มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 มกราคม 2553
 
 
ละคร เชลยศักดิ์ ตอนที่ 6

ตอนที่ 6

เจ้าขวัญฟ้าดีใจมากที่เห็นอานนท์มาถึงเชียงรัฐ เมื่อรู้ว่าอลิสาให้นำจดหมายมาก็ยิ่งดีใจ อานนท์แนะนำ แก่เจ้าขวัญฟ้าว่าโยธินเป็นครูของตน เจ้าขวัญฟ้ามองโยธินเป็นแค่ลูกจ้างของม่อนผาหลวง โยธินเองก็มิได้ แสดงความกระตือรือร้น เขาเพียงแค่ก้มศีรษะให้ เล็กน้อย ทำให้เจ้าขวัญฟ้าไม่ชอบใจนัก

ได้รับจดหมายแล้วเจ้าขวัญฟ้าให้อานนท์รอตรงนี้ก่อน แล้วรีบเข้าไปข้างใน อ่านจดหมายรำพันออดอ้อนถึงคืนวันที่ ได้อยู่ด้วยกันตลอดจนที่ได้อยู่ในงานเลี้ยงด้วยกันที่กรุงเทพฯ จนเจ้าไปส่งตนที่บ้าน

อลิสาลงท้ายด้วยคำอ้อนอ่อนหวานว่า

"เมื่อไหร่ที่เราจะได้กลับบ้านด้วยกัน บ้านที่เป็นของเราสองคน เจ้าคงรู้นะคะว่าทำไมหญิงถึงได้พรรณนาถึงความหลังของเราเสียยืดยาว หญิงคิดถึงเจ้าค่ะ เจ้าขวัญฟ้าของหญิง"

อ่านจดหมายแล้วเจ้าขวัญฟ้ารำพึงด้วยความรู้สึกที่เต็มตื้นด้วยความรัก...

"อลิสา...อลิสาของผม ผมก็คิดถึงคุณเหลือเกิน"

อานนท์ หนานเมือง และโยธินถูกทิ้งให้คอยอยู่อย่างร้อนรนกระวนกระวายใจกลัวจะกลับไม่ทันเวลากำหนด ซ้ำเมื่อเจ้าขวัญฟ้าอ่านจดหมายแล้วยังออกมาบอกว่ารอไม่นานหรอก ตนใช้เวลาเขียนจดหมายไม่นาน ถ้าอานนท์ต้องการอะไรก็ให้สั่งคนรับใช้ได้เลย ทำตัวตามสบายนะ

แต่ทั้งสามหาได้สบายทั้งกายและใจไม่ คอยนานจนหนานเมืองต้องรีบไปเตรียมม้าไว้เผื่อจดหมายมาถึงจะได้รีบเดินทางทันที

จนพักใหญ่ๆ เจ้าขวัญฟ้าจึงออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พูดดักไว้ก่อนว่า

"อานนท์รอพี่ไม่นานใช่ไหม พี่ขอฝากจดหมายฉบับนี้ไปให้คุณหญิงอลิสาด้วยนะ เธอต้องดูแลจดหมายฉบับนี้เท่าชีวิตนะ เพราะพี่ฝากใจของพี่ไปในจดหมายนี้ด้วย"

อานนท์ฟังแล้วขาดความมั่นใจทันที ให้ฝากจดหมายไว้กับโยธินดีกว่า ฝากตนไว้มีหวังหาย

เจ้าขวัญฟ้าเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ให้รางวัล พลางควักเงินออกมาชมว่า ม่อนผาหลวงอบรมคนรับใช้ได้ดีจริงๆ อานนท์รีบบอกว่าโยธินไม่ใช่เป็นคนรับใช้ โยธินที่ยืนคอแข็งอยู่ปฏิเสธรางวัล ตัดบทชวนกลับกันดีกว่า หนานเมืองกับอานนท์ยกมือไหว้ลา แต่โยธินยังคงก้มศีรษะเล็กน้อยตามเดิม ซึ่งขัดตา

เจ้าขวัญฟ้านัก

ooooooo

เจ้าพ่อกับเจ้าแม่ของเจ้าขวัญฟ้า โต้แย้งกันอย่างตึงเครียด เมื่อเจ้าแม่ยืนกรานว่าลูกสะใภ้ของเชียงรัฐจะต้องเป็นคนเชื้อสายเชียงรัฐเท่านั้น แต่เจ้าพ่อไม่ต้องการขัดใจลูกที่ยืนกระต่ายขาเดียวมาตลอดว่าจะต้องแต่งงานกับอลิสาเพียงคนเดียว

ในที่สุด เจ้าพ่อกับเจ้าแม่ก็รอมชอมกันได้ เมื่อเจ้าพ่อเตือนว่า เจ้าขวัญฟ้านั้นพยศแค่ไหนก็รู้อยู่ ขืนไปบังคับมีหวังได้เตลิดหนีไปแน่

เจ้าแม่จึงอนุโลมให้ตามใจลูกไปก่อน แต่สุดท้ายสะใภ้ ของเชียงรัฐก็ยังจะต้องเป็นอินทร์วิไล เลือดเนื้อเชื้อไขของเชียงรัฐเพียงคนเดียว

เวลาเดียวกันนั้น ศรีสว่างก็ติติงภิรมยาลูกสาวตัวเองว่าทำไมต้องตามง้อโยธินนักทั้งที่ตัวเองเป็นถึงลูกสาวรัฐมนตรี ภิรมยาบอกว่าตนแค่พยายามส่งข่าวถึงโยธินเท่านั้นเอง

ทั้งยังเคี่ยวเข็ญให้ภิรมยาตอบจดหมายขอบคุณของเจ้าขวัญฟ้าที่เขียนถึงรัฐมนตรีที่เลี้ยงรับรองในคืนนั้น เมื่อ

ภิรมยาเกี่ยง ศรีสว่างก็แนะว่า ให้บอกว่าเขียนแทนคุณพ่อ ทั้งยังเป็นการแบ่งเบาภาระคุณพ่อด้วย

ภิรมยาจึงรับปาก แต่เมื่อฟังแม่พร่ำเพ้อว่า "เจ้าขวัญฟ้านี่น่ารักจริงๆกลับไปไม่ทันไรก็ส่งข่าวมาแล้ว ไม่เหมือนโยธินของลูกที่ดูเหมือนจะลืมลูกไปแล้ว" ภิรมยาก็โต้อย่างไม่ชอบใจว่า

"ไม่มีทางค่ะ ยังไงโยธินก็ไม่มีวันลืมภิรมยา"

ooooooo

โยธิน อานนท์ และหนานเมืองพากันเดินทาง กลับม่อนผาหลวงอย่างเร่งรีบ แต่แล้วก็เสียเวลาจนได้ เมื่ออานนท์เห็นนกยูงรำแพนหลงรักจนวิ่งไล่ตามไป ซ้ำร้ายยังไปติดบ่วงแร้วนายพรานเข้าอีก ถูกรัดข้อเท้าดีดขึ้นไปห้อยต่องแต่งจนร้องเสียงหลง

ครั้นโยธินกับหนานเมืองตามไปช่วยปลดลงมาได้ ก็เจ็บเท้าจนเดินขาลากอีก ถูกโยธินตำหนิว่าในป่าไม่ใช่มีแต่ ความสวยงามอย่างเดียว แต่มีอันตรายรอบตัวด้วย ไหนว่าจะไม่ขัดคำสั่งแล้วทำไมทำให้เสียเวลา รู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป

"ผมขอโทษครับ ผมจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว คราวนี้ผมจะเชื่อฟังคุณโยธินทุกอย่าง อย่าโกรธผมเลยนะครับ"

หนานเมืองเร่งให้รีบออกเดินทางกัน เพราะถ้ามืดแล้วเราจะหาทางกลับม่อนผาหลวงไม่ได้

แต่แล้วก็ค่ำจนได้ ซ้ำร้ายเมฆเต็มฟ้าทำให้ไม่เห็นดาวเหนือที่จะบอกทาง หนานเมืองเสนอว่าหาที่พักก่อนดีกว่าขืนเดินสะเปะสะปะได้หลงป่ากันแน่ คืนนี้ทั้งหมดจึงเข้านอนพักในถ้ำ อานนท์รู้สึกผิดมากเข้าไปขอโทษโยธิน เขาเพียงแต่บอกว่า "จำเอาไว้เป็นบทเรียนก็แล้วกัน" แต่อานนท์ก็ยังหน้าจ๋อยอยู่ดี

ค่ำแล้วยังไม่เห็นอานนท์กลับมา อลิสากระวนกระวายใจ จนไม่แตะต้องอาหารเย็น ส่วนอติศักดิ์ก็ออกไปตามหาที่ชายป่า แต่ก็ต้องกลับมาอย่างผิดหวัง

อลิสาโทษว่าโยธินวางแผนพาอานนท์ไป เพื่อเป็นข้ออ้างถ้ากลับมาไม่ทันตามที่ตนกำหนด มองร้ายไปทุกมุมว่า ป่านนี้โยธินคงหัวเราะชอบใจที่ทำให้พวกเราหัวหมุนไปหมด

"น้องภาวนาขอให้อานนท์กลับมาอย่างปลอดภัย ถ้าอานนท์มีรอยข่วนแม้แต่นิดเดียวน้องไม่ปล่อยนายโยธินไว้แน่" อลิสามองโยธินในแง่ร้ายทุกมุม โยนความผิดให้โยธินทั้งหมดเพียงคนเดียว

จากการพูดคุยกันขณะนอนถ้ำ ทำให้โยธินรู้ถึงความรู้สึกของอานนท์ต่ออติศักดิ์และอลิสาว่า อานนท์รักทั้งสองมาก อติศักดิ์นั้นเหมือนพ่อมากกว่าพี่เพราะเวลาดุก็ดุจนตนไม่กล้าเข้าใกล้ ส่วนอลิสานั้นตนสนิทกว่าแม้บางครั้งจะจู้จี้ แต่ตนก็รักทั้งสองคนเพราะตนกำพร้า ทั้งสองเลี้ยงดูตนมาอย่างดี

"ก็นับว่าคุณยังโชคดี" โยธินเอ่ย

"ครับ ผมโชคดีที่มีคุณพี่อติศักดิ์กับคุณพี่อลิสา แล้วผมก็ยังมีคุณโยธินอีกด้วย ผมไม่รู้สึกว่าคุณโยธินเป็นแค่ครูเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนพี่ชายของผมอีกด้วย"

"รีบนอนเถอะครับ พรุ่งนี้เราต้องเดินทางแต่เช้าตรู่" โยธินตัดบทอดยิ้มน้อยๆไม่ได้

ooooooo

ในงานเลี้ยงพบปะสังสรรค์กันระหว่างภริยาของรัฐมนตรีและเพื่อนฝูง ศรีสว่างพาภิรมยาไปด้วย ในงานนี้เอง เพื่อนสองสามคนได้พูดถึงธุรกิจของสวามิภักดิ์-ราชว่ากำลังแย่ อาจต้องล้มละลาย บางคนถามศรีสว่างว่า ลูกสาวกำลังจะดองกับอัศวรัชไม่ใช่หรือ ดูให้ดีดูให้แน่ ไม่ใช่แต่งงานไปแล้วต้องไปตามใช้หนี้ให้ลูกเขย

ศรีสว่างหวั่นไหวขึ้นมา แม้ภิรมยาจะบอกว่านั่นเป็นเพียงข่าวลือของพวกอิจฉาตาร้อนก็ยังร้อนใจ จนภิรมยาชวนกลับ ถ้าแม่ไม่กลับตนจะกลับคนเดียว ศรีสว่างจึงจำต้องกลับพร้อมภิรมยา

กลับถึงบ้านแล้วยังปรารภปรับทุกข์กับราชฤทธิ์ว่าถ้าเป็นอย่างที่ข่าวลือคงแย่เพราะเรามีลูกสาวคนเดียว หวังจะให้ลูกแต่งงานกับผู้ชายที่ดีพร้อมที่สุด

"โยธินก็ดีพร้อมทุกอย่าง ตอนเด็กสองคนคบกันจนถึงหมั้นหมายกันคุณก็ไม่เคยคัดค้านอะไร"

"ถ้าเรามีโอกาสหาผู้ชายที่ดีกว่าโยธินให้ลูกได้ เราก็น่าจะคิดเรื่องนี้กันใหม่นะคะ"

"ผมว่าโยธินเหมาะสมกับภิรมยาที่สุดแล้ว คุณไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กับผมอีกแล้วนะ" ราชฤทธิ์ตัดบทอย่างไม่อยากฟังอีกแล้ว ศรีสว่างได้แต่ฮึดฮัดขัดใจ แต่ก็ต้องเงียบ

ooooooo

โยธิน หนานเมือง และอานนท์ออกเดินทางแต่เช้าตรู่ อานนท์ขอขี่ม้านำไปก่อน รับรองไม่หลงป่าแน่

เช้าวันเดียวกัน อลิสากับอติศักดิ์ก็พากันออกตามหาอานนท์อีก อลิสามองไปรอบๆม่อนผาหลวงด้วยความหวังว่าจะได้เจออานนท์ แล้วเธอก็ขนลุกซู่เมื่อได้ยินเสียงอานนท์แว่วมาว่า

"คุณพี่อลิสาครับ คุณพี่ ผมกลับมาแล้วครับ"

อลิสาชักม้าไปตามเสียงนั้นทันที แล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อเจออานนท์ขี่ม้านำหน้ามาจริงๆ

ทั้งอลิสาและอติศักดิ์บ่นอานนท์ว่าทำอะไรลงไปรู้ตัวหรือเปล่า ทางนี้เป็นห่วงแค่ไหนรู้ไหม

"ผมไปเชียงรัฐกับคุณโยธินครับ เราควบม้ากันไม่ได้หยุด บ่ายๆก็ถึงเชียงรัฐแล้ว แล้วถ้าไม่ติดว่าคุณโยธินต้องเสียเวลาช่วยผมจากบ่วงแร้วของนายพราน เราก็คงถึงม่อนผาหลวงตั้งแต่เมื่อวานแล้ว"

อานนท์เล่าเสียงเจื้อยแจ้ว ตบท้ายด้วยคำถามว่า

"คุณโยธินเก่งไหมล่ะครับ ไม่มีใครเคยไปกลับเชียงรัฐได้ในเวลาแค่วันเดียว"

อลิสาจะหาเรื่องโยธินอยู่แล้ว พอได้ดูรอยช้ำที่อานนท์ถูกบ่วงแร้วรัดและรอยขีดข่วนตามตัวก็เอาเรื่องกับโยธินทันที หาว่าเขาใช้เด็กเป็นเครื่องมือเอาชนะตน โยธินแย้งว่าถ้าตนพาอานนท์กลับมาส่งก่อน ก็จะไปส่งจดหมายและกลับมาไม่ทันตามกำหนดที่คุณหญิงสั่งให้กลับมาภายในหกโมงเย็น

"นี่นายกำลังโยนความผิดให้ฉันเหรอ" อลิสาพาล เมื่อโยธินบอกว่าตนแค่พูดไปตามความเป็นจริงก็ถูกอลิสาปรามาสว่า "นายควรจะรับผิดอย่างลูกผู้ชายนะ การตัดสินใจผิดๆของนายทำให้อานนท์ต้องบาดเจ็บ ถ้าอานนท์เป็นอะไรไป นายมีปัญญาชดใช้เหรอ ถึงจะชดใช้ด้วยชีวิตฉันก็ไม่ต้องการชีวิตที่ไร้ค่าของนาย!"

"ถ้าจะมีใครผิด เราก็ผิดกันทั้งสองฝ่าย ถ้าคุณหญิงไม่ออกคำสั่งบ้าๆ ผมคงไม่ตัดสินใจพาคุณอานนท์ไปด้วยแน่ คงพาคุณอานนท์มาส่งก่อน"

"ฉันมีสิทธิ์ที่จะสั่งให้นายทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น"

"คุณหญิงก็สั่งอะไรให้มันมีเหตุมีผลหน่อยสิครับ แค่จดหมายถึงคู่รักมันจะต้องรีบด่วนอะไรนักหนา หรือว่ามีเรื่องอะไรที่รอไม่ได้" โยธินยิ้มกวนๆก่อนพูดต่อ "ไม่น่าเชื่อนะครับ ผู้หญิงที่ทำตัวสูงส่งอย่างคุณหญิงอลิสาจะกลัวคู่รักหลุดมือจนทำอะไรขาดสติได้ขนาดนี้!"

อลิสาโกรธจัดฟาดแส้ใส่หน้าพาดมาถึงอกโยธินจนเสื้อขาดเลือดซึมออกมา ปรามว่านี่คือผลของการที่เขาดูถูกตน แล้วสะบัดกลับไปที่ม้า อติศักดิ์นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งจึงเรียกอานนท์ กลับกันได้แล้ว

หนานเมืองแยกไปอีกทางหนึ่ง เหลือแต่โยธินยืนขบกรามเป็นสันนูนข่มทั้งความโกรธและเจ็บ

กลับถึงตึก อานนท์ที่เดินตามหลังมาถามซื่อๆว่า

"คุณพี่ทำอย่างนั้นกับคุณโยธินได้ยังไง คุณโยธินอุตส่าห์ส่งจดหมายถึงมือเจ้าขวัญฟ้าอย่างยากลำบาก คุณโยธินไม่บ่นอะไรสักคำเดียว ตั้งใจทำตามที่คุณพี่ต้องการทุกอย่าง"

อลิสาทนฟังไม่ได้หยุดกึกหันขวับสั่งอานนท์ให้หยุดพูดขู่ว่าตนยังไม่ได้ชำระความเรื่องที่อานนท์หนีไปกับนายนั่น อานนท์ เอ่ยว่าถ้าตนผิดก็ลงโทษตนคนเดียวไม่ควรทำร้ายโยธิน อลิสาไม่สนใจอานนท์ แต่กลับหันไปถามพี่ชายว่าจะลงโทษอานนท์ อย่างไรดี อติศักดิ์ให้กักบริเวณที่ตึกใหญ่หนึ่งอาทิตย์

"ครับ แล้วเรื่องที่คุณโยธินกลับมาไม่ทันล่ะครับ" อานนท์ถามด้วยใจจดจ่อ

"เรื่องนั้นเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ แกไม่เกี่ยว" อติศักดิ์ ตัดบท พอดีสีโบเข้ามาอติศักดิ์สั่งให้พาอานนท์ไปอาบน้ำเสีย แล้วเขาก็เดินไปแตะแขน น้องสาวที่ยังยืนขึ้งเครียดอยู่ เอ่ยเบาๆ "ถ้าน้องฆ่านายโยธินได้ เมื่อกี้น้องคงฆ่าเขาไปแล้ว"


อลิสาทั้งโกรธทั้งอายที่โยธินมาตีแผ่เรื่องเจ้าขวัญฟ้าต่อหน้าทุกคน

ooooooo

โยธินกลับไปชำระแผลเช็ดเลือดจากรอยแส้ที่แก้มและแผ่นอก เฒ่าเหมยไม่รู้เรื่องมาก่อนอาสาจะเอายามาทาให้ บ่นๆว่าในป่าดงมันน่ากลัวอย่างนี้แหละ ถ้าเราไม่ระวังตัวก็มีโอกาสถูกทำร้ายได้ทุกเมื่อ

"แต่ฉันว่าจิตใจคนน่ากลัวกว่าเยอะ"

"คุณโยธินทายาเถอะครับ ถ้าไม่ทายาเดี๋ยวเกิดแผลเป็นขึ้นมาแย่เลยนะครับ" เฒ่าเหมยห่วง

"เป็นแผลเป็นก็ดีสิ ฉันจะได้มีแผลนี่ติดตัวไว้ไปตลอดชีวิต เอาไว้เตือนใจว่าอย่าทำดีกับศัตรูให้มากนัก เพราะถึงเราจะดีแค่ไหนมันก็ไม่วายแว้งกัดเราจนได้" โยธินมองรอยแผลบนตัวอย่างเจ็บแค้น แต่ก็ยังให้กำลังใจตัวเองว่า "หนึ่งปี... ต้องทนให้ได้ เราต้องทนให้ได้!" แล้วก็หยิบจดหมายของเจ้าขวัญฟ้าออกมาจากกระเป๋า

ครู่เดียวสีโบก็เข้าไปรายงานอลิสาว่าโยธินมาขอพบ อลิสาไม่ยอมไปพบซ้ำตำหนิว่าไม่รู้กาลเทศะเอาเสียเลย นี่ไม่ใช่เวลาที่จะให้ใครมาพบ สีโบจึงกลับไปบอกโยธินว่าพรุ่งนี้ ค่อยมาใหม่ก็แล้วกัน

"ฝากเรียนคุณหญิงเธอด้วยนะว่าฉันพยายามทำหน้าที่ของฉันให้เสร็จสมบูรณ์ แต่ในเมื่อคุณหญิงไม่ให้ความร่วมมือฉันก็คงทำหน้าที่ของฉันได้เท่านี้" พูดแล้วโยธินหมุนตัวกลับ สีโบได้แต่มองตามงงๆ

ooooooo

แต่พออลิสาไปดูอานนท์ที่ห้องนอนรู้ว่ามีจดหมาย จากเจ้าขวัญฟ้ามาอยู่ที่โยธิน ก็รีบลิ่วไปที่ทับหน้า พรวดเข้าไปในห้องโยธินทั้งที่เขากำลังถอดเสื้อออกเหลือท่อนบนเปลือยเปล่า เธอตกใจแล้วกลับตำหนิเขาว่าทำตัวน่าเกลียดไม่เป็นสุภาพบุรุษ ทั้งที่ตัวเองเป็นคนพรวดเข้าไปเอง

โต้เถียงกันอึดใจ อลิสาสั่งให้ไปที่ห้องโถงตนมีเรื่องจะคุยด้วย โยธินเดาใจได้เลยถามว่ารีบร้อนมารับจดหมายฉบับนี้ ใช่ไหม รับจดหมายแล้วแทนที่จะขอบใจกลับหาว่าเขาตั้งใจแกล้งให้ตนมาทวงจดหมายถึงทับหน้า เสียใจด้วยที่แกล้งไม่สำเร็จ

"คนอย่างผมไม่เคยทำอะไรใครลับหลัง" โยธินโต้ แต่ยิ่งพูดก็ดูเหมือนจะยิ่งถูกมองในแง่ร้าย เขาตัดบทว่าดึกแล้ว คุณหญิงกลับไปอ่านจดหมายคู่รักให้มีความสุขดีกว่ามาพูดพร่ำแต่เรื่องเดิมๆ ไม่เกิดผลอะไร

ก่อนไปอลิสายังพูดทิ้งท้ายไว้อย่างสะใจว่า ตนมาพูดก็เพื่อให้รู้ว่าเจ้าขวัญฟ้าเป็นใครเท่านั้น เยาะเย้ยว่าอีกไม่นานตนก็จะพบกับเจ้าขวัญฟ้าแล้วแต่เขาต้องรออีกเป็นปี ถ้าทนไม่ได้ตนจะสงเคราะห์ส่งข่าวให้ว่า...

"วีรบุรุษกู้ชาติของเธอไม่ได้หายไปไหน แต่ทำงานเป็นทาสรับใช้สันตติวงศ์อยู่ที่ม่อนผาหลวงนี่"

พูดแล้วหัวเราะเยาะกรีดกรายไป ทิ้งโยธินให้ยืนโกรธอยู่ตรงนั้น

เรื่องไม่จบแค่นั้น เมื่ออานนท์หิวลงไปในครัวให้สีโบ อุ่นนมให้รองท้อง สีโบกลัวถูกอลิสาดุ อานนท์บอกว่า

"คุณพี่ไม่ว่าอะไรหรอก ตอนนี้คุณพี่คงอารมณ์ดีเกินกว่าที่จะดุว่าใครแล้ว"

สีโบซักจนรู้ว่าอลิสากำลังอ่านจดหมายของเจ้าขวัญฟ้าคู่รักของเธออยู่ สีโบพึมพำงงๆว่า เจ้าขวัญฟ้า...อานนท์จึงเพิ่งนึกออกเล่าต่ออีกว่า

"จริงสิ สีโบหายไปหลายปีก็เลยไม่รู้เรื่องนี้ เจ้าขวัญฟ้าน่ะเป็นคู่รักของคุณพี่ ที่ฉันหายไปก็เพราะฉันไปกับคุณโยธิน ไปส่งจดหมายที่เชียงรัฐไงล่ะ สีโบ แกเป็นอะไรน่ะ" อานนท์ถามสีโบที่ยืนทื่อเป็นท่อนไม้ แก้วนมหลุดจากมือ

สีโบรู้สึกตัวรีบขอโทษแล้วจะไปอุ่นนมมาให้ใหม่ พลางย่อตัวเก็บเศษแก้วมือสั่นระริก

ooooooo

อลิสาอ่านจดหมายบรรยายความรักความคิดถึงจากเจ้าขวัญฟ้าจนเคลิ้ม เรียกเหมือนเพ้อ... "เจ้าขวัญฟ้า..." พลันเหลือบเห็นนกแก้วในกรง หันไปบอกให้ร้อง "เจ้าขวัญฟ้า เรียกตามฉันสิ เจ้าขวัญฟ้า เจ้าขวัญฟ้าของอลิสา..."

นกแก้วไพล่ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว "คุณโยธิน คุณโยธินวีรบุรุษกู้ชาติ...คุณโยธินวีรบุรุษกู้ชาติ..."

แม้อลิสาจะเพียรบอกใหม่ เจ้านกแก้วก็ยังคงเสียงใสคำเดิม โกรธขึ้นมาเลยเรียกสีโบให้เอานกแก้วไปให้พ้นไม่อยากเห็นอีกแล้ว

สีโบเข้ามาเอานกแก้ว ก่อนออกไปยังหันมามองอย่างสำรวจ เห็นอลิสานั่งลงอ่านจดหมายต่อ สีโบจึงค่อยๆปิดประตูออกไปใจเต้นรัว...

ooooooo

ศรีสว่างเคี่ยวเข็ญให้ภิรมยาเขียนจดหมายตอบเจ้าขวัญฟ้าแทนพ่อ เธอเขียนอย่างฝืนใจจึงเขียนทั้งฉบับได้แค่ห้าบรรทัด ศรีสว่างขัดใจมากให้เขียนใหม่ บรรยายให้อ่อนหวานตามที่ตนบอก อ้างว่า

"เราจำเป็นต้องปูทางไว้ก่อน คุณพ่อน่ะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีไปตลอดชีวิตนะ ถ้าคุณพ่อพ้นจากตำแหน่งเมื่อไร เราก็จะได้สานต่อธุรกิจกับเจ้าขวัญฟ้าทันที เข้าใจแล้วใช่ไหม เอ้าเขียนใหม่ตามที่แม่บอกนะ"

พอศรีสว่างออกไป ภิรมยาบ่นกับตัวเอง "คนที่อยากเขียนจดหมายถึงกลับไม่ได้เขียน แต่ต้องมานั่งเขียนถึงใครก็ไม่รู้ไม่ได้สนิทสนมอะไรด้วยเล้ย..." บ่นแล้วหยิบปากกาเขียนอย่างซังกะตาย

ฝ่ายเจ้าขวัญฟ้ายังหลงระเริงอยู่กับความรื่นรมย์ในวัยหนุ่มกับอินทร์วิไล แม้จะไม่ต้องใจแต่ก็ต้องอารมณ์ เช้าวันนี้ขณะเอาอาหารเข้าไปให้ที่ห้องนอนก็ยั่วยวนจนเจ้าขวัญฟ้าเมินอาหารหันกอดอินทร์วิไลอย่างเสน่หา

อินทร์วิไลทำเล่นตัวผลักเจ้าขวัญฟ้าออกแล้วหัวเราะระรื่นไปจัดเตียง เห็นที่โต๊ะหัวเตียงมีรูปอลิสาวางอยู่ เธอจิกจ้องรูปนั้นอย่างชิงชัง แล้วหันมองเจ้าขวัญฟ้าเห็นกำลังอร่อยกับอาหาร เขาหันมายิ้มให้อินทร์วิไล ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

ooooooo

เมื่อเจ้าพ่อเรียกไปคุยเรื่องงาน เจ้าขวัญฟ้าเสนอให้ต่อสัญญาสัมปทานป่าไม้ให้กับทางอังกฤษเพราะทางอังกฤษยังมีอิทธิพลอยู่ ถึงจะมีข่าวลือออกมาเป็นระยะแต่ก็ไม่เห็นว่าอังกฤษจะมีอำนาจลดน้อยลง

เจ้าพ่อเห็นพ้องว่าเรายอมเสียผลประโยชน์ดีกว่าเสียแคว้นให้กับชนชาติอื่น แต่เราควรทำเหมืองพลอยเองไม่ต้องให้สัมปทานใคร

เจ้าขวัญฟ้าแย้งว่าเราควรให้สัมปทานไปดีกว่าสบายกว่ากันเยอะ ครั้นเจ้าพ่อตำหนิว่าอย่าเลือกแต่ทางสบาย เราควรทำเหมืองพลอยเองเราจะได้ผลประโยชน์เต็มๆ เจ้าขวัญฟ้า ตัดบทว่าแล้วแต่เจ้าพ่อก็แล้วกัน เมื่อเจ้าแม่เห็นพ่อลูกขัดใจกัน จึงชวนดื่มน้ำชาก่อน

ระหว่างดื่มน้ำชาเจ้าพ่อบ่นๆว่าลูกคนนี้ไม่เคยอยู่ติดที่เมื่ออยู่ก็ต้องรีบคว้าตัวมาคุยก่อนที่จะหนีไปเที่ยวที่ไหนอีก เจ้าขวัญฟ้าก็แทรกขึ้นอย่างถูกใจว่า
"เจ้าพ่อนี่รู้ใจลูกจริงๆ ลูกกำลังจะบอกเจ้าพ่อกับเจ้าแม่ พอดีว่าลูกจะขอไปเชียงใหม่สักสองสามวัน" ครั้นเจ้าแม่ถามว่าไปทำไม เจ้าขวัญฟ้าตอบยิ้มอย่างมีความสุขว่า "ไปหาคุณหญิงอลิสาที่ม่อนผาหลวง"
แม้ว่าเจ้าแม่จะท้วงติงขอร้องให้อยู่ให้แม่ชื่นใจอีกหน่อย เจ้าขวัญฟ้าอ้อนว่าอยู่ให้ชื่นใจมาพอแล้วจะขอไปชื่นใจเองบ้าง เจ้าแม่จึงหันไปบอกเจ้าพ่อห้ามอนุญาตให้ลูกไป เจ้าพ่อนิ่งคิด...
ฝ่ายสีโบเมื่อรู้แน่ชัดว่าอลิสารักกันอยู่กับเจ้าขวัญฟ้าก็แทบจะคลั่ง จนวันนี้แอบไปค้นจดหมายของเจ้าขวัญฟ้าในห้องอลิสา ยิ่งอ่านก็ยิ่งบาดใจ ไปนั่งร้องไห้ดึงทึ้งผมเผ้าจนรุงรัง คร่ำครวญราวกับเสียสติที่หลังตึก
โยธินมาเจอถามว่าเป็นอะไร สีโบตั้งสติตีหน้านิ่งบอกว่าไม่เป็นอะไรแค่ปวดหัวเท่านั้น ถามโยธินว่าจะไปไหน พอโยธินบอกว่าลุงเหมยเก็บมะเดื่อหว้าให้อานนท์ ตนเลยช่วยยกมาให้เพราะเห็นว่าหนัก สีโบรับอาสาเอาไปให้เอง แล้วเลียบเคียงถามว่าไปเชียงรัฐได้เจอเจ้าขวัญฟ้าไหม มีผู้หญิงห้อมล้อมมากมายหรือเปล่า
"ไม่เห็น ขอบใจนะที่ช่วย" โยธินตอบโดยไม่เฉลียวใจแล้วเดินกลับไป สีโบมองอย่างขัดใจที่ไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลย
ooooooo
เด็กซนอย่างอานนท์เมื่อถูกกักบริเวณย่อมทุกข์ทรมานใจมาก วันนี้ออกมาชะเง้อมองไปข้างนอกแล้วอดใจไม่ได้ค่อยๆก้าวออกไป ก้าวแรกเท้ายังไม่ทันเตะพื้นก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเสียงอติศักดิ์กระแอมขึ้นอานนท์ชักเท้ากลับทันที หันมองหน้าอติศักดิ์ยิ้มเจื่อนๆ แก้ตัวไม่เต็มปากเต็มคำว่า
"ผมไม่ได้คิดจะออกข้างนอกนะครับ แค่มาดูรังนกบนต้นไม้โน่น แค่อยากดูนิดเดียวเอง"
"ถึงแกก้าวเท้าออกไปจากตึกแค่ก้าวเดียวก็ถือว่าทำผิดแล้ว เป็นลูกผู้ชายต้องรักษาคำพูด"
อานนท์ขอโทษและจะกลับเข้าห้อง อติศักดิ์แนะว่า ถ้าว่างมากก็น่าจะทำตัวให้เป็นประโยชน์
"ทำอะไรล่ะครับ" อานนท์ถามซื่อๆใสๆเพราะเคยแต่เล่นซน
"งานในบ้านมีตั้งเยอะแยะก็เลือกสักอย่างสิ มีอะไรช่วยคุณพี่อลิสาได้แกก็ควรจะช่วย หัดรับผิดชอบเรื่องเล็กๆก่อนแล้วอีกหน่อยแกจะได้รับผิดชอบเรื่องใหญ่ๆได้"
"ผมเข้าใจแล้วครับ" อานนท์บอกหงอยๆแล้วเดินจ๋อยๆเข้าไป อติศักดิ์มองตามอย่างเอ็นดู
พอกลับเข้าห้อง อานนท์ก็ถามตัวเองทำท่าคิดหนักว่า
"ทำตัวให้เป็นประโยชน์ รับผิดชอบเรื่องในบ้าน"
คิดแล้วอานนท์วิ่งไปคุ้ยของในตู้ หยิบถุงผ้าที่ใส่เศษจานรางวัลที่ตนทำแตกออกมา เอาเศษกระเบื้องมาเรียงๆแล้วพยักหน้าอย่างมั่นใจว่าทำได้แน่
ooooooo
เพราะสั่งให้สีโบเอาดอกปรูมาให้ได้แล้วอลิสาจัดดอกปรูใส่แจกัน พลันเธอสะดุ้งอุทานอย่างเจ็บปวด อติศักดิ์ถามอย่างเป็นห่วงว่าเป็นอะไร
"ผึ้งต่อยที่นิ้วค่ะ" บอกพลางยกนิ้วให้ดู อติศักดิ์รีบมาเอาเหล็กไนออกให้ ครั้นรีดเหล็กไนออกได้แล้ว อติศักดิ์บอกให้รอเดี๋ยวจะไปเอาน้ำแข็งมาประคบให้ อลิสาพึมพำ "ทำไมน้องถึงโชคร้ายจริงๆ"
"โชคร้ายอาจจะกลายเป็นโชคดีก็ได้นะน้องหญิง เขาว่ากันว่าผึ้งต่อยที่นิ้วนางมือซ้ายจะเป็นลางดี" พอน้องสาวถามว่าจะเป็นลางดีอย่างไร พี่ชายอธิบายยิ้มๆ "เป็นลางว่าน้องจะได้เจอเนื้อคู่ นิ้วนางนี่ไว้ใส่แหวนหมั้นไม่ใช่เหรอ งั้นน้องก็จะได้คู่หมั้นเร็วๆนี้แหละ"
อลิสายิ้มเขิน อ้อนพี่ชายว่า "พี่ชายล้อน้องเล่นหรือคะ น้องเจ็บจะตายอยู่แล้วยังจะมาพูดเล่นกับน้องอีก"
"ก็ไม่แน่นะ เจ้าขวัญฟ้าอาจกำลังเตรียมหาแหวนหมั้นอยู่ก็ได้"
"พอเถอะ" อลิสายิ้มเขินๆ ก้มหน้าหลบสายตาพี่ชาย
ooooooo
คิดได้ว่าจะทำตัวให้เป็นประโยชน์อย่างไรแล้ว อานนท์ ให้หนานมีไปตามโยธินมาหาตนที่ตึก ชั่วอึดใจเดียวโยธินก็มาถึง อานนท์ดีใจมากชมว่ามาได้รวดเร็วทันใจจริงๆ แล้วชวนเข้าข้างในกัน
"ผมเข้าไปไม่ได้หรอกครับ ถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบ้าน" โยธินจำขึ้นใจ
อานนท์บอกว่าตนก็เป็นเจ้าของบ้านเหมือนกัน ชวนรีบเข้ามาเถอะ โยธินขอให้ไปเรียนให้คุณพี่ของอานนท์ทราบก่อน แต่อานนท์บอกว่ามีอะไรตนรับผิดชอบเองแล้วดึงโยธินเข้าบ้านไปเลย
พาโยธินเข้าไปในห้องนอน แล้วเอาเศษกระเบื้องจานรางวัลมาให้ดูถามว่าซ่อมได้ไหม โยธินมองๆแล้วบอกว่าน่าจะได้ อานนท์พูดอย่างดีใจว่า
"ผมรู้อยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่คุณโยธินทำไม่ได้ ต้องทำยังไงครับ ต้องใช้เครื่องมืออะไรบ้าง"
โยธินพิจารณาแล้วบอกว่าต้องใช้ปูนขาว ถามว่าที่นี่มีหรือเปล่า อานนท์คิดครู่เดียว บอกว่าตนรู้แล้วว่าต้องไปหาที่ไหน ไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือเปล่า แต่ก็น่าจะใช่ บอกโยธินให้ไปกับตนหน่อยแล้วดึงเขาไปเลย
ไปถึงห้องหนึ่ง อานนท์ลากเขาเข้าไป โยธินมองรอบๆเห็นว่าเป็นห้องผู้หญิงถามว่านี่เป็นห้องใคร
"ห้องคุณพี่อลิสาครับ คุณพี่ชอบประดิษฐ์โน่นประดิษฐ์นี่ ต้องมีปูนขาวแน่ๆ ผมเข้าไปหาในห้องข้างในดูก่อนนะครับ เดี๋ยวผมเอามาให้ดูว่าใช่ปูนขาวหรือเปล่า รอเดี๋ยวนะครับ" ว่าแล้ววิ่งปรู๊ดเข้าไปอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องส่วนตัวด้านใน
โยธินมองสำรวจภายในห้อง เห็นมุมความเป็นผู้หญิงทั้งผ้าคลุมโต๊ะเป็นผ้าถักลูกไม้ ตะกร้าไหมพรม ตุ๊กตาแก้วเจียระไนและแจกันดอกเอื้องคำ เขาเดินไปหยุดมองดอกเอื้องคำในแจกัน
ทันใดนั้น อลิสาเดินสะบัดนิ้วที่ถูกผึ้งต่อยเข้ามา โยธินขยับตัวเธอหันขวับถาม
"ใครน่ะ...นี่นาย!"
อลิสาตกใจแกว่งมือปัดแจกันตุ๊กตาแก้วที่อยู่บนโต๊ะ ล้มลง กลิ้งทำท่าจะร่วงลงพื้น โยธินก้าวยาวๆเข้าไปคว้าตุ๊กตาแก้วทัน พร้อมๆกับที่อลิสาก็คว้าไว้ มือกับมือเลยทาบกันโดยไม่ตั้งใจ อลิสารีบดึงมือออก ทำเสียงเข้ม
"นายโยธิน...นาย!"
"ผมไม่ได้ตั้งใจจะจับมือคุณหญิงนะครับ ผมแค่อยากจะช่วย"
"นายเข้ามาห้องฉันได้ยังไง คนอะไรไม่มีมารยาท นี่มันห้องส่วนตัวของฉัน นายไม่มีสิทธิ์เข้ามา ที่จริงนายไม่มีสิทธิ์จะเข้ามาในตึกนี้ด้วยซ้ำ ที่นายบุกรุกเข้ามานี่ต้องการอะไร แอบ เข้ามาขโมยอะไรล่ะสิ หรือแอบเข้ามาทำลายข้าวของของฉัน" อลิสาว่าเป็นชุดกล่าวหายาวเหยียด
"คุณหญิงเห็นผมเป็นอะไร ผมไม่คิดทำอะไรอย่างนั้นแน่ ถ้าจะทำ มีอย่างอื่นน่าทำมากกว่า" คำพูดกำกวมทำให้อลิสาตกใจถามว่าหมายความว่าอะไร อย่างอื่นคืออะไร โยธินตอบเยือกเย็นยียวนว่า
"อะไรที่ไม่ใช่แค่ขโมยหรือทำลายข้าวของ อะไรที่ทำให้คุณหญิงเจ็บแสบมากกว่านั้น อะไรที่สูญเสียไปแล้วเอาคืนไม่ได้ หรืออะไรที่คุณหญิงขอตายเสียดีกว่าจะยอมเสียให้ผม"
อลิสาระแวง จับคอเสื้อถอยกรูดกวาดตามองหาอาวุธ ถามกลัวๆ "นายกล้าเหรอ"
โยธินขยับเข้าหาช้าๆ ไม่มีทีท่าคุกคาม แต่อลิสากลัวจนคว้ามีดเปิดซองจดหมายมากำไว้
ทันใดนั้น อานนท์วิ่งหน้าเริ่ดเข้ามาถามเสียงใส พลางชูของในมือให้ดู
"นี่ใช่ปูนขาวหรือเปล่าครับคุณโยธิน"
พอเห็นอลิสายืนอยู่ อานนท์แข็งทื่อค้างอยู่อย่างนั้นราวกับถูกสาป
ooooooo

จบตอนที่ 6
เครดิต ไทยรัฐ


Create Date : 22 มกราคม 2553
Last Update : 22 มกราคม 2553 17:24:07 น. 2 comments
Counter : 177 Pageviews.

 
ขอบคุณค่ะ สนุกมากกก


โดย: Nicky IP: 119.31.126.141 วันที่: 22 มกราคม 2553 เวลา:20:21:27 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 20 มีนาคม 2553 เวลา:1:56:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Heavenworth
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมค่ะ
[Add Heavenworth's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com