--[ความสุขของคะน้า ตอนที่ 4]--
ตอนที่ 1 "กุเจอเมิงแล้ว"

ตอนที่ 2 "เปลี่ยนใจ"

ตอนที่ 3 "ฝากรอยเท้าเอาไว้"


ตอนที่ 4 "เปิดศึก"




ตอนที่ 4



.........จากเหตุการณ์หน้าแหกเพราะเล็บแมวในครั้งนั้น ทำให้ผมระมัดระวังตัวในการเข้าหาคุณนายมากขึ้น
ต้องมีการวัดระยะและจ้องตากันก่อนว่า แกจะข่วนฉันอีกไหม? แต่ดีที่ว่า ระยะหลัง ๆ มานี่คุณนายคงรู้สึกตัวว่า
ผมไม่ใช่แมวเหมือนมัน ไม่ต้องข่วนผมก็ได้ มันเลยหุบเล็บ แล้วเอามือ (หรือส้งติงของมัน) ยันหน้าผมไว้เท่านั้น
แค่ให้รู้ว่า มันเป็นสาวเป็นนาง (ต้องเป็นนางครับ เพราะแต่งงานมีลูกแล้ว แม้จะไม่รู้ว่า แมวหนุ่มตัวไหนเป็นพ่อก็ตามที)
จะมาจุ๊บกันง่าย ๆ ได้ยังไง T_T

.........สำหรับคะน้า ก็เนื่องจากบ้านผม ผ่านการเลี้ยงแมวมาหลายรุ่น ทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่
ตัวผมเองก็จัดอยู่ในพวกคนเลี้ยงสัตว์ที่ค่อนข้างจะคิดถึงใจของสัตว์เลี้ยงพอสมควร ดังนั้นแมวรุ่นผ่าน ๆ มา
จึงไม่มีการจำกัดบริเวณการเลี้ยงซักเท่าไหร่ อยากออกไปไหนก็ไป ไม่เอาแต่ขังไว้ในบ้าน ปล่อยตามอิสระ
แต่ข้อเสียของทุกรุ่นที่ผ่านมาก็คือ มันออกไปแล้ว มันหายไปเลย ไม่รู้มันหายไปไหน จะติดหญิง ติดยา
ขับมอไซด์ซิ่ง โดนจับไปขัง ไปเหยียบตีนลูกนักการเมืองในผับแล้วโดนยิงตาย เอ่อ.......(เริ่มออกทะเลแหะ)
ออกไปแล้วโง่ หลงทางหาทางกลับบ้านไมเจอ หรือแม้กระทั่ง ออกไปเป็นเหยื่องูยักษ์ อะไรก็ตามแต่
ซึ่งมันทำให้เมื่อคะน้ามาอยู่ อิสระในการออกนอกบ้านจึงถูกจำกัดภายในเวลาไม่นานนัก

.........คะน้าไม่ค่อยได้มีโอกาสออกไปแรดข้างนอกนักหรอกครับ ด้วยนิสัยของคะน้าเองที่ค่อนข้างจะกลัวคนแปลกหน้า
(น่าแปลกใจที่มันไม่กลัวผมที่หน้าโคตรจะแปลก) และจัดเป็นแมวความจำสั้น ถึง สั้นมาก จำทางไม่ค่อยถูก
แค่ระยะจากชั้น 1 ถึงชั้น 3 แฟลตบ้านผม มันก็กลับขึ้นห้องไม่ถูกแล้ว เคยมีอยู่ครั้งนึงที่คุณนายออกไปเที่ยว
โดยถือโอกาสที่แม่ผมเปิดประตูเพื่อจะออกไปทำงานในตอนเช้า แม่ผมนิสัยเสียก็ตรงนี้แหล่ะครับ
ชอบเปิดประตูทิ้งไว้แล้วปล่อยให้แมวออกไป ตัวแกเองก็แก่จะแย่อยู่แล้ว เดินยังกระเผลก
ด้วยน้ำหนักตัวรุ่น Super Heavy weight เมื่อคะน้าหลุดออกไป แม่ทำได้อย่างดีที่สุดก็คือ ร้องเรียก

“คะน้า อย่าออกไป กลับมานี่ลูกกกกก”

.........แหม ได้ยินทีไรแล้วปวดใจทุกที คะน้ามันดีกว่าผมตรงไหนกัน เรียกมันลูก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ทุกคำเลย
เช๊อะหมั่นไส้นัก เอ่อ....ส่วนตัวนิดนึงนะครับ อิจฉาแมว .....T_T



.........เอาล่ะครับย้อนกลับมาเหตุการณ์เมื่อซักครู่นี้ต่อ “คะน้า อย่าออกไป กลับมานี่ลูก” คิดเหรอครับว่ามันจะฟัง
คุณนายจัดเป็นแมวหน้ามึนและหูทวนลมที่สุดแล้ว อย่าหวังว่าคุณนายเธอจะสนใจ อย่างที่พวกเรารู้ ๆ กันนั่นแหล่ะครับ
แมว เมื่อเราเลี้ยงมัน มันจะเห็นเราเป็นเพื่อนเล่น ไม่ใช่มันเป็นเพื่อนเล่นเรานะ มันจะเห็นเราเป็นลูกจ้าง
เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจ เมื่อวันใดวันนึงเราเกิดหลุดไปอยู่ในโลกของแมว แล้วสิ้นเดือนมันยื่นเงินค่าจ้างให้เรา
นั่นก็เพราะว่า มันคิดว่าเราเป็นลูกน้อง หรือที่เราเรียกกันว่า ทาสแมว นั่นแหล่ะครับ T_T

.........เราอาจจะคิดตามประสามนุษย์โง่ ๆ ว่า เราเป็นเจ้าของเลี้ยงมันมา มีบุญคุณที่อุตส่าห์พามันไปผ่าท้องเอาลูกออก
ประคบประหงมกู้ชีวิต ขุนมันตั้งแต่หน้าแหลมยันหน้ากลม แล้วจะคิดว่ามันต้องเชื่อฟังเรา ไม่มีซะล่ะครับ
ตั้งแต่เลี้ยงคุณนายมา ผมยังไม่เคยเห็นมันทำตามคำสั่งซักที คุณนายจะทำทุกอย่างตรงกันข้ามกับคำสั่งทุกครั้ง

ผม : “มานี่มา เมี๊ยว ๆ ๆ ๆ ”
คุณนาย : ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินแล้วมันก็เดินหนีไปที่อื่น ในใจมันคงคิด “ฝันไปเหอะเมิง”

ผม : “นั่งนี่มา มาเร๊ววว”
คุณนาย : หันมาค้อน 1 โช๊ะ แล้วก็เมินหน้าหนีไปที่อื่น T_T ในใจมันคงคิด “ทำไมฉันต้องไปนั่งกับแกด้วย”

ผม : “คะน้า นอนๆ เร็วมานอนนี่”
คุณนาย : ทำเป็นเดินมาใกล้ ๆ อยู่ในระยะมือเกือบเอื้อมถึง เหมือนจะรู้ภาษาหลอกให้เราดีใจ
พอมาใกล้ได้ซักระยะ มันก็จะเบนหัวหลบ แล้วก็เดินจากไปนอนที่อื่น ในใจมันคงคิด
“คิดว่านอนกับแกแล้วมันอบอุ่นนักหรือไง ฮ๊ะ!! ไอ้ขี้ก้าง!!”


ผม : “ขอหอมหน่อย”
คุณนาย : เอาส้งติงทั้ง 4 ยันหน้าผมแสดงความรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด ในใจมันคงคิด “หอมกับเมิงกุเลียตีนตัวเองดีกว่า”

ผม : “อย่าขึ้นมาบนนี้”
คุณนาย : หลังจากพูดเสร็จมันก็เดินไปทั่ว พอผมทำท่าจะอุ้มมันลง มันทำหูลู่ หางพอง
แยกเขี้ยวขู่เป็นงู “ฟ่อออออ” ในใจมันคงคิด “บ้านใครให้มันรู้ซะมั่ง”

ผม : “อย่าขึ้นไปนอนบนแป้นพิ๊มมมมมมมมม”
คุณนาย : ลุกขึ้นจากแป้นพิมพ์ หมุน ๆ ทำท่าจะรู้ภาษา แล้วก็นอนพาดตามแนวยาวให้โดนทั่ว ๆทุกปุ่ม
ที่น่าโมโหที่สุดคือมันนอนโดนปุ่ม Ctrl + Alt + Delete เครื่อง Shuttdown ไปเลย
แล้วก็หันมามองหน้า ในใจมันคงคิด “ชั๊นเด็กคอมเก่า บ่นนักทำใหม่ก็แล้วกัน”

เจ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด งานกุ โปรแกรมกุ หายหมดเลยยยยยยยยย T_T


.........นั่นแหล่ะครับแค่ยกตัวอย่างเล็ก ๆ ถึงความหน้ามึนของคุณนาย แล้วคิดเหรอครับว่าแม่ผมเรียกแล้วมันจะเชื่อ
ไม่มีซะล่ะครับ เดินเชิดจากไป ทำเหมือนคำพูดของแม่ผมเป็นคลื่นอากาศที่มันไม่สามารถได้ยิน
และถ้ากับแม่ผม เมื่อคะน้าออกไปแล้ว เรียกแล้วไม่สนใจ มันก็เป็นอิสระ เพราะอย่าคิดว่าแม่ผมจะตาม
แกเชื่องช้าขนาดนั้น แค่คุณนายคะน้าย่อขาทำท่าจะวิ่ง แม่ผมก็ท้อใจแล้วT_T

.........และเมื่อออกไปได้แล้ว คุณนายก็จะออกไปแต๋ดแต๋อยู่ข้างนอกเป็นวันๆ ร้องเรียกก็ไม่ขานรับจนแม่กลับมานั่นแหล่ะ
ถึงจะออกตามหากัน พอแม่ผมกลับมาแล้วไม่เห็นคุณนาย
(ความจำสั้นพอกัน จำไม่ได้ว่าตัวเองนั่นแหล่ะที่เป็นคนปล่อยมันออกไปเมื่อเช้า)

แม่ก็เดือดเนื้อร้อนใจ ไอ้ครั้นจะออกไปตามหาก็คิดว่าตัวเองแก่แล้ว มันควรเป็นหน้าที่ของลูก!!!
ถามหน่อยแล้วใครเดือดร้อนครับ!!!

โผ๊มมมมมมมมมมม โผ๊มเดือดร้อนทุกทีครับ
(จริง ๆ น่าจะตั้งชื่อเรื่องว่า ชีวิตรันทด เรื่องจริงผ่านจอมากกว่านะ คุณนายคะน้าคงไม่ฟ้องผมหรอกมั้ง T_T)




.........ข้าวปลาไม่ต้องได้กินกัน กลับมาจากทำงานก็ต้องมารับภารกิจตามหาแมวก่อน ไม่งั้นไม่ต้องกินข้าว
พูดตรงๆ ถ้าไม่คิดว่าข้าวจะไม่ได้กิน ผมไม่ตามมันให้เสียเวลา เพราะคิดว่า มันไปได้มันก็กลับได้

แต่ครับแต่.........ผมคิดผิดครับอย่างที่บอกนั่นแหล่ะ คะน้าฉลาดเป็นเวลาเท่านั้นบางเรื่องจะโง่มันก็โง่ได้ง่าย ๆ
เหมือนกัน หลาย ๆ ครั้งที่มันแสดงความโง่ของมันออกมา เช่น เข้าไปในถุงเซเว่น แล้วหาทางออกไม่เจอ
กัดเชือกฟางอย่างสนุกสนานแล้วโดนเชือกฟางรัดขาเดินไม่ได้ ฯลฯ
กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน
มันไปได้แต่มันกลับเองไม่ได้ครับ ผมต้องออกจากห้อง เดินร้องเรียกจนชาวบ้านชาวเมืองเค้าจะเขวี้ยงทุเรียนใส่
คนจะหลับจะนอนมาเรียกกันอยู่ได้ แล้วอีนังคุณนายนี่ก็ไม่รู้เป็นอะไรไม่ค่อยจะร้องตอบ
กลัวดอกพิกุลจะร่วงจากปากหรือยังไงก็ไม่รู้ (ถือเป็นข้อเสียของคะน้าครับที่ไม่ค่อยชอบร้องเท่าไหร่)
หรือร้องก็ร้องเบาๆ พอให้ได้ยินแว่วๆ เท่านั้น ก็ต้องเดินเดาสุ่มกันไปเรื่อย จากชั้น3 ลงมาชั้น2 ลงมาชั้น 1 ถึงได้ยินเสียง

“เงี๊ยวๆ ๆ ๆ” โน่นครับไปหลบอะไรก็ไม่รู้อยู่ชั่นล่าง ลงได้แต่ขึ้นไม่ได้กลับไม่ถูกไปหลบอยู่ในซากยางรถยนต์
ที่เค้ากองทิ้งไว้ใต้บันได แล้วไม่รู้ลงไปได้ยังไง กองยางรถยนต์มันสูงแทบจะท่วมหัวผม
มันเข้าไปอยู่ข้างในได้ยังไง พอตอนเข้า เข้าได้แต่ตอนออกเจือกออกมาเองไม่ได้ มันเป็นแมวประสาอะไรของมันวะ
ผมก็ต้องเดือดร้อนปีนยางสอดตัวลงไปกู้ชีวิตมันขึ้นมาอี๊ก!!!

.........แล้วที่น่าโมโหก็คือ พอมันรู้ว่าเรามาช่วยมันก็ยังไม่ยอมให้ความร่วมมือ แทนที่จะยอมให้จับอุ้มออกมาโดยดี
แม่เจ้าประคุณก็หลบซ้ายหลบขวา หลบมือผมที่กำลังไขว่คว้าหาตัวมัน

“ออกมานี่มาเร๊ว ซุปเปอร์แมนมาช่วยแล้ว” ผมยื่นมือไขว่คว้าคุณนายจากกองยาง
“แกเป็นใคร หน้าไม่คุ้นเลย” แล้วมันก็ส่ายหัวหลบ

“อย่าเล่นตัวน่า ออกมาเร๊ว ไปกินข้าว” ผมหย่อนตัวต่ำลงไปอีกยางก็เล็กนิดเดียวแต่ก็ยังจะพยายาม
“อย่ามาหลอกกันซะให้ยาก คิดว่าฉันโง่หรือไงยะ” มันพยายามเบียดตัวเข้าไปให้ห่างมือผมที่สุด

“นี่ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเร๊อะ หิวข้าวแล้วนะโว้ย” เริ่มโมโห และเบียดตัวลงไปในรูยางมากกว่าเดิม
“เมิงคิดว่าฉันเป็นคนรึไงถึงจะได้ฟังภาษาแกออก ว๊าย โง่นี่”



.........มันน่าโมโหไหมครับ กว่าจะเอาตัวออกมาได้ เสื้อผมก็เลอะเทอะมีรอยยางรถยนต์ติดเสื้อเป็นแถบๆ
หย่อนตัวลงไปจนน่ากลัวว่าพอช่วยคุณนายออกมาได้แล้ว ตัวผมจะติดอยู่ในรูยางกลายเป็นตัวมาสคอสของยางมิชลิน
ถ้าผมอ้วนกว่านี้หน่อยรับประกันว่าติดแน่ ๆ T_T

.........แล้วอีคุณนายนี่ก็ดูเหมือนจะไม่สำนึกถึงบุญคุณที่ผมเอาตัวเข้าแลกไปช่วยมันเลย
พออุ้มมันขึ้นมาได้ มันก็ข่วน ตะปป กัดผมชุลมุนไปหมด เลยต้องมีการลงโทษให้สำนึกกันบ้าง
อย่างนี้มันต้องตีให้สำนึก!!!! ป๊าบๆๆๆๆ ฝ่ามือน้อยๆของผมระดมลงไปที่สะโพกอันอวบอูมของคุณนาย
คุณนายพอโดนตีก็ตอบแทนโดยการจิกกรงเล็บลงบนแขนผม ยิ่งตี ยิ่งจิก ยิ่งตี ยิ่งจิก

.........ครับ แทนที่จะได้ช่วยเหลือกันดี ๆ ก็ต้องแลกเลือดกันเลยทีเดียวสำหรับคุณนาย!!! เจ็บนะครับ
เพื่อน ๆ ที่มีแมวคงจะรู้ดี ว่าในกรณีอย่างนี้ต้องปล่อยให้มันข่วนไป ไอ้ครั้นจะปล่อยลงพื้นเดี๋ยวก็จะเผ่นหนีไปอีก
เลยต้องยอมกัดฟันโดนมันข่วนไปจนถึงห้องนั่นแหล่ะ

เออ ผมมาทบทวนดูแล้ว ผมว่าคุณนายมันต้องจำผมไม่ได้แน่ ๆ เลย คือ มันจำใครไม่ได้เลยนั่นแหล่ะ
มันจะจำได้ก็ตอนอยู่ภายในอาณาเขตบ้านเท่านั้น เมื่อออกจากบ้านแล้วมันก็ลืมหมด
เพราะรู้สึกว่ามันจะจำผมไม่ได้ทุกที พอจะช่วยมันก็จะวิ่งหนีตลอด พอจับได้แล้วก็ยังดิ้นจะหนีให้ได้
ทั้งที่ตัวคุณนายเองก็อยู่ในสถานการณ์คับขัน ดิ้นหนีตลอดทาง แต่เมื่อใดที่กลั้นใจอุ้มกลับมาถึงเขตบ้าน
และวางคุณนายลงพื้น มันก็จะเดินมาเคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู (และน่าประเคนแข้งใส่) เหมือนเดิม
ก็ยังงงอยู่ว่าตกลงมันจำได้หรือไม่ได้กันแน่ อะไรจะวิตกจริตปานนั้น!!!




.........จริงๆแล้วคุณนายเป็นแมวขี้กลัวครับ ขี้กลัวมากๆ คนแปลกหน้านี่วิ่งหนีอย่างเดียว
ขนาดน้องสาวผมที่แต่งงานไปอยู่ข้างนอก กลับบ้านเดือนละครั้งสองครั้ง ไปได้ไม่ถึง 2 เดือนกลับมามันก็ลืมเสียแล้ว
วิ่งหนีไปหลบระลึกชาติอยู่ตั้งนานกว่าจะรู้ตัวว่านั่นเป็นอดีตทาสอีกคน แต่ถึงคุณนายจะเป็นแมวขี้กลัว
แต่คุณนายก็สู้แมวนะครับจะบอกให้!!! ก็หลังจากที่เลี้ยงคุณนายคะน้ามาได้ซักระยะ
ห้องตรงกันข้ามของผมก็มีเจ้าหน้าที่มาอยู่ใหม่ มาเป็นครอบครัวเลยครับ ลูกสาวเค้าน่ารักมากกกกกกกกก
เป็นดาราด้วยนะ แต่ขอร้องครับอย่าถาม ผมไม่บอกหรอกว่าใคร เอ่อ..........
จริง ๆ แล้วไม่รู้มากกว่าครับว่าเธอเป็นใคร เพราะผมเลิกดูทีวีมานานมากแล้ว
เลยไม่ค่อยได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเค้าซักเท่าไหร่ ที่รู้ว่าเป็นดารา ก็เพราะว่าแม่ผมเค้าไปคุยกับแม่เขา
(เอิ่ม งงกันไหมครับเนี่ย) แล้วก็เอาข่าวมาบอกผม ซึ่งขอบอกครับ ว่า ตั้งแต่เค้าย้ายมาอยู่
ผมเคยเห็นลูกสาวเค้าแค่ 1 ครั้งถ้วน แถมยังเห็นแบบลาง ๆ อีกต่างหาก ใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้
แต่เอาเหอะ จริง ๆ เรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับลูกสาวของห้องนั้น (นั่นสิ แล้วเมิงจะเล่าทำมะเขืออะไรละวะ)

.........เรื่องมันเกิดตรงที่ว่า ห้องที่ย้ายมาอยู่นั่น เค้าก็เลี้ยงแมวเหมือนกันครับ มี 2 ตัว สีขาวตัวนึง
แล้วก็สีดำตัวนึง!! ตัวผู้ทั้งคู่นั่นแหล่ะครับ แล้วบ้านนี้เค้าปล่อยแมวยิ่งกว่าผมเสียอีก
ไอ้ตัวขาวไม่เท่าไหร่ออกจะเรียบร้อย คาดว่ามันน่าจะเป็นแมวกระเทย เพราะเรียบร้อยเกินเหตุ
ส่วนไอ้ตัวดำนี่ อะโห พอมาถึงปุ๊บก็แสดงอาณาเขตไปทั่วตึกเลยทีเดียว น่าโมโหที่มันเห็นผมเป็นเสาหรืออะไรก็ไม่ทราบ
มันมาดม ๆ แล้วก็ฉี่ใส่เฉยเลย T_T

.........ไอ้ตัวนี้แหล่ะครับ ขาโหดของแท้ ผมขอเรียกมันว่าไอ้ดำเกิงก็แล้วกันนะ ชื่อจริง ๆ มัน
ออกจะอินเตอร์เกินหน้าตาไปหน่อยผมว่ามันจะไม่เหมาะ ไอ้ดำเกิงตัวใหญ่กว่าคะน้าผมประมาณครึ่งเท่า
(แต่ถ้าเอามาเปรียบกันตอนนี้ ผมว่าคะน้านอนทับมันก็ตายแล้ว) ดูก็รู้ว่าผ่านศึกมาอย่างโชกโชน
และเป็นแมวที่คนอย่างเราถ้าไม่ใช่เจ้าของ ไม่ควรเข้าไปยุ่งเป็นอันขาด
และทีนี้
เมื่อคุณนายคะน้าแสนสวยของเรา มีโอกาสได้ออกไปทัศนศึกษานอกบ้าน
โดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้มีเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ตัวใหม่มาอาศัยอยู่ห้องตรงข้ามนี่เอง ผมเองก็ไม่ทันคิด
แม่เองก็ไม่ทันคิด กว่าจะรู้สึกตัว ศึกก็เกิดขึ้นแล้ว โอ้ย อย่าให้เซดครับผมกับแม่วิ่งออกจากห้อง

เอ่อ แม่ผมเดินครับ แกไม่วิ่งหรอก T_T

ภาพที่เห็นมันช่างเสียวไส้สุด ๆ

.........ถ้าคุณมองอยู่ข้างล่างตึก คุณจะเห็นแมว 2 ตัว สีดำสนิทตัวนึง กับ สามสีตอแร๋อีกตัวนึง
ยืนแบบหมิ่นเหม่ อยู่ตรงระเบียงตึก!!! พื้นที่ตรงนั้นกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ระเบียงตึกตรงนี้
จะมีอยู่ทั้งหมด 4 ช่วง นับจากห้องริมสุดฝั่งตรงข้ามผม 1 ช่วงถัดมาอีก 1 ช่วง ห้องผมนี่คือช่วงสุดท้าย
ช่วงที่ 4 คือพูดง่าย ๆ ว่า ชั้นบนมันมีอยู่ 4 ห้อง มันก็ระเบียงของห้องนั่นแหล่ะครับ
ผมกับแม่ชะโงกหน้าลงไป โอว แม่เจ้าโว้ย คะน้าของผมโก่งตัว ขนตั้ง หางฟู หูลู่ แยกเขี้ยว ค่อย ๆ ก้าวถอยหลังช้าง ๆ
พร้อมเสียงตะโกนด่ากันระหว่างแมว

“แง้วววววววว แง๊วววววววววววววว แง๊วววววววววววววววววว แง๊ววววววววววววววววว”

แปลเป็นภาษามนุษย์ได้ว่า “อย่าเข้ามานะโว้ย แกเป็นใคร ทำไมฉันไม่เคยเห็น อย่าเข้ามานะไอ้ดำ”

ห่างไปประมาณ 1 เมตร ไอ้ดำเกิงตัวแสบ กำลังหันหน้าแสดงอาการเดียวกันกับคุณนาย
และก้าวเดินหน้าแบบกระเถิบ ๆ เข้ามาหาคุณนาย พร้อมส่งเสียงด่ากันระหว่างแมวในโทนเสียงที่ต่ำลงมาหน่อย

“แง่ววววววววววว แง้วววววววววววววววว แง่ววววววววววววว แงวววววววววววววววว”

แปลเป็นภาษามนุษย์ได้ว่า “ว่าไงจ๊ะคนสวย โดนใครสาดสีใส่มาล่ะ ทำไมเลอะเทอะทั้งตัวอย่างนั้น มาเป็นเมียพี่เหอะนะ”



.........ไอ้ดำเกิงเข้าผิดหลักไปหน่อย คุณนายไม่ใช่แมวสก๊อยที่จะต้องโหดดิบเถื่อนใส่ถึงจะยอม
ไอ้ดำเกิงดันมาสวมวิญญาณแมวแว๊นซ์ ใช้วิธีเถื่อนๆ จีบสาว ไม่มีทางที่คุณนายจะยอม
คุณนายโก่งตัว ยืนด้วยปลายเท้า ตะโกนด่าไอ้ดำเกิงไม่หยุดปาก เสียงดังไปทั้งแฟลต แม่ผมแทบลมใส่
ไม่ใช่เพราะไอ้ดำเกิงจะปล้ำคุณนาย แต่เป็นเพราะสถานที่ ๆ มันทั้งสองขู่กันอยู่นั้น มันคือระเบียง ที่อยู่บนชั้น 3

.........คะน้าก้าวถอยพร้อมตะโกนด่าไอ้ดำเกิงไปเรื่อย ๆ ส่วนไอ้ดำเกิงก็ก้าวเดินหน้าไปเรื่อย ๆ
ยังดูเชิงกันอยู่ แต่ดูเหมือนว่า ไอ้ดำเกิงจะดูเชิงนานไปหน่อย ไม่จู่โจมซักที ทำให้ระยะ
จากช่วงที่ 1 มันยืดเยื้อมาถึงช่วงที่ 4!!!!

“คะน้า มานี่มาลูก มานี่มา” แม่ผมตะโกนเรียกมัน ให้มันกระโดดขึ้นมา คะน้าก็คงอยากขึ้นมาเหมือนกัน
แต่ขึ้นไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าไอ้ดำเกิงจะลงมือเมื่อไหร่ ส่วนผมก็ใช้หัวคิดอย่างหนักว่าจะยุติศึกนี้ยังไงดี
โชคร้ายที่ผมพูดภาษาแมวไม่ได้ เลยไม่รู้จะแง๊ว ๆ กับมันยังไงให้มันหยุด ใจอยากจะบอกไอ้ดำเกิงว่า
ไปหาสินสอดมาสู่ขอกันดี ๆ อย่าทำอย่างนี้ และอยากบอกมันอีกว่า คะน้ามันทำหมันแล้วโว้ย มันไม่รู้สึกอะไรกับเอ็งหรอก!!!

.........ก็ได้แต่คิดครับ ยอมรับว่าคิดไม่ออกจริง ๆ ไอ้ครั้นจะให้ผมลงไปช่วย ก็เกรงว่า
ตัวผมเองจะหล่นลงมาคอหักตายก่อนแมว เพราะมีที่ยืนอยู่นิดเดียวจริง ๆ ทำยังไงดี ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ในระหว่างที่กำลังคิดนั่นเอง จุดสิ้นสุดก็มาถึง อีกไม่ถึง 1 เมตร ก็จะสุดทางที่คุณนายสามารถจะถอยได้แล้ว
ไอ้ดำเกิงค่อย ๆ คืบคลานเข้าไปช้า ๆ ปลายทางหดสั้นเข้ามาเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ

.........ผมไม่รู้ว่ามันทั้ง 2 ตัวรู้หรือเปล่าว่า ข้างหลังไม่มีที่ให้ก้าวอีกแล้ว เพราะภาพที่เห็นครั้งสุดท้าย คือ
ไอ้ดำเกิงกระโดดใส่คุณนายคะน้าของผม และหายแว่บลงไปจากระเบียง!!!!

“แง๊ววววววววววววววววววววววววววววว” นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยิน

“คะน้า...............................” เสียงแม่ผมร้องออกมาด้วยความตกใจ
อย่าว่าแต่แม่ผมเลยครับ ผมเองยังตกใจไม่แพ้กัน ใจหล่นลงไปสู่หัวแม่ตรีนอย่างรวดเร็ว


“เชี่ยเอ้ย!!!!” ผมตะโกนออกมา แล้ววิ่งลงไปข้างล่างทันที



จบตอนที่ 4


รอพบกับตอนที่ 5 ได้ที่นี่ เร็ว ๆ ๆ ๆ ๆ นี้นะครับ ^_^





สมันน้อย เบอร์ 14



Create Date : 17 มีนาคม 2551
Last Update : 17 มีนาคม 2551 16:06:04 น.
Counter : 277 Pageviews.

9 comments
  
น้าหมันชอบตัดตอนแบบทิ้งท้ายให้ลุ้นเรื่อยเลย


ว่าแต่ดูรูปแล้ว
ท่าทางคะน้าเธอจะพิศวาทรองเท้าน้าหมันมากเลยนะคะ ^__^
โดย: Honeybee042 ขี้เกียจล็อกอิน IP: 125.26.74.167 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:17:23:12 น.
  


โธ่..เหมียวงามๆนาม "คะน้า"...
ย่อมต้องมีเหมียวหนุ่มหมายจะรังแก

จะโดนขืนจายม่ะค่ะเนี่ยยย

ตื่นเต้ลๆๆๆๆๆๆ

โดย: สะพานไม้ วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:18:08:59 น.
  
กะลังลุ้นเลยอ่ะ เง้อ
โดย: The_airZ IP: 125.25.204.113 วันที่: 17 มีนาคม 2551 เวลา:19:16:39 น.
  
กรี๊ดดดดดด.. จะเป็นไงเนี่ย แต่ว่าแมวตกจากที่สูงน่าจะโอเคนา...
โดย: แมวจอมกวน วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:4:57:45 น.
  
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ
โดย: หมุ่ย IP: 58.9.148.12 วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:10:59:49 น.
  
โหยยย หวาดเสียว
โดย: MARON CREAM วันที่: 18 มีนาคม 2551 เวลา:14:43:05 น.
  
ตกตึก !!!!!!!


โดย: *ออมอู๊ด* IP: 202.57.140.114 วันที่: 21 มีนาคม 2551 เวลา:14:25:33 น.
  
อ่านแล้วฮาเหมือนเดิมเลยค่ะ เขียนได้สนุก + น่ารักมาก ๆ (คุณนายคะน้านะคะที่น่ารัก อิอิ)
โดย: verify by me IP: 58.136.206.148 วันที่: 23 มีนาคม 2551 เวลา:9:46:25 น.
  
แมวตัวเมียที่บ้านแต่ก่อน(ตอนนี้ยกให้ข้างบ้านไปแล้วค่ะ ห้ามศึกระหว่างพี่ๆน้องๆมันไม่ไหว กันกันเองจะปวดหัว) พอโดนทำหมันเข้า ก็ห้าวซ้าาาาาาาา -_-" ตัวเท่าเมี่ยงสู้เค้าไม่ได้ก็ไปขู่ค้าจังเลย ไม่รู้จะทำไงเหมือนกันค่ะ ข้างบ้านที่ยกให้เค้าไป ก็ได้แต่ขังมันไว้ในบ้านส่วนใหญ่ กลัวไปหาเรื่องแมวตัวอื่นเข้า แล้วมันจะโดนฟัดจนน่วม -_-"
โดย: แค่ก้อนหินที่อยากบินได้ วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:0:48:52 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมันน้อย เบอร์ 14
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]






สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิด โดยนำ ภาพถ่าย,รูปภาพ, บทความ,งานเขียน รวมถึงข้อความต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ ไปใช้เผยแพร่ .ไม่ว่าส่วนตัวหรือเชิงพาณิชย์ โดยไม่ได้ รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด

:: หลังไมค์หาผมได้ครับ ::


Custom Search



มีนาคม 2551

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
16
18
20
21
22
23
24
25
26
28
29
31
 
 
MY VIP Friend