ผู้ทรงเป็นที่รักของคนทั้งประเทศ....ในหลวงของเรา
มิถุนายน 2549ในช่วงนี้ เราเชื่อว่าเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทั้งประเทศคงมีแต่ความปลื้มปิติยินดี และมีความสุข เพราะเป็นช่วงเวลาที่ประเทศของเรามีงานใหญ่คือมีงานเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 60 ปี ของในหลวงผู้ซึ่งเป็นที่รักของพวกเรา ในช่วงนี้มีหลากหลายกิจกรรมดีๆ ให้คนไทยได้มีส่วนร่วม ในส่วนของเราเองก็มีโอกาสได้เข้าร่วมในหลายๆ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานในครั้งนี้อย่างแรกเลย คือเราและน้องสาวได้พาแม่ไปเที่ยวงานนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติที่เมืองทองธานีมา คนเยอะมากๆๆ เราชอบคำคำนี้มากๆเราเดินดูงานเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยได้เก็บรายละเอียดเพราะคนแน่นมากๆ จนมาถึงห้องที่เราชอบที่สุด เป็นห้องที่รวบรวมรูปภาพสมัยที่ในหลวงของเรายังทรงพระเยาว์อยู่ แสดงให้เห็นพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ในรูปแม่เราใส่เสื้อสีฟ้า ไม่ใช่ว่าพวกเราไม่รู้ว่าควรจะใส่เสื้อเหลืองนะ แต่เราขอแม่ไว้ เพราะกลัวว่าคนเยอะๆ จะหลง หากันไม่เจออีกมุมของห้องนี้พวกเราเดินมาเรื่อยๆ มีอีกห้องที่เราประทับใจมากๆ คือห้องที่รวบรวมภาพถ่ายและภาพวาดฝีพระหัตถ์ของในหลวง ท่านทรงเป็นศิลปินโดยแท้ แต่น่าเสียดาย ทางผู้จัดงานไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป เราจึงได้แต่เก็บความประทับใจเอาไว้ในใจห้องสุดท้ายของ Hall แรก เป็นห้องที่มีต้นโพธิ์ที่มีไว้สำหรับห้อยคำถวายพระพรจากคนที่ไปร่วมงาน งดงามมากไปต่อกันอีก Hall ในส่วนที่เราประทับใจมากคือส่วนที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตแบบพอเพียง สารภาพเลยว่า ตอนแรกกะเอาไว้ว่าออกจาก Hall นี้ไป ก่อนกลับ จะขอแวะกินกาแฟ Mocha Frappe ของ Starbuck ของโปรดซะหน่อย แต่พอเห็นนิทรรศการในห้องนี้แล้ว หายอยากไปเลยค่ะนอกเหนือจากงานนิทรรศการนี้แล้ว อีกกิจกรรมที่เรารู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสได้ร่วมงาน คือ การไปเข้าเฝ้าในหลวงที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันที่ 9 มิถุนายน ซี่งวันนี้เป็นวันที่น่าประทับใจมากๆ สำหรับเรา และคนไทยทุกๆคน เป็นวันที่ทุกคนพร้อมใจกันใส่เสื้อเหลืองเพื่อร่วมถวายพระพรให้แก่ในหลวงและเมื่อไปถึงที่ลานพระรูปฯ จะได้เห็นคลื่นของฝูงชนที่มารวมตัวกัน เพื่อรอที่จะถวายพระพรให้กับในหลวงของพวกเรา น่าปลื้มใจอย่างยิ่ง บางคนที่มาจากต่างจังหวัด ได้มาจองที่กันตั้งแต่ 4 ทุ่มของคืนวันก่อน เพื่อที่จะได้มีโอกาสเห็นภาพของในหลวงอย่างใกล้ชิดภาพบรรยากาศที่คนมานั่งรอเข้าเฝ้า ท่ามกลางแดดร้อนจัดอย่างไม่ย่อท้อ สิ่งที่น่าประหลาดใจอีกอย่างคือ เมื่อในหลวงเสด็จมา แดดที่ร้อนก็คลายเย็นลง พร้อมกับมีลมเย็นๆ เข้ามาที่บริเวณที่พวกเรานั่งรอกันอยู่และเมื่อในหลวงได้เสด็จออกมาที่หน้าต่างของพระที่นั่งอนันตสมาคม ฝูงชนก็ร่วมกันโบกธงและตะโกนถวายพระพรว่า ขอจงทรงพระเจริญ ดังไปทั่วบริเวณตัวเราเอง แม้ว่าจะยืนอยู่ไกลมากๆ แต่ก็มีโอกาสได้เห็นในหลวงองค์เป็นๆ ด้วย ถึงแม้ว่าจะเห็นพระองค์ท่านเล็กนิดเดียว แต่เราก็รู้สึกเป็นบุญตาเป็นอย่างมาก เมื่อมองไปที่จอ Monitor แล้วเห็นในหลวงทรงโบกมือทักทายมายังฝูงชน อยู่ๆ น้ำตาแห่งความปลื้มปิติยินดีของเราก็ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ตอนนั้นเรารู้สึกว่า ดีใจและเป็นบุญเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นคนไทย และได้เกิดมาในยุคของพระมหากษัตริย์ที่ดีที่สุดคนนึงของโลก พอหันไปดูผู้คนรอบๆ ทุกคนอยู่ในอาการใกล้เคียงกัน ทุกคนคงจะมีความสุขเหมือนๆ กับที่เราเป็น วันนี้เป็นวันที่ดีที่สุดอีกวันนึงของเราอีกกิจกรรมนึงที่น่าประทับใจคือการเห่เรือเพื่อต้อนรับพระราชอาคันตุกะที่มาร่วมถวายพระพรให้ในหลวงของเรา ในวันจริงเราไม่ได้ไปดู แต่มีโอกาสได้ไปดูวันซ้อมเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่โรงเรียนสตรีวัดระฆัง แต่รูปที่ถ่ายมาจะติดลูกกรง เลยเอารูปที่ถ่ายจากทีวีมาใส่ไปก่อน เรือสุพรรณหงส์ เป็นเรือที่งดงามที่สุดในขบวนและเป็นมรดกโลกอย่างนึงด้วยความงดงามของขบวนเรือที่มีพระบรมมหาราชวังเป็นฉากหลัง ในตอนท้าย มีการแสดงสีเสียงแลลอยโคมให้ดูด้วย งดงามมากๆจริงๆ ยังมีอีกกิจกรรมนึงที่ตั้งใจว่าจะไปดูให้ได้ คือการไปเดินดูไฟที่ประดับอยู่ตลอดแนวถนนราชดำเนิน แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไป ก็เลยเอารูปจากที่น้องสาวไปมามาลงไว้ก่อนซุ้มที่จัดไว้อย่างงดงามบริเวณหน้าวัง ที่น้องสาวบอกไว้ว่าสวยที่สุดช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่สร้างความประทับใจให้แก่คนไทยทุกคน และเราเองก็เชื่อว่าไม่เฉพาะคนไทยเท่านั้น ที่รักในหลวงพระองค์นี้ ชาวต่างชาติอีกจำนวนไม่น้อยก็คงรู้สึกทึ่งและชื่นชมในหลวงของเราด้วยเหมือนกัน เพราะท่านเป็นมหากษัตริย์ที่ทำงานหนักมากๆ เพื่อประชาชนที่ท่านรัก สุดท้าย ขอฝากรูปที่คิดว่าคงจะอยู่ในความประทับใจของคนไทยทุกๆคนไปอีกแสนนาน
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [