Happiness depends upon ourselves.....
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2550
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 ตุลาคม 2550
 
All Blogs
 
“อมาดาด” สวรรค์กลางผืนน้ำ

29-30/09/2007

นานมาแล้วเคยได้รับ forward e-mail เป็นภาพรีสอร์ทสวยๆ กลางน้ำแห่งหนึ่ง ตอนนั้นรับรู้แค่ว่าที่นั่นคือ “อมาดาด” รีสอร์ทแห่งใหม่บนเขื่อนศรีนครินทร์ และอีกอย่างที่รู้คือ.....น่าไปมากๆๆ และแอบสัญญากับตัวเองเอาไว้ด้วย ว่าเราต้องไปพักที่นี่ให้ได้สักวัน

จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีโอกาสเหมาะๆ ซักที เรากะอมาดาดเลยยังไม่มีโอกาสได้เจอกัน จนกระทั่งวันนึง เพื่อนสาวหลายๆ คนในกลุ่มเกิดอาการเซ็ง ทำให้อยากเที่ยวพร้อมๆ กัน ..... ฮ่า! เข้าทางเราพอดี ก็เลยได้ทีชวนไปที่อมาดาดซะเลย แล้วก็ฤกษ์ดีจริงๆ หลายคนเห็นดีเห็นงามด้วย

หลังจากโทรไปจองที่พัก (ซึ่งจองยากมากๆๆ ดีนะ ที่เราใช้แค่ห้องเดียว เราเลยได้ห้อง) เราก็พร้อมเดินทางกันแล้วค่ะ หลังจากสมาชิกทุกคนขึ้นรถ เราก็มุ่งหน้าไปยังจังหวัดกาญจนบุรี ทัวร์ของเราเป็นแบบสบายๆ พอลูกทัวร์หิว เราก็แวะปั๊มกินข้าวกันซะก่อน ตุนขนมไว้กินที่แพ แล้วก็ไปต่อ

หลังจากคำนวณเวลากลัวว่าเราจะแวะไปเที่ยวที่ปราสาทเมืองสิงห์ไม่ทัน เราเลยอาสาขอเป็นคนขับรถซะเอง เพราะว่าคุ้นเคยกับเส้นทางมากกว่าเพื่อน อีกสักพักเราก็มาถึงที่นี่กันค่ะ......อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์

ลงจากรถปุ๊บ เดินมานิดนึง เราก็จะได้เจอกับอาคารนิทรรศการ ซึ่งรวบรวมรูปปั้นเก่าๆ เอาไว้ให้ได้มาศึกษาหาความรู้กันซะหน่อย



ออกจากอาคารนิทรรศการ เดินมาอีกหน่อย ก็จะเข้าสู่บริเวณตัวปราสาทเมืองสิงห์กันแล้ว ปราสาทเมืองสิงห์เนี่ย มีความสำคัญคือ เป็นปราสาทรูปแบบขอม ที่สร้างขึ้นในช่วงอาณาจักรขอมเรืองอำนาจ และนับเป็นปราสาทที่สร้างออกมาไกลที่สุดทางด้านทิศตะวันตกของอาณาจักรขอมหรือกัมพูชานั่นเอง

ตัวปราสาทในวันฟ้าเต็มไปด้วยเมฆ อากาศอ้าวทีเดียว



เราเคยมาเที่ยวปราสาทเมืองสิงห์หลายทีแล้ว แต่ยังไม่เคยเดินเข้ามาในตัวปราสาทเลย คราวนี้เลยขอเดินสำรวจตัวปราสาทกันซักหน่อย ด้านในจุดที่เด่นที่สุดของปราสาทก็น่าจะเป็นรูปปั้นของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ตามความเข้าใจของเราเอง ผิดถูกไม่รู้ เราว่านี่เป็นอีกอย่างนึงที่แสดงให้เห็นว่าปราสาทแห่งนี้สร้างตามความเชื่อของขอมโบราณ เพราะตอนไปนครวัด เราก็ได้พบกับรูปปั้นของพระโพธสัตว์อวโลกิเตศวรแบบนี้เต็มไปหมดเหมือนกัน



เดินเล่นถ่ายรูปกันสักพัก ก็ต้องรีบขี้นรถแล้วก็บึ่งรถไปยังจุดนัดพบของทางรีสอร์ท คือ แถวๆ หม่องกะแทะ ซึ่งพวกเราก็ดั้นไม่รู้ว่ามีทางลัด ดันขับรถย้อนไปทางเดิม ทำให้ต้องรีบทำเวลากันแทบแย่ แถมท่าเรือเรายังต้องขับรถไปทางเขื่อนศรีนครินทร์ซึ่งเป็นทางแบบสวนกัน ทางขึ้นเขา ทำให้ต้องระวังกันพอสมควร แต่ถนนเค้าก็ดีนะ เนื่องจากช่วงนี้เราเป็นคนขับ เลยต้องหันไปบอกเพื่อนๆ ว่า เคยขับรถขึ้นเขามาแล้ว ไม่ต้องห่วง ไว้ใจได้......

แล้วเราก็มาถึงที่จอดรถเพื่อลงเรือไปรีสอร์ทแบบทันเวลาอย่างฉิวเฉียด รอจนแขกทุกๆ คนขึ้นเรือกันครบ ก็ออกเดินทางได้แล้วค่ะ ...... นั่งเรือจากท่าเรือแค่ประมาณ 15 นาที เราก็มาถึงสวรรค์กลางน้ำกันแล้ว..... อมาดาดค่า อมาดาด



ทางรีสอร์ทต้อนรับพวกเราด้วยวิวสวยๆ และก็น้ำมะตูมเย็นชื่นใจ ถ่ายรูปกันแป๊บนึงระหว่างรอห้อง แค่นี้ก็มีความสุขจังแล้วค่ะ

ดอกลีลาวดี เห็นเป็นไม่ได้ ขอซะหน่อย.....ห้องพักของเราอยู่ด้านหลังตรงที่เรือจอดนั่นแหล่ะค่ะ



ก่อนเข้าห้อง จัดการรวบรวมผู้ร่วมทริป ถ่ายรูปร่วมกันซะหน่อย สวยมั๊ย......วิวด้านหลังหน่ะ สวยมั๊ย



ถ่ายรูปกันหน้าดำจนเป็นที่พอใจ ก็ได้เวลาเข้าห้อง .... ห้องพักจัดได้สะดวกสบายใช้ได้ แต่ที่ถูกใจที่สุดก็คือระเบียงริมน้ำหน้าบ้าน ลมเย็นๆ วิวสวยๆ อะไรจะมีความสุขไปกว่านี้อีกเนี่ย



เก็บข้าวเก็บของ แล้วมาเริ่มสำรวจกันดีกว่า ว่าที่รีสอร์ทมีกิจกรรมอะไรให้พวกเราได้เล่นกันบ้าง ... เดินมาเจอ นี่เลย กิจกรรมสุดโปรด พายเรือคายัก ... ชอบมากๆ เลยเวลาเรือคายักมาจอดไว้รวมๆ กัน สีสันสดใสได้ใจดีจริงๆ



แต่ชีวิตพวกเรามีสีสันมากกว่านั้นอีก .... ทริปนี้พวกเรานัดกันใส่รองเท้า crocs กันด้วย แต่ละคนห้ามเลือกสีซ้ำกัน.....ภาพที่เห็นเลยออกมาเป็นเช่นนี้ สีสัน colorful มากๆ ทำกันไปด้าย อายุอานามก็ไม่น้อยกันแล้วนะนั่น



พวกเราถอยเรือออกมาสองลำ ก็เริ่มออกกำลังกายแขนกัน พายเรือในเขื่อนนี้มันดีจริงๆ พายง่ายดี ไม่มีคลื่น พายเรืออยู่พักใหญ่ ..... ไม่ได้การแล้ว หาเรื่องตัวเปียกดีกว่า เลยเอาเรือไปเก็บ แล้วก็มาโดดน้ำเล่นที่หน้าบ้าน มีความสุขจริงๆ เลย อ้อ... ขอเตือนนะคะ ใครจะเล่นน้ำที่นี่ ควรใส่ชูชีพไว้เสมอ เพราะน้ำมันลึกนะ กันไว้ดีกว่าแก้นะคะ



ลอยคอ แหงนหน้าดูฟ้า หันหน้าชมวิวอยู่อย่างมีความสุข อยู่ๆ พี่โป้ง... เจ้าของรีสอร์ท ก็ขับเรือพาเจ้าเรือกล้วย เข้ามาถามพวกเราว่า สนใจจะเล่น Banana Boat มั้ย..............อ้อ ลืมแนะนำพี่โป้งไปค่ะ พี่โป้งนอกจากจะเป็นเจ้าของรีสอร์ทแล้ว ยังเป็นคนคอยดูแลทุกข์สุขของแขกทุกๆ คน ใจดีมากๆ อัธยาศัยดีจริงๆ ค่ะ .... ที่สำคัญ ขับเรือเก่งเชียว

กลับมาที่ Banana Boat ….. ตอนแรกเราก็ไม่ค่อยอยากเล่นหรอก เพราะรู้ซึ้งดีว่ามันขึ้นยากขนาดไหน แต่ท่าทางเพื่อนๆ ทุกคนอยากเล่นกันสุดฤทธิ์ เอาก็เอา.....เป็นไงเป็นกัน .... !!

ตอนขึ้นไปเล่น ไม่รู้ด้วยเหตุผลอันใด พี่โป้งบอกให้เรานั่งหลังสุด...... ไอ้เราก็พวกคนหัวอ่อน ว่าง่าย....ก็เชื่อเค้าซะงั้น ปรากฏว่าหลังจากพยายามเกาะเชื่อกแน่นๆ แล้ว เอาเท้าซุกเข้ามาในเรือก็แล้ว Balance ตัวอย่างสุดฤทธิ์ก็แล้ว พวกเราก็ไม่รอด หล่นจาก Boat กันถ้วนทั่ว



ตอนหล่นอ่ะ หนุกดี เพราะน้ำในเขื่อนเป็นน้ำจืด ไม่แสบตา สนุกดี แต่ตอนขึ้นนี่ดิ ที่ไปด้วยกันก็มีแต่ผู้หญิงแต่ละคนเอาตัวเองไม่รอด ... ดันกันก็แล้ว ก็ยังไม่มีใครสามารถขึ้นเรือได้ ก็เลยต้องเดือดร้อนพี่โป้ง ต้องโดดลงจากเรือมาช่วยดึงพวกเราขึ้นทีละคน........ พอกลับขึ้นเรือได้ พี่โป้งก็พาพวกเราไปซิ่งต่อ.....วี๊ดว้ายกันได้แป๊บเดียว...พวกเราก็หลุดลงไปอยู่ในน้ำกันอีกแล้ว....และก็เหมือนเดิม ขึ้นกันเองไม่ได้เหมือนเดิม พี่โป้งต้องลงมาช่วยเหมือนเดิม แอบสะใจพี่โป้งเล็กน้อย ก็บอกแล้วว่าให้ขับพาชมวิวไม่ต้องทำหล่น ไม่เชื่อ ...... ทำพวกเราหล่น พี่โป้งก็ต้องมาตามเก็บอยู่ดี ฮ่าๆๆๆ เราว่างานนี้คนเหนื่อยสุด ก็พี่โป้งหน่ะแหล่ะ

เล่นน้ำกันจนหนำใจ ก็เริ่มทยอยกันขึ้นมาอาบน้ำ ตอนนี้ทางรีสอร์ทก็เอาของว่างเป็นขนมปังหน้าหมูมาส่งให้ถึงห้องกันด้วย.....อิ่มอร่อยยามบ่ายกันเลยทีเดียว

อาบน้ำเสร็จครบทุกคนก็ออกมาเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ตรงนี้เป็นบริเวณเอนกประสงค์ เป็นทั้ง lobby และก็ที่นั่งทานข้าวถ้าด้านนอกฝนตกหรือแดดร้อน ช่วงใกล้ค่ำ เริ่มเปิดไฟแล้ว



บริเวณทางเดินเชื่อมระหว่าง lobby กับห้องพัก รอบๆ แวดล้อมไปด้วยผืนน้ำ



ถ่ายรูปกันสักพักก็มานั่งคุยกัน สักพักใหญ่ๆ ก็ได้เวลาอาหารเย็นแล้วค่ะ มื้อเย็นของที่นี่อลังการมากๆ มี BBQ และก็อาหารแบบ set menu ให้แต่ละ group ปริมาณไม่ต้องพูดถึง ขนาดกินกันเก่งๆ อย่างพวกเรา ยังไม่สามารถกินกันได้หมดเลยค่ะ

อิ่มแล้ว พวกเราก็ไปนั่งตากลมเย็นๆ กำลังสบาย คุยกันที่หน้าห้องพัก เพื่อนเก่าได้มานั่งคุยกัน แบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ให้กัน หัวเราะด้วยกัน มีความสุขจริงๆนะเนี่ย

นั่งคุยกันซักพัก ก็หันไปเห็นพระจันทร์ที่เริ่มจะโผล่ออกมาจากกลุ่มเมฆ เป็นภาพที่สวยงามมากๆ เพราะดวงจันทร์กลมโตสีเหลืองได้ทอดเงาลงมาที่ผืนน้ำ สวยจริงๆ เสียดายมากที่กล้องเรากำลัง charge battery อยู่ เลยไม่ได้มีโอกาสเก็บภาพสวยๆ มา ช่วงที่พระจันทร์โผล่พ้นเมฆออกมา บรรยากาศรอบๆ ที่มืดสนิทอยู่ ก็เริ่มจะเห็นเงารางๆ ของภูเขารอบๆ ที่สำคัญ ได้เห็นเงาจันทร์ด้วยนะ.......(น้ำไม่ต้องเน่า เราก็เห็นเงาจันทร์ได้นะ)

หลังจากนั่งกินลมชมจันทร์กันพักใหญ่ๆ ก็แยกย้ายกันเข้านอน.....





เช้าวันใหม่ เรารีบตื่นแต่เช้า....ตื่นเช้ากว่าเวลาไปทำงานอีกนะเนี่ย เพราะอยากออกมาดูพระอาทิตย์ขึ้น มองไปที่ภูเขารอบๆ ก็เริ่มจะเห็นแสงของวันใหม่แล้ว



สักพัก เพื่อนอีกคนก็ตื่นมานั่งดูวิวเป็นเพื่อน เราเลยชวนกันออกกำลังกายตอนเช้าโดยการพายคายักไปที่เกาะกลางน้ำอีกฝั่งนึง เพื่อขึ้นที่จุดชมวิวตามที่พี่โป้งได้แนะนำเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวาน.....พายเรือตอนเช้ากลางแดดอ่อนๆ แป๊บเดียวเราก็มาถึงฝั่งตรงข้ามกันแล้ว..... จัดแจงจอดเรือให้เรียบร้อย ก็พร้อมที่จะเดินขึ้นจุดชมวิวกันแล้ว



เดินกันมาซักแป๊บนึง ยังไม่ทันเหนื่อย เราก็หันไปเห็น อมาดาด ที่พักของเราวางตัวสวยอยู่บนพื้นน้ำกว้าง



เดินไปอีกนิด หันหลังมาตามเสียงเครื่องยนต์เรือ เราก็ได้เห็นพี่โป้งขับเรือเร็วออกมาฉวัดเฉวียนอยู่บนผืนน้ำ ทำให้เกิดความงามของสายน้ำ สวยไปอีกแบบ



ณ จุดสูงสุดของจุดชมวิวที่พวกเราค่อยๆ เดินกันขึ้นมา เราก็จะได้เห็นวิวของอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ยามเช้า สวยสงบดีจัง



ชมวิวจนหนำใจ เราก็ค่อยๆ เดินลงมา แล้วก็พายคายักกลับมาที่แพ สักพักเพื่อนที่เหลือก็ตื่นพอดี เราเลยออกไปทานอาหารเช้ากัน แล้วก็มาเตรียมตัวไปเที่ยวที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นกันต่อ

เราเองเคยไปเที่ยวที่น้ำตกนี้มาแล้ว 2 ครั้ง ก็ยังอยากไปอีก เพราะสำหรับเรานั้น ห้วยแม่ขมิ้นเป็นน้ำตกที่สวยอันดับต้นๆ ในใจเลยทีเดียว ทั้งสองครั้งที่เคยไป ได้ไปทางรถตลอด แต่คราวนี้พวกเราจะเดินทางกันทางเรือ แล้วจะค่อยๆ เดินขึ้นน้ำตกจากชั้นที่ 1 ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ ตามคำบอกเล่าของพี่โป้ง ซึ่งตอนนี้แปลงร่างเป็นไกด์ไปซะแล้ว

พอสมาชิกทุกท่านพร้อม เรือลำนี้ก็พาเรานั่งเรือไปอีกประมาณ 40 นาที เราก็จะถึงน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นแล้วค่ะ



พอมาถึงบนฝั่ง ระหว่างรอให้พี่โป้งไปซื้อบัตรเข้าชมอุทยานฯ พวกเราก็ขอทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี ถ่ายรูปกับป้ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันซะหน่อย



พอได้บัตรและสมาชิกมากันครบ พวกเราก็เริ่มออกเดินค่ะ อากาศไม่ร้อนจนเกินไป ทางเดินก็คลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ เดินยังไม่ทันเหนื่อย เราก็เริ่มเข้าเขตน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นกันแล้วค่ะ



เดินต่อมาอีกหน่อย ก็จะถึงป้ายแสดงระยะทางการเดินไปยังน้ำตกชั้นต่างๆ พร้อมกับมีชื่อน้ำตกแต่ละชั้น ในภาพพี่โป้งกำลังอธิบายถึงชั้นต่างๆ ของน้ำตกค่ะ ชื่อน้ำตกแต่ละชั้นเรียงกันจากชั้น 1 ถึงชั้น 7 ตามนี้เลยค่ะ........



งานนี้เราได้เตรียมอุปกรณ์มาเพื่อถ่ายน้ำตกด้วย นั่นคือลงทุนแบกขาตั้งกล้องมาด้วย ก็ได้ใช้งานสมใจ.....พอถึงน้ำตกชั้นแรกก็รีบกางขาตั้งกล้องถ่ายสายน้ำพริ้วๆ มาได้ ..... สวยใช้ได้แฮะ (ขออนุญาตชมตัวเองเล็กน้อย อิอิ )



พวกเราเดินถ่ายรูปกันมาเรื่อยๆ ตอนแรกกะจะเล่นน้ำกัน แต่เราห่วงถ่ายรูปมากกว่า เดินไปเดินมา ก็มาถึงน้ำตกชั้นที่เค้าว่าสวยที่สุดของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น นั่นก็คือ น้ำตกชั้นที่ 4 ชื่อว่าชั้นฉัตรแก้ว



โดยปกติ ถ้าใครที่มาเที่ยวน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นโดยทางรถ พอมาถึงก็จะได้เจอกับน้ำตกชั้นนี้เป็นชั้นแรก แล้วก็ค่อยเลือกเอานะคะ ว่าจะเดินขึ้นหรือจะเดินลงไปเที่ยวชมน้ำตกชั้นอื่นๆ ที่ชั้นฉัตรแก้วนี้ เราจะได้เห็นชั้นน้ำตกไหลลดหลั่นมาเรื่อยๆ แล้วตกลงสู่เบื้อล่างผ่านผาหินสูงๆ เป็นภาพที่สวยงามจริงๆ ค่ะ



ความจริงอยากจะถ่ายน้ำตกชั้นนี้ให้เป็นสายน้ำพริ้วๆ มากๆ แต่หลังจากที่ใช้เวลานานพอสมควร รูปที่อยากได้กลับขาวโพลนไปหมด.......เอาง่ายๆ คือ ถ่ายไม่เป็นค่ะ

ตรงบริเวณชั้นฉัตรแก้วแห่งนี้ จะเป็นที่ตั้งของตัวอุทยานด้วย บ้านพักของอุทยานก็จะอยู่ที่ชั้นนี้ และถ้าใครอยากจะมานอนกางเต็นท์ดูดาว เค้าก็จะมีลานกางเต็นท์ให้ด้วยเช่นกัน

จากลานกางเต็นท์ มองออกไปด้านหน้า เราก็จะได้เห็นวิวอ่างเก็บน้ำงามๆ แบบนี้



พวกเรายืนถ่ายรูปสู้แดดกันอยู่พักนึง ก็เคลื่อนพลมาที่ศาลาชมวิวด้านข้าง มองออกไปเห็นอ่างเก็บน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์สวยงามจริงๆ ค่ะ



ถ่ายรูปกันจนหนำใจ พวกเราก็มานั่งพักดื่มน้ำกันตรงร้านค้าสวัสดิการ ซักพักพอสมาชิกมากันครบ พวกเราก็ทยอยกันนั่งรถกระบะลงไปที่ท่าเรือ เพื่อเตรียมตัวกลับไปที่รีสอร์ท

ฟ้าใสๆ บริเวณท่าเรือค่ะ เห็นแบบนี้กิเลสพุ่งอีกแล้วค่ะ อยากได้ lens wide จัง



ระหว่างที่รอสมาชิกคนอื่นๆ ลงมา หันไปเห็นเจ้าผีเสื้อสองตัวกำลังลงมากินดินโป่งแถวๆ ท่าเรือ ก็เลยขอแอบถ่ายซะหน่อย



หลังจากนั้นเราก็นั่งเรือกลับกัน ไปถึงที่รีสอร์ท ทางรีสอร์ทเค้าก็เตรียมอาหารเที่ยงไว้รอพวกเราอยู่แล้ว มื้อนี้เป็นอาหารอีสานมื้อใหญ่ มีทั้งส้มตำ ลาบ ต้มแซ่บ และที่อร่อยสุดๆ ห้ามพลาดก็คือไส้กรอกอีสาน....อร่อยมากๆ

แต่พวกเราก็รีบกินกันสุดๆ เพราะหลังจากที่พลาดการเล่นน้ำที่น้ำตก พวกเรารู้สึกว่าอยากจะกระโดดน้ำเล่นกันอีกสักรอบ กินข้าวเสร็จปุ๊บ คว้าชูชีพปั๊บ แล้วเรากะเพื่อนๆ ก็ลงไปลอยคอในน้ำอย่างสบายใจ ระหว่างที่เพื่อนๆ ที่เหลือไปอาบน้ำอยู่ค่ะ

แต่เล่นได้แป๊บเดียว พอเพื่อนๆ บอกว่าอีกประมาณครึ่งชั่วโมงถึงเวลาที่เค้านัดเพื่อจะขึ้นเรือกลับฝั่ง....เท่านั้นแหล่ะค่ะ เรากับเพื่อนก็รีบขึ้นจากน้ำ ผลัดกันอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เก็บข้าวของแล้วก็มานั่งรอเรือออกได้อย่างทันเวลาพอดี.....

ก่อนจะก้าวลงเรือ หันไปเห็นดอกลีลาวดีที่เมื่อว่านยังไม่บานเต็มที่ มาวันนี้บานสวยรอส่งเราอยู่แล้ว เลยต้องยกกล้องมาเก็บภาพกันอีกที



แล้วพวกเราก็นั่งเรือกลับฝั่ง พร้อมกับเก็บความประทับใจของอมาดาดเก็บกลับไปด้วย.....

พอถึงฝั่ง ก็ขับรถกลับ ระหว่างทางเจอฝนนิดหน่อย .... พอใกล้ๆ ถึงตัวเมืองกาญฯ พวกเราก็แวะชิมผัดไทยไร้เส้นเจ้าดัง...ซุ่นเฮง...อร่อยดีค่ะ โดยเฉพาะทอดมัน อร่อยสุดๆ ใครผ่านไปก็ลองแวะชิมนะคะ

ก็เป็นอันจบทริปสบายๆ กับเพื่อนๆ ไปอีกหนึ่งทริป มีความสุขดีค่ะ ได้ไปอยู่กับธรรมชาติ กับน้ำกับเขา ที่สำคัญกับเพื่อนๆ ที่รัก ได้คุยกัน หัวเราะด้วยกัน แค่นี้ก็เป็นความสุขง่ายๆ ของพวกเราแล้วค่ะ

ไว้เจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ

บ๊าย บาย ค่ะ



PS. สำหรับใครที่ต้องการข้อมูลของอมาดาด ก็เชิญเยี่ยมชม website ได้ที่นี่เลยค่ะ //www.amadardresort.com/


Create Date : 17 ตุลาคม 2550
Last Update : 17 ตุลาคม 2550 20:35:51 น. 20 comments
Counter : 3358 Pageviews.

 
รีบมาชมอมาดาดอย่างด่วนเรยจ้าเอ้

เก็บไว้ในลิสต์เป็นลำดับที่ 4

ถ่ายภาพสวยโดนใจอีกแว้ววนะน้อง

ชอบสีท้องฟ้าอ่ะ


โดย: นู๋หิ่นอินตรัง วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:16:25:04 น.  

 
“อมาดาด” สวรรค์กลางผืนน้ำ
สมชื่อตอนจริงๆเลย....

เห็นแล้วน่าไปมั๊กมาก...
ขอบคุณจขบ.ที่เก็บภาพสวย..
มาฝากกัน.....



โดย: iamorange วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:16:29:40 น.  

 
เห็นแล้วอยากไปบ้าง ค่าเสียหายคนละเท่าไหร่ละเนี้ย


โดย: polo IP: 58.10.146.91 วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:16:59:33 น.  

 
รูปสวยจังคะ...

อมาดาด แอบแพง ๆ ไม่มีรถก็ไปลำบากด้วย อยากไป แต่สงสัยคงจะยากแน่ๆ


ปล.
พี่ใช้กล้องอะไรหรอคะ? รูปสีสดดีอะคะ


โดย: คุณนายแสงจันทร์ วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:17:15:42 น.  

 
อยากไปมั่งอ่า....


โดย: หนูอยากกลับบ้าน วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:17:49:54 น.  

 
โห... สวยจังเลยครับ มีเบอร์โทร หรือเวปไซท์ของที่พักหรือเปล่าครับ ขอหน่อยซิครับ


โดย: khun_kai วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:18:53:15 น.  

 
ติดใจมากๆ อยากไปอีก อยากไปๆๆๆๆ ต้องขอบคุณหัวหน้าทัวร์ที่แสนดี เป็นทั้งคนขับรถ ไกด์นำเที่ยว และตากล้องด้วยอีกต่างหาก


โดย: linsuchi IP: 58.9.48.208 วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:19:24:49 น.  

 
ถ่ายภาพสวยมากครับ


โดย: pop (travelaround ) วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:21:42:53 น.  

 
ตามมาดูอีกรอบ ชอบแค่ไหนคิดเอาเองแล้วกัน


โดย: กบ...กิตติมา IP: 124.120.12.90 วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:23:00:12 น.  

 
สีสันสุดฤทธิ์ ทั้งเรือ เสื้อผ้า รองเท้า ไว้งานหน้า จะไปประชันโฉมด้วยน๊า ว่าแต่...จะไปกันอีกปะ


โดย: hibarbies IP: 58.8.105.11 วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:8:40:18 น.  

 
หนีเทียวอีกแว้วววว น้องเอ้
ชอบภาพที่มีฟ้าตรีมตรึมน่ะ งามแต๊เนาะ


โดย: GoYai IP: 58.136.60.121 วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:10:26:54 น.  

 
เห็นแล้วอยากไปอีกจัง วิวสวยจริง ๆ


โดย: iowatrumpet IP: 125.24.41.94 วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:13:08:10 น.  

 
รูปสวยมากเลย เห็นแล้วอยากเป็นคนในรูปมากเลยจ๊ะ


โดย: n_n IP: 58.10.137.129 วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:13:03:40 น.  

 
รองเท้า crocs สีฟ้า รู้สึกว่าจะ size ใหญ่ ผิดปกติ


โดย: ฝันถึงวันพรุ่งนี้ วันที่: 22 ตุลาคม 2550 เวลา:20:54:40 น.  

 
ภาพสวยได้ใจมากมาย อยากไปๆ

น่าไปเที่ยวจัง ท่าทางอากาศดีมากมาย


โดย: ด.ญ คณิตกร วันที่: 25 ตุลาคม 2550 เวลา:9:51:55 น.  

 
. . .เป็นทริปที่น่าสน พอดีสนใจจะไปน้ำตกห้วยแม่ขมิ้นเหมือนกันครับ


โดย: B.B.P. (boybangplee ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:08:44 น.  

 
. . .ลืมบอกว่าที่พักน่าสนใจมากครับ


โดย: B.B.P. (boybangplee ) วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:9:24:12 น.  

 
วางโครงการว่าจะไปเหมือนกัน ยิ่งเห็นรูปยิ่งอยากปาย อยากปายง่ะ


โดย: opel IP: 222.123.200.228 วันที่: 4 พฤษภาคม 2551 เวลา:23:33:36 น.  

 
ระรีรี


โดย: พเ IP: 125.27.249.163 วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:10:05:08 น.  

 
คนที่ไปแล้วช่วยบอกราคาที่พักให้ทราบหน่อยว่าราคาเท่าไรจะเป็นพระคุณมาก


โดย: หมูแรด IP: 125.24.40.154 วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:16:20:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Snoopy in BKK
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่อยากจะเล่าสู่กันฟัง ....
Friends' blogs
[Add Snoopy in BKK's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.