ครัวแม่เนื้ออุ่น
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Blueberry Fresh Cream Cake




สืบเนื่องมาจากกระทู้ Blueberry Cream Cheese Pie (//www.pantip.com/cafe/food/topic/D6437830/D6437830.html) ที่อุ่นลองกวนซอสบลูเบอรี่สูตรของแม่เดียร์ Anadiar ปรากฏว่าแม้จะทำแค่ครึ่งสูตร แต่ปริมาณซอสที่ได้ก็มากมายจนคนที่ทำขนมแค่ประมาณอาทิตย์ละครั้งอย่างอุ่นเกิดความกังวล กลัวว่าซอสมันจะเสียไปซะก่อนน่ะค่ะ (แม้ว่าแม่เดียร์จะบอกว่าเก็บไว้ได้เป็นเดือนๆ ก็ตามที) ขนมช่วงนี้ที่อุ่นทำก็เลยวนเวียนอยู่กับซอสบลูเบอรี่ อยากใช้ให้หมดเร็วๆ จะได้กวนใหม่ ฮิๆ

เมนูแรกสำหรับการสลายซอสบลูเบอรี่ก็เป็นขนมง่ายๆ แบบนี้เลยค่ะ Blueberry Cake เป็นสปันจ์เค้กสูตรพี่แหม่ม Tiara สอดไส้ด้วยซอสบลูเบอรี่และวิปครีม

จริงๆ สปันจ์เค้กวานิลาสูตรพี่แหม่มเนี่ย แทบไม่ต้องพูดถึงขั้นตอนเลยเนอะ เพราะทำกันบ่อยมากๆ จนแทบจะทำได้โดยไม่ต้องดูสูตรอยู่แล้ว แต่อุ่นก็ชอบถ่ายรูปไว้ให้ครบน่ะค่ะ จะได้เป็นกระทู้ของหมวดทำอาหารที่สมบูรณ์ ^^

มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันก่อนนะคะ



Blueberry Cake


ส่วนผสมตัวเค้ก


- แป้งพัดโบก ๑๐๐ กรัม
- ผงฟู ๓/๔ ช้อนชา
- น้ำตาลทราย ๘๐ กรัม
- เกลือ ๑/๒ ช้อนชา
- น้ำ ๔๐ กรัม
- นมข้นจืด ๕๐ กรัม
- ไข่ไก่ ๓ ฟอง
- เนยละลายรสเค็ม ๗๐ กรัม
- สารเสริม SP ๑๐ กรัม
- กลิ่นวานิลา ๑ ช้อนชา


วิธีทำ


๑. วอร์มเตาอบด้วยอุณหภูมิ ๑๘๐ องศาเซลเซียส ใส่เนย ๗๐ กรัมไว้ในเตาอบเพื่อละลาย

๒. ใส่น้ำตาลทราย เกลือ ไข่ไก่ น้ำ นมข้นจืด กลิ่นวานิลา รวมกันในอ่างผสม ปาด SP ที่หัวตะกร้อ ตีด้วยความเร็วสูงนาน ๕ นาที (หลังจากตีเสร็จ ๕ นาทีนี้ ให้นำเนยออกมาจากเตาอบได้เลยค่ะ

๓. ใส่แป้ง ตีด้วยความเร็วต่ำ ๑ นาที แล้วตีด้วยความเร็วสูงสุด ๖ นาที หมั่นปาดอ่าง

๔. ปิดเครื่อง ปาดอ่าง ตีด้วยความเร็วต่ำอีก ๑ นาที ค่อยๆ ใส่เนยละลายทีละช้อน จากนั้นตีด้วยความเร็วต่ำอีก ๒ นาที ปาดอ่าง แล้วตีด้วยความเร็วสูง ๑๐-๒๐ วินาที ปิดเครื่อง

๕. ใส่แบทเทอร์ลงในพิมพ์กลมขนาด ๓ ปอนด์ ที่ปูด้วยกระดาษไขไม่ต้องทาเนย อบไฟบน-ล่าง ประมาณ ๔๐ นาที

ส่วนผสมหน้าเค้กและไส้

- ซอสบลูเบอรี่ปริมาณตามชอบ (ถ้าไม่ได้กวนเอง ใช้แบบกระป๋องก็ได้นะคะ)
- วิปปิ้งครีม ๔ ถ้วย
- น้ำตาลไอซิ่ง ๔-๖ ช้อนโต๊ะ (ส่วนนี้สามารถลด-เพิ่มได้ตามความชอบค่ะ)

วิธีทำ

๑. สไลซ์เค้กเป็นชั้น (๒-๓ ตามชอบอีก) พักไว้
๒. ตีวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลไอซิ่งให้ขึ้นฟู
๓. สอดไส้และแต่งหน้าเค้กด้วยวิปครีมและซอสบลูเบอรี่



แรกสุดเลยคือเตรียมพิมพ์ ๓ ปอนด์ รองกระดาษไข ไม่ต้องทาไขมันไว้ค่ะ



วอร์มเตาอบไฟบน-ล่าง ไว้ที่อุณหภูมิ ๑๘๐ องศาเซลเซียส แล้วเอาเนย ๗๐ กรัมเข้าไปละลายในเตาอบค่ะ



ตวงแป้งกับผงฟูรวมกัน



ร่อน ๒ ครั้งแล้วพักไว้



ใส่ไข่ไก่ นมข้นจืด น้ำเปล่า เกลือ น้ำตาล และกลิ่นวานิลาลงในอ่างผสม



ปาด SP ที่หัวตะกร้อ



ตีด้วยความเร็วสูง ๕ นาทีค่ะ



ครบ ๕ นาทีแล้วสีไข่จะอ่อนลงและข้นขึ้นนะคะ



ใส่แป้งลงไปในอ่างผสมค่ะ ใช้ไม้พายช่วยคนให้เข้ากันเป็นเบื้องต้นก่อนก็ได้เพราะตอนเปิดเครื่องตีแป้งจะได้ไม่ฟุ้ง



ตีด้วยความเร็วต่ำ ๑ นาที ระหว่างนี้ให้เอาเนยละลายออกมาพักไว้นอกเตาอบค่ะ



เนยละลาย ตะกอนที่เกิดขึ้นนี้มันคืออะไรคะ ผู้รู้ช่วยบอกที รู้แต่ตักมาชิมแล้วเค็มปี๋เลยค่ะ



เมื่อครบ ๑ นาทีแล้วก็ใช้ไม้พายปาดอ่างให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วเริ่มตีด้วยความเร็วสูงอีกครั้งเป็นเวลา ๖ นาทีค่ะ (อุ่นพักเครื่องตอนตีไปแล้ว ๓ นาทีเพื่อปาดอ่างด้วย)



ครบ ๖ นาทีแล้วก็ปาดอ่าง ตีด้วยความเร็วต่ำอีก ๑ นาที จากนั้นก็ค่อยๆ ใส่เนยละลายทีละช้อนหรือรินลงไปเป็นสายก็ได้ค่ะ

เมื่อใส่เนยละลายหมดแล้ว จับเวลาตีด้วยความเร็วต่ำต่ออีก ๒ นาที ปาดอ่าง แล้วตีด้วยความเร็วสูงสุดอีกประมาณ ๒๐ วินาทีค่ะ



แล้วเราก็ได้แบทเทอร์ข้นๆ แบบนี้มา ปาดอ่างอีกครั้ง เช็คว่าเนยละลายเข้ากับส่วนผสมดีแล้วหรือยังเพื่อความชัวร์



เทใส่พิมพ์ได้เลยค่ะ



ใช้มือหมุนพิมพ์ ๒-๓ ครั้งเพื่อให้แบทเทอร์กระจายไปทั่วพิมพ์ และใช้ไม้พายปาดแต่งหน้าอีกครั้งให้เรียบ



อบไฟบน-ล่าง ๑๘๐ องศาเซลเซียสประมาณ ๔๐ นาที เช็คสุกรอบแรกด้วยการดูขอบเค้ก ถ้าขอบเค้กหลุดออกจากพิมพ์แสดงว่าสุกแล้ว เช็คสุกรอบสองโดยการใช้นิ้วกดเบาๆ บนหน้าเค้ก ถ้าเค้กคืนตัวตามรอยนิ้วมือแสดงว่าสุกแล้ว และเช็คสุกรอบสามให้มั่นใจอีกรอบด้วยการใช้ไม้จิ้มฟัน ถ้าไม่มีเศษเค้กติดมาก็แสดงว่าสุกแล้วแน่นอนค่า

ที่ต้องเช็คขนาดนี้ เพราะถ้าไม่สุกชัวร์แล้วเอาออกมาพักไว้ เค้กจะยุบน่ะค่ะ

เอาออกจากเตาอบ กระแทกพิมพ์เบาๆ ๑-๒ ครั้ง แล้วพักไว้บนตะแกรงให้เย็นค่ะ



พอเค้กเย็นแล้ว ใช้มีดหรือสปาตูลาร์แซะรอบขอบพิมพ์แล้วคว่ำออกจากพิมพ์ค่ะ ฮิๆ วันนี้ตรูดไม่เป็นไตด้วยยยย



ตกแต่งเค้กด้วยการขูดเอาส่วนที่ไหม้ๆ หรือสีเข้มๆ ออกแล้วสไลซ์เป็น ๓ ชั้นรอไว้ค่ะ



เค้กชั้นแรก ขึ้นแท่นหมุนเตรียมสอดไส้



ชั้นต่อๆ ไป นอนบนตะแกรงรอไว้ก่อน



ซอสบลูเบอรี่สูตรแม่เดียร์ที่กวนไว้ ดูสิคะ ขนาดครึ่งสูตรยังได้เยอะมากๆ เลย



เตรียมสอดไส้และแต่งหน้าเค้กกันดีกว่าค่ะ

วิปปิ้งครีม น้ำตาลไอซิ่ง ซอสบลูเบอรี่ .. พร้อม!!!

ปกติอุ่นใช้วิปปิ้งครีมของโฟรโมสต์ล่ะ แต่รอบนี้ตอนไปซื้อมันไม่มี มีแต่ของแมกโนเลียก็เลยต้องจำใจซื้อมา โทรถามคุณวรรณแล้วเรียบร้อยแล้ว คุณวรรณบอกว่ารสชาติใช้ได้ก็เลยมั่นใจที่จะซื้อมาค่ะ



ก่อนตีวิปปิ้งครีม อุ่นแช่โถตีกับหัวตีไว้ในช่องแช่แข็งค่ะ คือหลังจากส่งเค้กเข้าเตาอบไปแล้วก็เอาหัวตีไปล้างแล้วแช่แข็งเลย ส่วนวิปปิ้งครีมเพิ่งย้ายจากช่องธรรมดามาแช่ช่องฟรีซหลังจากที่เอาเค้กออกเตาอบแล้วค่ะ

น้ำตาลไอซิ่งกับวิปปิ้งครีม ใส่รวมกัน



ตีด้วยความเร็วสูงสุดจนตั้งยอดแข็งแบบนี้ค่ะ ขั้นตอนนี้ถ่ายรูปละเอียดนักไม่ได้เพราะต้องรีบตีรีบทำ ไม่งั้นมันจะละลายค่ะ อากาศร้อนมากๆ



แล้วก็มาเริ่มสอดไส้กันเลยด้วยความรวดเร็วค่ะ เดี๋ยววิปครีมละลาย

ปาดวิปครีมบนเค้ก แล้วราดด้วยซอสบลูเบอรี่มากน้อยตามชอบ



วางเค้กทับลงไปอีกชั้น แล้วปฏิบัติตามขั้นตอนเดิม (ปาดวิปครีม ราดบลูเบอรี่)



ปิดท้ายด้วยเค้กชั้นบนสุด



ปาดหน้าเค้กด้วยวิปครีมและบีบตกแต่งตามชอบและตามความคิดสร้างสรรค์ค่ะ อุ่นรีบทำมากเลย เพราะวิปครีมเริ่มเหลวไปเรื่อยๆ แล้ว ถ่ายรูปนี้เสร็จก็วิ่งจู๊ดไปแช่ช่องแข็ง



แช่ช่องแข็งไว้ประมาณ ชั่วโมงครึ่งก็เอาออกมาตัดค่ะ เพราะถ้าแช่นานกว่านั้นจะแข็งเกินไปแล้วก็ตัดยาก



บีบขอบตามมีตามเกิด ไม่ค่อยสวยโปรดให้อภัยนะคะ



พอเอาเข้าช่องแข็งแล้วแล้วหน้าครีมมันเรียบขึ้นจริงๆ ค่ะ



ตัดแล้วค่า ได้ ๑๒ ชิ้น



ห่อฟอยล์ พันพลาสติกเรียบร้อยแล้วก็เอาไปแช่ช่องแข็งเหมือนเดิมค่ะ ที่อุ่นต้องแช่ช่องแข็ง เพราะตอนหิ้วไปที่ทำงานจะได้ไม่ละลายไปซะก่อน

ตื่นเช้า แสงสว่างพอมีแต่ไม่มาเพราะยังเช้าอยู่ ก็เอาออกมาถ่ายรูปอีกรอบ และเตรียมหิ้วไปที่ทำงาน (ที่ทำงานอุ่นทำวันอังคาร-เสาร์ค่ะ)



นานๆ จะทำเค้กที่แต่งหน้าด้วยวิปครีมสักที ขอถ่ายรูปเยอะหน่อยนะคะ (บอกว่าเยอะ แต่จริงๆ ก็ไม่กี่รูปอยู่ดี วิตกจริต กลัววิปครีมละลาย -_-)



หยิบออกมาหนึ่งชิ้นเพื่อใช้เป็นนายแบบถ่ายรูป



ถ่ายรูปบนฝาที่ครอบเค้กนี่แหละ แหะๆ จัดฉ่งจัดฉากไม่ทันแล้วจ้า จะไปทำงานแหล่ว



เอียงซ้ายเอียงขวาให้ดูเล็กน้อย



บลูเบอรี่เยิ้มๆ



รูปสุดท้ายแล้วจ้า .. ราดซอสบลูเบอรี่

อุ่นเป็นพวกมีความอดทนกับการถ่ายรูปต่ำมากเลย ดังนั้นอุ่นจะถ่ายๆ ถ้ามันไม่เบลอก็จะหยุดถ่ายค่ะ แหะๆ

อยากมีพื้นที่เอาไว้จัดฉากถ่ายรูปเหมือนคนอื่นๆ จัง เก็บความฝันไว้ก่อนนะคะ ตอนนี้อยู่ห้องเล็กๆ ไปก่อน

พบกันใหม่เมนูหน้านะคะ ขอบคุณทุกท่านที่อยู่เป็นเพื่อนกันตลอดกระทู้ค่า.






Create Date : 29 มีนาคม 2551
Last Update : 29 มีนาคม 2551 14:43:13 น. 12 comments
Counter : 3666 Pageviews.

 
ตามมาปาดอีกรอบในบล็อคจ้า น่ากินที่ซู้ดดดดดดดด


โดย: khan_sithon วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:14:08:17 น.  

 
เนื้อเนียน สวยจริงๆเลยจ๊ะ อ.อุ่น ส่งมาให้พี่ชิมบ้างซิ


โดย: moopu วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:14:51:22 น.  

 
อุ้ยย น่ากินมากมาย ไหลเยิ้มแบบนี้


โดย: Kofschip วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:15:54:43 น.  

 
สวยและน่าทานจังเลย


โดย: Hamugo วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:15:57:34 น.  

 
ปาดครีมได้เนียนดีจังเลยค่ะ น่าทานอีกต่างหาก


โดย: เพียวโกะจัง วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:19:02:52 น.  

 
น่ากินมากๆ ดูเนื้อเค้กนุ่มๆ ปาดหน้าเค้กได้เนียนมาก ลายข้างเค้กก็น่ารักดี


โดย: Neaw27 IP: 58.8.94.123 วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:21:46:19 น.  

 
หน้าเนียนกริบ สวยน่าทานมากๆเลยค่า


โดย: ปูขาเก เซมารู วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:0:27:04 น.  

 
ดูเนียนนุ่มน่ากินจริงๆคร้าบ...บ


โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:8:38:32 น.  

 
ปาดเค้กเนียนกริบ....

มาชิมด้วยคนนะค่ะ



โดย: Macchiato วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:23:26:42 น.  

 
ถ้าแม่เนื้ออุ่นมาร้านโอยั๊วะบอกด้วยนะคะ...อยากรู้จักจัง.....


โดย: กุ้ง IP: 58.8.147.216 วันที่: 13 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:31:18 น.  

 
เพิ่งจะเห็น ยังทันเหลือให้กินมั้ยคะเนี่ย


โดย: Tiny Bakery วันที่: 21 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:01:49 น.  

 
น่ากินมาก สวยมาก ขอชิ้น1นะ


โดย: noobamza IP: 203.172.236.36 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:14:56:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

แม่เนื้ออุ่น
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




ถ้าใครมีคำถามอยากพูดคุยแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะกับเมนูที่ไม่ได้โพสต์เป็นหน้าแรกของบล็อก รบกวนส่งข้อความมาทางหลังไมค์ดีกว่านะคะ เพราะอุ่นจะไม่ได้เข้าไปดูบล็อกหน้าเก่าๆ ว่ามีใครฝากคำถามใหม่ๆ เอาไว้หรือไม่ กว่าจะได้เข้าไปดู บางทีก็ผ่านมาแล้วหลายเดือน -_-

หรือถ้าไม่มีล็อกอินพันทิป ส่งหลังไมค์ไม่ได้ ก็รบกวนฝากคำถามไว้ที่หน้าแรกของบล็อกนะคะ อุ่นจะได้เห็นและตอบได้ทันใจค่า
Friends' blogs
[Add แม่เนื้ออุ่น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.