<<
กันยายน 2553
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
3 กันยายน 2553
 
 
ละคร ซอนต๊อก ตอนที่ 61

ตอนที่ 61
“ตกลงพวกเขาจะยึดยอโต หรือว่าต้อง การจะยึดเมืองหลวงกันแน่”
“ตอนนี้ ทหารของท่านยูซินต้องรับศึกหลายด้านน่ะครับ”
“ถัดจากยอโตก็ถึงเมืองหลวงแล้ว ส่งกองกำลังที่ “นานซาน” และทหารที่ “โมวาซาน” ไปยอโตให้หมด เพื่อจะช่วยยูซินอีกแรง” คิมซอยอน สั่ง

--@@@@@@--

ยอจงรายงานให้พีดัมทราบว่า มีข่าวว่าทหารจากนานซานและโมวาซาน กำลังจะเคลื่อน พลมาทางนี้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่คิดเอาไว้
“งั้นก็ดี ไปบอกพีทันเดี๋ยวนี้ ให้พวกเขา ...เตรียมตัวรับมือได้แล้ว เดี๋ยวก่อน”
“ครับ”
“ออกคำสั่งให้ท่านจูจิน ท่านโฮแจและท่านโพจอง...ให้ถอนกำลังกลับมาก่อน”
“ถอนกำลัง? เราจะไม่ตียอโตแล้วตรงเข้าเมืองหลวงหรือไง”
“เมืองหลวงหรือ แน่นอนว่า...ไม่ใช่เมือง หลวง”

--@@@@@@--

การถอนกำลังทหารของฝ่ายพีดัม ทำให้ต๊อกมานแปลกใจ ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่า เป้าหมายของพีดัมไม่ได้อยู่ที่นานซานอย่างที่เข้าใจ แต่ อยู่ที่เมืองเมียงวาต่างหาก
“หมายความว่าพวกเขาจะไปตีเมือง “เมียงวา หรือ”
“เมืองหลวงของเรา มีจุดยุทธศาสตร์สำคัญอยู่สองแห่ง” ต๊อกมาน ค่อย ๆ เล่าให้ ชุนชูฟัง
“เป้าหมายแต่แรกของพวกเขา ไม่ใช่ ศูนย์กลางของเมืองหลวงคือเขต “วาซอง” แต่เป็นเมืองเมียงวาต่างหาก พวกเขาแกล้งทำเป็นตียอโต ให้เราส่งทหารจากนานซานไปช่วยเสริม จากนั้นก็ใช้กำลังบางส่วนเข้ายึดเมืองเมียงวาอย่าง ง่ายดาย”
“สมัยก่อนที่มีซิลก่อกบฏ มีข้อผิดพลาดก็คือจุดนี้” ต๊อกมาน กล่าว
“ใช่ ข้อผิดพลาดในอดีตคือทิ้งเมืองหลวง พวกเขาได้เรียนรู้และไม่ยอมเจริญรอยตาม”
“หึ...จากเมืองเมียงวาจะเข้าถึงเมืองหลวง ระยะทางไม่ถึง 50 ลี้ด้วยซ้ำ”
“ใช่ สำหรับคนที่ขี่ม้า ไม่เกินหนึ่งมื้อข้าว ก็มาถึงแล้ว”
“ไม่นึกว่าจะมีศัตรูมาอยู่ใกล้เราขนาดนี้ หึ...” ยองชุน กล่าว
“ขอทรงอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“พวกเขา...ช่างกล้า...ทำให้เมืองหลวงกลายเป็นสมรภูมิ เป็นการวางแผนที่อุกอาจที่สุด” ต๊อกมานเจ็บใจ โดยที่ยังไม่รู้ว่าคนที่วางแผนนี้คือพีดัม

--@@@@@@--

ฮาจองอดสะใจไม่ได้ เพราะหากดูจากประวัติ 700 ปีของชิลลา หรือแม้แต่แคว้นอื่นแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีกองกำลังมหาศาลมาจ่อแค่ปลายจมูก
“ใช่ โดยเฉพาะจากที่นี่ไปเมืองหลวง ก็ห่างแค่ 50 ลี้เท่านั้น”
“เพราะฉะนั้น อย่ามานิ่งนอนใจคุมเชิงให้ เสียเวลาอีกเลย ท่านพีดัม ขั้นต่อไปเราจะทำไงดี”
“ท่านคิดว่าข้าจะทำไงต่อ” พีดัม ย้อนถาม พรรคพวก
“ก่อนอื่น คงต้องป่าวประกาศให้ผู้คนรู้มั้ง”
“ป่าวประกาศหรือ ประกาศเรื่องอะไรไม่ทราบ”
“นี่เป็นครั้งแรกที่เมืองหลวงเกิดความตึงเครียดขนาดนี้ ที่แล้วมาทั้งท่านยูซิน ท่านพีดัม หรือแม้แต่เชื้อพระวงศ์ทั้งหลาย ต่างก็ภักดีต่อฝ่าบาท แม้นางจะเป็นผู้หญิงก็ยังมีอำนาจ เหนือกว่าพระราชาองค์อื่น แต่ว่า ถ้าเรื่องนี้เปิดเผยเมื่อไหร่ จะทำให้เหล่าขุนนางและชาวบ้าน เริ่มสงสัยในความสามารถของฝ่าบาทและอำนาจที่นางมีอยู่ และจะตั้งข้อสงสัยในใจว่า...ผู้หญิงเหมาะที่จะครอง เมืองแน่หรือเปล่า” มีเซ็ง กล่าว
“ใช่แล้ว นับแต่นี้เราจะทำลายความศรัทธา ที่มีต่อพระนางซอนต๊อก ทำให้ผู้คนเริ่มหวั่นไหว เกิดเป็นสงครามที่ยืดเยื้อยาวนาน ตรงข้ามกับคนที่เมืองหลวง จะหาทางแก้ปัญหาให้เร็ว เพราะไม่อยากถูกบั่นทอนกำลัง” พีดัม สนับสนุน

--@@@@@@--

คุณชายชุนชูเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือพีดัมและพรรคพวก แต่ต๊อกมานไม่อยากฟัง อย่างไรก็ตาม ในใจของต๊อกมาน ก็เชื่อว่าเป็นฝีมือของพีดัม แต่ก็หวังไม่ให้เป็นความจริงตามที่คิด

--@@@@@@--

ขณะนี้พีดัมกำลังได้เปรียบฝั่งของต๊อกมาน เนื่องจากมีขุนนางมาเข้าพวกถึง 7 ใน 10 คน
“ใช่แล้ว เสนาบดีพีดัม จะเรียกขุนนางทั้งหลายให้ประชุมในวันพรุ่งนี้ การประชุมในวันนี้ เพื่อหารือในประเด็นถอดถอนพระนางซอนต๊อก พระนางซอนต๊อกนอกจากไม่สามารถปกป้องดินแดนที่พระเจ้าจินฮึงทรงเป็นผู้บุกเบิก ซ้ำร้ายกว่านั้น ยังปล่อยให้โกคูรยอและแพ่กเจมารุกราน จน เกือบเสียเมืองแทยาซองไป เนื่องจากนางเป็นสตรี เพศจึงถูกทูตต้าถังลบหลู่ อันทำให้เสื่อมเสียเกียรติ และภาพลักษณ์ของบ้านเมืองยิ่งนัก นอกจากนี้ยัง มีคำทำนายของพระเจ้าอายูวัง บ่งบอกถึงพระนางได้สูญสิ้นบารมี สมควรให้พระราชาองค์ใหม่ขึ้นครองราชย์แทนภายใต้บัญชาแห่งสวรรค์ ด้วยเหตุ ผลสามประการนี้ จึงขอเสนอให้ที่ประชุมขุนนาง พิจารณาถอดถอนพระนางซะ ต่อไปห้ามก้าวก่ายราชกิจทั้งปวง จงสละบัลลังก์แต่โดยดี เพื่อเห็นแก่ส่วนรวม และเป็นทางเดียว ที่จะช่วยให้บ้านเมืองพ้นวิกฤติคราวนี้ โดยความเห็นชอบของสภา ขุนนาง และเสนาบดีพีดัม” พีดัม ประกาศ

--@@@@@@--

จุปังนำจดหมายของต๊อกมานไปให้พีดัมที่เมืองชูวาคุง แต่คนเฝ้าบ้านบอกว่าพีดัมไม่ได้มาที่นี่ จุปังจึงเดินกลับเข้าไปในเมือง เห็นป้าย ประกาศเขียนเรื่องถอดถอนต๊อกมานออกจากบัลลังก์ ก็ตกใจ ซ้ำยังรู้อีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของพีดัม
“แบบนี้ เหมือนก่อกบฏชัด ๆ”
“เดี๋ยวคิดดูก่อน ตอนนี้ท่านพีดัม...ก็ต้องอยู่เมืองเมียงวาน่ะสิ แล้ว...ข้าเอานี่ไปมอบให้ เขา เมืองเมียงวาเป็นแหล่งซ่องสุมของพวกทหาร กบฏไม่ใช่หรือ”
“ถ้าเป็นอย่างงั้นจริง ไปเมื่อไหร่ก็คือตาย นะ”
“หา...ไปก็คือตาย แต่ว่า จดหมายก็ต้องส่ง แล้วข้าจะทำไงดี เอ่อ...” จุปังบ่น แต่ก็ยอมเสี่ยงที่จะไปหาพีดัม
ทางเมืองหลวงได้รับใบฎีกาที่เขียนส่งมาให้ทุกคน แต่ต๊อกมานบอกว่า ฎีกานี้ถือเป็นการประชุมที่ไม่มีเสนาบดี จึงไม่มีผลตามกฎหมาย มานมยองจึงบอกให้ต๊อกมานดูที่ใบฎีกา เพราะมีชื่อของเสนาบดีพีดัมกำกับอยู่ ซึ่งต๊อกมานยังไม่เชื่อว่า พีดัมจะกล้าถอดถอนตน และว่าถ้าเป็นพีดัมจริง ต่อไปนางก็จะไม่ยอมยกโทษให้เขาอีก

---@@----

จุปังเดินทางไปเมียงวา จนได้พบกับพีดัม เขารีบนำจดหมายของต๊อกมานให้พีดัมอ่าน ซึ่งพีดัมอ่านแล้วก็คิดว่าน่าจะเป็นกลลวงของต๊อกมานกับชุนชู เวลาเดียวกัน ต๊อกมานได้รับแหวนคืนจากคนของพีดัม นางจึงเชื่อว่าเรื่อง ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นฝีมือของพีดัม นางจึงสั่งให้ถอดพีดัมออกจากตำแหน่งเสนาบดี และสั่งให้สังหารได้ตลอดเวลาหากเจอที่ไหน รวมทั้งผู้ที่ร่วมก่อการกบฏทั้งหมดด้วย

---@@----

เมื่อพีดัมได้อ่านจดหมายที่ต๊อกมานเขียนมาหาอีกครั้งก็เกิดความสับสน จึงให้ลูกน้องไปตรวจสอบประวัติของฮึกซาน คนที่ลอบสังหารพีดัม เมื่อยอจงรู้เรื่องที่พีดัมให้คนไปสืบประวัติฮึกซานเข้า จึงสั่งให้ลูกน้องไปฆ่าปิดปากทั้งครอบครัว ดีที่น้องสาวของฮึกซานสามารถหนีออกมาได้ และเป็นเวลาเดียวกับที่ไอชองนำทหารไปตรวจสอบครอบครัวของฮึกซาน
“รู้มั้ยว่าทำไมพวกเขาถึงถูกฆ่า”
“ฮือ....เพราะพี่ชายข้าไปทำงานใหญ่เรื่องหนึ่ง ฮือ....ทำให้เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้น่ะค่ะ”
“ทำงานใหญ่หรือ งานใหญ่อะไรกัน”
“ได้ยินว่าในวัง....มีคนคนหนึ่ง....ชื่อ ยอจง....ใช่แล้ว มีคนชื่อยอจงน่ะค่ะ”
“ยอจงหรือ”

---@@----

ต๊อกมานทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น และเมื่อลองปะติดปะต่อเรื่องราวดู ก็รู้ว่าคนที่คิดร้ายต่อพีดัม ก็คือยอจงนั่นเอง
“ไม่น่าเชื่อว่าความเชื่อมั่นของมนุษย์ แท้จริงมันจะเปราะบางขนาดนี้ ยิ่งคนที่อยู่โดยหวังพึ่งคนอื่นด้วยแล้ว เขายิ่งไม่มีหลักยึดในใจด้วยซ้ำ” ต๊อกมาน กล่าว
“แต่ว่า เมื่อเข้าใจผิดถึงขนาดนี้ ก็ต้องทรงอธิบายไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ”
“มันสายไปแล้ว อธิบายก็ไม่มีประโยชน์ สิ่งที่เขาทำมันเกินกว่าที่ข้าจะแก้ไขได้....โอ๊ะ....”พูดยังไม่ทันจบ ต๊อกมานก็เริ่มมีอาการเจ็บหน้าอกขึ้นมา
“ฝ่าบาท”
“ข้าไม่เป็นไร พวกท่านออกไปก่อน”
“พ่ะย่ะค่ะ หม่อมฉันจะตามหมอหลวงเดี๋ยวนี้”
---@@----
พีดัมส่งคนไปสืบประวัติของฮึกซาน แต่ก็ถูกลูกน้องของยอจงฆ่าปิดปาก เมื่อพีดัมถามหาคนของตน ยอจงก็ทำเป็นไม่รู้
“ซางทายังไม่กลับมาอีกหรือ ข้าถามว่าซางทามาหรือยัง”
“ข้ามีข่าวดีมาบอกท่าน....หึ....เข้ามาเร็ว หึ ๆ....ท่านยองจินบอกว่าจะมาร่วมขบวนการกับเราด้วย” จูจิน กล่าว
“เห็นพวกท่านทำงานใหญ่ ข้ายินดีสนับสนุนด้วยคน”
“เป็นความคิดที่นับว่าฉลาดมาก”
“นอกจากเขาแล้ว ยังมีแม่ทัพเมือง “นังจู” ที่ชื่อ “โฮยุน” ก็ส่งสัญญาณว่าจะมาสมทบกับเราที่นี่เหมือนกัน” ฮางจอง กล่าว
“เจ้าเมือง “คูราวา” ก็บอกว่าจะส่งทหารมาช่วยเราด้วย”
“ถ้าได้ทหารจากคูราวา เราจะมีกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก”
“ใช่ครับใต้เท้า ตอนนี้ก็รอแค่ทหารมา เรื่องอื่นไม่ต้องห่วงอีกแล้ว เฮ่อ ๆ ๆ”
“ยินดีด้วยนะ”
“นั่นสิ นี่ก็แสดงว่าขุนนางหลายฝ่ายเชื่อว่าท่านมีความชอบธรรมที่จะก่อการนี้ขึ้น มา”
“แน่นอนว่า ข้ารู้สึกซาบซึ้งมาก”
“เฮ้....ไม่ต้องเกรงใจหรอก ตอนนี้ความสำเร็จอยู่ใกล้แค่เอื้อม”
“นั่นสิ จะไปไหนเสีย เฮ่อ”
---@@----
คิมยูซินรีบเข้าเฝ้าต๊อกมานด้วยความเป็นห่วง หลังจากรู้เรื่องที่ทหารไปปิดประกาศจับตัวพีดัมรอบเมือง
“เราได้ติดประกาศไปทั่วเมือง ให้จับ พีดัมและพวกในฐานะนักโทษกบฏ”
“หึ....ดีมาก”
“พักก่อนที่ยึดทหาร เป็นเหตุให้ขุนนางหลายฝ่ายไม่พอใจ หมู่นี้การเคลื่อนไหวของพวกเขาจึงดูแปลก ๆ”
“เห็นทีว่าคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะเปิดศึกกลางเมืองซะแล้ว” ต๊อกมาน กล่าว
“ถึงอย่างงั้นเราก็พร้อมที่จะรับมือ....ฝ่าบาท เป็นไรหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ....หึ....หม่อมฉันได้ยินว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ที่เกิดจากฝีมือเจ้ายอจง”
“ไม่ว่าจะเป็นแผนลวงของใคร หรือเข้าใจผิด สรุปแล้วก็คือ มีเรื่องหลายอย่างที่เกิดจากความบังเอิญ แล้วมันก็ก่อตัวขึ้น บางครั้งประวัติศาสตร์ก็ถูกเขียนขึ้นด้วยเหตุเหล่านี้ ....ตอนนี้ ข้าและพีดัม ได้ก้าวข้ามความเชื่อใจไปแล้ว....ด้านหนึ่ง ข้ารู้สึกเสียใจที่เขาก่อกบฏโดยไม่ถามความจริงจากข้าก่อน ส่วนอีกด้านก็ละอายใจ จนไม่กล้าสู้หน้าเขาอีก”
“ฝ่าบาททรงละอายต่อเขา เพราะอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ” ยูซิน ถาม
“ข้ามาหวนคิดอีกที เพราะหวังจะได้ทหารจากเหล่าขุนนางมาอยู่ใต้อาณัติง่าย ๆ ทำให้ข้านึกชอบเขาอย่างกะทันหันหรือเปล่า ข้อนี้ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน....หรืออยากลิดรอนอำนาจที่เขามีอยู่ จึงเลือกที่จะแต่งงานกับเขา ข้าก็ยิ่งไม่แน่ใจเข้าไปใหญ่....แต่ว่า พอนึกว่าอีกไม่นานข้าจะสละบัลลังก์ เพื่อไปใช้ชีวิต....อยู่กับเขาอย่างสันโดษ นี่คือความหวังสุดท้ายของข้าที่เกิดจากความจริงใจ” ต๊อกมานรู้สึกเสียใจมาก
---@@----
ยอจงเห็นประกาศที่ให้ถอดพีดัมออกจากตำแหน่งเสนาบดี ร่วมกับพรรคพวกเป็นนักโทษกบฏ ก็รู้สึกเจ็บแค้น ส่วนต๊อกมานก็เห็นว่า กลุ่มคนที่คิดแข็งข้อ เราจำเป็นต้องกวาดล้างให้หมด เพื่อจะได้เดินหน้ารวมสามแคว้นอย่างราบรื่น
“ฝ่าบาท....เพื่อเป็นการปกป้องฝ่าบาท ไม่ให้กลุ่มกบฏมายึดบ้านเมืองของเรา มีชาวบ้านมารวมตัวที่ลานฝึกเป็นจำนวนมากพ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ ชาวบ้านอาสามารวมตัวหรือ”
“ใช่ครับ”
“ข้าจะออกไปดู ว่าพวกเขามาทำอะไร”
---@@----
เวลานั้นพีดัมได้ประกาศปลุกปั่นชาวบ้านที่เมืองเมียงวา
“แคว้นชิลลาตอนนี้กำลังร้องไห้ เพราะประมุขที่ไร้ความสามารถ สงครามจึงต้องเกิดขึ้น ซ้ำยังถูกแคว้นอื่นมาดูหมิ่นพวกเรา ตอนนี้บ้านเมือง....กำลังรอความช่วยเหลืออยู่ ซึ่งพวกเรา.... ไม่ควรที่จะนิ่งดูดาย เราต้องถอดถอนราชินี เพื่อความยั่งยืนสืบไป พร้อมกับสร้างเมืองใหม่อันยิ่งใหญ่”
---@@----
ด้านต๊อกมานเมื่อออกไปดูที่ลานฝึกก็พบว่า มีชาวบ้านแห่มาให้กำลังใจนางมากมาย นางจึงได้กล่าวให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า
“ตอนนี้บ้านเมืองกำลังมีภัย เหตุจากขุนนางที่ไม่ยอมให้ยึดกำลังทหาร ชาวบ้านจะยิ่งถูกเอาเปรียบ ถึงขั้นให้ต่างชาติมาช่วย เพราะฉะนั้น ตอนนี้บ้านเมืองเรา อยู่ในภาวะคับขันอย่างหนัก ทางการ....จะไม่ปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย ปราบปรามผู้คิดร้ายต่อบ้านเมือง ความเจริญมั่นคง สานต่อเป้าหมายผนึกรวมสามแคว้น”
“ทรงพระเจริญ ๆ”
“ชิลลาจงเจริญ ๆ ๆ”
---@@----
หลังจากที่ต๊อกมานพูดให้กำลังใจชาวบ้านแล้ว อาการป่วยของนางก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง มีเพียงไอชองเท่านั้นที่รู้ว่าต๊อกมานป่วยเป็นอะไร แต่ต๊อกมานก็สั่งห้ามไม่ให้เขาบอกใคร เด็ดขาด ในเวลานั้นเอง เกิดดาวตกขึ้นในเมืองหลวง ชาวบ้านต่างพากันกล่าวขานว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น
ด้านพีดัมเอง ก็เห็นดาวตกมาทางเมืองหลวงเช่นกัน จึงรีบบอกให้ชาวบ้านรู้ว่า ลางร้ายกำลังจะมาเยือนชิลลา
“มีดาวตกไปทางเมืองหลวง นั่นแสดงว่า เมืองหลวงใกล้จะถูกยึดในไม่ช้านี้แล้ว ดวงเมืองกำลังจะสิ้น แผ่นดินจะลุกเป็นไฟในเร็ววัน แม้แต่สวรรค์ก็จะเป็นพวกเดียวกับเรา เพื่อสร้างชิลลาให้ยิ่งใหญ่ขึ้น”
“ขอให้ท่านเสนาบดีพีดัม จงเจริญ....”
“จงเจริญ ๆ ๆ เย้....วู้....” ทุกคนโห่ร้องดีใจ
“ข้า....จะเป็นพระราชาองค์ใหม่แห่งชิลลา ข้าจำเป็นต้องได้ปกครอง เพื่อจะให้ต๊อกมานมาเป็นของข้าด้วย” พีดัม คิด
หลังจากหมอหลวงตรวจอาการของต๊อกมานเสร็จ คิมยูซิน ก็มาเข้าเฝ้าด้วยความเป็นห่วง แต่ต๊อกมานไม่ยอมพักผ่อน และยังมีคำสั่งให้คิมยูซินนำกำลังทหารไปจัดการกับพีดัม ก่อนที่พวกขุนนางต่าง ๆ จะไปสมคบกับเขามากขึ้น
---@@----
คิมยูซินรู้จากไอชองว่าต๊อกมานป่วย แต่ไอชองเห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้ ห้ามเปิดเผยเรื่องการประชวรของฝ่าบาทให้คนอื่นรู้เด็ดขาด โดยเฉพาะหมอหลวงก็ยิ่งต้องปิดปากเงียบ ซึ่งทั้งคิมยูซินและไอชองจึงได้วางแผนการศึกร่วมกันตามที่ต๊อกมานสั่ง
“ก่อนจะมีขุนนางไปสมทบกับพวกเขามากขึ้น เราต้องรีบเผด็จศึก เพื่อลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด เมืองเมียงวาจะแบ่งเป็นเหนือใต้ออกตก 4 ทิศ เราจะจู่โจมทั้ง 4 ด้านในเวลาเดียวกัน”
“หมายความว่า จะใช้แผนหลอกซ้ายล่อขวาหรือ”
“ถ้าจะหลอกพวกเขาจริง ทิศไหนจะเป็นกลลวง”
“กลลวง....เราจะไม่ใช้ ทั้งหมดคือของจริง ที่จะไปพร้อมกัน เหนือ, ใต้, ออก, ตก....4 ด้านเข้าพร้อมกัน โดยข้าจะนำทัพใหญ่เข้าประตูเมืองด้านหน้าด้วยตัวเอง ถ้ามีการปะทะในจุดนี้ ให้ท่านไอชองคอยสั่งการ....เรื่องนี้ฝ่าบาททรงอนุญาตแล้ว ขณะที่ท่านไอชองกำลังรับมืออยู่ที่จุดนี้ ให้ยิมจง ต๊อกชอน ปาร์คอึย ซอแจและแวยา ต่างก็เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเราจะจู่โจมเข้าเมืองทั้ง 4 ด้าน” คิมยูซิน กล่าว
“แต่ว่า แผนนี้จะใช้ได้จริงหรือ ถ้าเป็นอย่างแม่ทัพใหญ่ว่า เราจะตีเข้าศูนย์กลางของพวกมัน แล้วค่อยให้กำลังทั้ง 4 ด้าน บุกเข้าพร้อมกัน ตีโอบไม่ให้ตั้งตัวติด แต่เราจะไม่มีเวลาได้ส่งข่าวให้ทหารที่อยู่ทั้ง 4 ทิศได้รับรู้พร้อมกัน”
“นั่นสิ ถ้าเป่าแตร ศัตรูก็จะได้ยิน แต่ถ้ายิงธนูไฟ คนที่อยู่ด้านหลังจะมองไม่เห็น” ไอชอง กล่าว
“น่าจะมีสัญญาณที่เห็นแต่ฝ่ายเรา ศัตรูไม่ทันผิดสังเกต จะมีของแบบนี้หรือเปล่า”
“จากเหตุการณ์ดาวตกที่เห็น ทำให้ทหารเสียขวัญเป็นอย่างมาก....เราจะทำให้ดวงดาว.... ปรากฏบนท้องฟ้าอีกครั้ง นั่นแหละคือสัญญาณของเรา”
---@@----
ด้านพีดัมเองก็เตรียมรับศึกครั้งนี้อย่างเต็มที่เช่นกัน
“ทหารเมืองหลวงคงอยากปิดฉากกับเราให้เร็วที่สุด”
“ใช่ ก่อนจะมีคนมาช่วยเรามากกว่านี้ ให้รีบเผด็จศึกคือทางออกที่ดี”
“ตอนนี้แค่ยึดเมืองเมียงวาไว้ เท่ากับชัยชนะอยู่ในมือเรา ให้ท่านโฮแจพาทหารไปเฝ้าอยู่ด้านหน้า อย่าให้ศัตรูมาประชิด” พีดัม กล่าว
“ได้ ยังมีทหารที่เราติดต่อไว้ บางส่วนก็เริ่มออกจากเมืองหลวงมา”
“ใช่ และพรุ่งนี้เช้า จะมีทหารอีก 5 พันมาสมทบอีก” โฮแจ กล่าว
“รวมกันจะมีกำลังไม่ต่ำกว่า 2 หมื่น พอสู้กับพวกเขาได้อย่างสบาย”
“เฮ่อ ๆ ๆ ยิ่งคนมาช่วยเราเยอะ ๆ แสดงว่าที่เราจะตีเมืองหลวงเป็นเรื่องถูกต้อง”
“ใช่” มีเซ็ง เห็นด้วย
“แต่ก่อนจะรวมทหารได้ครบ เราจะ อยู่ที่นี่ อย่าเพิ่งบุกไปเมืองหลวงโดยพลการ และคืนนี้จนถึงพรุ่งนี้เช้า จะเป็นเวลาสำคัญ ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ เราจะเป็นฝ่ายได้เปรียบมากขึ้น” พีดัม ออกคำสั่ง

---@@@----

คืนนั้นคิมยูซินได้นำกำลังทหารบุกเข้า โจมตีทหารของพีดัม โดยการใช้แผนบุกทีเดียวพร้อมกันทั้ง 4 ทิศ ทำให้ด่านป้องกันถูกตีแตกอย่างง่ายดาย พีดัมรู้ว่าเป็นแผนทำให้สับสน จึงไม่ส่งกำลังไปสมทบ
“อย่าสนใจทหารที่นอกเหนือจากทัพใหญ่ของคิมยูซิน เพราะนั่นไม่สำคัญ แค่รอถึงพรุ่งนี้เช้า ชัยชนะก็จะเป็นของเราทันที....โพจองและพีทัน อย่าเพิ่งให้ทหารออกไป แค่ป้องกันเมืองไว้ก็พอ แล้วคอยสังเกตความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย จากนั้นค่อยมารายงานข้า”
“ครับ เราจะไปเดี๋ยวนี้”

---@@@----

ขณะที่ด้านนอกเกิดดาวบนฟ้าจำนวนมาก ทำให้ทหารแตกตื่นวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา แม้แต่พีดัมเองก็ยังประหลาดใจ ว่าทำไมยังมีดาวตกเกิดขึ้นอีกครั้ง
“นั่นน่ะหรือ ดาวหรือ เฮ่อ ๆ ๆ มันคือว่าวต่างหาก คือว่าว”
“ว่าวอะไรกัน”
“ว่าวที่เหมือนโคมไฟแล้วปล่อยให้มันลอยขึ้นสูงไง เฮ่อ ๆ เป็นของปลอมชัด ๆ” มีเซ็ง กล่าว
“หา....ถ้างั้น จะทำให้เราเสียขวัญใช่ไหม”
“ไม่ใช่ นั่นเป็นสัญญาณ สัญญาณของทหาร เพื่อจะเบี่ยงเบนความสนใจของเรา”
พีดัมเดาทางออกและก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ขณะที่ทหารต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์เรื่องดาวตกกันอยู่ ทหารของคิมยูซินก็บุกเข้ามาเล่นงานจนราบเป็นหน้ากอง ทหารที่รอดชีวิตจึงรีบไปรายงานให้พีดัมทราบ
“ใต้เท้าครับ ประตูเมือง....ทางตะวันออกถูกเปิดได้แล้ว”
“ใต้เท้าครับ ใต้เท้า....ทางใต้ก็เหมือนกัน ถูกทหารของปาร์คอึยและต๊อกชุนจู่โจมเข้ามาแล้ว”
“อะไรนะ นี่....แม้แต่....ทางใต้ก็เข้ามาด้วยหรือ”
“พวกเจ้าทำงานประสาอะไรน่ะ”
“สั่งทหารทุกคน ไปป้องกันทางตะวัน ออกและทิศใต้เดี๋ยวนี้ หลอกให้ศัตรูไปทางตะวันตก ข้าจะนำทัพใหญ่....ไปรับมือกับพวกมันด้วยตัวเอง” พีดัม กล่าว

---@@@----

ก่อนที่พีดัมจะออกไปทำศึก เขาได้พบกับ “ซางทา” ทหารที่เขาให้ไปหาข่าว แต่กลับถูกคนของยอจงไปลอบฆ่า ซึ่งเขาสามารถหนีรอดมาได้ ซางทาบอกให้พีดัมรู้ว่า ใครกันแน่คือคนที่ให้ร้ายต๊อกมาน พีดัมถึงกับอึ้งไป

---@@@----

ยอจงกับพรรคพวกกำลังจะหนีเอาตัวรอด แต่พีดัมเข้ามาซะก่อน เขาจ้องหน้าอย่างเอาเรื่อง
“ท่านพีดัม เห็นทีเราต้องไปจากเมืองนี้ซะแล้ว ถ้าออกไปได้ก็จะไปสมทบกับท่านโฮยุน มุ่งตรงไปที่ “ทังซาน” ก่อนเร็วเข้า.... ทำไม? มองข้าอย่างงั้นล่ะ”
“คนเลี้ยงไม่เชื่อง....องครักษ์ของฝ่าบาท ฮึก...ซาน....”
“หึ....เฮ่อ ๆ ๆ รู้แล้วหรือ”
“ทุกอย่างเป็นการวางแผนของเจ้าทั้งนั้น เป็นเพราะเจ้าคนเดียว”
“ปัญหาเกิดจากเจ้าต่างหาก ทำไมชอบโยนความผิดให้คนอื่นอยู่เรื่อย ข้าเป็นคนสังหารมุนโน วางแผนก่อกบฏแต่แรก เป็นศัตรูกับฝ่าบาทก็เป็นความคิดของข้างั้นหรือ ถึงไม่มีข้า เจ้าก็คิดสังหารมุนโนเพื่อเอาแผนที่สามแคว้นของเขามาอยู่แล้ว” ยอจง กล่าว
“หุบปากเดี๋ยวนี้ หึ....”
“ต่อให้ไม่มีข้าก็เถอะ เจ้าก็ต้องใช้แผนบางอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองฝ่าบาทไม่ต่างกันหรอก”
“ข้าบอกว่าไม่ต้องพูดแล้ว”
“สิบปีที่ผ่านมา เจ้าได้ทำอะไรบ้าง ทุ่มเทเพื่อบ้านเมือง สร้างความดีความชอบตั้งเท่าไหร่แล้วยังไง....เพราะมุนโนไม่พอใจเจ้า เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ของมีซิล เพราะข้าหลอกใช้เจ้าหรือ ไม่ใช่เลย แต่เพราะว่า.... ความทะเยอทะยานของเจ้าต่างหาก หือ....เจ้าอยากเป็นพระราชา หวังจะได้ปกครองเมืองนี้”
“หึ....ทั้งหมดนี้ เป็นการคิดเองเออเองของเจ้าทั้งนั้น หึ....ข้าไม่เคยคิด ข้าแค่ทำเพื่อ....”
“อ๋อ....ความรักน่ะหรือ ความรักทำให้ตาบอดเลยถลำลึกมาถึงวันนี้ใช่ไหมล่ะ....ก็ได้ ข้าเลยช่วยผลักดันให้เจ้าสมหวังไง....ลองคิดดู ถ้าเจ้าได้แต่งงานกับฝ่าบาทจริง ผลจะออกมาแตกต่างหรือเปล่า ไม่เลย สุดท้ายเจ้าก็ต้องก่อกบฏอยู่ดีแหละ เพราะอะไรหรือ เพราะไม่รู้จักคำว่าพอไง....กลัวว่าซักวันฝ่าบาทจะทิ้งเจ้า กลัวว่าตัวเองจะไร้ค่า ทั้งหมดเหล่านี้ ทำให้ไม่ไว้ใจคนอื่น....เจ้าก็คือคนแบบนี้ ชอบบอกให้คนอื่นไว้ใจ ตัวเอง แต่ตัวเองไม่เคยเชื่อใจใคร กลัวว่าจะถูกทอดทิ้ง คิดแต่เรื่องนี้อยู่ตลอด” ยอจง กล่าว
“ไม่ต้องพูดแล้ว”
“แต่ว่า เจ้ารู้อะไรมั้ย ที่จริงฝ่าบาท.... ทรงไว้ใจ....เชื่อมั่นในตัวเจ้า....เจ้าต่างหากที่ไม่เชื่อนาง เป็นฝ่ายระแวงก่อน คนที่....ทำลาย ความรักของเจ้า....ไม่ใช่ฝ่าบาทหรือว่าข้า....คนคนนั้น....ก็คือตัวเจ้าเอง พีดัม....เฮ่อ ๆ ๆ ทำอะไรน่ะ....โอ๊ะ....” ยอจง ถูกพีดัมใช้มีดปาดคอทั้งที่ยังพูดไม่จบ

---@@@----

พีดัมเดินเสียสติออกไปจากห้อง มีเซ็งเข้ามาขวางเอาไว้
“ฆ่าข้าก่อนค่อยไปได้ไหม...เฮ่อ ๆ ๆ อุตส่าห์คิดว่าคนอย่างเจ้าจะเหมือนพี่ใหญ่ของข้า ข้ามันช่างตาบอดแท้ ๆ...หวังพึ่งคนอ่อนแออย่างเจ้ารักษาอำนาจไว้ ช่างเป็นเรื่องน่าขำและน่า ตลกสิ้นดี...พี่ใหญ่ของข้ามองเจ้าผิดไปแล้ว”
“อำนาจหรือ? หึ....ข้าเกิดเพราะเป้า หมายบางอย่างของมีซิล ถูกมุนโนเลี้ยงดูก็เพื่อเป้าหมาย เป้าหมายนั้นก็คืออำนาจของพวกท่าน” พีดัม กล่าว
“เฮอะ....สมัยก่อนพี่ใหญ่ทอดทิ้งเจ้า ส่วนมุนโน....ก็ไม่ได้เลี้ยงเจ้าด้วยความรัก ในขณะที่เรายังทำลายความรักของเจ้าด้วยการก่อกบฏอีก ฟังให้ดีนะพีดัม....ยอจงเอ๊ย ตอนนี้จะปฏิเสธการกระทำของเจ้า มันคงสายไปแล้ว.... จริง ๆ แล้วคนที่ทำลายเจ้า โลกนี้ก็มีแต่เจ้าคนเดียวเท่านั้น....ไม่มีใคร....ทำอะไรเจ้าได้หรอกนะ ถ้าเจ้า มั่นคงพอ เจ้าจะตายก็เพราะปมด้อยของตัวเอง ช่าง....เป็นเด็กที่น่าสงสารจริง ๆ ฮือ.... ฮือ ๆ ๆ”
“ทำไมถึงวันนี้แล้ว เพิ่งมาพูดเรื่องแบบ นี้กับข้า”
“เคยพูดแล้ว พี่ใหญ่ก็เคยเตือนเจ้า ท่านซอวอนก็เคยพูด ข้าก็เคยพูด ทุกคนต่างเคยเตือนเจ้าด้วยความหวังดีทั้งนั้น แต่เจ้าไม่ได้ยินต่างหาก” มีเซ็ง กล่าว พร้อมหัวเราะเย้ยหยัน

---@@@----

จบตอนที่ 61
เครดิต เดลินิวส์


Create Date : 03 กันยายน 2553
Last Update : 3 กันยายน 2553 15:31:32 น. 3 comments
Counter : 852 Pageviews.

 
ขบคุงคร่ๅสำหรับตอนจบ กๅลังหยักรุเรว่ๅต่นจบเปงงัย


โดย: ลูกปลๅ IP: 75.126.123.210 วันที่: 5 กันยายน 2553 เวลา:20:35:18 น.  

 
thank you


โดย: yut IP: 124.157.225.226 วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:6:21:24 น.  

 
อยากรู้ตอนจบค่ะ


โดย: kk IP: 158.108.106.72 วันที่: 6 กันยายน 2553 เวลา:12:12:12 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com