London

 จริง ๆ ไปเที่ยวกลับมาเกือบเดือนแล้วล่ะ
แต่ยังไม่มีเวลามาเขียนบล๊อกซะที เหอ เหอ เหอ
วันนี้จะพยายามมานั่งเรียบเรียงเรื่องราวไปทีละนิดทีละหน่อย
ก่อนที่มันจะค่อย ๆ ลืมเลือนไปซะก่อนดีกว่า

2 September 2013
ทริปนี้จะเรียกว่าเป็น "ทริปแบ๊กแพ๊ค" ครั้งแรกตั้งแต่แต่งงานก็ว่าได้นะ
เพราะเราตกลงกับคุณเพื่อนสาวผู้ร่วมทริปว่า...เราจะไปค้างหนึ่งคืน
ก็ขออนุญาตสามีกันให้เรียบร้อย เพราะทริปนี้จะเป็นทริป
เฉพาะ "สาว ๆ " เท่านั้น อิ อิ อิ
Smiley


จริง ๆ แล้วจากเมืองอ๊อกฟอร์ดที่เราอยู่ไปลอนดอน
ก็ไม่ได้ไกลซักเท่าไหร่...นั่งรถ Coach ก็ประมาณแค่ชั่วโมงกว่า ๆ เอง
ไอ้เราก็มาอยู่อังกฤษเป็นปี ๆ ละ ก็ยังไม่เคยได้ไปเหยียบซะที
เพราะคุณสามีเกลียดลอนดอนเข้าไส้ ใ้ห้ตายก็ไม่ยอมพาไปหรอก
โชคดีที่เื่พื่อนสาวของพี่ปูมาเยี่ยมจากเมืองไทย
เค้าชวนกันไป เราก็เลยไม่ยอมพลาด
Smiley

ทริปนี้เราตกลงกันว่าเราจะนั่งรถ Coach ไปกันทั้งที่ใจอยากนั่งรถไฟ
(เพราะติดใจรถไฟ First Class จากทริปเที่ยวบาธเมื่อเดือนก่อน)
แต่ตั๋วรถไฟไปลอนดอนค่อนข้างแพง ถ้าเทียบกับรถ Coach
สรุปพวกเราก็เลยตกลงเลือกนั่งรถ Coach กัน
โดยพี่ปูเป็นคนรับหน้าที่จองตั๋วล่วงหน้าเกือบสองอาทิตย์

จริง ๆ เราดูตั๋วของบริษัท Oxford Tube ไว้แล้ว
ราคาตั๋วไป-กลับ ก็อยู่ที่ 17 ปอนด์ต่อคน
แต่ถ้าจองสามคนรวมกันแล้วก็ได้ในราคาพิเศษแค่ 35 ปอนด์
ก็ถือว่าไม่เลวทีเดียว
แต่...คุณพี่ปูจอมหวังดี (หรือ "งก" ก็ไม่รู้)
ไปเจอเว็บไซด์จองตั๋ว ที่ราคาถูกกว่าเท่าตัว พี่ปูก็เลยตาโต
รีบตะครุบจองไปโดยที่ไม่ได้ดูให้ถี่ถ้วนก่อนว่า
มันเป็นตั๋วแบบ "ระบุเวลาไป-กลับ"
ซึ่งก็หมายความว่า พวกเราต้องไปและกลับตามเวลาที่ระบุไว้เท่านั้น
คุณนายแกจองไปแล้วมาบอกเราทีหลัง ก็ทำเอาเราเซ็งไปเหมือนกันอ่ะ
เพราะจริง ๆ เราไม่ค่อยอยากให้ fix เวลา เพราะรถมันมีตลอด
ทุก ๆ สิบถึงสิบห้านาที ถ้าเราไม่ fix เวลา เราจะกลับตอนไหนก็ได้
ไม่ต้องมานั่งกังวลว่าจะเที่ยวเพลินจนไม่ทันรถน่ะ

แล้วปัญหามันก็มีจริง ๆ ด้วยอ่ะ
เพราะพอถึงวันเดินทาง...พวกเราไปถึงที่สถานีรถ Coach ในเมืองอ๊อกฟอร์ด
ก่อนเวลารถออกเกือบชั่วโมง...ไปถึงก็โชว์ตั๋วให้เจ้าหน้าที่ดู
เค้าก็ชี้ให้ดูว่าต้องขึ้นช่องไหน เวลารถออกคือ 8.50 น.
พวกเราก็เลยนั่งกินข้าวกล่องที่พี่ปูทำมาให้ รออยู่แถว ๆ นั้น
พอได้เวลารถออกเราก็มายื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่คนเดิม

แต่แทนที่มันจะให้พวกเราขึ้นรถ...มันกลับบอกพวกเราว่า "พวกเธอมาสาย" !!
เราก็นึกว่ามันล้อเราเล่น เพราะรถก็ยังจอดอยู่ ยังไม่ขยับไปไหนเลย
แต่มันกลับบอกพวกเราอีกว่า ให้พวกเราไปเรียกแท๊กซี่
แล้วให้ไปขึ้นที่สถานีข้างหน้าถัดไป...ซึ่งพวกเราก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน
เราพยายามจะค้าน.. เพราะจริง ๆ แค่มันบอกให้คนขับเปิดประตู
พวกเราก็ขึ้นไปนั่งบนรถได้แล้วอ่ะ
Smiley

เราไม่มีเวลาจะมานั่งเถียงมัน เพราะรถก็เริ่มถอยออกจากสถานีแล้ว
ก็เลยตัดสินใจวิ่งออกมาข้างนอก ก็เจอรถแท๊กซี่อยู่คันนึงพอดี
ก็เรียกให้ไปส่งที่สถานีที่ไอ้เจ้าหน้าที่เฮ็งซวยนั่นบอก
จากสถานี Gloucester Green ไปถึงสถานี Thornhill park&ride
ก็ใช้เวลาสิบกว่านาที พวกเราก็ลุ้นกันแทบตายกลัวจะมาไม่ทันอีก
ไม่งั้นก็คงต้องเสียเงินซื้อตั๋วใหม่กันแน่ ๆ
แถมไอ้ที่ต้องเสียชัวร์ ๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ก็คือ ค่าแท๊กซี่ 15 ปอนด์นี่อ่ะ
Smiley

สุดท้าย...พวกเราก็ได้ขึ้นมานั่งบนรถกันแบบหอบแห่ก ๆ จนได้
นึก ๆ แล้วก็โมโหอีตาเจ้าหน้าที่คนนั้นนัก แ...่..ง
จริง ๆ ถ้าซื้อตั๋วแบบไม่ fix เวลาก็ดีไปแล้ว ขึ้นคันนี้ไม่ทัน ก็รอไปคันหน้าได้
เฮ้อ...แต่ก็ช่างมันเถอะ ถือเป็นประสบการณ์ไปละกัน

_________________________________________________

กว่าจะถึงลอนดอนก็สิบโมงกว่าแล้ว (รถใช้เวลาวิ่งประมาณชั่วโมงกว่า)
เข้ามาจอดที่สถานี Victoria ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับโรงแรมที่พวกเราจองไว้
จากนั้นก็เดินดุ่ย ๆ โดยอาศัยแผนที่ที่เป็นป้ายแบบนี้นำทางไป



สรุปว่ากว่าจะหาโรงแรมเจอก็เล่นเอาหอบแห่ก ๆ ไปเหมือนกัน
เพราะพวกเราเล่นเข้าซอยนู้น ออกซอยนี้กันให้มั่วไปหมด
ทั้งที่จริง ๆ แล้วเดินตรงมาตามถนน Belgrave จากสถานี Victoria
ใช้เวลาแค่ประมาณ 10 นาทีแค่นั้นเอง(ไม่ต้องเข้าซอยที่ไหนด้วย)
แต่คงเพราะตึกมันหน้าตาคล้าย ๆ กัน ก็เลยทำให้งง ๆ ไปหน่อย
ตึกละแวกนี้เกือบทั้งหมดเป็นโรงแรม เกสเฮ้าส์ติดกันเป็นพรึ่ด



นี่ไงถึงแล้ว โรงแรม Lidos Hotel



ก็จัดการเข้าไปเช็คอินท์เรียบร้อย พร้อมกับฝากกระเป๋าไว้ด้วย
เพราะกว่าจะเข้าห้องได้ก็บ่ายสองไปแล้วนู่นแน่ะ
ก่อนออกมาก็หยิบแผนที่จากเคาท์เตอร์มาถือเท่ห์ ๆ คนละแผ่น
แล้วก็เดินกลับมาตั้งต้นกันที่สถานี Victoria
เพราะพวกเราตกลงกันไว้ว่าเราจะตะลุยลอนดอนกันด้วยรถบัสนำเที่ยว
คันนี้เล้ยยยยยย



รถบัสสองชั้นนำเที่ยวในตัวเมืองลอนดอนแบบนี้มีให้เลือกสามสี่บริษัท
แต่ที่ดัง ๆ เป็นที่นิยมหน่อยก็คงจะเป็นอันนี้ล่ะ เจ้า Big Bus Tours
ราคาตั๋วก็อยู่ที่ 30 ปอนด์ รวมค่าเรือล่องแม่น้ำเทมส์ด้วย
ก็ถือว่าเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อย (แล้วก็สังขารเริ่มชราอย่างพวกเรา)
เพราะถ้าจะให้เดินขึ้นลง Tube พร้อมกับหาเส้นทางกันเอง
คงจะไม่ไหวแน่ ๆ เหอ เหอ เหอ

จ่ายเงินค่าตั๋วปุ๊บ ก็ได้แผนที่แบบนี้มาคนละหนึ่งอัน
ดูจากเส้นทางเดินรถคร่าว ๆ แล้ว วันนี้เราก็คงจะเที่ยวลอนดอนกันได้ทั่วล่ะ
ดีที่รถแบบนี้สามารถขึ้นลงวันละกี่รอบก็ได้ ภายใน 24 ชั่วโมงอ่ะ
ที่สำคัญคือมันสามารถพาเราไปเที่ยวชมสถานที่สำคัญ ๆ
ที่ถือเป็น Landmark ของที่นี่ได้ทั้งหมดเลยล่ะ
มีคนบรรยายให้ฟังตามทางด้วย หรือจะใส่หูฟังเลือกภาษาก็มีแปลไว้หลายภาษา
แต่พวกเราเลือก "ไม่ฟัง" 5555  เพราะมัวแต่เม้ามอยส์กันซะมากกว่า



ต้องบอกว่าวันที่ไปอากาศดีทีเดียว ท้องฟ้าแจ่มใสมาก ๆ
แต่ไม่รู้ว่าแจ่มมากไปรึเปล่า เพราะเล่นเอาผิวเกือบไหม้กันเลยทีเดียว
ถ่ายรูปออกมาสวยดี แต่ร้อนจนเหงื่อโชกไปหมด








จุดแรกที่เพวกเี่ราเลือกลง ก็คือ... Oxford Street
หรือถนนช๊อปปิ้งชื่อดังของลอนดอน ที่นักช๊อปตัวยงต้องมาเยือน
ส่วนพวกเราเป็นนักช๊อป(ของถูก) แต่อยากแวะมาดูยั่วน้ำลายเล่น ๆ เท่านั้นอ่ะ
Smiley

เดินดูพอให้กิเลสจับเล่น ๆ เพราะซื้ออะไรไม่ลง 555
แพงเหลือหลาย เพราะช่วงนี้ไม่ใช่ช่วง Sale อ่ะ

จากนั้นก็กระโดดขึ้นเจ้า Big Bus คันถัดไป
แล้วก็มาลงที่ Trafalgar Sqauare
ซึ่งจุดนี้ก็จะมีทั้ง National Gallery แล้วก็ Nelson's Column ด้วย







เสียดายนะที่ไม่ได้เข้าไปดูข้างใน
เพราะพวกเรามีเวลาจำกัด ก็เลยต้องรีบ ๆ ไปดูเฉพาะสถานที่ไฮไลท์จริง ๆ



ด้านนอก ก็มีคนแสดงเป็นหุ่นนิ่ง เพ้นท์ทั้งตัว
ให้คนไปถ่ายรูปด้วย (ก็เสียเงินตามแต่ศรัทธาจ้า)



แปลกดีนะ เหมือนลอยได้งั้นอ่ะ



หลังจากถ่ายรูปกันหนำใจแล้ว พวกเราก็ทำเวลาไปต่อกันที่
London Eye จริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะไปขึ้นหรอก
เพราะเห็นคิวคนเข้าแถวรอแล้ว ก็ถอดใจ บวกกับค่าขึ้นก็แพงซะ
เลยกะจะมาถ่ายรูปกันเฉย ๆ อ่ะ หุ หุ หุ

แต่ยังไม่ทันได้ถ่ายอะไร คุณเพื่อนเกิดหน้ามืดจะเป็นลมขึ้นมา
เพราะแดดที่แรงมาก ๆ แถมเดินกันมาครึ่งวันละ
ก็เลยพักเหนื่อยหาอะไรใส่ท้องกันก่อน ที่ Mcdonal ตรง London Eye นั่นล่ะ
พอออกมา ก็ไม่ได้ถ่ายอีก
เพราะมันค่อนข้างย้อนแสง รูปออกมามืด ๆ สรุปก็เลยตัดสินใจ
ไปจุดต่อไปก่อน แล้วค่อยย้อนกลับมาตรงนี้อีกที

ที่ถัดไปที่พวกเราเลือกไปลง ก็คือ Tower Bridge
เพราะกะว่าจะไปล่องเรือกลับมาลงที่ Parliament อีกที









สำหรับเรา...เราว่าสะพาน Tower Bridge ที่นี่สวยที่สุดในโลกเลยล่ะ
เสียดาย(อีกละ) ที่ไม่ได้ขึ้นไปชมข้างบน Tower นั่น
เพราะ...เสียตังค์ค่าเข้าน่ะสิ 5555

สถานที่สำคัญอีกที่นึง ที่อยู่ใกล้ ๆ กันก็คือ Tower of London
ซึ่งเคยเป็นทั้งวัง ป้อมปราการ คุกแล้วก็ลานประหารด้วยล่ะ
เค้าเล่าว่า" ผีดุ" มาก ๆ Smiley





ถ่ายรูปสวย ๆ เลิศ ๆ แล้วก็ไปต่อค่ะ
ไม่ได้เข้าไปชมด้านในอีกตามเคย เหอ เหอ เหอ
Smiley

จากนั้นก็ได้เวลาไปรอเข้าคิว เพื่อขึ้นเรือล่องแม่น้ำเทมส์กันค่ะ
ลำนี้เลย เปิดประทุนด้านบนด้วย ทำให้ถ่ายรูปสะดวก
เห็นวิวสองฝั่งริมแม่น้ำได้ถนัด ๆ




ระหว่างทางที่ล่องเรือมา ก็ไม่ค่อยมีตึกอะไรสวย ๆ ให้่ถ่ายรูป
จะบอกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเลยก็น่าจะถูก เหอ เหอ เหอ
มีแต่สะพานเล็ก สะพานน้อยที่เรือลอดผ่าน
นับได้ประมาณซัก 6 สะพานได้มั้ง แต่ละสะพานก็มีประวัติของเค้า
แต่เราไม่ได้ฟังอ่ะ 555 (กลับบ้านมาฟังสามีเล่าให้ฟังอีกที)
Smiley

ใช้เวลาล่องเรือประมาณไม่ถึงชั่วโมง
ก็กลับมาที่ Houses of Parliament กันอีกที
และจากจุดที่ลงเรือก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจ้า London Eye เลย
ก็เลยได้ถ่ายรูปมุมสวย ๆ แบบเต็ม ๆ







แดดเริ่มอ่อนลงหน่อย ก็เลยเดินถ่ายรูปกับ Big Ben
แล้วก็ตึก Houses of Parliament ได้แล้ว










 

Create Date : 24 กันยายน 2556
0 comments
Last Update : 10 ธันวาคม 2556 4:39:54 น.
Counter : 899 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Mrs S A Smiles
Location :
Oxford United Kingdom

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]





Group Blog
 
<<
กันยายน 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
24 กันยายน 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mrs S A Smiles's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.