ไปกด Link ได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/skymantaf หรือ Follow ได้ที่ Twitter https://twitter.com/skymantaf หรือที่ http://www.thaiarmedforce.com นะครับ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
25 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 

กรณีการปะทะของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ - จุดเปลี่ยนของสถานการณ์อาจมาถึงแล้ว

ต่อเนื่องจาก Blog ที่แล้ว

"Step ต่อไปของกระปะทะกันของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้"

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=skyman&month=24-11-2010&group=3&gblog=156

จากกรณีการดวลปืนใหญ่กันของทั้งสองเกาหลีในนี้ วันนี้มีรัฐมนตรีท่านหนึ่งต้องหยุดอนาคตทางการเมืองไว้ชั่วคราว (หรือถาวร) นั่นก็คือท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ นายคิม เท ยัง ซึ่งประกาศลาออกในวันนี้จากแรงกดดันของทั้งส.ส.ในฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านถึงการตอบโต้การโจมตีของเกาหลีเหนือที่เป็นการตอบโต้ในเชขิงรับมากเกินไป (Too passive) นั่นก็คือเขายิงปืนใหญ่มา เกาหลีใต้ก็ยิงปืนใหญ่ตอบ ไม่มากไปกว่านั้น จึงไม่ถูกใจหลาย ๆ คน เนื่องจากกฏการปะทะ (Rule of Engagement) ของเกาหลีใต้อนุญาตให้ทำการตอบสนองต่อภัยคุกคามได้ตามความเหมาะสม และในวันนี้เกาหลีเหนือก็ออกมาขู่อีกว่าอาจจะทำการโจมตีอีกถ้าเกาหลีใต้และสหรัฐไม่หยุดการคุกคามทางทหาร

อย่างที่เรียนให้ทุกท่านทราบไปใน Blog ที่แล้วครับว่า ครั้งนี้รัฐบาลของประธานาธิปดีลี ยอง บักค่อนข้างถูกกดดันมากทีเดียวว่าจะมีการตัดสินใจดำเนินการอย่างไรเพื่อตอบโต้การโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเกาหลีเหนือนับจากสงครามเกาหลีหยุดลงชั่วคราวในปี 1953 และเคยเรียนให้ทราบไปว่าการตัดสินใจดำเนินการใด ๆ จะส่งผลกระทบต่ออนาคตทางการเมืองของประธานาธิปดีลี ยอง บัก เนื่องจากหลายฝ่ายเคยไม่พอใจการตอบโต้ต่อกรณีคล้ายกันนี้ว่าอ่อนเกินไป แต่คราวนี้กลายเป็นรัฐมนตรีกลาโหมที่รับหน้าและรับแรงกระแทกจนลาออกแทนไป

ใน Blog ที่แล้วนั้นผมคาดการณ์ความเป็นไปได้ 5 ทางที่เกาหลีใต้น่าจะเลือกทำ มาจนถึงวันนี้ดูเหมือนว่าสิ่งที่เกาหลีใต้เลือกทำก็คือข้อ 2 (ตอบโต้ทางการฑูต การค้า และตัดความช่วยเหลือ) และครึ่งหนึ่งของข้อ 4 (การโจมตีตอบโต้ด้วยกำลังทางทหาร) ครับ

การตัดความช่วยเหลือต่าง ๆ นั้นถูกดำเนินการในทันทีทันใด แต่สำหรับคำกล่าวของผมที่ว่าครึ่งหนึ่งของข้อ 4 นั้นมาจากการดำเนินการในการซ้อมรบร่วมกับสหรัฐใกล้น่านน้ำที่เป็นปัญหา โดยเรือบรรทุกเครื่องบิน USS George Washington ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำเดียวที่ประจำการถาวรในส่วนหน้า (Permanet Forward-Deployment Carrier) หรือก็คือเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรือสหรัฐซึ่งประจำการถาวรในต่างประเทศ (ในที่นี้คือประเทศญี่ปุ่นที่ฐานทัพเรือโยโกสุกะ) โดยขึ้นตรงการบังคับบัญชากับกองทัพเรือที่ 7 ของกองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิก (United States Pacific Command: USPACCOM) ซึ่งดูแลภาคพื้นแปซิฟิกตะวันตกที่รวมถึง สิงคโปร์ ไทย จีน และเกาหลีใต้ (เรือลำนี้เพิ่งมาแวะพักที่เมืองพัทยาเมื่อสองเดือนก่อนนี้เอง) และจะต้องเป็นหน่วยแรกที่ทำการตอบโต้ถ้าเกิดภัยคุกคามขึ้นในคาบสมุทรเกาหลี

อีกการดำเนินการหนึ่งก็คือการปรับเปลี่ยนกฏการปะทะของเกาหลีใต้ในการตอบโต้กับสถานการณ์ครับ

กฏการปะทะ หรือ Rule of Engagement คือกฏที่จะบอกหน่วยใช้กำลังของกองทัพว่า ในสถานการณ์ใดจะต้องทำการตอบโต้แบบใด เช่น ผมไม่สามารถยิงคนอื่นก่อนได้ถ้าไม่ถูกยิงก่อน เป็นต้น กฏการปะทะถูกออกแบบมาเพื่อทำให้สถานการณ์ในการรบนั้นอยู่ภายใต้การควบคุมและการคาดการณ์ของฝ่ายเราในระดับหนึ่ง ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีกฏการปะทะแตกต่างกันออกไป

ในการเปลี่ยนกฏการปะทะในครั้งนี้ ตามข่าวระบุว่าเนื้อหาหนึ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปก็คือการตอบโต้การโจมตีจะแปรผันไปตามปัจจัยที่ว่า การโจมตีของข้าศึกนั้นเป็นการโจมตีต่อเป้าหมายทางทหารหรือเป้าหมายพลเรือน และการตอบโต้การโจมตีนั้นจะใช้อำนาจการยิงให้สูงกว่าฝ่ายข้าศึก 2 - 3 เท่า

ผมวิเคราะห์ว่านี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งหนึ่ง ไม่ใช่แต่เฉพาะในสถานกาณ์เฉพาะหน้านี้ แต่อาจะเป็นความมั่นคงโดยรวมในคาบสมุทรเกาหลีทั้งหมดในอนาคต

อย่างที่เคยเรียนให้ทุกท่านทราบไปว่า ถ้าเกาหลีใต้เลือกข้อ 4 เกาหลีใต้จำเป็นที่จะต้องมองหาความชอบธรรมในการทำการโจมตีตอบโต้ และการเปลี่ยนกฏการปะทะในครั้งนี้ก็ได้สร้างความชอบธรรมให้กับเกาหลีใต้ในการดำเนินการใด ๆ ในอนาคตแล้ว นั่นคือถ้าจำเป็น เกาหลีใต้มีเครื่องมือทุกอย่างที่พร้อมสำหรับการทำสิ่งที่อีกครึ่งหนึ่งของข้อ 4 นั่นคือการโจมตีตอบโต้ด้วยกำลังทหาร

ในภาพระยะสั้นนั้น ผมคาดว่าจะไม่มีการโจมตีหรือการปะทะใด ๆ ที่เป็นการตอบโต้ต่อฝ่ายเกาหลีเหนือจากกรณีการยิงปืนใหญ่ตอบโต้เกิดขึ้นในระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต้องการประเมินก้าวต่อไปของกันและกัน

แต่ในภาพระยะกลางหรือระยะยาว ถ้าเกิดมีการโจมตีจากเกาหลีเหนืออีกครั้ง ผมคาดว่าจะเกิดเหตุการณ์สองสิ่งนี้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งคือ

1. จะมีการตอบโต้ที่รุนแรงขึ้นจากเกาหลีใต้ และจะมีการปะทะกันที่รุนแรงกว่าในครั้งนี้ การปะทะจะจบลงภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่หลังจากนั้นถ้าผู้นำทางการเมืองไม่สามารถหาข้อตกลงที่จะทำให้เกิดสันติภาพได้ การปะทะครั้งต่อ ๆ ไปจะรุนแรงยิ่งขึ้นจนอาจทำให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบได้

2. จะมีการตอบโต้ที่รุนแรงขึ้นจากเกาหลีใต้ และจะมีการปะทะกันที่รุนแรงกว่าในครั้งนี้ การปะทะจะจบลงภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่หลังจากนั้นถ้าเกาหลีเหนือประสบกับความสูญเสียที่รุนแรง อาจทำให้เกาหลีเหนือพิจารณาแล้วว่าศักยภาพของตนไม่สามารถต่อสู้กับเกาหลีใต้และพันธมิตรได้ ซึ่งอาจจะเป็นแรงกดดันที่ทำให้เกาหลีเหนือยอมกลับสู่โต๊ะเจรจาหกฝ่าย (ซึ่งมีเกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, สหรัฐ, รัสเซีย, จีน, และญี่ปุ่น) เพื่อหาทางออกและอาจนำไปสู่การสร้างสันติภาพที่ถาวรบนคาบสมุทรเกาหลี

จะสังเกตุว่าไม่ว่าสถานการณ์จะพัฒนาไปในทางใด ผมคาดว่าน่าจะมีเหตุการณ์ปะทะกันที่รุนแรงกว่านี้ในอนาคตมากขึ้นอย่างแน่นอน แต่จะทำให้เกิดสงครามหรือสันติภาพ ต้องรอดูสถานการณ์ในตอนนั้นต่อไป

ตัวแปรอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คืออาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ อาวุธนิวเคลียร์มีสถานะพิเศษ นั่นคือเป็นอาวุธในเชิงยุทธศาสตร์ซึ่งทำหน้าที่ทั้งในด้านการทหาร และทำหน้าที่เป็นฑูตไปด้วยในตัว ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าเกาหลีเหนือจะใช้นิวเคลียร์หรือไม่ อย่างไร เมื่อไหร่ แต่ถ้าการใช้นิวเคลียร์เกิดขึ้นจริง ผลลัพธ์ของมันจะกลายเป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของโลก

คาบสมุทรเกาหลีคือพื้นที่สุดท้ายที่ยังมีบรรยากาศของสงครามเย็นอยู่หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย ทำให้การดำเนินการใด ๆ ในพื้นที่บริเวณนี้อยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะเกิดการสูญเสียได้เสมอครับ

ต้องติดตามดูกันต่อไป และภาวนาว่าอย่าให้มีสงครามเกิดขึ้นเลย

อ้างอิง

"South Korean defence minister resigns over deadly clash"

//www.bbc.co.uk/news/world-asia-pacific-11838750




 

Create Date : 25 พฤศจิกายน 2553
4 comments
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2553 23:48:51 น.
Counter : 8650 Pageviews.

 

เหม่งจะดูซีรี่ย์เกาหลี

 

โดย: น้าหนูนีล_น้องขวัญ 25 พฤศจิกายน 2553 23:51:27 น.  

 

เป็นไปได้ไหมที่จะรบกันแบบจริงแบบประกาศสงครามกัยเลยอะพี่

 

โดย: น้องผิง 26 พฤศจิกายน 2553 10:49:51 น.  

 

ผมก็ว่าการตั้งรับที่อ่อนเกินไปของเกาหลีใต้ อาจส่งผลให้ตำแหน่ง ปฐน.เกาหลีในสมัยที่สองต้องปิ๋วไปได้แน่นอน....
ให้เดานะ ในสายตาประชาชนเค้าอาจจะคิดว่า รัฐบาลอ่อนไปรึเปล่า สมัยหน้าถ้าพรรคฝ่ายค้านนำประเด็นนี้มาเป็นจุดขาย ผมว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ในสมัยหน้าก็ได้ครับ
ขนาดโดนตอปิโด ทหารเรือเสียชีวิตไปสี่สิบหกนาย ผมยังแปลกใจในท่าทีของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ทำได้แค่ยื่นประท้วงสหประชาชาติเท่านั้นเอง ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป และประชาชนเกาหลีใต้ทนเกินจุดเดือดไปแล้ว ผมว่าสงครามเกาหลีรอบที่สองได้ระเบิดแน่ๆ แต่แทนที่จะถูกจุดโดยเกาหลีเหนือ แต่ดันโดนถูกจุดจากประชาชนเกาหลีใต้แทนนี่สิ.....(อาจจะออกมาประท้วงครั้งใหญ่ เรียกร้องให้ตอบโต้ให้รุนแรงกว่านี้ก็เป็นได้)

 

โดย: Sakurachan (Tomoeda ) 26 พฤศจิกายน 2553 17:26:45 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ครับ


เข้ามามอบ 3 คะแนนให้พี่โยครับ อิอิอิ





 

โดย: กะว่าก๋า 3 ธันวาคม 2553 6:15:48 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Analayo
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 56 คน [?]




หากโลกนี้มีความยุติธรรม เราคงไม่ต้องมีศาล ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีตำรวจหรอก/Skyman
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @
X
X



free counters


Friends' blogs
[Add Analayo's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.