พระองค์โสม ประทานสัมภาษณ์นิตยสารกานดา ปักษ์หลัง ก.ย. 2529




กานดา : “ตอนยังทรงพระเยาว์ขนาดเท่าๆ พระองค์ภา ทรงมีอะไรที่ประทับใจจนถึงทกวันนี้บ้างไหมเพคะ"
พระองค์หญิง : “ที่จำได้ไม่ลืม...สมัยตอนอายุสัก 11 ขวบ ท่านแม่ปลูกต้นฝรั่งไว้ต้นหนึ่ง... หวงมาก ห้ามลูกหรือใครเก็บทั้งนั้น ทีนี้เผอิญฝรั่งมันก็ออกผลมา 3 ผล จำได้ติดตา มันสุกแล้วแม่ก็ยังไม่ยอมเก็บ ไอ้เราก็อยากจะทนเพราะฝรั่งเวียดนามลูกโต ก็ดูซ้ายดูขวา แล้วแอบปีนขึ้นไปเก็บ กำลังโน้มกิ่งอยู่มันมีรังมดแดงตกลงใส่ มันก็กัดทั้งตัวเลย ก็ตกลงมาจุก นั่งกองอยู่กับพื้น มือก็ยังกำฝรั่งไว้ จำได้ว่า 3 ลูก บังเอิ๊ญ บังเอิญ คราวเคราะห์จะต้องเจ็บตัว ยังไงไม่ทราบท่านแม่โผล่มาพอดี ไม่รู้จะเลี่ยงหลักฐานยังไง เพราะมือยังกำฝรั่งแน่น ท่านแม่มาถึง บอกนี่ขโมยฝรั่งเหรอ...ตีผัวะให้เลยเข็ดเลย ตั้งแต่นั้นเลยไม่ยอมปีนต้นฝรั่งอีกเลย”

กานดา :“ตอนยังทรงพระเยาว์ ทรงถูกตามพระทัยหรือเปล่าเพคะ”
พระองค์หญิง: “ถ้าพูดถึงเรื่องตามใจนี่...ไม่เคยถูกตามใจเพราะว่า เนื่องจากฉันมีน้องสาวซึ่งห่างกัน 9 ปี ต้องช่วยคุณพ่อ หรือคุณแม่เลี้ยงน้อง บางทีเป็นผู้ใหญ่เกินตัว”

กานดา :“ทรงมีพระทัยที่ผูกพันต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จนถึงปัจจุบันอย่างไรบ้างเพคะ”
พระองค์หญิง :“ ก็ตั้งแต่ฉันเกิด...ฉันนี่ไม่ได้เกิดเมืองไทยนะคะ ฉันเกิดลอนดอนประเทศอังกฤษ สมัยนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็ทรงมีพระราชหัตเลขาไปถึงพ่อ แม่ แล้วก็แสดงความยินดีด้วย ฉันเป็นน้องห่างจากทูลกระหม่อมฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ฯ 9 วัน เท่านั้นเอง ก็เลยสนิทกับทูลกระหม่อมเล็กมาก เล่นกันมาตลอด พอฉันอายุ 2 ขวบ ก็กลับมากรุงเทพฯ และได้เข้าเรียนที่โรงเรียนจิตรลดา มาจนถึงชั้น ป.3 หรือ ป.4 ถ้าจำไม่ผิดเพราะมันนานเหลือเกินอยู่ชั้นเดียวกับทูลกระหม่อมเล็ก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณตลอดมา วันเกิดก็พระราชทานของบ้าง เป็นเงินบ้าง ก็แล้วแต่จะโปรดฯ แล้วก็เข้าไปวิ่งเล่นในวังเสมอ

กานดา: “กับสมเด็จพระเทพฯ ล่ะเพคะ”
พระองค์หญิง : “ สมเด็จพระเทพฯ ได้คุยเล่นกับท่านบ้างแต่ไม่สนิทเท่ากับทูลกระหม่อมเล็ก เพราะว่าท่านรุ่นใหญ่กว่า ทุกพระองค์ก็ได้เล่นกัน คุยกัน แต่ถ้าจะสนิทก็กับทูลกระหม่อมเล็ก”

กานดา :“และกับสมเด็จพระบรมฯ ล่ะเพคะ”
พระองค์หญิง : “สมเด็จพระบรมฯ สมัยที่ยังทรงพระเยาว์ ท่านค่อนข้างจะทรงพระเกเรน้องหน่อย ชอบทรงพระแหย่ สมัยก่อนฉันกับทูลกระหม่อมเล็กนี่ถักเปีย 2 ข้าง พอท่านเดินผ่านมาก็จะตบศีรษะเล่น ไม่ก็จะดึงเปียเล่น...แหย่ จำได้ว่าสมัยตอนเด็กๆ ฉันนี่เป็นคนช่างรับประทน ส่วนทูลกระหม่อมเล็กท่านทรงมีปัญหาว่า ไม่โปรดเสวยผักเลย ก็ถูกสมเด็จแม่ท่านบังคับให้เสวย ท่านก็ผะอืดผะอมอยู่นั่น คือไม่โปรดเลย ไม่โปรดจริงๆ นี่ก็เป็นข้อ Balance กับฉัน ฉันนี่ ทานเอา ทนเอา เขาตักอะไรให้ก็เกลี้ยงหมดจาน เลยมีสมญานามที่สมเด็จพระบรมฯ ตั้งว่า ใส่หาย”

กานดา : “ทรงเริ่มแต่พระพักตร์ตอนไหน ใครเป็นผู้ถวายการสอนเพคะ”
พระองค์หญิง :“ ไม่มีใครสอน เพราะว่าแรกๆ แม่ฉันเป็นคนเจ้าระเบียบจริงๆ ไม่ยอมให้ลูกสาวแต่งหน้า สมัยก่อนฉันก็เห็นรุ่นน้องๆ แต่งกันแล้ว แม่ฉันไม่ยอมให้ฉันแตะอะไรเลย อย่างดีที่สุดนี่น้ำหอมแล้วก็ลิปกลอส ลิปมันเท่านั้น ไม่มีเมคอัพหน้า ตอนหลังพอมีตังค์ ฉันก็แอบไปซื้ออายแชโดว์มาทาเอง ก็เราอยากสวยนี่ วันรุ่นตอนนั้นอายุประมาณ 17 ใช้ของถูกนะราคา 15 20 บาทตอนหลังเห็นแม่ว่าเลยชักได้ใจ ซื้อลิปสติกแล้วก็เลยเรื่อยๆ ไปเลย”

กานดา :“เมื่อกี้ตรัสว่าทรงขับรถเอง ไม่ทราบว่าทรงเรียนจากผู้ใดเพคะ”
พระองค์หญิง :“สมเด็จพระบรมฯ”

กานดา :“ทรงเรียนเมื่อใดเพคะ”
พระองค์หญิง :“ก่อนแต่งงาน ตอนนั้นเป็นแฟนกัน ท่านก็สอนให้หัดขับก็พาขับไปในสวนจิตรฯ สนุกดี เพราะอยากเป็นมานานแล้ว ทีนี้คุณพ่อไม่ยอมให้ขับบอกว่าอายุยังไม่ถึง คุณพ่อเป็นผู้พิพากษาต้อตามกฎหมาย แต่ตอนหลังพอโตถึงระยะขับได้ก็รบเร้าคุณพ่อ คุณพ่อยังไม่มีเวลา บอกอย่าเพิ่งขับเลย แต่ฉันให้เหตุผลว่า ที่บ้านไม่มีใครทำอะไรเป็นสักอย่างเดียว ก็มีแต่พ่อคนเดียว ลูกก็เป็นลูกสาวถึง 2 คน และฉันก็โตกว่าเพื่อน คือตอนหลังนี่คุณพ่อจะไหว้วานฉันให้ทำอะไร บางทีเครื่องไฟฟ้าฉันยังต้องซ่อมเองเพราะแม่ฉันไม่กล้าแตะเลย ก็มีฉันคนเดียวที่ทำได้ น้องก็ยังเล็กอยู่ก็เลยบอกคุณพ่อว่า เรื่องขับรถนี่ถ้าใครเจ็บป่วยทำไง พ่อก็บอกว่า พ่อก็ขับไปส่งได้ ฉันก็บอกว่าถ้าเกิดพ่อเจ็บล่ะไม่มีใครขับรถเป็นสักคนแล้วทำยังไง คนรถก็ไม่มี สมัยนั้นยังไม่มีคนรถนะคะ พ่อก็เลยเงียบ ตอนหลงสมเด็จพระบรมฯ ท่านทรงสอนให้ขบจริงๆ พ่อก็ไม่ว่าอะไร”

กานดา :“พระสหายในวัยเยาว์ มีใครบ้างเพคะ ที่รักใคร่กันมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ”
พระองค์หญิง :“ส่วนมากเพื่อนฉันตอนเล็กๆ นี่แยกย้ายกันไปก็ไม่ค่อยได้เจอ ตอนสมัยที่ฉันยังอยู่เชียงใหม่ก็มี คุณหญิงกิติพรรณ สวัสดิวัฒน์ ที่เจอบ่อยเพราะว่าเป็นเพื่อนแล้วก็สนิทกันทางสกุล แล้วท่านพ่อ ม.จ.อำนอเพิ่งสิ้นไปไม่นาน เพราะเป็นหมอประจำอยู่โรงพยาบาลสวนดอกสมัยนั้น เวลาฉันเจ็บป่วยก็รักษา เคยไปเล่นไปนอนเขลงกันที่บ้าน นอกนั้นก็มีลูกผู้พิพากษาข้างๆ บ้าน เดี๋ยวนี้ไม่ได้เจอเลย”

กานดา :“ตอนที่ทรงเป็นเด็ก โปรดเล่นอะไรบ้างเพคะ”
พระองค์หญิง : “เอาแน่ไม่ได้ บางทีก็เล่นขายของบางทีก็ทำขนมเล่นกัน บางทีก็เอากล่องมาต่อทำล้อลากกันคล้ายๆ รถไฟ แล้วก็มีพวกตังเต กระโดดยาง อีอก ลูกหินหมากเก็บ แล้วก็จับแมลงตัวกว่างมากัดกัน เชียร์กันด้วย....สมัยนั้นไม่ย่อย แล้วก็มีอีกช่วง ก็ปลูกผักสวนครัวกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเรจีน่านี้เขามีการสอนปลูกผักสวนครัวแปลงหนึ่งก็ปลูก 2 คน จำได้ว่าปลูกกะหล่ำปลี กับหัวผักกาดขาว ปรากฎว่าออกมาผลใหญ่มาก ที่นี่มันมีทั้งผลใหญ่ ผลเล็ก เพื่อนเค้าก็จะเอา ก็แบ่งกัน ปรากฏว่า แบ่งกันไปแบ่งกันมาเพื่อนเอาแต่หัวใหญ่ๆ ไปทั้งนั้น ฉันก็เลยอุทธรณ์ว่า ไม่เอา เรื่องอะไร เธอจะเอาแต่หัวใหญ่ๆ ไป ฉันได้แต่หัวเล็กๆ ปลูกด้วยกันใส่ปุ๋ยด้วยกัน แบ่งคนละครึ่งก็ตกลง สมัยนั้นประทับใจมากที่เป็นครั้งแรกที่ปลูกผักได้ผลดี แล้วก็ได้คะแนนดีด้วย วิชาสวนครัวนี้ฉันชอบมานานแล้ว ก่อนจะเรียนปลูกที่โรงเรียนเรจีน่า ท่านแม่ก็ปลูกสวนครัวพวกผักง่ายๆ ต้นเล็กๆ อะไรยังงี้”


กานดา “ เรื่องการแต่งพระองค์ โปรดแต่งแบบไหนเพคะ”
พระองค์หญิง : “เรื่องการแต่งตัวนี่ ฉันจะว่าตามแฟชั่นมากก็ไม่ตาม คือชอบอยู่กลางๆ ชอบแต่งตัวเรียบๆ เก๋ๆ แล้วใช้ได้นาน ที่แต่งแบบเป็นฟูๆ เป็นชั้นๆ กลีบๆ อย่างนั้น ฉันไม่ชอบ อย่างนั้นใส่ได้เฉพาะดาราหรือนางแบบใส่ได้หนเดียวต้องทิ้ง ส่วนมากเสื้อฉันนี่จะใส่ได้หลายๆ ปี พวกคุณก็คงจะเห็น”

กานดา “โปรดการตัดเสื้อหรือซื้อสำเร็จรูปเพคะ”
พระองค์หญิง : “ต้องแล้วแต่นะคะ ถ้าฉันว่างก็จะไปเลือกเอง แต่ส่วนมากจะให้คนไปเลือกส่วนมากก็ไปหาร้านที่เขาทราบว่ามาจากในวัง เอามาเลือกเป็นพับๆ เยอะๆ แล้วก็เลือกกัน”

กานดา “กานดูแลพระฉวีล่ะเพคะ รู้สึกว่าพระองค์ทรงมีพระฉวีสดใสตลอดเวลา”
พระองค์หญิง : “เรื่องนี้มีคนถามกันเยอะเลยว่าอาบน้ำนมหรือเปล่า Stream หรือเปล่า..... ไม่เคยเลย ผิวนี่ปกติจะไม่ใช้ครีมรองพื้นเลย สบู่จอห์นสัน สบู่เด็ก จริงๆ เดี๋ยวจะมีคนบอกว่า โฆษณา... แล้วก็แป้งก็ใช้แป้งจอห์นสันมาตลอด นวดหน้าอาทิตย์ละครั้ง แต่ก่อนไม่เคยเลย อย่างดีใช้ พอนด์ โคล ครีม”

กานดา “หลายยี่ห้อแล้วนะเพคะ”
พระองค์หญิง : “ก็คุณถามนี่...ฉันก็ต้องตอบ... (ทรงสรวล)

กานดา :“เมคอัพล่ะเพคะ”
พระองค์หญิง : “ปกติไม่ค่อยจะแต่ง ถ้าอยู่บ้านบางทีหน้าไม่แต่งเลย ทาแต่แป้งอย่างเดียว บางทีก็ลิปสติกอย่างเดียว แต่งหน้านี่ฉันแต่งเอง ทุกอย่างไม่ชอบให้ใครมาแต่งให้เพราะว่ารู้สึกถ้าคนอื่นแต่งเขาจะใส่โน่นใส่นี่เยอะแยะ ผสมสีเยอะเหลือเกิน ออกมารู้สึกมันสวยเกินไปหน่อย เลยไม่ชอบ ผมนี่ ถ้าออกงานก็มีช่างเกศาที่อยู่ร้านคุณแป๊ว (คุณวรรณีย์ ยรรยง) ช่างเกศาถวายสมเด็จฯ เขาเป็นหลานชื่อ พุทธชาด อาจารี”

กานดา “หนังสือล่ะเพคะ โปรดอ่านประเภทไหน”
พระองค์หญิง: “ฉันอ่านหนังสือทุกประเภทเลย อย่างนิตยสารรับทุกฉบับให้ไปซื้อ จะถามว่านิตยสารอะไรมีหมดเลย แล้วก็หนังสือนวนิยายก็อ่าน เกร็ดความรู้ก็อ่าน พวกชีวประวัติก็อ่าน ฉันชอบอ่านพวกประวัติศาสตร์ หนังสือแปลก็อ่าน อ่านทุกประเภท แล้วรูสึกว่าได้ความรู้อีกเยอะ ส่วนมากก็จะใช้เวลาอ่านช่วงที่ว่างตอนกลางคืน หนังสือนี่ ตอนเล็กๆ เฉยๆ ในการอ่าน มาตอนหลังๆ นี่พอโตขึ้นรู้สึกอยากอ่านหนังสือมากๆ”

กานดา :“ทรงมีเวลาทอดพระเนตรที.วี. บ้างไหมเพคะ”
พระองค์หญิง :“ทีวีนี่ต้องแล้วแต่นะคะ ส่วนมากฉันจะดู วิดีโอเทปมากกว่า ทีวีจะดูช่วงข่าว ละครก็ได้ดูบ้าง แต่ทีนี้งานของฉันนี่ไม่เป็นเวลา ถ้าดูละครหรือหนังก็อยากติดตาม เมื่อไม่ได้ดูมันก็เลยอึดอัดเหมือนบางคนที่ติด ฉันก็เลยไม่ติดซะเลย คือก็ดูไปเรื่อยๆ เลยไม่ติด ส่วนวิดีโอนั้นก็ดูหนังจีน...ลูกชอบ แต่ก่อนฉันชอบดูหนังฝรั่งดีๆ หนังเก่าๆ ดาราแสดงดีๆ แล้วก็ชอบดูการ์ตูน”

กานดา :“พระองค์ภา โปรดเสวยพระกระยาหารแบบไหนเพคะ”
พระองค์หญิง :“ลูกนะคะ ส่วนมากจะชอบอาหารไทย แล้วก็อาหารญี่ปุ่น อาหารไทยก็มีพวกน้ำพริก ปลาดุกย่าง แล้วก็แกงส้ม มีหลายอย่างและผัดผักต่างๆ ต้มจืดก็โปรด แกงจืดหัวผักกดขาวกับซี่โครงหมู”

กานดา :“ขนมกรอบๆ สำหรับเด็กที่โฆษณาทางทีวี พระองค์ภาโปรดไหมเพคะ”
พระองค์หญิง :“ก็รู้สึกว่าจะทานหลายอย่างเหมือนกันจำยี่ห้อไม่ค่อยได้ แต่ที่โปรดก็มีอะไรนะ....โอเล่ลูกอม แล้วก็พวกสายไหม ขนมถุงๆ ก็มีมั้น มัน นี่จะกลายเป็นโฆษณาเค้าไปอีกหรือเปล่า (ทรงสรวล) ขนมพวกนี่ก็ให้ทานได้นะคะไม่ได้ห้าม แต่ตอนหลังพวกท็อฟฟี่นี่ห้ามเพราะฟันผุ เพิ่งจะไปหาหมอ แต่ของหวานๆ นี้พระองค์ภาไม่ค่อยโปรดเท่าไหร่ โปรดพวกเค็มๆ กรอบๆ พวกมันทอดกรอบๆ”


กานดา :“พระองค์หญิง ทรงมีภาระกิจอะไรบ้างในแต่ละวันเพคะ”
พระองค์หญิง: “ฉันก็ตื่นเช้าประมาณ 6 โมงครึ่งดูแลพระองค์ภา บางครั้งมีงานทำพวกงานหนังสือต่างๆ เข้ามาก็ทำช่วงเช้า ถ้าไม่ว่างก็จะทำช่วงบ่ายหรือกลางคืนเพราะว่างานฉันนี่บางทีไม่แน่นอน ถ้าหากมีงานต้องออกไปเช้าหรือบ่าย ก็ต้องไป บางวันเขาเชิญ 3-4 งาน ก็ต้องวิ่งรอกกัน ต้องเปลี่ยนเสื้อเหมือนกับเวลานางแบบเดินแฟชั่นโชว์ บางครั้งก็ไปส่งลูกที่โรงเรียน แต่ช่วงหลังๆ นี่ไม่ค่อยได้ไป บางทีมันเหนื่อยมากอยากพักผ่อนบ้าง อ่านหนังสือบ้าง มีช่วงนึงเคยเรียนภาษาฝรั่งเศสและมาดามท่านทูตญี่ปุ่นคนเก่าชื่อมาดาม ทาชิบาน่า ก็มาสอนเซกิ ซึ่งเป็นอาร์ตชนิดหนึ่งของทางญี่ปุ่น เขาใช้ทรายมาทำเหมือนเพ้นท์รูป อันนี้ยากแต่สวยมาก เขาจะใส่ทรายลงในถาดดำ แล้วก็ทรายนี่มีหลายอย่าง มีตั้งแต่เกร็ดละเอียดจนถึงหยาบแล้วก็มีหินต่างๆ จัดทำเป็นรูปภาพวิวต่างๆ คุณเคยเห็นถาดของญี่ปุ่นหรือเปล่า สีดำเกลี้ยงมันๆ แล้วทรายที่ใช้ขาวจริง ขาวมากละเอียดแบบน้ำตาลไอซ์ซิ่ง”

กานดา: “ทรงมีเวลาได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ บ่อยไหมเพคะ”
พระองค์หญิง : “ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าเฝ้า เพราะฉันเองก็งานมาก ลูกก็ต้องเรียนหนังสือก็มีบ้างช่วงไหนที่ว่างเสาร์-อาทิตย์ บางทีก็พาลูกไปเล่นกับหลานๆ พระองค์สิริภา แต่ไม่บ่อยนัก พระองค์ภาทรงรักน้องไม่เคยรังแกน้องเลย นี่ต้องพูดตรงๆ ว่าพี่น้องไม่เคยรังแกกัน แล้วก็รักกันด้วย พระองค์สิริภา พระองค์อทิตยา พอเห็นพระองค์ภาเรียก พี่ภา พี่ภา ทุกครั้ง แล้วเคยเสด็จมาที่พระที่นั่งอัมพรฯ ก็มาเล่นด้วยกันแล้วไม่ค่อยอยากกลับ”

กานดา :“ในการเสด็จต่างประเทศ ปกติจะทรงทอดพระเนตรอะไรบ้างเพคะ”
พระองค์หญิง :“ถ้าไปส่วนตัว ก็จะไปแบบทัวร์ไปแบบทัวริสต์จริงๆ เลยก็ไปตามสถานที่สำคัญๆ ของเขา แล้วก็เที่ยวซื้อของ แต่ถ้าไปเป็นทางการนี่เขาจะจัดโปรแกรมให้เราหมดทุกอย่าง เขาก็จะพาไปดูสถานที่สำคัญ ดูโครงการ ถ้าอย่างฉันก็ไปดูทางด้านเด็กหรือด้านผู้หญิง อย่างสมเด็จพระบรมฯ ก็ไปดูทางด้านการทหาร บางทีก็ดูพวกอุตสาหกรรม วัดวาอาราม ประเพณีของเขา”

กานดา :“เวลาที่เสด็จต่างประเทศ จะมีผู้ใดตามเสด็จบ้างเพคะ”
พระองค์หญิง :“ถ้าหากไปส่วนตัวก็ พ่อ แม่ ญาติสนิท แล้วก็มีพวกพยาบาลที่เลี้ยงลูกไปช่วยดู แล้วก็มีช่างทำผมไป พวกอารักขาที่จำเป็น ถ้าไปส่วนตัวนี่ทูตประจำประเทศนั้นเขาจะมาดูแล แล้วก็มีตำรวจสากลจะมาอารักขา ส่วนมากจะเป็นนอกเครื่องแบบ แล้วก็จะไปพบนักเรียนไทย คนไทยในประเทศนั้น
แต่ถ้าไปเป็นทางการนี่ ก็จะต้องมีผู้ติดตามเยอะ ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าที่ในการปฏิบัติการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง”





ที่มา : คุณชากร และคุณ Visby เคยเอามาเอาโพสต์ไว้ที่ห้องสมุด @pantip.com มาวันนี้ขออนุญาตเอามาลงไว้ในบล็อก เพื่อให้เพื่อนๆ ชาวบล็อกแกงค์ได้อ่านกันค่ะ ส่วนพระรูปก็มาจากที่พันทิปเช่นกันค่ะ









 

Create Date : 17 เมษายน 2550
4 comments
Last Update : 23 ธันวาคม 2550 1:04:16 น.
Counter : 17130 Pageviews.

 

ขอบพระคุณนะคะ ไม่เคยได้อ่านบทประทานสัมภาษณ์นี้เลยค่ะ

 

โดย: biebie999 14 พฤษภาคม 2550 9:27:40 น.  

 

อ่านบทสัมภาษณ์แล้วรู้สึกว่าได้รู้จักท่านมากขึ้นค่ะ
ขอบคุณค่ะ

 

โดย: grippini 29 พฤษภาคม 2550 20:44:49 น.  

 

แวะมาอ่านครับ ยี่สิบเอ็ดปีได้แล้วนะนี่

 

โดย: Johann sebastian Bach 3 มิถุนายน 2550 6:33:55 น.  

 

ชอบมากๆค่ะ ขอบคุณที่นำมาลงให้อ่านกัน ขออนุญาตนำส่วนหนึ่งไปลงที่ห้องไกลบ้านนะคะ

//www.pantip.com/cafe/klaibann/topic/H10413759/H10413759.html

 

โดย: Jennifer Lowclass 5 เมษายน 2554 20:27:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


snodgrass
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





แสงหนึ่ง - ครอบครัว "ศรีณรงค์"
บรรเลงสดในรายการ "จับเข่าคุย"



ทำให้ใจเต้นแรง


บล็อกล่าสุด

รวมรูปคนดัง (6 มี.ค. 51) - Catherine Zeta Jones, Rachel McAdams, Maria Sharapova และอีกมากมาย

รวมรูปคนดัง (ครั้งยิ่งใหญ่) - Winona Ryder, Natalie Portman, Maria Sharapova และอีกมากมาย

รวมรูปคนดัง (ครั้งยิ่งใหญ่) - Jessica Alba, Kate Beckinsale, Jennifer Hawkins และอีกมากมาย

สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในความทรงจำของ "หมึกแดง"

บทความเก่าของคุณ ปิติ เลิศลุมพลีพันธุ์ "สนามวิจารณ์ : คารวะแด่ Morricone"

: Users Online
Group Blog
 
 
เมษายน 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
17 เมษายน 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add snodgrass's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.