เสือหมอบคันแรกในชีวิต RB Bianchi Via Nerone 7 Sora...
นานแล้ว แต่ยังจำความได้ สมัยเรียนประถม เคยแอบขมายเสือหมอบสีเงินของเพื่อนบ้านไปปั่นเล่นด้วยความคึกคะนอง แล้วงานก็เข้าจนได้ ตอนปั่นเข้าโค้ง ปรากฏว่าหลุดโค้ง รถเลยเสียบเข้าไปตรงช่องว่างระหว่างต้นไม้ใหญ่กับกำแพงรั้ว ผลก็คือ ล้อคด ตอนนั้นความกลัวพลุ่งพล่าน กลัวพ่อว่า กลัวเจ้าของรถจะเตะเอา แต่ไม่รู้จะทำยังไงก็เอารถไปแอบคืนเขา แล้วก็คอยเมียงมองว่า เจ้าของรถกลับมาแล้วจะว่ายังไง ก็ตามคาด เจ้าของรถโวยวายลั่นบ้าน เมื่อเห็นสภาพรถตัวเอง ผมก็เลยต้องเข้าไปทำตาปริบๆ รับสารภาพแต่โดยดี และรับซ่อมให้ โดยเอาไปร้านจักรยานหน้าปากซอยดัดล้อ รู้สึกจะเสียไป 20 บาท จนถึงวันนี้ ไม่เคยขี่เสือหมอบอีกเลย จนกระทั่ง.....
26 เม.ย.54 หลังจากทำการบ้านมาได้หลายวัน กิเลสก็พุ่งถึงขีดสุด เพราะราคาของเจ้า Bianchi มาลงมาถึงระดับที่พอเอื้อมถึง คือ ใจมันฝังแต่หมอบอยู่ 2 ยี่ห้อเท่านั้น 1. Peugeot ตอนนั้นโชว์รูมอยู่ถนนพหลโยธิน ชอบไปหยุดมองด้วยความหลงใหล และ 2. Bianchi เพราะสีเขียว อันเป็นสัญญลักษณ์โดดเด่น ฝังใจ
ร้านแสงทองตามเคย ไปลองคร่อม Bianchi Via Nerone 7 Shimono 2300 มีไซด์เดียว คือ 49 ก็พอไหว ราคาถูกสุด ได้สีตรงเสปคเลย กะจะถอยเจ้าตัวนี้แหละ แต่ตาดันไปเห็น เจ้าตัว Sora คือ รุ่นสูงขึ้นมาอีกหน่อย เพราะใช้ชุดเกียร์ Sora ของ Shimono ซึ่งตามตำราเขาว่า เป็นตัวล่างสุดแล้ว ก็เลยไปลองคร่อมดู ที่ไซด์ 50 ปรากฏว่า เข้าท่ากว่าเจ้าตัว 2300 มาก แรก ๆ ก็ สองจิตสองใจ เพราะไม่มีสีเขียว มีแต่สีดำ+ขาว แต่ด้วยราคาที่แพงกว่าเจ้าตัว 2300 ไม่กี่ตัง และยังได้รูปทรงโค้งที่ชอบ ดุมล้อ Novotec ก็เลยตัดสินใจ ถอยมาเดี๋ยวนั้น จ่ายไป 2 หมื่นเศษนิดหน่อย
เนื่องจากโอกาสไม่เอื้ออำนวย ไม่มีโอกาสลองเจ้าหมอบคันนี้เลย แต่วันต่อมาก็ตัดใจปล่อย MTB Trek 4300-09 เสือภูเขาคันแรก ที่รับใช้มา 2 ปีกับ 10 เดือนกว่า ในราคาที่โอเค เพราะมีมากเกินไป ดูแลแล้วเหนื่อย
ในที่สุดโอกาสก็มาถึง ตี 5 ของวันเสาร์ที่ 30 เม.ย.54 อากาศดี เริ่มเอาเจ้าเบียงคี่คันใหม่ไปลอง อ๊ะ เข้าท่าดีนี่ หน้าไวมาก ปุ๊ปปั๊ป ปุ๊ปปั๊ป พาลจะออกนอกถนนเอา แต่ก็ยังคงเอาอยู่ ลองการควบคุม ลองเบรค ลองเกียร์ ปั่นไปชั่วโมงกว่า ทุกอย่างดีเลิศ ไม่เมื่อยหลังไม่เมื่อยแขน ผิดกับตอนปั่น MTB โดยเฉพาะ GaryFisher Side 15.5 ตัวนั้น ชอบเมื่อยหลัง มือชา แต่สะบัด ๆ ก็หาย
สรุปผล การปั่นเจ้าหมอบคันแรกในชีวิตทีมีไว้ในครอบครอง ด้วยน้ำหนัก 9 กก.เศษนิดหน่อย (เบากว่าเจ้า Trek 4300/Gary Fisher Wahoo ร่วม 3 กก.) ทุกอย่างราบรื่น สนุกมาก หน้าไวแต่เอาอยู่ เบรคดีใช้ได้ แต่รำคาญตัวเบรคเสริม ที่เขาแถมมาให้อีกคู่นึง สำหรับมือใหม่หมอบ เพราะเห็นว่า ถ้าจะลองแล้ว ไม่ต้องมายึดติดกับเสือภูเขา ควรใช้เบรคหมอบไปเลย แต่ไม่รู้จะเอาออกยังไง ดูแล้ว ต้องเอาผ้าพันแฮนด์ออกก่อนมั้ง ตอนนี้ก็เลยปล่อยๆไว้ก่อน ทำเองไม่เป็น 5 5 5 5
ส่วนเรื่องเกียร์ งงอิ๊บอ๋าย ปกติปั่นเสือภูเขานี่ จะใช้เกียร์ 2-5 ตลอด ไม่เปลี่ยนเกียร์ เพราะปั่นทางเรียบอย่างเดียว แต่เจ้าหมอบเนี่ย เพิ่งลอง ที่จานหน้าใบเล็ก เขาเรียกจาน 1 มั้งไม่แน่ใจ ส่วนเฟืองหลัง ลงที่ 7 คือเฟืองตัวที่ 3 นับจากเฟืองตัวเล็กสุด ใส่ที่ 1-7 นี่รู้สึกดี แต่ไม่รู้ว่าถูกต้องตามหลักวิชาหรือเปล่า
ด้านความเร็ว เคยปั่นเสือภูเขาเนี่ย ได้ 40 ก.ม./ช.ม. ก็ลิ้นห้อยแล้ว แต่สำหรับหมอบตัวนี้ ได้ 42 ก.ม./ช.ม. ลิ้นแลบ เอิ๊ก...
ปั่นมันส์มาก รู้งี้ปั่นมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ แล้ว ไม่รอให้ถึงป่านนี้หรอก ชอบบบบบบบบบบบ
รูปครับ เช้ามืด 6 โมง อากาศดี ออกกำลังแล้ว ร่างกายแข็งแรง สุขภาพดี สุขภาพจิตก็ดีเช่นกัน ขอเชิญมาออกกำลังกายกันเถอะ //www.bianchi.com/Global/Bikes/Bikes_Detail.aspx?ProductIDMaster=48413
Create Date : 29 เมษายน 2554 |
|
13 comments |
Last Update : 1 พฤษภาคม 2554 9:13:12 น. |
Counter : 9263 Pageviews. |
|
|
|