1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31
เที่ยวเซี่ยงไฮ้เกาหลีตอนที่ 1_เซี่ยงไฮ้
ช่วงนี้ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต โปรเจกกำลังจะปิดเร็วเร็วนี้ อาทิตย์หน้าก็โล่งงงงงงแล้ว นับวันรอเพราะไม่มีเวลาไปช๊อปเลยช่วงนี้ เลิกงานมาก็อยากจะกิน กิน กิน นอน นอน นอน ไม่อยากออกไปไหนเลย ที่เกริ่นมาทั้งหมดก็ อยากจะบอกว่าไม่มีเวลาเข้ามาที่บล๊อกเลยค่ะ ทริปนี้ไปเที่ยวกลับมาจะครึ่งเดือนละพึ่งทำรูปเสร็จ และมีอีกหลายหลายอย่างที่อยากจะเอาลงบล๊อกแต่ไม่มีเวลาเลย เรากะเชนได้ไปร่วมงานแต่งงานเพื่อนกับเที่ยวที่เซี่ยงไฮ้สี่วันกับไปทำงานที่เกากลีต่ออีกสามวัน รูปถ่ายเยอะมาก เอามาลงไม่หมด ขอเอามาลงแค่บางส่วนนะค่ะ เราออกจากบ้านไปเที่ยวบินบ่ายโมงไปถึงเซี่ยงไฮ้ก็ บ่ายบ่ายของอีกวัน รู้สึกตื่นตาตื่นใจดีค่ะ ตึกราบ้านช่องเค้าสร้างสวยดูทันสมัยดี เป็นครั้งแรกที่มีดอกาศได้ไปเที่ยวที่นี่ค่ะ เราพักที่ Grand Hyatt Shanghai ซึ่งอยู่บนตึก Jin Mao Tower: นับจากชั้น 54 ไปจนถึงชั้น 88 จากชั้น 54 ลงมาเค้าใช้เป็นส่วนของออฟฟิสค่ะ Jin Mao Tower เป็นตึกระฟ้าที่สูงเป็นอันดับที่สองในประเทศจีนรองจากอาคารเซี่ยงไฮ้เวิลด์ไฟแนนเชียลเซนเตอร์ ที่เพิ่งสร้างเสร็จในวันที่ 14 กันยายน 2551 และยึดตำแหน่งอาคารที่สูงที่สุดในประเทศจีนแทนในขณะเดียวกันก็ยังมีความสูงเป็นอันดับที่ 5 ของโลกจากความสูงหลังคา และอันดับที่ 7 ของโลกเมื่อวัดรวมถึงยอดสูงสุด โดยมีความสูง 421 เมตรหรือ 1,380 ฟุต และมีทั้งหมด 88 ชั้น พื้นที่รวมกว่า 278,707 ตารางเมตร โดยใช้เป็นสำนักงานและโรงแรมเซี่ยงไฮ้แกรนด์ไฮแอท ตั้งอยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ภาพของตึกที่เราพัก เค้ากำลังจะสร้างอีกตึกข้างข้างตึก Finanvial Center กับ Jin Mao Tower รู้สึกว่าจะสร้างออกมาสองกว่าสองตึกนี้ซะด้วย ห้องน้ำสวยมากเราพักชั้นที่ 80 ค่ะ ห้องอาบน้ำ อีกภาพ ทางเดินจากประตูมาที่ห้องนอน มีตู้เสือผ้าใบใหญ่เปิดได้สองด้านจากข้างในห้องน้ำกะตรงทางเดินเข้ามา โต๊ะเครื่องแป้งกะมุมชงกาแฟ ของว่าง ปกติไปพักที่ไหนจะแย่งพื้นที่ตรงอ่างล้างหน้ากะเชนตลอด ชอบที่นี่เราอาบน้ำเสร็จก็มานั่งแต่งตัวข้างนอกไม่ต้องแย่งกันแต่งตัวในห้องน้ำ ห้องนอน พอดีถ่ายรูปตอนที่ห้องรกไปหน่อยค่ะ เดินออกมานอกห้อง นอกห้อง ลิฟท์ น่ารักดี ห้องที่เราพัก มองลงไปจากชั้น แปดสิบที่เราพักสวยแปลกตาดีค่ะ ข้างล่างเป็นล๊อปบี้ที่ชั้น 54 ถ้ามองลงไปทะลุถึงชั้นหนึ่งได้คงหัวใจวายตายแน่แน่เลย วิวจากห้องเรา วันต่อมาหลังก็ไปงานแต่งเพื่อนเชน เจ้าสาวเป็นคนจีนแต่เรียนและทำงานที่ญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ครอบครัวย้ายมาอยู่ที่นี่แล้ว ทำงานบริษัทเดียวกันกะเชนแต่สาขาที่ญี่ปุ่น เจ้าบ่าวก็ทำงานบริษัทเดียวกันเป็นเพื่อนสนิทกับเชนกันมานาน รูปเราเอามาลงเยอะไม่ได้นะค่ะ ถ่ายภาพเยอะมาก พิธีก็ไม่ได้เยอะมากเท่าไหร่ เอาแบบรวบรัดตัดตอน ก็มีให้เพื่อนเพื่อนเจ้าสาวมาเป็นอุปสรรคในการที่จะให้เจ้าบ่าวเข้าหาเจ้าสาว บ้านเราก็คงกั้นประตูเงินประตูทองมั๊ง ที่งานเพื่อนเจ้าสาวบอกให้เจ้าบ่าววิดพื้น ร้อยครั้ง ร้องเพลง พูดภาษาจีนให้ได้ แล้วก็บังคับให้ทำอะไรอีกหลายหลายอย่างสนุกดี จากนั้นก็มีทานของหวานตามประเพณีระหว่างเจ้าบ่าวเจ้าสาว แล้วก็ออกไปทานกลางวันกันที่ร้านอาหารจีน กับแขกที่มาร่วมงาน ตอนเย็นก็มีงานแต่งที่โรงแรม ประเพณีจีนเจ้าสาวเปลืองชุดมาก มีชุดแต่งงงานถึงสี่ชุดแหนะ บ้านเราสองชุด ไปรวมตัวกันก่อนไปบ้านเจ้าสาว ถึงบ้านเจ้าสาวแล้วเป็นแบบทาวเฮาท์สามชั้น เค้าจัดข้างในสวยมาก ชอบสีหวานหวาน อ้อ อีกอย่างงานแต่งที่นี่จุดประทัดด้วย นึกว่าเป็นปีใหม่จีนซะแล้ว ควันโขมงเลย จุดเสร็จแล้ว ลีโมใหญ่ดีจัง เชนกับเพื่อนสนิทเค้ากับแฟนสาวคนไทยเหมือนกัน เจ้าบ่าวเจ้าสาว เอามาลงได้แค่นี้ค่ะ เสร็จแล้วไปทานอาหารกัน ร้านอาหารไม่ไกลจากบ้านมากนัก อาหารก็เป็นแบบโต๊ะจีน ร้านนี้อาหารใช้ได้ ภาพงานตอนเย็นเอามาลงได้แค่นี้ค่ะ เพื่อซี๊สามหนุ่มสามมุม เชนกะสีชมพูเข้ากันดีจัง ภาพหลังงานเลิก แขกกลับกันจะหมดแล้วเหลือแต่พวกเรา ที่นี่แปลกมาแขกยังออกไม่หมดพนักงานมารื้อของแล้ว ดอกไม้รื้อออกหมดเลย น่าจะรอให้แขกกลับก่อน วันต่อมาก็ไปเดินถ่ายรูปเล่นเล่นบริเวณไม่ไกลจากที่พักมากนัก ศาลพระภูมิตรงหน้าห้างที่คนไทยเป็นเจ้าของ เตรียมไปนวดอโรม่าของโรงแรมค่ะ แต่สู้เมืองไทยไม่ได้เลย แต่ข้างในคลับสปาเค้าสวย อลังการณ์ดี มีสะว่ายน้ำ ภายในสปา แยกหญิงชาย จากุซซี่หรูก็หรูดี แต่เราไม่ได้เข้าไปใช้เพราะรีบ นวดเสร๊จอาบน้ำแต่งคัวออกไปเดินเล่นถ่ายรูปต่อ เสียดายมากมาย นี่เป็นด้านหน้าตึก Jin Mao ที่เราพัก บริเวณตึกสถานีวิทยุโทรทัศน์ของที่นี่ ที่เห็นเป็นตึกลูกกลมกลมนั่นเลยค่ะ เรียกว่าหอไข่มุก หอไข่มุกตะวันออก ตั้งอยู่ในย่านผู่ตงหรือเขตเมืองใหม่ของนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ทางตะวันออกของแม่น้ำหวงผู่ ซึ่งเต็มไปด้วยตึกระฟ้า หอไข่มุกตะวันออกเป็นหอส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์สูง 468 เมตร ลักษณะเป็นไข่มุก 11 ลูก และ เสา 3 เสา ด้านบนเป็นรูปไข่มุก 3 เม็ด 3 ขนาดเรียงกันในแนวตั้ง ที่นี่เป็นที่ทำการของสถานีโทรทัศน์ 9 แห่ง และสถานีวิทยุ 10 แห่ง ภายในหอกลมทำเป็นภัตตาคาร โรงแรมหรูขนาด 25 ห้อง และร้านค้า ด้านใต้ตรงฐานของหอจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์เมืองเซี่ยงไฮ้เมืองจำลองโลกอนาคต และเมืองวิทยาศาสตร์แฟนตาซี ช่องกลางของหอไข่มุกตะวันออกเป็นเสาปล่องกลวง ใช้แขวนลิฟท์ความเร็วสูง 6 ตัว ที่มีความเร็ว 7 เมตร/วินาที เพื่อขึ้นไปที่จุดชมวิว ในระดับความสูง 267 เมตร ส่วนในเวลากลางคืนนั้น หอกลมจะเปิดไฟที่สามารถเปลี่ยนสีไปได้เรื่อยๆ บนไข่มุกเม็ดที่สองจะสามารถมองลงมาข้างล่างได้เนื่องจากทำพื่นเป็นกระจก หอไข่มุกตะวันออก เป็นหอคอยที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากหอกว่างโจวทีวีแอนด์ไซท์ซีอิง ในกว่างโจวความสูง 610 เมตร หอคอยซีเอ็น เมืองโตรอนโต ของแคนาดา ที่สูง 554.3 เมตร และหอออสตันคิโน กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ที่มีความสูง 540.1 เมตร ในบริเวณใกล้เคียงกันยังเป็นที่ตั้งของอาคารจินเหมาทาวเวอร์ (สูง 421 ม.) และอาคารเซี่ยงไฮ้เวิลด์ไฟแนนเชียลเซ็นเตอร์ (สูง 492 ม.) ปัจจุบันนับได้ว่าเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองเซี่ยงไฮ้ ที่นอกจากจะใช้ในด้านการสื่อสารแล้ว ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองอีกด้วย ตึกไฟแนนเชียลตอนกลางคืน ตึก ไฟแนนเชียลกะ Jin Mao ตอนกลางคืน สวยมากมาย ตึกสถานีวิทยุโทรทัศน์ตอนกลางคืน ต่อมาไปเดินเล่นที่บริเวณ Yuyuan Garden ขอแปะเป็นภาษาอังกฤษก่อนนะค่ะ เดี๋ยวจะลองแปล (ถ้ามีเวลา) The garden was first established in 1559 as a private garden created by Pan Yunduan, who spent almost 20 years building a garden to please his father Pan En, a high-ranking official in the Ming Dynasty, during his father's old age. Over the years, the gardens fell into disrepair until about 1760 when bought by merchants, then suffered extensive damage in the 19th century. In 1842, during the Opium Wars, the British army occupied the Town God Temple for five days. During the Taiping Rebellion the gardens were occupied by imperial troops, and damaged again by the Japanese in 1942. They were repaired by the Shanghai government from 1956-1961, opened to the public in 1961, and declared a national monument in 1982. ที่นี่จะมีของที่ระลึกขายเป็นจำนวนมาก เราไม่ได้เข้าไปในส่วนของสวน เราเดินเล่นตาม พลาซ่า หาซื้อเสื้อคลุมไหมของจีนแต่แพงเกินเลยไม่ซื้ออะไรเลย ต่อมาไปเดินเล่นกันต่อที่ The Bund ใครมาเซี่ยงไฮ้แล้วไม่ได้มาเดินที่นี่เท่ากับว่ามาไม่ถึงค่ะ The Bund หรือหาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ ในตำนาน มาตอนกลางคืนแสงสีสวยงามตระการตา บวกกับอากาศกำลังเย็นสบาย น่าเดินเล่น The Bund เครดิต: //www.marketeer.co.th/inside_detail.php?inside_id=1490 The Bund (The Bund เป็นภาษาเยอรมันหมายถึงจุดนัดพบ) หรือที่ชาวจีนเรียกกันว่า Waitan (ไว่ทัน) คือพื้นที่ที่อยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ Huangpu ที่มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ในอดีตบริเวณนี้เป็นท่าเรือที่จีนใช้ติดต่อค้าขายกับต่างชาติ แต่ปัจจุบันบริเวณนี้กลายเป็นจุดชมวิวที่สำคัญที่สุดของนครเซี่ยงไฮ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชมความงามของฝั่ง Putong ในยามค่ำคืน โดยสิ่งก่อสร้างที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ตึกสูงรูปทรงต่าง ๆ เมื่อมองจากบริเวณนี้เห็นจะไม่มีใครเกิน The Oriental Pearl TV Tower ที่อยู่บริเวณ Lujaizui นอกจากนี้ยังมีป้ายโฆษณานับร้อยที่เปิดไฟประกวดประชันกันมากมาย ว่ากันว่าหากมองไปแล้วไม่เห็นป้ายไฟโฆษณาสินค้าใด ก็แสดงว่าสินค้ายี่ห้อนั้นทำท่าว่าจะดังยากในเซี่ยงไฮ้ หากใครที่ต้องการจะชมทิวทัศน์และสภาพความเป็นอยู่ที่หลากหลายของชาวเซี่ยงไฮ้บริเวณสองฝั่งแม่น้ำ Huangpu แบบ ชัด ๆ ก็สามารถใช้บริการเรือ ซึ่งมีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่แล่นล่องไปตลอดแนวชายฝั่งได้ในสนนราคาที่ ไม่สูงนัก ทิวทัศน์ที่น่าสนใจบริเวณนี้ก็คือเหล่าตึกที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปในยุค ศตวรรษที่ 19 ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "An International Exhibition of Architecture" หรือนิทรรศการแสดงสถาปัตยกรรมนานาชาติ แต่ ถ้าล่องเรือในเวลาเช้า จะได้เห็นชาวจีนมาออกกำลังกายกันริมฝั่งแม่น้ำ ทั้งรำพัด รำไทชี ส่วนในเวลากลางวัน ก็จะเห็นผู้คนจำนวนมากมายสัญจรอยู่บนท้องถนน เพราะแถวนี้ถือว่าเป็นย่านธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่ง ส่วนในเวลาเย็นก็จะมีคู่รักมานั่งชมพระอาทิตย์ตกอันสุดแสนโรแมนติก นอกจากนั้นยังมีครอบครัวชาวจีนพาลูกหลานมาเดินเล่นรับลม ชมวิว ส่วนใหญ่แล้วชาวเซี่ยงไฮ้จะใช้สถานที่นี้เป็นที่พบปะเพื่อนฝูง ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ The Bund ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ที่หากไม่ได้มาเยี่ยมเยียนก็ถือว่ามาไม่ถึงเซี่ยงไฮ้ สำหรับคนที่ต้องการจะข้ามไป Pudong ก็สามารถเดินไปตามอุโมงค์ที่มีความยาว 646.7 เมตรได้ โดยอุโมงค์แห่งนี้เชื่อมระหว่าง The Bund และ The Oriental Pearl TV Tower ซึ่งเปิดใช้มาตั้งแต่ปี 2000 ผู้ที่สัญจรผ่านอุโมงค์นี้จะได้ชมทัศนียภาพใต้น้ำด้วย ถนนที่อยู่ด้านหลังของ The Bund ซึ่งชื่อว่าถนน Zhongshan ถือว่าเป็นถนนสำคัญอีกเส้นหนึ่ง เพราะเป็นที่ตั้งของตึกสำนักงาน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ และที่ทำการธนาคารสำคัญ ๆ รวมไปถึงตึกของธนาคารกรุงเทพ อันเป็นที่ตั้งของสถานกงศุลไทยในนครเซี่ยงไฮ้ด้วย ตึกต่าง ๆ ที่อยู่บริเวณนี้ล้วนมีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรม อาทิ ตึกที่ทำการเก่าของ HSBC Bank ซึ่งเคยถูกใช้เป็นที่ทำการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ในเซี่ยงไฮ้ ในช่วงหลังปี 1949 แต่ปัจจุบัน HSCH Bank ได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปอยู่ในเขต Pudong แล้ว นอกจากนั้นยังมีตึกทำการของ Bank of China และโรงแรมที่มีชื่อเสียงอย่าง Peace Hotel ซึ่งเคยเป็นที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง เจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ บริเวณ The Bund ยัง มีชาวจีนมาประกอบธุรกิจหลายอย่าง ทั้งขายเครื่องดื่มหลายชนิด และไม่แปลกเลยหากจะมีวัยรุ่นเดินเข้ามาหาหากเขาคาดเดาว่าคุณน่าจะเป็นนัก ท่องเที่ยวต่างชาติ (แต่กลับไม่มีใครเดินมาหาผู้เขียน เพราะมีใบหน้าละม้ายคนเซี่ยงไฮ้ตามคำบอกเล่าของชาวจีนท้องถิ่น) คนเหล่านั้นจะเข้ามาถามว่า “คุณจะรังเกียจไหมหากจะขอฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วย หรือไม่ก็จะถามว่า Where are you from?, Is this the first time you visit Shanghai ? ก่อนที่จะสิ้นสุดด้วยคำถามเดิม ๆ ว่า Would you like to buy some postcard? อาหารมื้อสุดท้ายในเซี่ยงไฮ้เพื่อเตรียมความพร้อมไปเที่ยวแดนกิมจิ เดี๋ยวมาอัพทริปเกาหลีต่อวันหลังนะค่ะ รูปเยอะไปขออภัยด้วยนะค่ะ <
Create Date : 08 ธันวาคม 2553
Last Update : 9 ธันวาคม 2553 13:59:33 น.
1 comments
Counter : 961 Pageviews.
โดย: Oathpp วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:11:48:37 น.
Location :
BAY AREA United States
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [? ]
*-* ชื่อจอยค่ะ ยินดีต้อนรับเพื่อนเพื่อน พี่ ป้า น้า อา ทุกท่าน บล๊อกนี้นำเที่ยว เป็นหลักค่ะ เพราะชีพจรชอบลงเท้าเป็นประจำ ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ Hi, I'm jOy, I'm just typical thai woman. I've been living in the US since 2007 and hope you all enjoy reading and travelling with me through my blog..
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.๒๕๓๗ ห้ามผู้ใดละเมิดลิขสิทธิ์โดยการนำรูปภาพ บทความงานเขียน รวมทั้งข้อความต่างๆ ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดในบล็อกนี้ไปใช้โดยมิได้รับอนุญาติเป็นลาย ลักษณ์อักษรจากเจ้าของบล็อก มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Please do not change this code for a perfect fonctionality of your counter
weblogs
>