บล็อกนี้ไม่มี VIP ค่ะ ทุก ๆ คนเป็น VIP อยู่แล้ว เมื่อคลิกเข้ามา
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
10 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

การออกแบบคบเพลิงโอลิมปิค ครั้งที่ 29

การออกแบบคบเพลิงโอลิมปิค ครั้งที่ 29








โอลิมปิค เกมส์
เป็นเวทีที่เต็มไปด้วยเรื่องราว
ความเป็นไป
ของชีวิตผู้คนนับแสนนับล้านทั่วโลก
และยังประเพณีที่นานาประเทศ
ในนิคมโลกใบนี้
ร่วมเป็นเจ้าของ
และร่วมกันสืบทอดรักษาให้ดำรงต่อไป


โอลิมปิค เกมส์ 2008 กรุงปักกิ่ง
ก็ได้รักษาขนบธรรมเนียมนี้เช่นเดียวกัน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน 2550
ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขัน
โอลิมปิค ครั้งที่ 29
ของกรุงปักกิ่ง (BOCOG)
ได้ประกาศเปิดตัวคบเพลิงโอลิมปิค ครั้งที่ 29
พร้อมเส้นทางการวิ่งส่งต่อคบเพลิง
ให้ชาวโลกได้เห็นเป็นครั้งแรก
และคบเพลิงในครั้งนี้
มีชื่อว่า Cloud of Promise
หรือ "เมฆแห่งคำสัญญา"


คบเพลิง
โอลิมปิค เกมส์ 2008 กรุงปักกิ่ง
เป็นผลงานการออกแบบ
ของบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่
สัญชาติจีน
"ลีโนโว"
ซึ่งได้รับการคัดเลือก
จากคณะกรรมการจัดการแข่งขันโอลิมปิค
ครั้งที่ 29 ของกรุงปักกิ่ง
จากแบบที่ส่งเข้าประกวดจากทั่วโลก
มากกว่า 300 แบบ


หลักการ
ในการออกแบบคบเพลิง โอลิมปิค
ของลีโนโว นั้น
ยึดหลักความคิดเดียว
กับการออกแบบคอมพิวเตอร์
เริ่มจาก
การศึกษาความต้องการของลูกค้า


"ลูกค้า"
ไม่ได้หมายถึงแค่ผู้ถือคบเพลิง
แต่หมายถึงประชาชนทั่วโลก
ผู้ที่จะมีโอกาสเห็นคบเพลิง
"เมฆแห่งคำสัญญา"
อย่างใกล้ชิด
ตลอดเส้นทางการส่งต่อคบเพลิง


หลังจากนั้น
ทีมนักออกแบบของลีโนโว
ก็มองหาแรงบันดาลใจ
เหยา หยิงเจี๋ย
หัวหน้าทีมออกแบบคบเพลิง
จากศูนย์ออกแบบนวัตกรรม
ของลีโนโว กรุ๊ป กล่าวว่า
ในตอนเริ่มแรก
ทางทีมออกแบบ
ต้องการสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์
ที่สามารถสะท้อนความเป็นจีน
ได้อย่างชัดเจน
ไม่ว่าจะเป็นรูปก้อนเมฆ
หรือที่ชาวจีนเรียกว่า เมฆมงคล
หรือ หินหยก หรือ ต้นไผ่


ซึ่งสำหรับก้อนเมฆมงคล
หรือ เมฆนำโชค
มักถูกใช้เป็นสัญลักษณ์แทนความสุข
ความปีติยินดี ความสงบร่มเย็น
ความเจริญสมบูรณ์ ความกลมเกลียว
ปรากฏในเรื่องราว
ในตำนานของชาวจีนเสมอมา
ต่อมาทีมนักออกแบบก็ได้ร่างแบบ
ขึ้นมา 3 รูปแบบ
โดยมีทั้งที่ใช้เมฆมงคล นกฟีนิกซ์
และกำแพงเมืองจีน
ก่อนจะตัดสินใจ
เลือกแบบที่ใช้เมฆมงคลในที่สุด



ส่วนรูปทรงของคบเพลิง
ทางทีมออกแบบได้รับแรงบันดาลใจ
จากรูปทรงของม้วนสาร
ของชาวจีนสมัยโบราณ
แฟนหนังกำลังภายในบ้านเรา
อาจจะมองดูแล้วเหมือน
ม้วนคัมภีร์วิชา หรือม้วนภาพวาด
หรือม้วนโคลงกลอน
ซึ่งกลายมาเป็นรูปทรงของคบเพลิง
"เมฆแห่งคำสัญญา"
และถ้าหากมองจากด้านบน
บริเวณปล่องไฟของคบเพลิง
ก็จะมองเห็นเป็นลักษณะ
คล้ายกับมือทั้งสองข้าง
ประสานเข้าด้วยกัน
เหยา หยิงเจี๋ย กล่าวว่า
รูปทรงของคบเพลิง
จะต้องสามารถเล่าเรื่องราว
ความเจริญทางอารยธรรมของจีน
ที่มีมายาวนานกว่า 5,000 ปีได้


"กระดาษม้วนเป็นสัญลักษณ์
อันทรงพลังของชาวจีน
เนื่องจากชาวจีนโบราณ
นิยมถ่ายทอดงานเขียน
และภาพวาดบนกระดาษ
จากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง
เสมือนเป็นการ
เก็บรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิม
ที่ยังคงมีให้เห็นในปัจจุบัน" เหยากล่าว


การออกแบบกินเวลานานกว่า 10 เดือน
โดยทีมออกแบบ
ซึ่งประกอบไปด้วยเหล่าผู้เชี่ยวชาญ
จากหลากหลายแขนง
และจากหลากหลายวัฒนธรรม
กว่า 30 ชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นจากเยอรมนี
สิงคโปร์ สหรัฐ อเมริกา ญี่ปุ่น
นิวซีแลนด์ อิตาลี และจีน
เพื่อหลอมรวม
ความเชี่ยวชาญของแต่ละคน
ทั้งในด้านกราฟิค ดีไซน์
เคมี วิศวกรรม วัสดุศาสตร์ มนุษยวิทยา
ศิลปศาสตร์ และประวัติศาสตร์
และวัฒนธรรมจีน
ผสมผสาน
ให้เข้ากับสปิริตของโอลิมปิค เกมส์
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นสีสัน รูปทรง
ลวดลาย และผิวสัมผัส
ล้วนแต่ต้องสะท้อนถึงเอกลัษณ์
ที่เฉพาะตัวของโอลิมปิค เกมส์ 2008
กรุงปักกิ่ง ได้เป็นอย่างดี


ตัวคบเพลิง "เมฆแห่งคำสัญญา"
ทำจากโลหะผสมอะลูมินัม
และแมกนีเซียม
สูง 72 เซนติเมตร หนัก 985 กรัม
ส่วนด้ามจับของคบเพลิง
เคลือบสีที่มีส่วนผสมของยาง
เพื่อให้ถือได้ถนัดมือยิ่งขึ้น
คบเพลิงสามารถรักษาเปลวไฟ
ให้จุดติดต่อได้นานอย่างน้อย 15 นาที
โดยที่ความสูงของเปลวไฟ
เฉลี่ยอยู่ที่ 25-30 เซนติเมตร
และไม่ว่าจะเส้นทางใดในทั่วทุกมุมโลก
ในสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ
ที่แตกต่างกันไปก็จะไม่ดับลง
ด้วยระบบเผาไหม้เชื้อเพลิงภายใน
ที่ได้รับการออกแบบ
จากบริษัทวิทยาศาสตร์
และอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ
ประเทศจีน
ได้ใช้เทคนิคในการเผาไหม้เชื้อเพลิง
ที่มีความเสถียร
และสามารถปรับเข้ากับสภาพแวดล้อมได้


"เมฆแห่งคำสัญญา"
สามารถรักษาเปลวไฟให้คงลุกโชน
อยู่ได้ในสภาพอากาศที่มีลมพัดแรง
ถึง 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หรือฝนตก
ในขนาด 50 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้
ในสภาพที่หิมะหรือลูกเห็บตก
ก็ไม่สร้างปัญหาใด ๆ ทั้งสิ้น
อีกทั้งเปลวไฟ
ยังสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
ในสภาพที่แดดจัด
และยังใช้เชื้อเพลิง
ที่เป็นก๊าซโพรเพน
ไม่สร้างมลพิษต่อสภาพอากาศ
และยังใช้วัสดุรีไซเคิล
ในการทำตัวคบเพลิงอีกด้วย







"เมฆแห่งคำสัญญา"
ใช้สีเงินสว่างและสีแดงสดเป็นสีหลัก
ซึ่งเป็นโทนสีเดียวกับที่ใช้ในงานศิลปะ
อันยิ่งใหญ่ของจีน
ใช้หลักหยิน-หยาง
ในแบ่งจุดกึ่งกลางของคบเพลิง
ซึ่งบริเวณขอบด้านบนของส่วนด้ามจับ
ซึ่งสีจะเปลี่ยนเป็นสีเงิน
โดยมีลายเส้นละเอียด
สีแดงที่เป็นลวดลายรูปกลุ่มเมฆ
บนพื้นผิวตลอดความยาวของคบเพลิง


"เมฆแห่งคำสัญญา"
ถูกนำไปใช้
ในพิธีวิ่งส่งต่อคบเพลิงโอลิมปิค
เพื่อนำเปลวไฟ
ที่เป็นตัวแทนของเวทมนตร์
แห่งโอลิมปิคไปสู่ผู้คนทั่วโลก
ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลานานถึง 130 วัน
ในการทะยานไปทั่วทุกดินแดน 5 ทวีป
กินระยะทาง 137,000 กิโลเมตร
รวมถึงบางเส้นทาง
ของถนนสายไหมในโบราณ
โดยในวันอังคารที่ 25 มีนาคม 2551
คบเพลิงจะถูกจุดที่เมืองโอลิมเปีย
ประเทศกรีซ
ตามประเพณีดั่งเดิมของโอลิมปิค


ก่อนจะเริ่มออกเดินทางไปทั่วโลก
รวมถึงกรุงเทพฯ
จนมาถึงที่กรุงปักกิ่ง
เพื่อจุดไฟสัญญาณเริ่มต้น
การแข่งขัน
มหกรรมกีฬาโอลิมปิค เกมส์ ครั้งที่ 29
ในวันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม 2551
หรือ วันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 นั่นเอง
(ตามความเชื่อของชาวจีน
เลข 8 ถือว่าเป็นเลขมงคล
หมายถึงการ ความเจริญรุ่งเรือง
และความร่ำรวย)


ไฮไลต์ของพิธีส่งต่อคบเพลิงครั้งนี้
อยู่ที่การส่ง "เมฆแห่งคำสัญญา"
สู่จุดสูงสุดของโลก
นั่นคือยอดเขาเอเวอเรสต์
ซึ่งอยู่ใจกลางภูเขาหิมาลัย
ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างทิเบตและเนปาล
แต่รัฐบาลจีนขอเรียกยอดเขานี้ว่า
"โคโมลังมา" (Qomolangma)
ซึ่งแปลว่า ภูเขา ในภาษาทิเบต
การที่ผู้คนทั่วโลกได้เห็นเปลวไฟโอลิมปิค
ณ จุดสูงสุดของโลก
หมายถึงการได้เป็นสักขีพยานร่วมกัน
ถึงชัยชนะของมนุษย์
ในการมุ่งมั่นที่จะพิชิตอุปสรรคนานาประการ
จนถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้
ตามแก่นของหลักปรัชญาแห่งโอลิมปิค เกมส์
ที่ว่า "One World One Dream" นั่นเอง



ขอขอบคุณที่มา
จาก "มติชน" ค่ะ




ความรู้ประจำวัน...


สัญญลักษณ์ห้าห่วงของโอลิมปิค
หมายถึง
ห้าส่วนของโลก
ที่อยู่ในโอบอ้อมของ “โอลิมปิกนิยม”
มิเจาะจงเป็นห้าทวีปในโลก
แต่บังเอิญห้าทวีปนี้ก็เป็นห้าส่วนของโลก
ก็เลยอนุโลมกันไปเช่นนั้น


ส่วนสีที่ห่วง 5 สี
มิได้หมายถึงสีประจำทวีป
แต่สีทั้ง 6 สี
รวมทั้งสีขาวที่เป็นพื้นธง
หมายความว่า
ธงชาติของประเทศต่าง ๆ ในโลก
ประกอบด้วยสีใดสีหนึ่ง
หรือมากกว่านั้นในจำนวนหกสีนั้น
และไม่มีธงชาติของประเทศใด
ที่มีสีนอกเหนือไปจากหกสีนี้







 

Create Date : 10 สิงหาคม 2551
22 comments
Last Update : 10 สิงหาคม 2551 17:01:52 น.
Counter : 1578 Pageviews.

 

มีโอกาสได้ดูพิธีเปิดเหมือนกันค่ะ ตื่นตาตื่นใจดี
เพิ่งรู้ที่มาของการออกแบบคบเพลิงอย่างละเอียด ^^
ตอนแรกห้าห่วงนี่คิดว่าห้าทวีปเหมือนกัน
เพิ่งรู้ความหมายจริงๆก็คราวนี้

งั้นขอมาร่วมส่งแรงเชียร์ แรงใจ กำลังใจดวงโตๆ
ไปเชียร์นักกีฬาไทยด้วยคนนะคะ

มาขอบคุณที่เข้าไปอวยพรวันเกิดนะค๊า
มีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ

ปล มาขอบคุณช้าไปนิดนึงมะว่ากันนะคะ ^^

 

โดย: kapolo_girl (Friday_Inlove ) 10 สิงหาคม 2551 0:55:16 น.  

 



พิธีเปิดเค้าน่าดูตั้งแต่ต้นจนจบเลยค่า...คุณวี

ครั้งก่อน ๆ ดูมั่ง ไม่ดูมั่ง แต่คราวนี้ดูครบ...

 

โดย: ลิตช์ (Litchi ) 10 สิงหาคม 2551 1:14:01 น.  

 

ยิ่งใหญ่อลังการ จริงๆ เป็นบุญตาที่ได้ดูเหมือนกัน

 

โดย: หลังคาดำแดง 10 สิงหาคม 2551 1:16:11 น.  

 

ละเอียดละออดีจัง

เก็บความรู้ได้หลายเรื่องเลย


ขอบคุณคร้าบ


:)

 

โดย: TonMai2K IP: 125.25.220.17 10 สิงหาคม 2551 1:19:02 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ สบายดีนะค่ะ

 

โดย: Invisible Angel 10 สิงหาคม 2551 1:39:37 น.  

 

นั่งดูพิธีเปิด โอลิมปิกที่กาน่าเหมือนกันค่ะ ลุ้น..อยากรู้ว่าจะจุดคบเพลิงอย่างไร ....ประทับใจมากๆ อาเฮียแกวิ่งได้สวยจริงๆ เหมือนวิ่งในฝันอะไรอย่างนั้นเลย

 

โดย: shin chan (alei ) 10 สิงหาคม 2551 6:24:15 น.  

 

ดูแล้วที่ประทับใจที่สุด
น่าจะเป็นหลี่หนิงที่ไม่ได้เห็นมานาน

 

โดย: นายแจม 10 สิงหาคม 2551 6:47:43 น.  

 




ทั้งความเป็นมา
กับภาพที่ได้ชม
ตรึงตราตรึงใจมากๆค่ะ



 

โดย: ^^♥ (มัชชาร ) 10 สิงหาคม 2551 9:23:44 น.  

 

พลาดไม่ได้ดูตอนถ่ายทอดสดค่ะ แต่ก็หาย้อนหลังมาดูจนได้

ปีนี้พิธีเปิดอลังมากจริงๆ เนอะคะ

ป.ล. ขอบคุณสำหรับคำอวยพรดีๆ ในวันเกิดนะคะ ^^

 

โดย: PeachJiKo 10 สิงหาคม 2551 11:53:52 น.  

 

ได้ชมเหมือนกันค่ะ สุดยอดจริงๆ ค่ะ

 

โดย: little bear june 10 สิงหาคม 2551 15:10:39 น.  

 

ดูแล้วชอบลุงหลี่หนิงมากๆ เลยค่ะ โดนดึงด้วยสลิงแล้วยังทำท่าวิ่งได้เนียนขนาดนั้น....ต้องบอกว่าต้องฝึนฝนมาหนักเลยค่ะ..

 

โดย: กวางตุ้งหวาน 10 สิงหาคม 2551 15:23:07 น.  

 





เหรัยญทองแรก จากการยก นน. ของ น้องเก๋
(ถ่ายจาก TV.เลย)
ทำลายสถิติโอลิมปิคด้วย..ของให้มีเหรียญ ต่อๆไปด้วยค่ะ

 

โดย: เริงฤดีนะ 10 สิงหาคม 2551 16:33:55 น.  

 

ขอรายงานผลหน่อยค่ะ


ไทยเฮน้องเก๋ซิวทองแรกทุบสถิติท่าคลีนแอนเจิร์ก
"น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล สุดแกร่งคว้าเหรียญทองแรกให้ทัพนักกีฬาไทยได้สำเร็จหลังโชว์พลังหญิงไทยยกน้ำหนักรวมได้ที่ 221 กิโลกรัม ทิ้งห่างอันดับ2 จากเกาหลีถึง 8 กก. ซิวทองจากการแข่งขันยกน้ำหนักหญิงรุ่น 53 กก. หญิง

การแข่งขันยกน้ำหนัก ที่โรงยิมมหาวิทยาลัยการบินและอวกาศ ในรุ่น 53 กก.หญิง มีนักกีฬา ลงแข่ง 9 คน โดยทัพนักกีฬาไทยมี "น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ลงทำการ แข่งขัน


เริ่มที่ท่าสแนช "น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ออกมายกเป็นที่ 8 เพราะเรียกน้ำหนักที่ 92 กก. เป็นรองแค่ ยุน จีฮี นักยกลูกเหล็กจากเกาหลีใต้ที่เรียกครั้งแรกที่ 94 กก. ซึ่ง ยกครั้งแรก สาวจากเมืองนครสวรรค์ยกได้อย่างไร้ปัญหา ในขณะที่คู่แข่งสาวโสมขาวคู่แข่งคนสำคัญก็ยกครั้งแรกผ่านได้เช่นกัน

ครั้งที่ 2 ในท่าสแนช ประภาวดี เรียกน้ำหนักเพิ่มไปที่ 95 กก. ซึ่งจังหวะยกขึ้นเหนือศรีษะเสียการทรงตัวเล็กน้อยแต่สุดท้ายก็ยกขึ้นได้สำเร็จท่ามกลางเสียงเชียร์ดังลั่นในโรงยิม ส่วน ยุน จีฮี ครั้งที่ 2 เพิ่มน้ำหนักไปที่ 97 กก. แต่ไม่สามารถกยกผ่านทำให้โอกาศที่สาวไทยจะมีเหรียญเริ่มเปิดกว้างมากขึ้น

ส่วนครั้งที่ 3 น้องเก๋ เรียกน้ำเพิ่มไปอีกที่ 97 กก. ซึ่งสามารถดึงเหล็กขึ้นได้แต่ขณะยกขึ้นกลับเสียจังหวะไม่สามารถยกขึ้นได้ แต่ก็ไม่เสียหายมากนักเพราะ ยุน จีฮี ก็ยกครั้งที่ 3 ไม่ ผ่านเช่นกัน ในขณะที่ นาตาเซีย โนวิคาว่า นักยกลูกเหล็กจากเบลารุสทำผลงานได้ดีหลังจบท่าสแนช โดยมีน้ำหนักรวมเท่ากับ น้องเก๋ ที่ 95 กก. แต่น้ำหนักตัวของสาวไทยเบากว่าจึงขึ้นเป็นผู้นำ หลังจบท่าสแนช โดยมี ยุน จีฮี ตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 94 กก.

ในท่า คลีนแอนเจิร์ก นาตาเซีย โนวิคาว่า เรียกที่ 116 กก. แต่ไม่สามารถยกผ่านได้ในครั้งแรกแต่สามารถมาแก้ตัวได้ในครั้งที่ 2 ส่วน ยุน จีฮี ครั้งแรกเรียกไปที่ 116 กก. และ สามารถยกผ่านไปได้แบบสบาย ส่วนครั้งที่ 2 สาวจากเมืองโสมเรียกไปที่ 118 กก. หวังกดดัน น้องเก๋ ของไทยและก็ยกผ่านได้แบบฉิวเฉียด

ต่อมาครั้งที่ 3 ของ โนวิคาว่า เรียกไปที่ 118 กก. ก็สามารถยกขึ้นได้แบบไม่ปัญหา ครั้งสุดท้ายของไทย ยุน จีฮี เรียกไปที่ 119 กก. เมื่อยกขึ้นผ่านจึงขึ้นเป็นผู้นำด้วยน้ำหนักตัวที่ดี กว่า โนวิคาว่า

ส่งผลให้ "น้องเก๋" ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล ซึ่งออกมายกในท่าคลีนแอนเจิร์ก เป็นครั้งแรกซึ่งเรียกน้ำหนักไปที่ 120 กก. ซึ่งท่าทำได้ น้องเก๋ จะคว้าเหรียญทองทันที และน้องเก๋ ก็ไม่ทำให้คนไทยผิดหวังสามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ

หลังคว้าเหรียญทองได้แล้ว "น้องเก๋" ได้เรียกน้ำหนักครั้งที่ 2 ไปที่ 126 กก. หวังทำลายสถิติโอลิมปิกในท่าคลีนแอนเจิร์กซึ่งน้องเก๋ก็ทำได้อย่างไร้ปัญหา แต่แค่นั้นยังไม่พอสาวนครสวรรค์ต้องการทำลายสถิติโลกเป็นของแถมจึงเรียกครั้งสุดท้ายไปที่ 130 กก. แต่ไม่สามารถยกขึ้นได้จึงทำลายเพียงสถิติของโอลิมปิกในท่าคลีนแอนเจิร์กเท่านั้น

สรุปผลการแข่งขันยกน้ำหนักรุ่น 53 กก.หญิง
เหรียญทอง ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล (ไทย) น้ำหนักรวม 221 ก.ก.
เหรียญเงิน ยุน จีฮี (เกาหลีใต้) น้ำหนักรวม 213 ก.ก. (ชนะเพราะน้ำหนักตัวเยากว่า)
เหรียญทองแดง นาตาเซีย โนวิคาว่า (เบลารุส) น้ำหนักรวม 213 ก.ก.


//www.siamsport.co.th/25510810-044.html

 

โดย: โสดในซอย 10 สิงหาคม 2551 16:43:45 น.  

 

ยินดีกับ น้องเก๋ ด้วยครับ

ทำลายสถิติโอลิมปิค ด้วย

 

โดย: หลังคาดำแดง 10 สิงหาคม 2551 16:57:59 น.  

 

นักกีฬาไทยเก่งจังเรยคะ

 

โดย: ภูริดา 10 สิงหาคม 2551 17:00:22 น.  

 

จีนจัดได้ดีค่ะ
เชื่อว่าทุกคนในโลกคิดแบบนี้
จีนทำให้โลกรู้จักวัฒนธรรม และทุกอย่างที่เป็นจีน

ยอดไปเลยค่ะจีน

 

โดย: fonrin 10 สิงหาคม 2551 21:38:35 น.  

 

ส้มว่าวันนั้นคงดูกันทั้งโลกเลยนะคะ จัดได้ดีมากเลยล่ะ เอาเอกลักษณ์ของประเทศตัวเองมาแสดงให้คนทั่วโลกรับรู้ เจ๋งจริงๆ

 

โดย: ส้มแช่อิ่ม 10 สิงหาคม 2551 22:05:29 น.  

 

แวะมาทักค่า

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ


แล้วแวะไปคุยกันที่เวบอีกน๊าคะ
www.lovereveal.com/board
ยินดีต้อนรับเสมอค่า

 

โดย: ลั่นทมริมทะเล 10 สิงหาคม 2551 22:41:30 น.  

 

-ขอบคุณที่แวะมาอวยพรให้ในวันครบรอบวันเกิดนะคะ

 

โดย: อุมาวดี 10 สิงหาคม 2551 22:44:33 น.  

 

ละเอียดดีค่ะ

ดู่..ดู้..ดู...ยัยฮิปทำ หลังจากหายไปนานบัดดี้จะเอาขนมมาฝากเพื่อนๆ แต่ยัยฮิปดันมาทำอย่างงี้ได้

 

โดย: อ้วนดำปื๊ดปื๊อ 11 สิงหาคม 2551 0:29:02 น.  

 


สวัสดีตอนค่ำของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า



ช่วงนี้ ฝนตก บ่อยๆๆ
อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยน๊า
คิดถึง ห่วงใย เสมอ


** มีความสุขกับวันแรกของการทำงานนะจ้า **


ได้ความรู้เพิ่มมากขึ้นเลยอะจ้า

 

โดย: จอมแก่นแสนซน 11 สิงหาคม 2551 1:18:46 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: katoy 11 สิงหาคม 2551 8:24:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


โสดในซอย
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 61 คน [?]






e-mail ติดต่อโสดในซอย
singleinsoi@hotmail.com






Facebook โสดในซอย
http://www.facebook.com/profile.php?id=100002317657363





“เติมรักให้เต็มรุ้ง”
งานเขียนล่าสุดของ “โสดในซอย”

สั่งซื้อในบล็อก
พร้อมลายเซ็น
ราคารวมค่าส่ง 305 บาท
โอนเงินผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ
หมายเลขบัญชี 020-056941-6
ชื่อบัญชี มนชญา
โปรดโอนให้มีเศษสตางค์
เพื่อง่ายแก่การอ้างอิง
และแจ้งรายละเอียดการโอน
พร้อมทั้งชื่อ-ที่อยู่ที่จะให้จัดส่ง
ที่หลังไมค์ได้เลย
หรือตามร้านหนังสือค่ะ

ขอบคุณค่ะ





ความรักคะ ฉันมีเรื่องจะฟ้อง
ของ "โสดในซอย"
โดย สำนักพิมพ์ 'ษาริน
วางจำหน่ายแล้วตามร้านหนังสือทั่วไปค่ะ
หรือสั่งซื้อในบล็อกได้เช่นกัน
ราคา 220 บาทรวมค่าส่งค่ะ








ขายหรือให้เช่า
ศุภาลัย ปาร์ค ติวานนท์
35 ตร.ม. ใกล้รถไฟฟ้าสถานีกระทรวงสาธารณสุข
ไลน์ aazz999




Friends' blogs
[Add โสดในซอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.