Bloggang.com : แม่เนื้ออุ่น : ต้มข่ากระดูกอ่อน

ต้มข่ากระดูกอ่อน

หลายวันก่อนมีเรื่องงอนกับแฟนค่ะ เรื่องจุกๆ จิกๆ งี่ๆ เง่าๆ ของผู้หญิงเรานี่แหละ จริงๆ ก็รู้ว่าเราเป็นฝ่ายผิดนะคะ แต่ก็เก๊กอยู่หลายวันเหมือนกัน สุดท้ายก็ทนไม่ไหวค่ะ โทรไปง้อเองเรย (๕๕๕)

วันอาทิตย์ที่ผ่านมาเลยทำกับข้าวเอาใจหน่อยเป็นเมนูง่ายๆ ที่เค้าเล่าให้ฟังว่าเป็นกับข้าวที่กินสมัยเด็กๆ แต่ไม่ได้กินมานานแล้ว อุ่นเลยทำ กะหล่ำปลีผัดกุ้ง ไข่เจียวผักกาดดอง ตามคำบอกเล่าของเค้าค่ะว่าจะต้องใส่โน่นใส่นี่ แล้วก็มีเมนูเพิ่มอีกอย่างคือ "ต้มข่ากระดูกอ่อน" สูตรของพี่จุ๋ม แม่สลิ่มค่ะ ตามกระทู้นี้ค่ะ

//www.pantip.com/cafe/food/topic/D6985058/D6985058.html

อยากกินและอยากลองทำมากๆ เลย ก็เลยถือโอกาสที่ทำกับข้าวเอาใจแฟนส่งการบ้านพี่จุ๋มเลยนะคะ ^^

มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันก่อนนะคะ

ต้มข่ากระดูกอ่อน

ส่วนผสม

- กระดูกอ่อนสับเป็นชิ้นพอคำ 300 กรัม
- เห็ดนางฟ้าฉีกเป็นชิ้นพอคำ 3 ช่อ
- มะพร้าวขูด 350-400 กรัม (อุ่นใช้กะทิธัญพืชแทนค่ะ)
- ข่าอ่อน 30-40 แว่น
- หัวหอมแดงโขลกหยาบ 7-8 หัว
- พริกขี้หนูบุบตามชอบ
- ผักชี
- มะนาว
- เกลือ
- น้ำตาลทราย
- น้ำเปล่า

(พี่จุ๋มบอกว่า เพิ่มผักชีฝรั่ง พริกแห้งทอด ใบมะกรูดได้ค่ะ อุ่นขี้เกียจทอดพริกแห้ง แล้วก็ไม่มีผักชีฝรั่ง เลยขอใส่เพิ่มแค่ใบมะกรูด)

วิธีทำ

1. ล้างกระดูกอ่อนให้สะอาด สับเป็นชิ้นๆ ใส่หม้อแล้วเทน้ำสะอาดพอท่วม ตั้งไฟปานกลางให้น้ำเดือด ปรับเป็นไฟอ่อน เคี่ยวให้กระดูกหมูนุ่มประมาณครึ่งชั่วโมง คอยช้อนเอาฟองทิ้ง ตักขึ้นพักไว้

2. ตั้งกะทิไฟปานกลาง พอเดือดใส่หอมหัวแดงโขลกหยาบ ใช้ทัพพีคนให้หอมแดงกระจาย

3. ใส่ข่าและรากผักชี หมั่นคนให้ข่าส่งกลิ่นหอมและนิ่มขึ้น

4. กะทิเดือดอีกครั้งใส่กระดูกอ่อนที่พักไว้ ปรุงรสด้วยเกลือป่น

5. เดือดอีกครั้งใส่เห็ด ปรุงรสเพิ่มเติมตามชอบ ใส่พริกขี้หนูบุบ ผักชีหั่นท่อน และใบมะกรูดฉีก ดับไฟ ปรุงรสเปรี้ยวด้วยมะนาว

ล้างกระดูกหมูแล้วสับเป็นชิ้นๆ นะคะ อุ่นสับกระดูกไม่เก่ง ทำได้แค่นี้แหละ นานๆ ทีได้ใช้มีดไฮโซ เพราะปกติทำกับข้าวก๊องๆ แก๊งๆ เลยเก็บไว้ในกรุตลอด

ตั้งกระทะ ใส่กระดูกอ่อน เทน้ำพอท่วม ใช้ไฟปานกลางต้มจนเดือดแล้วปรับเป็นไฟอ่อน เคี่ยวไปเรื่อยๆ ให้กระดูกอ่อนนิ่มขึ้น จะได้เคี้ยวง่าย หากมีฟองลอยขึ้นมาให้ช้อนออกด้วยค่ะ

อุ่นลืมถ่ายรูประหว่างเคี่ยวกระดูกหมู มีแต่ภาพตอนเสร็จแล้วจ้า

ตักขึ้นมาพักไว้ก่อนค่ะ

มาถึงหอมแดง พี่จุ๋มบอกว่าให้โขลกหยาบ แต่อุ่นไม่มีครกง่ะ ขี้เกียจใช้เครื่องปั่นด้วย ก็เลยซอยบางๆ แล้วก็สับหยาบแทนค่ะ

ผักชีก็หั่นเตรียมไว้

ข่า รากผักชี พริกขี้หนูบุบ ใบมะกรูด พร้อม!!!

ลืมอะไรอีกหรือเปล่าหนอ

อ้อ

เห็ดค่ะเห็ด

พี่จุ๋มใช้เห็ดนางฟ้า แต่อุ่นขี้เกียจไปตลาด เลยซื้อผักแค่ใน Tops หน้าปากซอย แล้วมันมีแต่เห็ดโคนญี่ปุ่น เห็นว่าหน้าตาคล้ายๆ กันเลยซื้อมาแทน

ด้วยความที่เห็ดมันเบ้อเริ่มมาก ก็เลยต้องหั่นเป็นชิ้นๆ แบบนี้ไว้ค่ะ

เอาล่ะ เครื่องเคราพร้อมแล้ว ตั้งกะทิกันเลยดีกว่า

อุ่นใช้กะทิธัญพืชแทนค่ะ เพราะกินแล้วสบายใจกว่ากะทิแท้ๆ (หลอกตัวเองไปวันๆ ว่ามันดีต่อสุขภาพ เอิ๊กๆ) ตั้งไฟปานกลางให้กะทิเดือด

พอเดือดแล้วก็ใส่หอมแดง ข่า รากผักชี ลงไปค่ะ คอยคนอยู่บ่อยๆ (ใช้กะทิธัญพืชจะกลัวแตกมันทำไมไม่รู้ แต่ก็คน) ให้ข่าส่งกลิ่นหอมแล้วก็อ่อนนุ่มลง เวลากินจะได้เคี้ยวอร่อย

เดือดแว้วววว

(กินข่าไปหลายแว่น เช็คว่านิ่มยัง แหะๆ)

ใส่กระดูกอ่อนลงไปเลยค่ะ

ใช้ทัพพีเขี่ยกระดูกอ่อนให้กระจายแช่น้ำกะทิให้ทั่วถึง ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย แล้วรอให้เดือดอีกครั้ง

เดือดแว้ว

(สารภาพอีกหนว่าแอบกินกระดูกอ่อนกรุบๆ กรับๆ ไปหลายชิ้นอยู่ อิอิ ก็ชิมว่านิ่มอ๊ะป่าว)

ใส่เห็ดลงไปเลยค่ะ (อยากใส่เห็ดฟางจัง ชอบเห็ดฟาง)

ใช้ทัพพีกดเห็ดให้จมน้ำกะทิ

คะเนว่าเห็ดสุกแล้วก็ชิมรสอีกครั้งค่ะ เพราะน้ำจากเห็ดอาจจะทำให้รสแกงเจือจาง ปรุงรสด้วยเกลือ และที่สำคัญ ถ้าใช้กะทิธัญพืชอย่างอุ่นต้องเติมน้ำตาลด้วยนะคะ เพราะมันจะไม่หวานเหมือนกะทิธรรมชาติ อุ่นใช้น้ำตาลเทียม เสียดายใส่หนักมือไปหน่อย แกงเลยหวานไปนิดนึงค่ะ

เมื่อได้รสที่พอใจแล้วก็ใส่ผักชี ใบมะกรูด และพริกขี้หนูบุบตามลงไป

คนให้เข้ากัน ดับไฟ ปรุงรสเปรี้ยวด้วยมะนาวค่ะ

ตักใส่ชาม เตรียมเสิร์ฟ เสร็จแล้วหนึ่งอย่างค่า (ปาดเหงื่อ)

ขอบคุณพี่จุ๋มมากค่ะสำหรับสูตรอร่อยๆ กระดูกอ่อนเคี้ยวกรุบกรับมากเลย เสียดายหวานไปนิด (เพราะอุ่นเองแหละ) แต่แฟนก็กินข้าวหมดไปสองจานเลยน้า

มาที่เมนูที่สองบ้างค่ะ กะหล่ำปลีผัดกุ้ง

เมนูนี้ที่มาก็มาจากคำบอกเล่าของแฟนนั่นแหละค่ะว่าตอนเด็กๆ ชอบกินกะหล่ำปลีผัดกุ้ง ผัดกะหล่ำปลีให้สุกๆ หน่อย คิดว่าจะไม่น่าจะซับซ้อนนัก ก็เลยออกมาแบบนี้ค่ะ

หมักกุ้งด้วยพริกไทยและน้ำมันงาไว้สักพัก

กะหล่ำปลีหั่นฝอย แช่น้ำเอาไว้เผื่อยาฆ่าแมลงจะยังหลงเหลือ ล้างน้ำอีกครั้งให้สะอาดนะคะ

ตั้งกระทะ เจียวกระเทียมเลยค่ะ

เจียวให้พอเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนก็พอนะคะ เพราะเราต้องผัดกุ้งอีก เดี๋ยวกระเทียมจะไหม้ไปซะก่อน

ส่งกุ้งลงผัดเลยค่ะ

ผัดแค่พอสุกแล้วก็ตามด้วยกะหล่ำปลีเลยค่ะ

ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำมันงา ซีอิ๊ว พริกไทย ผัดๆ แป๊บเดียวก็เสร็จแล้วค่ะ ไม่ต้องเติมน้ำนะคะ เพราะน้ำจากผักจะออกมาเอง เดี๋ยวจะเจิ่งนองไป

เป็นกับข้าวที่ดูบ๊านบ้านมากมาย แต่ก็อร่อยกินง่ายดีนะคะ ทำแป๊บเดียวก็เสร็จ

มาที่อย่างสุดท้ายค่ะ ไข่เจียวผักกาดดอง

เมนูนี้ก็มาจากแฟนอีกเหมือนกัน เค้าบอกว่าตอนเด็กๆ พี่เลี้ยงชอบทำไข่เจียวผักกาดดองให้กิน แต่ไม่ได้กินมานานมากแล้ว