--[รู้สึกว่า ตัวเองโง่เหมือนควายยังไงพิกล!!]--

: : CoFFee AnGeL : :

เกิดมาเป็นมนุษย์ชาตินึง ก็ต้องมีการแสดงความโง่ให้ชาวบ้านเค้าได้รับรู้กันบ้างจริงไหมครับ

จริง ๆ มันอาจจะไม่ใช่โง่ก็ได้ แต่เป็นเพราะความไม่รู้ อ่านไม่ออก ไม่เคยชิน หรืออะไรก็แล้วแต่

เมื่อวานนี้ครับ ผมมีนัดกับลูกค้าที่ฟิวเจอร์รังสิต ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ไม่รู้ว่ามันจะใหญ่ไปไหน ใหญ่จนเดินไม่ทั่วแล้วเนี่ย มีทั้ง
เซ็นทั่ง โรบินสั้น อินแดรก บิ๊กคิว ออฟฟิตขี้โม้ ฯลฯ
ทุกอย่างที่ผมเอ่ยมานั่น มันมาตั้งอยู่ที่เดียวกัน ประมาณว่า ถ้าอยากจะเดินให้ทั่วจริง ๆ
คงต้องใช้เวลาประมาณ 2 วันครึ่ง ถึงจะเดินทั่ว!!!

เอ่อ ข้างบนนี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่จะเล่านะครับ (แล้วเอ็งเขียนทำไมฟระ)

เรื่องที่จะเล่าก็คือว่า ฟิวเจอร์พาร์ครังสิมาเนี่ย ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ใกล้บ้านผมมากก็ตาม
แต่ผมไม่ค่อยจะนิยมเข้าไปซักเท่าไหร่ ถ้านับเวลาก็เกือบ ๆ ครึ่งปีแล้ว
ที่ผมไม่ได้เข้าไปเหยียบที่นั่น!!

นั่นเนื่องมากจากว่า เมื่อก่อนนี้ ผมมีแฟนอยู่คนนึง คือเจ๊โหดเนี่ยแหล่ะ
พอเจอกันก็เดินกันแต่ห้างนี้ ไม่เคยไปที่อื่นกันเลย ทีนี้ พอเลิกกัน
สถานที่นี้เลยกลายเป็นสถานที่แห่งความทรงจำไปโดยปริยาย

นั่นมันทำให้ผมไม่กล้าที่จะย่างเหยียบเข้าไปเท่าไหร่นัก
ไม่รู้กลัวห้างมันจะถล่มใส่หัว หรือกลัวบ่อน้ำตาจะแตกกันแน่ T_T
กว่าอาการดังกล่าวจะหายไปก็กินเวลาเป็นปี!!!

ทีนี้พอไม่ค่อยได้เข้าไป หลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนแปลง มีร้านโน้นร้านนี้โผล่ขึ้นมาเพียบไปหมด
บังเอิญว่า ลูกค้าโทรมานัดดูของ แล้วเค้าสะดวกที่ฟิวเจอร์ ผมเลยต้องไป

เค้านัดผม 2 ทุ่ม ผมโผล่ไปตั้งแต่ทุ่มครึ่ง!!!!

ไม่รู้จะรีบไปไหน กลัวจะขายไม่ได้หรือไงก็ไม่ทราบ ก็ไม่รู้ล่ะ ช่วงนี้ตัวกรอบ ๆ ชอบกล
จับแขนจะมีเสียง แกรบ ๆ ๆ ๆ คล้ายจะเป็นโรคทรัพย์จาง (มาก!!!)
มีโอกาสแล้วก็ต้องคว้าไว้ซักหน่อย แม้มันจะน้อยนิด แต่ก็ยังพอจะต่ออายุไปได้อีกหลายวัน T_T

เดินเข้าไปในฟิวเจอร์ อะโห นี่มันห้างอะไรฟระเนี่ย เราเคยมาด้วยหรือห้างนี้
มันเปลี่ยนไปหมดเลยครับ ร้านรวงต่าง ๆ ที่เคยเห็น บางร้านหายไป บางร้านเปลี่ยนเจ้า
และที่สำคัญ สิ่งที่เห็นได้เยอะแยะมากมายจากที่เมื่อก่อนไม่เคยมีเลยในฟิวเจอร์นี่ ก็คือ


"ร้านกาแฟ"


ใช่แล้วครับ ร้านกาแฟ เดินไปชั้นไหนก็เจอแต่ร้านกาแฟเต็มไปหมด
เหมือนโดนสะกดจิตครับ ไอ้ตอนที่ไม่เห็นน่ะ มันก็ไม่เท่าไหร่หรอก ไม่รู้สึกอะไร
แต่พอเห็นมันบ่อยเข้า ๆ เจอมันทุกชั้น ชั้นละร้านสองร้าน ก็เหมือนโดนสะกดจิต
รู้สึกอยากกินกาแฟขึ้นมาตะหงิด ๆ

บวกกับเมื่อก่อนนี้ตอนผมยังมีการมีงานทำเป็นหลักแหล่ง ผมก็เป็นคนหนึ่งที่นิยมบริโภคกาแฟ
วันละไม่ต่ำกว่า 3 แก้ว กินกันเข้าไป กินประมาณว่า กินเอาอิ่ม ไม่ได้กินแก้ง่วง T_T

รู้ทั้งรู้ว่า กินเยอะมันไม่ดี แต่ก็ยังกิน พอกินทีไร มันก็แข็งทุกที!!
ไม่รู้ว่า กาแฟที่บริษัท ผสมยาไว้ด้วยหรือเปล่า เพราะไม่ได้แข็งแค่ตา แต่อย่างอื่นมันแข็งด้วย!!


เอ่อ นิ้วครับที่แข็ง อย่าคิดมากนะ T_T


เมื่อออกจากงาน ผมก็ไม่ได้กินอีกเลย จนกระทั่งเมื่อวานนี้แหล่ะครับ
พอไปเห็นเข้าก็เลยรู้สึกอยากขึ้นมาทันที อยากกินกาแฟ
เหลือบดูเวลา มันก็ 2 ทุ่มแล้ว แต่ลูกค้ายังไม่มา เลยโทรถาม ปรากฎว่า ลูกค้ายังนั่งทำงานอยู่เลย

แสรดดดดดด แล้วนัดตรูทำไมตอน 2 ทุ่มฟระ!!!

เค้าขอเวลา 30 นาทีในการเดินทางมา เอาล่ะสิ จะไปไหนล่ะ นอกจากหากาแฟกิน
เดินไปเดินมา ไปเจอเข้าร้านนึงครับ มีเก้าอี้ให้นั่งด้วย เออดีแหะ

ว่าแล้วก็ตรงเข้าไปเลยครับ สั่งกาแฟทันที


"รับอะไรดีคะ" พนักงานสาว ล่ำ ดำ อ้วน ถามผม
"กาแฟเย็นครับ" ผมตอบกลับไปแบบโง่ ๆ

"ค่ะ กาแฟอะไรดีคะ" พนักงานสาวล่ำ ยังถามต่อมา
"เอ่อ กาแฟอะไร ก็กาแฟเย็นสิครับ"

ผมตอบกลับไป แบบงง ๆ แล้วจะถามทำไมว่ากาแฟอะไร มันมีหลายกาแฟด้วยเหรอ
อยากกินกาแฟเย็น มันยังต้องมีกาแฟอะไรอีกล่ะ ผมไม่เข้าใจจริง ๆ เพราะปกติผมไม่เคยกินครับ
ไอ้ร้านพวกนี้ อย่างมากก็เซเว่น เดินไปกดมากิน ก็ไม่เห็นเครื่องมันจะถามเลยว่า
"กาแฟอะไร" หรือไม่ก็กินกาแฟรสเข็น ที่เขียนไว้ว่ากาแฟโบราณ ผมก็สั่งเค้าว่า "กาแฟเย็น" ทุกที


แล้วผมจะรู้ไหม ว่ากาแฟอะไร ดูเหมือนพนักงานจะเห็นว่าผมแสดงความโง่ออกไป
เลยชี้ไปที่ป้ายด้านหลัง ผมเหลือบมองทันที

โอวววว พระเจ้า แล้วตรูจะอ่านออกไหมล่ะนั่น
ภาษาอังกฤษล้วน ๆ ถามว่าอ่านออกไหม ผมก็ต้องบอกตามตรงว่า อ่านออก

แต่อ่านออกไปก็เท่านั้น เพราะผมไม่รู้ว่า มันคืออะไร
เพราะผมสั่งแต่ กาแฟเย็น ชงด้วย เนสกาแฟเอ็กซ์ตร้าเท่านั้น กินมาตั้งแต่เกิด!!!

"เอ่อ อ้า เอ่อ เอาแบบที่มันใส่คอฟฟี่เมทน่ะครับ"

ไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน รู้แต่ว่า ชีวิตนี้เคยกินแต่อย่างนี้
เคยไปกินกาแฟบ้านไร่ โดยให้เพื่อนสั่งให้ทีนึง มันมาเป็นกาแฟดำ!!!
ซึ่งผมไม่นิยมกาแฟอย่างเดียวไม่ใส่ครีม อย่างผมมันต้อง รสกลมกล่อม
ใส่น้ำตาล 3 ช้อน ถ้าเป็นก้อนก็ 5 ก้อน ใส่แมร่งเข้าไป เบาหวานจะแดรกอยู่แล้วเนี่ย T_T

เอาล่ะครับ พนักงานเค้าคงรู้สึกว่า คน ๆ นี้ บอกอะไรไปก็เท่านั้น เลยจัดมาให้ 1 ชุด
โดยที่ผมไม่รู้ว่ามันเป็นกาแฟอะไรที่อยู่บนป้ายนั่น

"รับเป็นแก้วใหญ่เลยไหมคะ"
"เอ่อ แก้วเล็กครับ แก้วใหญ่เดี๋ยวกินไม่หมด" ในใจก็คิด ถามน่ะดูมั่ง นี่มัน 2 ทุ่มแล้วนะ ขืนกินแก้วใหญ่ ตรูข้าก็ไม่ได้นอนกันพอดี

"รับวิปครีมเพิ่มไหมครับ"
"เอ่อ ไม่ครับ" ในใจก็คิด กาแฟบ้านไหนใส่วิปครีมวะ

"รับช็อคโกแล็ตโรยหน้าเพิ่มไหมคะ"
"เอ่อ ไม่ครับ" ในใจก็คิด เอ่อ นี่มันกาแฟหรือไอติมเซเวนเซ่นกันแน่เนี่ย เข้าร้านผิดหรือเปล่า

พนักงานหันไปสั่งให้คนชง จัดการกาแฟของผม ซึ่งผมฟังไม่ทันว่าเค้าพูดชื่อกาแฟอะไร
ได้ยินแต่ ปู ๆ ๆ อะไรคือปูก็ไม่รู้ อย่าบอกนะว่า กาแฟเย็น ต้องใส่ปูดองไปด้วย

กาแฟนะโว้ย ไม่ใช่ส้มตำ!!!


เอาล่ะครับ เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อจุดไคลแม็กซ์มาถึง นั่นคือตอนคิดเงิน!
ผมหยิบกระเป๋าสตางค์ที่มีเงินอยู่ในกระเป๋าทั้งสิ้น 100 บาทถ้วน
คิดเป็นค่ารถเสีย 26 บาท ไปกลับ ที่เหลือเผื่อไว้ซื้อข้าวมันไก่กิน

ใครจะรู้ว่า ข้าวมันไก่จะต้องเป็นหมันไปโดยทันที เมื่อเจอราคากาแฟเทพเข้าไป

"85 บาทค่ะ" พนักงานสาวล่ำบอกมาเรียบ ๆ

ผมซึ่งกำลังหยิบแบ้งค์ 100 บาทใบสุดท้ายออกจากกระเป๋าชะงักกึ่ก

"เท่าไหร่นะ" ผมถามเพราะคิดว่าได้ยินผิด 25 บาทหรือเปล่า แต่ได้ยินเป็น 85

"80-5 บาทค่ะ" ชัดถ้อยชัดคำมาก!!!!
"85 บาท!!!!"

"ค่ะ"

โอย กรูจะเป็นลม กาแฟบ้านไหนฟระราคาแก้วละตั้ง 85 บาท
นี่เราตกยุคไปขนาดนี้เชียวหรือนี่ เคยกินเต็มที่ก็แก้วละ 40 บาท นั่นก็ว่าแพงเกินเหตุแล้ว
แต่นี่ 85 บาท ผมซื้อกาแฟเซเว่นได้เป็นถังเลยทีเดียว

แต่ทำไงได้ สั่งไปแล้ว ไอ้คนข้างหลังมันก็ทำแล้วด้วย จะไม่เอาก็ไม่ได้

ก็ได้แต่คิดเข้าข้างตัวเองไปว่า แก้วละ 85 บาท มันจะต้องเป็นแก้วขนากมหึมาแน่นแน่!!!
เพราะไม่งั้น คงไม่กล้าขายแพงเยี่ยงนี้ ที่เดินวนเวียนอยู่ตั้งนานนี่ก็เพราะว่า
ไม่อยากเข้าไปในร้านที่มีชื่อว่า สตาร์แมลง เพราะร้านนั้น เค้าพูดกันทั้งบ้านทั้งเมืองว่ามันแพงโคตร
ไม่รวยกินไม่ได้ ไอ้กระผมมันคนจน เลยไม่กล้าเข้าไปนั่ง ไม่กล้าแม้แต่จะมองด้วยซ้ำ กลัวมันเก็บเงินค่ามอง T_T

รับเงินทอนมาด้วยความมึนส์งง รู้สึกว่าตัวเองโง่ ๆ ยังไงพิกล
โง่ที่ไม่เคยกิน โง่ที่ไม่รู้จัก โง่ที่อ่านภาษาอังกฤษออก แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร!!!

เดินมานั่งที่เก้าอี้ เพราะเค้าบอกว่าเดี๋ยวจะเอามาเสริฟที่โต๊ะ!!

นั่งรอด้วยใจระทึก พยายามคิดเข้าข้างตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่า
แก้วมันต้องใหญ่ กาแฟมันต้องอร่อย กินแล้วรู้สึกเหมือนอยู่บนสรวงสวรรค์

มาแล้ว ๆ พนักงานสาวล่ำ เดินหยิบแก้วมาให้แล้ว แต่เอ๊ะ ทำไมแก้วมันเล็กจังเลย
คงไม่ใช่ของเราหรอกมั้ง มองไปรอบ ๆ มีแต่เรานั่งอยู่คนเดียว
เอ๊ะ หรือว่า ร้านข้าง ๆ สั่งกลับบ้าน ไม่นะ ไม่

ครับ ไม่ผิดหรอก มันตรงมาโต๊ะผมนี่แหล่ะ

"กาแฟได้แล้วค่ะ"
"เอ่อ......ขอบคุณครับ" ไม่รู้จะตอบอะไรจริง ๆ ช็อคสุด ๆ

85 บาท มาในแก้วป๊าดสะติกใสเหมือนของเซเว่น มีฝากลม ๆ โค้ง ๆ ให้ดูเหมือนมีชาติตระกูลนิดหน่อย
ขนาดมันก็ขนาดเดียวกันกับที่เราซื้อแป๊ปซี่เป็นแก้วแถวข้างทางนั่นแหล่ะ ขนาดเดียวกัน

85 บาท พอเห็นดังนั้น จากที่รู้สึกโง่ ๆ เมื่อซักครู่ ตอนนี้มีเขางอกทันที งอกยาวด้วย
ตกลง นี่ตรูเป็นควายให้เค้าเชือดใช่ไหมเนี่ย กาแฟแก้วละ 85 บาท
นี่ดีนะที่ยืนยันจะเอาแก้วเล็ก ถ้ามาเป็นแก้วใหญ่ ราคามันจะขนาดไหน!!!

เอาวะ แก้วเล็กก็เล็กไป รสชาดน่าจะดีนะ ของเค้าขายคุณภาพ ไม่ได้ขายปริมาณ

เอาหลอดใส่ปาก ดูดกาแฟน้ำแรกเข้าไป


"แสรดดดดดดดดด รสชาดอย่างนี้ ตรูชงเองอร่อยกว่าเยอะ!!!"


ลูกค้าโทรมาบอกว่ามาถึงแล้ว ในขณะที่ผมยังนั่งโง่ ๆ กับกาแฟเทพแก้วดังกล่าว
กะว่า จะกินมันให้หมด ต่อให้รสชาดมันห่วยเหมือนน้ำล้างแก้วก็ตาม
ผมจะกินมันให้หมด ถ้าแก้วมันกินได้ ผมจะกินแก้วเข้าไปด้วยเลย เอาให้คุ้ม

ดูด 3 ปื๊ดดดดดด กาแฟหมด เหลือแต่น้ำแข็งที่ใส่มาซะเต็มแก้ว

ป๊าดดดดดดด น้ำแข็งเพียบเลย กาแฟนิดเดียว T_T


เดินมึนส์ ๆ โง่ ๆ ไปหาลูกค้า โดยถือแก้ว + น้ำแข็งแก้วนั้นไปด้วย
เอาของให้ลูกค้าดู ผมก็เทน้ำแข็งใส่ปากด้วยความแค้น ลูกค้าเห็นก็ถามว่า
หิวเหรอ ขอโทษที่ปล่อยให้รอนาน

ผมบอกกลับไปว่า "ป่าวหรอก บังเอิญไปซื้อกาแฟเทพมา เลยต้องกินให้หมด เดี๋ยวมันจะไม่คุ้ม"


คิดดูคนเราอ่ะนะ แทนที่จะมีเงินเหลือกลับบ้านเกือบร้อย
กลับต้องมาเสียเงินให้กับกาแฟเทพ แก้วละ 85 บาทแก้วเดียวที่ดูด 3 ปื๊ด หมดแล้ว!!!

ผมจะจำไปจนวันตาย ต่อให้อยากกินแค่ไหน ก็ลาที ผมกลับไปชงกินเองที่บ้านดีกว่า
แม้จะทุลักทุเลหน่อย แต่ก็อร่อยกว่ากาแฟเทพที่ว่าเยอะ!!!

อ้อ ลืมบอกไปว่า ร้านที่ไปกินนี่ เค้าเป็น โลกของกาแฟ!!!


สมันน้อย เบอร์ 14

Create Date : 31 กรกฎาคม 2550 Last Update : 31 กรกฎาคม 2550 19:23:37 น. Counter : 978 Pageviews.		15 comments
Share Tweet