World 02/10/51

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่รอผลการลงมติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ของวุฒิสภาสหรัฐ ส่วนภาวะการซื้อขายค่อนข้างซบเซาหลักจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่อ่อนแอเกินคาด ซึ่งบดบังข่าวด้านบวกที่ว่านายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้งบริษัท เบิร์กเชียร์ แฮทธาเวย์ ได้เข้าลงทุนในบริษัท เจนเนอรัล อิเล็กทริก มูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
สตีเฟน วู๊ด นักวิเคราะห์จากบริษัท Insight Economics LLC ในรัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ภาวะถดถอยในตลาดที่อยู่อาศัยได้ลุกลามไปยังอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมแทบจะทุกประเภท ขณะที่อัตราการผิดนัดชำระหนี้พุ่งสูงขึ้นเนื่องจากสถาบันการเงินเพิ่มกฎข้อบังคับที่เข้มงวดมากขึ้น นอกจากนี้ อัตราว่างงานที่สูงขึ้นยังส่งผลให้ผู้บริโภคลดการใช้จ่ายลง ส่วนยอดส่งออกยังคงถดถอยเนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลก ซึ่งฉุดรั้งความต้องการสินค้าจากสหรัฐให้ลดลงด้วย
ส่วนหุ้นฟอร์ดร่วงลง 12.5% หุ้นโตโยต้าดิ่งลง 2.2% แม้มีรายงานว่าประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้ลงนามอนุมัติเงินกู้จำนวน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ อาทิ เจนเนอรัล มอเตอร์, ฟอร์ด มอเตอร์, ไครสเลอร์ แอลแอลซี และค่ายรถยนต์รายอื่นๆกำลังต้องการเงินก้อนใหญ่เพื่อนำมาใช้ผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานเพิ่มมากขึ้น

- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีการคาดการณ์ว่าธนาคารลอยด์ ทีเอสบี เตรียมเทคโอเวอร์กิจการธนาคาร HBOS และคาดว่าวุฒิสภาสหรัฐจะมีมติอนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์
ทิม ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จาก IG Index ในกรุงลอนดอนกล่าวว่า "กระแสคาดการณ์ที่ว่าวุฒิสภาสหรัฐจะอนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ ได้กระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อห้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษแสดงความมั่นใจว่าการที่ลอยด์ ทีเอสบีเข้าเทคโอเวอร์ HBOS จะผ่านไปอย่างราบรื่น ซึ่งข่าวดังกล่าวหนุนหุ้น HBOS พุ่งขึ้น 24%"

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์การเงินทั่วโลก ซึ่งจะสร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อสกุลเงินยูโร นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าวุฒิสภาสหรัฐจะอนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์

- ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานสต็อกน้ำมันดิบและเบนซินที่เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงกำลังบีบให้ชาวอเมริกันใช้พลังงานน้อยลงและลดการขับขี่ยานยนต์
นักลงทุนเทขายสัญญาน้ำมันดิบและสัญญาน้ำมันประเภทอื่นๆ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 26 ก.ย.พุ่งขึ้น 4.3 ล้านบาร์เรล หรือ 1.5% แตะระดับ 294.5 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล หรือ 0.5% แตะระดับ 179.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 1.6 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และดีเซล ลดลง 2.3 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 123.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานระบุว่า ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงในรอบ 4 สัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 26 ก.ย.อยู่ที่ระดับ 19 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 7% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
จิม ริทเทอร์บุช นักวิเคราะห์จากบริษัท Ritterbusch and Associates ในรัฐอิลลินอยส์กล่าวว่า "สต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าสาธารณูปโภคด้านการขุดเจาะน้ำมันและก๊าสธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโกยังคงเปิดดำเนินการได้ตามปกติ หลังจากประกาศปิดทำการชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบของพายุเฮอริเคนกุสตาฟและพายุไอค์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังหลีกเลี่ยงการเข้าทำโพสิชั่นก่อนที่วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติแผนฟื้นฟูภาคการเงิน"

- ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (1 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพราะมองว่าวิกฤตการณ์ด้านการเงินยังคงเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจทั่วโลกและแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์ยังไม่มากพอที่จะแก้ไขวิกฤตการณ์ดังกล่าวได้ จึงทำให้การลงทุนในตลาดทองคำเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 887.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.50 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในกรอบ 873.60-898.70 ดอลลาร์
ราล์ฟ เพรสตัน นักวิเคราะห์จากบริษัท Heritage West Futures Inc. กล่าวว่า นักลงทุนจับตาดูผลการลงมติแผนฟื้นฟูภาคการเงินในการประชุมวุฒิสภาสหรัฐ หลังจากสภาคองเกรสมีมติไม่ผ่านแผนฟื้นฟูฉบับดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 228 ต่อ 205 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่แผนฟื้นฟูภาคการเงินที่ยื่นต่อวุฒิสภาครั้งนี้เพิ่มเติมเงื่อนไขบางอย่าง รวมถึงการเพิ่มค้ำประกันวงเงินฝากธนาคารที่ได้รับการค้ำประกันโดย FDIC จาก 100,000 ดอลลาร์ เป็น 250,000 ดอลลาร์ (ณ เวลานี้ 9.30 ราคาทองคำปรับตัวลดลงไปอยู่ที่แถว 870 ครับ ช่างเป็นแนวรับที่แข็งจริงๆ...)

- วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 74 ต่อ 25 ให้อนุมัติแผนฟื้นฟูภาคการเงินมูลค่า 7 แสนล้านดอลลาร์แล้ว หลังจากสภาคองเกรสไม่ผ่านแผนการดังกล่าวไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยการลงมติครั้งนี้มีขึ้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง ซึ่งทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน รวมถึงนายบารัค โอบามา และนายจอห์น แมคเคน ก็ออกเสียงสนับสนุนแผนการดังกล่าวด้วย สำนักข่าว CNN รายงาน

- สำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนก.ย.ร่วงลงแตะระดับ 43.5 จุด จากเดือนส.ค.ที่ระดับ 49.9 จุด ซึ่งลดลงมากว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน/ไอเอฟอาร์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 49.5 จุด

- เชียลา แบลร์ ประธานบรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (FDIC) ถูกบีบให้เข้าไปมีบทบาทมากขึ้นในการแก้ไขวิกฤตการณ์สินเชื่อ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีข้อจำกัดในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา FDIC รุกคืบเข้ามามีบทบาทในการกอบกู้วิกฤตการณ์การเงินเป็นครั้งแรกด้วยการเรียกร้องให้ทางการสหรัฐใช้มาตรการยับยั้งการล่มสลายในระบบการเงิน และแนะนำให้ซิตี้กรุ๊ปเข้าซื้อธุรกิจการธนาคารที่ประสบปัญหาของวาโชเวีย
แบลร์ วัย 54 ปี ก้าวเข้ามาสานต่อเป้าหมายของเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ในการช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ประสบปัญหา เนื่องจากคณะกรรมการเฟดพยายามลดบทบาทตนเองในการนำเงินในทุนสำรองของเฟดมาช่วยเหลือสถาบันการเงินที่ล้มละลาย หลังจากนักวิเคราะห์บางคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่า เฟดกำลังทำงานเกินหน้าที่
จอห์น โบห์เนอร์ หนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า เขาสนับสนุนแผนการดังกล่าว และเชื่อว่าจะผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา และเชื่อว่าการที่ FDIC เพิ่มการค้ำประกันวงเงินฝากธนาคาร และการเพิ่มการให้ความคุ้มครองต่อผู้เสียภาษีจะสามารถดึงดูดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกันได้ สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน

- คณะกรรมาธิการยุโรปมีคำตัดสินให้สั่งปรับบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ เอ็กซอน โมบิล, โททาล และบริษัทอื่นๆอีก 8 ราย รวมเป็นเงิน 676 ล้านยูโร (967 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากกรณีที่บริษัทเหล่านี้ร่วมกันกำหนดราคา (price-fixing) ขี้ผึ้งพาราฟินที่ใช้ในการผลิตเทียนและกระดาษไข ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

- สหภาพยุโรป หรือ อียู ประกาศปฏิรูปกฎระเบียบธนาคารเมื่อวานนี้ เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงินที่เกิดขึ้นจนส่งผลกระทบลุกลามมายังสถาบันการเงินในยุโรป
ข้อเสนอโดยคณะกรรมการตลาดภายในของอียูระบุให้มีการควบคุมการขายสินเชื่อที่แปลงเป็นหลักทรัพย์ (Securitized) ของธนาคารต่างๆให้อยู่ที่ระดับอย่างน้อย 5% ของผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อปรับปรุงมาตรฐานในการอันเดอร์ไรท์
นอกจากนี้ การลงทุนในตลาดอินเตอร์แบงค์จะต้องจำกัดไว้ที่ 25% ของเงินทุน หรือต่ำกว่า 150 ล้านยูโร หรือ 216 ล้านดอลลาร์
และเพื่อเป็นการปรับปรุงกลไกในการดูแลธนาคารข้ามชาติ ควรจะมีการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลขึ้น โดยเปิดให้ตัวแทนของธนาคารจากประเทศเจ้าเป็นผู้มีอำนาจสรุปเรื่องเงื่อนไขด้านเงินทุนทั้งหมด
ทั้งนี้ คณะกรรมการยุโรปจะรับข้อเสนอดังกล่าว หลังจากนั้นจะต้องมีการเสนอให้รัฐบาลและรัฐสภาของประเทศต่างๆในยุโรปเพื่อขออนุมัติ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

- นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำคนสุดท้ายของอดีตสหภาพโซเวียต ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์สหรัฐอเมริกาว่าฝ่าฝืนข้อตกลงที่ได้ให้ไว้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ และควรรับผิดชอบที่ทำให้การเจรจานิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีต้องประสบภาวะชะงักงัน

- กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะจัดการเจรจาด้านการทหารในวันนี้ที่หมู่บ้านปันมุนจอม หลังจากที่เกาหลีใต้ได้เสนอให้มีการเจรจาร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ได้เข้ามาทำหน้าที่เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ของกระทรวงระบุว่า ประเด็นเรื่องการปฏิบัติตามข้อตกลงของหน่วยงานด้านการทหารของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเป็นวาระในการประชุม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การเจรจาทางการทหารครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้นั้นมีขึ้นเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา และทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงกันว่า จะให้บริการรถไฟขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน

- เกาหลีใต้รายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.อยู่ที่ระดับ 1.9 พันล้านดอลลาร์ หรือลดลงจาก 3.81 พันล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. หลังราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์เริ่มมีเสถียรภาพ
โดยยอดส่งออกของเกาหลีใต้มีการขยายตัว 28.7% แตะ 3.775 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. ในขณะที่ยอดนำเข้าทะยานกว่า 45.8% แตะ 3.965 หมื่นล้านดอลลาร์
ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.ของปีนี้ เกาหลีใต้ขาดดุลการค้ากว่า 1.424 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งที่ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วเกาหลีใต้เกินดุลการค้ากว่า 1.193 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้คาดการณ์ว่าจะมียอดเกินดุลการค้าในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้ เนื่องจากราคาพลังงานโลกเริ่มลดลง และคาดว่ายอดส่งออกยานยนต์จะเพิ่มขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อ้างอิงจาก //www.ryt9.com

ข้อสังเกต
1. และแล้วแผน 7 แสนล้านก็ผ่านไปได้ เหลือเพียงรอผลในคืนวันศุกร์อีกที ก็คงต้องดูผลที่จะเกิดต่อไปครับ ว่ายาต้านไวรัสตัวนี้ จะต้านไวรัสได้นานสักเพียงใด นานพอที่จะมียาตัวอื่นมาฆ่าไวรัสนี้ได้หรือไม่ครับ

2. คืนนี้จะมีประกาศการเข้ารับเงินสวัสดิการของผู้ว่างงานในสหรัฐครับ ซึ่งน่าจะปรับลดลง เนื่องจากคราวที่แล้วยอดผู้เข้ารับเงินเพิ่มมากขึ้นจากผลของพายุเฮอริเคนกุสตาฟและพายุไอค์ ทำให้โรงงานและแท่นขุดเจาะน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกปิดลงชั่วคราว โดยในขณะนี้ก็ได้เปิดใช้งานแล้ว ทำให้คนกลับเข้าไปทำงานตามปกติครับ ซึ่งถ้าปรับลดลงจริงตามที่คาดการณ์ไว้คงสนับสนุนผลจากการอนุมัติแผน 7 แสนล้านได้พอสมควรครับ แต่ก็น่าคิดนะว่าตลาดรับข่าว 7 แสนล้านตั้งแต่เมื่อวานรึปล่าว (ผมเดาไปเรื่อยนะครับ)

3. คืนวันศุกร์จะมีตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐสำคัญๆไม่ว่าจะเป็น Non-Farm Employment Change , Unemployment Rate , ISM Non-Manufacturing PMI ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญครับ

-----------------------------------------------------------------------------

คำเตือน - ข้อมูลดังกล่าวผู้เขียนตั้งใจเก็บไว้สำหรับเตือนความจำ และประกอบการวิเคราะห์ของผู้เขียน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีข้อผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นผู้เข้าเยี่ยมชมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ

Create Date : 02 ตุลาคม 2551 Last Update : 2 ตุลาคม 2551 10:14:29 น. Counter : 277 Pageviews.		0 comments
Share Tweet