คนชื่อหมา ว่าจะเล่าเรื่องนี้ให้ได้อ่านกันตั้งแต่กลับมาจากเมืองกาญจนบุรีเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว แต่ว่าจำไม่ได้ว่าภาพถ่ายป้ายหน้าศูนย์แสดงสินค้า OTOP บ้านหนองขาวเอาไปเก็บไว้ที่ไหน... ก็นึกว่าอยู่กับกล้องหนอน แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ คิดไปว่าสงสัยลบทิ้งไปซะแล้ว จนกระทั่งเมื่อวานกำลัง sync มือถือเข้ากับ laptop ถึงได้เจอว่ามันอยู่ในมือถือนี่เอง ป้ายหน้าศูนย์ฯ ที่ว่ามันพิเศษยังไงถึงต้องถ่ายมาให้ดู ก็ลองดูกันเองละกันครับ อย่างแรก... แอบหัวเราะกันล่ะสิ อย่างที่สอง... สงสัยใช่หรือเปล่า แต่สำหรับผมสิ่งแรกที่แวบเข้ามาในหัวสมอง ก็คือน้องชายแท้ๆ ของผมนี่แหล่ะ คิดว่าเหตุผลที่เขาตั้งชื่อกันแบบนี้คงเป็นเหตุผลเดียวกันกับที่ยายของผมเรียกน้องชายของผมว่า "ไอ่หมา" เมื่อตอนยังเล็กๆ แน่ๆ... ประทานโทษถ้าคิดว่ามันเป็นคำหยาบคาย ด้วยความสงสัยก็เลยเดินเข้าไปถามน้องๆ ที่อยู่ในศูนย์แสดงสินค้าฯ คำตอบที่ได้ก็ตรงกับสิ่งที่ผมคาดหวังไม่มีผิด นั่นคือ มันเป็นวิธีหนึ่งในการแก้เคล็ดนั่นเอง น้องเขาเล่าว่าในสมัยก่อนการแพทย์ในชนบทนั้นไม่ค่อยจะเจริญสักเท่าไรนัก เด็กที่เกิดมาบางทีก็มีสุขภาพไม่แข็งแรง เจ็บไข้ออดๆ แอดๆ ผู้ปกครองจึงมักจะตั้งชื่อลูกของตนเพื่อหลอกสิ่งเหนือธรรมชาติที่จะมาพรากชีวิตลูกหลานของพวกเขาไปนั่นเอง จากข้อมูลเมื่อปี 2005 (3 ปีมาแล้ว) จากเว็บ //www.kanchanaburi.com/kannews/01529.html อ้างถึงเนื้อหาในเว็บไซต์ "ข่าวสด" กล่าวว่า "ด้านน.ส.สิริรัตน์ ล้อถิรธร ปลัดเทศบาล ต.หนองขาว เปิดเผยข้อมูลล่าสุดของสำนักทะเบียนท้องถิ่น เทศบาล ต.หนองขาวว่า ปัจจุบันมีคนที่มีชื่อจริงนำหน้าว่า "หมา" ประมาณ 20 คน คาดว่าเป็นคนกลุ่มสุดท้ายของประเทศไทย โดยทั้งหมดมีชื่อนำหน้าว่าหมาแทบทั้งสิ้น อาทิ หมากบ หมาหล่วน หมาเอื้อน หมาหยิบ หมาเกลียด หมาแข่ง หมาเลียน หมาจูน โดยเหตุผลที่มีการตั้งชื่อแบบนี้ส่วนหนึ่งบอกว่าเป็นความเชื่อว่าตั้งชื่อแบบนี้แล้วจะอยู่รอดปลอดภัย ผีสางจะไม่เอาตัวไป และทั้งหมดไม่คิดเปลี่ยนชื่อ เนื่องจากเป็นชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ ถือเป็นชื่อดีอยู่แล้ว นอกจากนี้หากเปลี่ยนชื่อต้องเปลี่ยนในเอกสารราชการทั้งหมด" บางเรื่องเราอาจจะเห็นเป็นเรื่องแปลก เรื่องตลก แต่สำหรับกลุ่มคนบางกลุ่มมันหมายถึงความเป็นไปของชีวิต ความเป็นความตายเลยก็ว่าได้ ... รู้ไว้ใช้ว่า ใส่บ่าแบกหามนะครับ ว่าแต่ เวลาจะข้ามถนนไม่รู้ว่าต้องเปลี่ยนชื่อหรือเปล่า เพราะเห็นหมาข้ามถนนทีไร ไม่ค่อยจะรอดซักที   Create Date : 02 ตุลาคม 2551 7 comments Last Update : 2 ตุลาคม 2551 10:55:47 น. Counter : 1067 Pageviews. Share Tweet

ก็เป็นความรู้อีกอย่างเน๊าะ ... ไมมีในหนังสือหนังหา แต่ก็หาอ่านเอาได้ตามบล็อกค่ะ .. อ้อ จำได้ว่า พ่อเคยเข้าป่าแล้วก็มีคนงาน ในกลุ่มที่ต้องทำงานด้วยเค้าชื่อว่า นายขี้หมา แสนแปงวัง ...เราก็งงเหมือนกันว่า มีจริงๆ เหรอ .. อ้อ เป็นอย่างนี้นี่เอง ตั้งเป็นเคล็ด   โดย: JewNid 2 ตุลาคม 2551 11:29:46 น.

เข้ามาบล๊อคนี้ทีไร ไอ้หนอนได้ความรู้กลับออกไปทุกทีเลย ไม่มากก้อน้อยล่ะ อิอิ เฮียต๋องสบายดีน่ะฮับ ไอ้หนอนไม่ได้เข้ามาป่วนนานดูบล๊อคเฮียสงบขึ้นเยอะเลยนิ๊ เอิ๊กกก กาดึ๊บ กาดึ๊บ   โดย: หนอนน้อยเองฮับ ^^ ;P (Little Worm ) 2 ตุลาคม 2551 11:37:45 น.

เรามักจะชอบรู้ไว้ใช้ว่าใส่บ่าแบกหาม ยิ่งมาทำงานแบบนี้ได้เจอะเจอสิ่งต่างๆ ของอต่ละสถานที่ แต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ แต่ละหมู่บ้าน ชอบๆ แหล่มค่ะคุณต๋อง เพื่อนของพี่ชายที่อุบลเขาชื่ออ้ายหมา พอโตขึ้นเขาถึงได้เปลี่ยนชื่อค่ะ   โดย: อุ้มสี 2 ตุลาคม 2551 16:45:41 น.

รับทราบ พร้อมเก็บไว้เป็นข้อมูลต่อไป คำว่า หมาวัด คงมาจากที่นี้เช่นกันเพราะไม่มีใครเรียกว่า สุนัขวัด สักคน เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ   โดย: บ้าได้ถ้วย 2 ตุลาคม 2551 19:17:22 น.

ช่างสังเกตุจิงๆ นะทั่น........ แล้วเปนคนขี้สงสัยอีกต่างหาก... ตั้งชื่อนายหมา..............เท่ห์มั้ยน่ะ 555   โดย: canx 3 ตุลาคม 2551 22:14:21 น.

เป็นวิธีแก้เคล็ดที่แปลกดีค่ะ ขอบคุณที่ช่วยให้ความรู้นะคะ   โดย: b@rbOr 8 ตุลาคม 2551 10:36:53 น.

หมา..รับซาบ...   โดย: พี่หมา (Bkkbear ) 14 ตุลาคม 2551 11:08:46 น.