบายสิ่งมีชีวิตที่มีจุดมุ่งหมายแห่งชีวิต

แต่เศรษฐศาสตร์ไม่ได้สอนวิธีการจัดสรรทัพยากรนะครับ เพราะสมมุติฐานความเห็นแก่ตัวนี้มันมีความหมายว่าคนเรานั้นจะจัดสรรทัพยากรอย่างมีประโยชน์แก่ตัวเองมากที่สุดโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แล้วอย่างนี้จะเหลืออะไรให้นักเศรษฐศาสตร์จัดอีกละ?!




 

Create Date : 10 ตุลาคม 2548
12 comments
Last Update : 11 ตุลาคม 2548 4:20:39 น.
Counter : 1653 Pageviews.

 

ประโยคสุดท้ายน่าจะเป็นการเริ่มต้นหาคำตอบนะครับ

 

โดย: <เซ็นเซอร์> 10 ตุลาคม 2548 1:41:32 น.  

 

เขียนได้น่าอ่านมาก...

แต่ตรงย่อหน้าสุดท้าย (แต่เศรษฐศาสตร์ไม่ได้สอนวิธีการจัดสรรทัพยากรนะครับ....) คิดว่าน้องคนเขียนคงได้เรียนเศรษฐศาสตร์ป.ตรีมา (ถ้าผิดก็ขออภัย)

ตอนป.ตรี เค้าจะสอนแค่นั้นเองว่า สังคมเป็นไง โลกเป็นไง ระบบมันเดินได้ด้วยอะไร

ตอน ป.โท เค้าจะสอนว่าจะ จัดการกับทรัพยากรอย่างไร based on the fact that มนุษย์ทุกคนต้องการสิ่งที่ดีที่สุด More is better

ตอน ป.เอก เค้าจะสอนต่อว่าจะอธิบายการตัดสินใจสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร พิสูจน์ได้อย่างไรว่านี่คือการตัดสินใจที่ดีที่สุด หรือ การจัดสรรทรัพยากรที่ดีที่สุด

ดังนั้น ถ้าน้องสนใจด้านเศรษฐศาสตร์จริงๆ พี่ว่าน้องน่าจะลองศึกษาหาคำตอบว่า

เมื่อรู้ว่าทรัพยากรมีจำกัด และ ทุกๆคนต่างก็เห็นแก่ตัว
เราจะทำอย่างไรให้ทุกๆคนมีความสุข (หรือมีสวัสดิการที่ดีได้อย่างเท่าเทียมกัน)

 

โดย: econ IP: 203.154.186.194 18 ตุลาคม 2548 14:55:04 น.  

 

หวัดดีครับท่านทั้งสอง

ผมว่าเศรษฐศาสตร์นั้นเรียนอะไร และเพื่ออะไร มันก็แล้วแต่มุมมองของคนครับ - ผมเลยเขียนหัวข้อบล๊อกอันนี้ว่า ".........ในความเห็นของผม"อะคับ

ในความเห็นของผม ผมคิดว่าแก่นของวิชาเศรษฐศาสตร์คือความพยายามที่จะอธิบายมนุษย์ ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้น แน่นอนครับว่ามันต้องมี policy implication บ้าง แต่ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์ที่ดีไม่จำเป็นต้องมี policy implication เสมอไป ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์ที่ดีในความเห็นของผมคือทฤษฏีที่จะสามารถเล่าเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ออกมาได้ดีเท่านั้นเอง

แล้วเรามาคิดอีกว่า policy implication ที่ได้มาจากทฤษฏีเศรษฐศาสตร์นั้นมันได้มาได้อย่างไร ผมว่ามันได้มาจากการที่ทฤษฏีเศรษฐศาสตร์ทำให้เราเข้าในมนุษย์ครับ! เช่นทฤษฏีเศรษฐศาสตร์อาจจะบอกว่าถ้าเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมอย่างนี้แล้ว เอเจ้นแต่ละตัวจะทำอย่างไร และทำให้ efficiency ของระบบเป็นอย่างไร แล้วก็เกิด policy implication ขึ้นมา แต่ถ้าเราไม่มีทฤษฏีเศรษฐศาสตร์ที่อธิบายมนุษย์แล้ว เราก็จะไม่รู้ policy implication อันนี้ ดังนั้นผมจึงเห็นว่าการอธิบายมนุษย์เป็น แก่นของเศรษฐศาสตร์อะคับ ไม่ใช่พวก policy implication

ในความเห็นของผมเศรษฐศาสตร์ ป ตรี จะ ไม่ค่อยยาก ป โท จะ ยาก ป เอกจะยากโคตรๆคับ

คงจะแล้วแต่ความเห็นครับ!

 

โดย: Solow 26 ตุลาคม 2548 5:59:52 น.  

 

ในฐานะที่เรียนแค่ ป.ตรี ผมว่ามันแปลกๆนะ

ผมว่า เราแต่ละคนก็แค่ตัดสินใจตามแต่ว่าทางไหนจะทำให้เกิด MAXimize utility

มันก็ขึ้นอยู่กับว่า utility curve ของแต่ละคนเป็นอย่างไร
ของพวกเห็นแก่ตัวก็แบบนึง
ของคนไม่เห็นแก่ตัวก็อีกแบบ
ทำให้สองพวกนี้ คิด และตัดสินใจไม่เหมือนกัน

คำถามคือ "เศรษฐศาสตร์อธิบายไม่ได้ หรือเราอธิบายไม่เป็น"

we call thing we don't understand complex,
but that means we haven't found a good way of thinking about them.

 

โดย: dit_samran@hotmail.com IP: 58.64.102.123 11 ธันวาคม 2548 14:04:43 น.  

 

"ผมว่า เราแต่ละคนก็แค่ตัดสินใจตามแต่ว่าทางไหนจะทำให้เกิด MAXimize utility" -- มันก็เหมือนกับการที่ชีวิตมีจุดหมายหรือเปล่าครับ แบบพอตัดสินใจว่าจะทำอะไรแล้ว มันก็จะรู้ว่าจะทำอะไรกับชีวิต

คำถามคือ "เศรษฐศาสตร์อธิบายไม่ได้ หรือเราอธิบายไม่เป็น" -- ถ้าไม่มีจุดหมายนี้ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าจะสร้างโมเดลอย่างไร ถึงแม้ว่าเราจะทำตัวแบบเป็น random variable (มี PDF, CDF) ผมว่าเราก็มีจุดหมายครับ เพราะว่าเราจะรู้ว่าเราจะทำอะไรด้วยความน่าจะเป็นเท่าไหร...

แต่ถ้าเราทำตัวเป็นแบบ truly random (ไม่มีค่า PDF, CDF อะไรที่จะ characterize การกระทำอะไรของเราได้เลย) ผมว่าไม่น่าจะมีโอกาสที่เศรษฐศาสตร์จะอธิบายได้เลยครับ

ผมว่ามันก็เหมือนนัก physics ถ้ากฏ physics มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แบบที่ไม่สามารถจะคาดคะแนได้เลย.. นัก physics ก็คงจะอธิบายเอกภพนี้ไม่ได้เหมือนกัน

P.S. ผมอาจจะผิดก็ได้ มันเป็นความคิดของผม บวกกับการที่ได้คุยกับเพื่อนที่เรียนปรัชญาเศรษฐศาสตร์ครับ

 

โดย: Solow 17 ธันวาคม 2548 10:27:17 น.  

 

เสดสาดเหรอครับ อืม ก็ดีนะ เรียนอยู่เหมือนกันแต่ไม่ชอบละครับ จะซิ่วไปเรียนวิศวะครับ เพราะคิดว่าน่าจะมีเงินเดือนสูงกว่า
พี่ๆครับ เรียนเสดสาดแค่ ป.ตรี นี้แค่หางอึ่งใช่ใหมครับ
มันไม่สามารถสร้างอะไรที่ยิ่งใหญ่ได้ใช่ไหมครับ

พี่ว่าผมคิดถูกไหมครับ
ที่ทำแบบนี้ครับ
การเรียนเสดสาดมันเหมือนกับการศึกษา สิ่งที่ว่างเปล่า สัมผัสได้ด้วยการรู้สึก มันมีอยู่จริง แต่เรามองข้าม
เอ้อ...เรียนแล้วก็มานั่งเถียงกันไปเถียงกันมา
ไปอ่าหนังสอสอบไหม่ดีก่า....

 

โดย: ว่างเปล่า IP: 158.108.92.42 25 มกราคม 2549 17:48:56 น.  

 

Econ is philosophy, I think
When studying in undergrad, I'm not interested in it at all. But at time goes by, from the fourth year of study until now when I'm a grad student, I think I like it much more. It makes people think think and think....systematically. Econ is a sophisticated subject indeed.

 

โดย: Keane IP: 203.113.16.250 27 มีนาคม 2549 22:38:46 น.  

 

ชอบที่คุณใช้ชื่อ Solow ครับ

Robert Solow นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล กล่าวไว้ว่า

ผู้ใช้ที่ดินไม่ควรได้สิทธิ์ที่ไม่จำกัดระยะเวลาเพียงเพราะการจ่ายเงินครั้งเดียว เพื่อประสิทธิภาพ เพื่อให้มีรายได้เพียงพอ และเพื่อความยุติธรรม ผู้ใช้ที่ดินทุกคนควรจะต้องจ่ายเป็นรายปีให้แก่องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเท่ากับมูลค่าของค่าเช่าในขณะนั้น สำหรับที่ดินซึ่งเขาทำให้ผู้อื่นหมดสิทธิที่จะใช้

Robert Solow: “Users of land should not be allowed to acquire rights of indefinite duration for single payments. For efficiency, for adequate revenue and for justice, every user of land should be required to make an annual payment to the local government equal to the current rental value of the land that he or she prevents others from using.

 

โดย: สุธน หิญ IP: 125.25.129.132 26 เมษายน 2549 12:12:07 น.  

 

ผมก้อเรียนเศรษฐศาสตร์อยู่ - -แต่ถ้าถามว่า เราจะเอา ไรไป adapt นั้นขึ้นอยุ่กับแต่ละคน คงไม่ลืม ว่าเศรษฐศาสตร์มิใช่วิชาชีพ เป็นวิชาที่ต้องคิด ฉะนั้นทุกอย่างเศรษฐศาสตร์จึงต้องมีการassume เสมอว่า if ...แล้วจะ .....

อยากฝากใครที่จะเรียนเศรษฐศาสตร์ ต้องมีความคิด ไม่ยึดติดกับทฤษฎีจนมากเกินไป แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้เป็น
สำหรับการจัดสรรทรัพยากร .... บางอย่างในทัศนคติผมมองว่า ใครเป็นคนจัดครับ ให้พอดีกับความต้องการอันไม่จำกัด.... ใช่มนุษย์ไหมคับ ถ้าใช่ แปลว่า ทุกคนใช่ไหมคับ
ไม่ได้เจาะจงเฉพาะนักเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์แค่สอนอะไรโดยรวมว่า ... จะทำอย่างไรภายใต้.....
1. ทรัพยากรจำกัด
2. งบประมาณจำกัด
แต่ 1. ความต้องการมีไม่จำกัด
2. ความพึงพอใจไม่มีขีดจำกัด
แล้วทำไง 1. เลือก สิ่งที่ดีที่สุด
พอเลือกแล้วเกิดไรครับ
1. trade off ได้อย่างเสียอย่าง = ต้นทุนค่าเสียโอกาส ขึ้น
เพื่อไรครับ
efficiency = ประสิทธิภาพ สูงสุด
ถ้าผู้ผลิตหวัง maximum profit
ผู้ขาย หวัง maxmium utiiity
ถ้าทำให้สมดุล เกิด equilibrium
ภายใต้เงื่อนไข(assume)
1.มนุษย์มีเหตุผล ทางเศรษฐกิจ***ถ้าไม่มีแล้วไซร้ ...จะทำไรก็ขาดทุน
2. เวลาศึกษาสิ่งใด สิ่งนึง มองตัวที่ไม่ศึกษาให้คงที่
** หลายคนเข้าใจผิดคิดว่า มองข้าม แต่ความจริงคือเราfixมันไว้ตะหาก

** นี่แหละ นัยยะของเศรษฐศาสตร์ - - อย่า คิดว่าเศรษฐศาสตร์สอนให้มนุษย์ self-interestอย่างเดียวสิครับ แต่เราไม่สามารถปฎิเสธได้ว่า ไม่มีมนุษย์คนไหน ไม่เห็นแก่ตัวนิ หรือไม่จริงคับ

 

โดย: econswu 13 IP: 125.24.67.124 12 ธันวาคม 2550 13:16:14 น.  

 

ดีจ้า...เราคิดว่าแนวคิดของคุณก็เข้าท่าดี...เพราะเป็นอีกมุมมองนึงที่นักเศรษฐศาสตร์อย่างเรามองไม่เห็น(เราเด็กเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ)..อิอิ

 

โดย: ผึ้งน้อย IP: 125.24.8.9 4 มิถุนายน 2551 16:41:42 น.  

 

การจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด เพื่อที่จะตอบรับความต้องการที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดให้ได้ดีที่สุด

ถ้าลองเปลี่ยนมุมมองของนิยามยอกฮิตนี้บ้างละจะเป็นอย่างไร

ถ้าสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดคือsupply และความต้องการที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดคือdemand

ถ้าเราลองมาเปลี่ยนจากการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างน้อยนิดเมื่อเทียบกับประชากรโลกเป็นจัดสรรความต้องการที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดแทน แล้วอะไรจะเกิดขึ้น?

ผมคิดว่าโลกจะเข้าสู่จุดดุลยภาพได้อย่างแน่นอน

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ผมฟังมานี้แหละที่ทำให้ผมมองในมุมนี้ เราไม่จำเป็นต้องสร้างความเท่าเทียมกันโดยใช่ระบบสังคมนิยมแบบมาร์คซีส แค่พอเพียงชีวิตก็มีความสุขแล้ว

 

โดย: Stoma Damake IP: 125.25.234.142 14 กรกฎาคม 2551 21:25:58 น.  

 

ผ่านเจ้ามา ได้ความรู้เยอะเลย ขอบคุณมากครับ
ผมก็เรียนเสดสาดเหมือนกัน

 

โดย: อรรถฯ IP: 180.180.178.108 7 พฤษภาคม 2555 15:57:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Solow
Location :
London United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Solow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.