เปิดวังเก่า "วังปารุสกวัน" - ตอนจบ



สำหรับด้านสถาปัตยกรรมของตัวตำหนักนั้น เป็นลักษณะแบบวิลล่าของอิตาเลียน แต่เดิมเป็นตึก 2 ชั้น มาต่อเติมเป็น 3 ชั้นในภายหลัง ราวพ.ศ.2554 ตำหนักปารุสกวันทาด้วยสีครีม ชั้นล่างของตำหนักประกอบด้วยห้องต่างๆ คือ ตรงจากทางขึ้นด้านหน้าเป็นห้องท้องพระโรง ติดกับท้องพระโรงเป็นห้องโถง ซึ่งมีมหาดเล็กเวรประจำอยู่สองคน เพื่อมีหน้าที่ติดต่อประสานงานต่างๆ ทั่วไปในวัง อาทิ รับโทรศัพท์และให้การต้อนรับผู้จะเข้าเฝ้า



ต่อจากนั้นเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ ซึ่งตกแต่งด้วยสีน้ำเงิน สำหรับห้องรับแขกนี้ หม่อมคัทรินเป็นผู้ออกแบบการตกแต่งให้มีความสง่างามยิ่งขึ้น โดยผสมผสานระหว่างชุดโซฟาและเก้าอี้นั่งแบบตะวันตกที่มีเบาะหุ้มด้วยผ้าลายดอกไม้ มีการประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์พระบรมวงศานุวงศ์ตามห้องต่างๆ รวมทั้งห้องรับแขกใหญ่นี้ด้วย มีการประดับโต๊ะมุกแบบไทยตลอดจนตู้ลายรดน้ำตู้โชว์แต่ละตู้มีของประดับภายในตู้ อาทิ เครื่องลายคราม เครื่องแก้ว และเครื่องมุกต่างๆ รวมทั้งของที่ระลึกต่างๆ ที่หม่อมคัทรินซื้อมาจากที่ต่างๆ ที่ได้ไปเที่ยวมา



ถัดจากห้องนั่งเล่นไปเป็นห้องเสวยใหญ่ ซึ่งใช้เสวยพระกระยาหารค่ำ ทุกๆ วันจะมีผู้มาร่วมโต๊ะเสวยประมาณ 12-20 คน สำหรับห้องเสวยนี้ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ทรงออกแบบให้เป็นแบบห้องรับประทานอาหารอย่างผู้ดีอังกฤษ



ชั้นสองของตำหนักปารุสกวันเป็นส่วนของหม่อมคัทริน ซึ่งมีห้องนอน ห้องแต่งตัว ห้องน้ำ ห้องเขียนหนังสือ และห้องเขียว ซึ่งเป็นห้องเปียโน ใกล้ห้องนี้เป็นห้องบรรทม และห้องเล่นของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรส



ชั้นสามของตำหนักปารุสกวันเป็นส่วนที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ซึ่งมีห้องบรรทมที่กว้างขวางมาก ติดกับห้องบรรทมเป็นห้องแต่งพระองค์และห้องสรง อีกต้านหนึ่งของชั้นสามเป็นห้องพระ ซึ่งใช้เป็นที่สวดมนต์ไหว้พระและถวายดอกไม้บูชาพระพระพุทธรูป และห้องประดิษฐานพระบรมอัฐิและพระอัฐิ โดยจะมีการบำเพ็ญพระกุศลเป็นประจำด้วย



นอกจากนี้ ยังมีดาดฟ้าใหญ่ซึ่งเป็นที่สำหรับพักผ่อนชมวิวทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันสภาพของห้องหับต่างๆ ยังคงอยู่ในสภาพดี ยกเว้นเครื่องเรือนที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา



น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่ชีวิตครอบครัวของทูลกระหม่อมต้องมีอันเลิกร้างกันไป ทรงพระสำราญที่ตำหนักแห่งนี้ที่สร้างจากพระราชทรัพย์ของรัชกาลที่ 5 สั้นนัก และเสด็จทิวงคตในพ.ศ.2463 หลังจากประทับอยู่เพียง 14 ปี เท่านั้น




หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พวกคณะราษฎร์ได้ยึดพระตำหนักทั้งสองเป็นของรัฐบาล ดังที่ได้กระทำการแบบเดียวกันนี้กับวังเจ้านายอีกหลายแห่ง เช่น วังบางขุนพรหม เป็นต้น เพื่อใช้เป็นที่ทำการของรัฐบาล ปัจจุบันนี้ ตำหนักวังปารุสกวันอยู่ในความครอบครองของสำนักนายกรัฐมนตรี โดยใช้เป็นที่ทำการของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งได้ทำนุบำรุงรักษาตัวตำหนักไว้เป็นอย่างดี พร้อมกับได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์ของวังปารุสกวันด้วยที่บริเวณชั้นสามอย่างสวยงามด้วย


ที่มา : พลอยแกมเพชร ปีที่ 6 ฉบับที่ 137 15 ตุลาคม 2540
บล็อกที่เกี่ยวข้อง:[บล็อกย้อนอดีต] รวบรวมภาพ เล็ก - จุลจักร จักรพงษ์ ขึ้นปกครั้งแรกให้พลอยแกมเพชร เมื่อ 10 ปีก่อน








Create Date : 13 เมษายน 2550
Last Update : 16 เมษายน 2550 2:44:30 น. 1 comments
Counter : 1056 Pageviews.

 
ขอบพระคุณมาก ๆ นะคะที่นำเรื่องราวมาให้อ่าน


โดย: biebie999 วันที่: 14 พฤษภาคม 2550 เวลา:9:13:49 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

snodgrass
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





แสงหนึ่ง - ครอบครัว "ศรีณรงค์"
บรรเลงสดในรายการ "จับเข่าคุย"



ทำให้ใจเต้นแรง


บล็อกล่าสุด

รวมรูปคนดัง (6 มี.ค. 51) - Catherine Zeta Jones, Rachel McAdams, Maria Sharapova และอีกมากมาย

รวมรูปคนดัง (ครั้งยิ่งใหญ่) - Winona Ryder, Natalie Portman, Maria Sharapova และอีกมากมาย

รวมรูปคนดัง (ครั้งยิ่งใหญ่) - Jessica Alba, Kate Beckinsale, Jennifer Hawkins และอีกมากมาย

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในความทรงจำของ "หมึกแดง"

บทความเก่าของคุณ ปิติ เลิศลุมพลีพันธุ์ "สนามวิจารณ์ : คารวะแด่ Morricone"

: Users Online
Group Blog
 
 
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add snodgrass's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.