|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
ลำเลียงฝ่ามฤตยู.....โดย ไอพ่น
เรื่องนี้ คุณไอพ่น นักบินคนเก่งของฝูง 603 เคยเขียนลงในเว็บของฝูงบิน 603 (//www.603sqdn.com) ครับ ด้วยความสามารถในการเขียนของเจ้าของบทความ ทำให้เรื่องนี้อ่านเมื่อไหร่ก็สนุก..ลองติดตามอ่านดูครับ
ลำเลียงฝ่ามฤตยู ไอพ่น
ปังปังปังๆๆๆ ปังปังปังๆๆๆ
บรึ๊มมม บรึ๊มมม
อ๊ากก....โอยยย... ช่วยด้วย
อดทนไว้ ไอ้เล็ก แข็งใจหน่อย
ปัง ปัง ปังๆๆๆ
หมวดระวัง!!
บรึ๊มมม.....บรึ๊มมมม.......
เร็วหมวด ไม่เป็นไรใช่ไหมครับ มา ผมช่วย
จ่าชัยรีบโผเข้าไปช่วยหมวดยุทธ ลากร่างไอ้เล็กที่ได้แต่ร้องครวญครางลงมาหลบในคูเหลดอย่าง
ทุลักทุเล ท่ามกลางห่ากระสุนที่ยิงลงมาปกคลุมพื้นที่อย่างหนาแน่น
หมอ หมอ รีบมานี่หน่อย อดทนไว้ไอ้เล็ก โธ่ไม่น่าเลย
จ่าชัยมองผู้หมวดหนุ่มอย่างเข้าใจในความเศร้าที่ต้องมาสูญเสียลูกน้องฝีมือดี ผู้ที่กำลังเป็นคนสำคัญในตอนนี้ไปอย่างน่าเศร้า เพราะความที่ไอ้เล็กพลทหารร่างเล็กสมชื่อ ไม่อาจจะทนต่อสภาวะกดดันได้จนถึงกับคลุ้มคลั่งโวยวายจนกลายเป็นเป้าให้ข้าศึกยิงถล่ม โชคดีที่ไม่โดนยิงตรงๆ แต่โชคร้ายที่แรงอัดของจรวดRPG และสะเก็ดระเบิดอัดเข้าร่างไอ้เล็กอย่างจังจนเลือดสาดตัวกระเด็นไปไกล ผู้หมวดยุทธจึงต้องยอมเสี่ยงชีวิตไปลากกลับมา
เป็นไงบ้างหมอ หมวดยุทธถามด้วยความเป็นห่วงลูกน้อง
ตอนนี้ยังไม่รู้ครับต้องรอดูอาการไปก่อน หมอวิญตอบเลี่ยงๆ เพราะไม่อยากบอกความจริง
ช่วยให้เต็มที่เลยนะ ถ้าเลือดไม่พอมาเอาเลือดผมก็ได้
หมอวิญมองหน้าหมวดยุทธด้วยความซาบซึ้งใจในความเสียสละของหมวดยุทธ ยิ่งตอนนี้ หมวดยุทธยังต้องมารับผิดชอบทำหน้าที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดอย่างจำใจแทนผู้กองศักดาที่ได้รับบาดเจ็บนอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่ ซึ่งหมวดยุทธก็สามารถทำได้อย่างดีเยี่ยม ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับลูกน้องตลอดมา แล้วตอนนี้เขายังจะยอมสละแม้กระทั่งเลือดตัวเองให้ลูกน้องอีก
ครับ หมอวิญไม่รู้จะหาคำตอบอะไรได้ดีกว่านี้ เพราะใจจริงแล้วเขาก็ได้พยายามรักษา
ทุกคนอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเป็นไอ้เล็กด้วยแล้ว หมอวิญก็รู้ว่ายิ่งต้องพยายามให้ถึง
ที่สุด เพราะไอ้เล็กเป็นคนที่ยิงปืนกลสกัดข้าศึกได้ดีที่สุดในชุดปฏิบัติการนี้ ยิ่งสถานการณ์ในตอนนี้ ถ้าหน่วยต้องมาขาดไอ้เล็กไป แนวป้องกันที่เคยเหนียวแน่นก็คงถูกทำลายลงไม่ยาก แล้วนั่นก็คงหมายถึงวาระสุดท้ายของทุกคนที่นี่
แต่การที่จะรักษาไอ้เล็กตอนนี้ได้ก็คือต้องส่งกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้เลยในตอนนี้ อย่าว่าแต่การส่งกลับไปเลย เอาแค่ยาที่จะรักษาตอนนี้ก็ยังไม่มี เพราะได้ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว ที่ทำได้ตอนนี้ก็คงได้แค่ดูใจแล้วปล่อยให้ตายไปเองเหมือนอย่างหลายศพ ที่ผ่านมา เพราะสถานการณ์ตอนนี้เลวร้ายมากขนาดอาวุธกระสุนที่จะยิงใช้ป้องกันตนเองยังแทบจะไม่มี ก็คงไม่ต้องพูดถึงเรื่องยารักษาโรคกับอาหารและน้ำ ต้องกัดฟันอดทนกันไป แค่ได้มีเวลางีบนอนบ้างก็บุญแล้ว
เพราะนี่ก็ 3 วันเข้ามาแล้วที่หน่วยทหารหน่วยนี้ถูกข้าศึกล้อม นับตั้งแต่ได้เข้ามาตรวจค้นหมู่บ้านชายแดนแห่งนี้ ตามนโยบายปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล แต่ใครจะรู้ว่าหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้จะกลายเป็นแหล่งพักยาเสพติดขนาดใหญ่ที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งมูลค่าของมันมีมากเสียจนเจ้าของของมันไม่อาจจะสูญเสียมันไปได้
ตอนแรกที่เข้าตรวจค้นพวกมันคงยังตั้งตัวไม่ติดจึงยอมให้ยึดยาเสพติดมาอย่างง่ายดาย แต่เมื่อพวกมันตั้งตัวได้จึงล่อหน่วยเฉพาะกิจนี้มาเข้ากับดัก แล้วก็สาดกระสุนมรณะชุดแรกถล่ม ไอ้พร พลวิทยุจนแหลกพร้อมเครื่อง พร้อมกับกระสุนอีกส่วนหนึ่งที่ร้อยเข้ามาตามร่างผู้กองศักดาจนอาการสาหัส ส่วนที่เหลือก็แจกให้ทหารคนอื่นๆไป แล้วแต่ใครจะโชคดี!
ใช่ ! กลายเป็นว่าคนที่ตายนั้นโชคดีที่ไม่ต้องทรมาน แต่คนที่รอดมาได้ก็ต้องแล้วแต่ บุญกรรม ใครที่บาดเจ็บหมอวิญก็ได้พยายามรักษาจนหมดยา บ้างก็รอด บ้างก็สิ้นใจไปเพราะอาการหนักและขาดยา ส่วนที่เหลือก็ตกอยู่ท่ามกลางห่ากระสุนห่าระเบิดถูกยิงกดหัวแทบจะทั้งวัน อาหารที่แทบจะไม่มีเวลากินก็เริ่มหมด ต้องอดจนไส้แทบขาดทำให้ไม่มีแรง แล้วในเวลากลางคืนก็ยังต้องคอยระแวงกระสุนที่ยิงมาก่อกวนสลับกับมีชุดจู่โจมลอบมาเจาะแนวป้องกันจนแทบไม่ได้หลับได้นอน แล้วนับวันศพเพื่อนที่ถูกยิงตายก็เริ่มเน่าเหม็นมีหนอนชอนไช ไม่สามารถทำอะไรได้เพราะถูกโจมตีตลอดเวลา พวกมันพยายามอย่างยิ่งที่จะบดขยี้หน่วยทหารหน่วยนี้เพื่อยึดของมีค่าของมันคืน ใครที่ทนได้ก็ทนไปใครที่ทนไม่ได้ก็ต้องมีสภาพอย่างไอ้เล็กที่คุ้มคลั่งจนเกือบเสียสติ
สถานการณ์ถูกลอยแพ ติดต่อหน่วยเหนือไม่ได้ ได้รอเวลาตาย แต่ตอนนี้ถึงแม้ว่าหน่วยเหนือจะทราบมันก็คงจะสายไปแล้วเพราะข้าศึกกลุ่มใหญ่กำลังจะรุกประชิดถึงตัวหน่วยทหารที่แทบจะไร้สมรถภาพเช่นนี้แล้ว
เมื่อเวลาหลังจากพระอาทิตย์ลับแสง ปฏิบัติการสังหารหมู่จึงอุบัติขึ้น
บรึ๊มมม บรึ๊มมม บรึ๊มมม
บรึ๊มมม บรึ๊มมม บรึ๊มมม
ปังปังปังๆๆๆ ปังปังปังๆๆๆ ปังปังปังๆๆๆ
ปังปังปังๆๆๆ ปังปังปังๆๆๆ ปังปังปังๆๆๆ
หมวด! ข้าศึกเริ่มบุกแล้ว
จ่าชัยร้องบอกหมวดยุทธอย่างเสียงหลงเพราะจำนวนข้าศึกมากมายมหาศาลที่โถมบุกเข้ามาหมวดยุทธได้แต่ยืนตะลึง เพราะภาพเหตุการณ์ที่เห็นข้างหน้านี้ มันบอกถึงวาระสุดท้ายของตัวเขาเอง และหน่วยทหารหน่วยนี้ จึงเกิดความเสียใจจนน้ำตาแทบไหล แต่ด้วยวิญญาณนักรบผู้ปกป้องชาติจึงตะโกนสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความเด็ดเดี่ยวว่า
เพื่อมาตุภูมิ ขอให้ทุกคนสู้ตาย
โฮ่ โฮ่ โฮ่
โฮ่ โฮ่ โฮ่
ปังปังปังๆๆๆ
บรึ๊มมมม บรึ๊มมมม
ปังปังปังๆๆๆ ปังปังปังๆๆๆ
เสียงโห่ร้องจากวิญญาณชาตินักรบของทหารไทยที่จะปกป้องชาติจนยอมสละได้แม้ชีวิต ขานรับคำสั่งมรณะ ด้วยใจรักชาติมั่นตามด้วยเสียงกระสุนที่ยิงออกไปเพื่อฆ่าทำลายล้างอริราชศัตรูของแผ่นดินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ แนวป้องกันเริ่มถูกทลายแนวตั้งรับเรรวน คนถูกยิงเจ็บตายเพิ่มขึ้น
บรึ๊มมม บรึ๊มมม
บรึ๊มมม บรึ๊มมม
ปังปังปังๆๆๆ
หมวด ปีกขวากระสุนหมดแล้ว ขออนุญาตติดดาบตะลุมบอน
หมวด ปีกซ้ายใกล้แตกแล้ว ช่วยด้วย โอ้ยยย
ปังปังปังๆๆๆ ปังปังปังๆๆๆ
จ่าชัย! จ่าชัยเป็นไงบ้าง โธ่ หมวดยุทธประคองจ่าชัยที่ถูกยิงเลือดอาบในอ้อมแขน ท่ามกลางเสียงรายงานเหตุการณ์วิกฤติต่างๆที่ดังเข้ามาเป็นระยะๆ เมื่อเห็นว่าไม่รอดแน่ หมวดยุทธจึงสั่งจ่าชัยให้เผาทำลายยาทิ้ง แต่จ่าชัยก็มาถูกยิงล้มฟุบไป วาระสุดท้ายมาถึงแล้ว หมวดยุทธหันไปมองลูกน้องที่อยู่รอบๆ แต่ลูกน้องที่เหลืออยู่แนวหลังนี้ คือพวกที่บาดเจ็บไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งหมวดยุทธก็คงไม่สามารถช่วยเหลือใครได้แม้กระทั่งตัวเอง เขาจึงกระชับปืนไว้มั่นเตรียมพร้อมจะขายชีวิตตัวเองให้แพงที่สุด น้ำตานองหน้าที่เขาและลูกน้องต้องมาสังเวยชีวิตเช่นนี้ แล้ววาระสุดท้ายของทุกคนก็จะจบลงแต่เพียงเท่านี้ ถ้าไม่มีเสียงกึกก้องประหนึ่งฟ้าฟาดของ SONICBOOM ( เสียงดังคล้ายเสียงระเบิดที่เกิดจากการที่เครื่องบินบินเร็วกว่าเสียง )
บรึ๊มมม บรึ๊มม บรึ๊มมม
ระเบิดทำลายล้างจากเครื่องบินแบบ F16 ทำให้ทหารแนวหลังของฝ่ายข้าศึกถูกทำลายย่อยยับ ส่วนพวกที่เหลือได้แต่ตกตะลึงกับมฤตยูเหนือเสียงที่โผล่มาทำลายล้างแล้วหายวับไปกับชั่วพริบตาราวกับปีศาจ ทิ้งให้คนที่อยู่บนพื้นทั้งสองฝ่ายxxxงไปชั่วขณะกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
Break (เลี้ยว) ขวา เลยครับพี่ พ๊อยหัวไปตรงช่องเขานั้นครับ เสียง น.ต. ณรงค์ศักดิ์นักบินผู้ช่วยที่นั่งข้างกัปตันวุฒิ บอกทิศทางการบินแก่กัปตันเครื่องบินลำเลียงแบบ G 222 แห่งฝูงบิน 603 ของกองทัพอากาศไทย เพราะเนื่องจากการบินในตอนนี้เป็นการบินที่มีเพดานบินต่ำความเร็วสูง ( LOW NAV ) กัปตันจึงไม่มีเวลามองเครื่องวัดภายในเครื่องบิน เพราะต้องคอยมองภูมิประเทศภายนอก เพื่อจะได้นำอากาศยานที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 400 กว่ากิโลเมตรต่อชั่วโมง บินลัดเลาะไปตามช่องเขาต่างๆได้อย่างปลอดภัย โดยความสูงที่ต้องบินในขณะนี้เพียงแค่ 500 ฟุต บินผ่านไปท่ามกลางหุบเขาที่รายล้อมโดยรอบที่สูงเกินกว่า 1,000 ฟุตทั้งนั้น ดังนั้นการที่จะบินไปยังทิศทางที่ถูกต้องได้ จึงตกเป็นหน้าที่ของนักบินผู้ช่วยในการกำกับทิศทางให้บินไปตามแผนการบินที่วางไว้แก่กัปตัน
10 Minute Warning อนันต์นักบินผู้ช่วยอีกคนที่วันนี้รับหน้าที่เป็น Navigator ซึ่งจะนั่งด้านหลังกัปตันได้ขานบอกเวลาก่อนถึงเป้าหมายแก่นักบินและลูกเรือทุกคนเพื่อเป็นการเตือนให้ปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆที่ได้วางแผนไว้ตามหน้าที่ของแต่ละคนที่ได้กำหนดไว้
กัปตันครับ ตอนนี้ช้าไป 10 sec ครับ
โอเค คอยเช็คต่อไป กัปตันวุฒิ รับรู้ว่าเวลาที่บินขณะนี้ช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ 10 วินาที จากการคำนวนในแผนของ Navigator จึงรีบเติม Power เพื่อเร่งความเร็ว เป็นการแก้ไขเพื่อให้อากาศยานไปถึงเป้าหมายได้ตามเวลาที่ถูกต้อง
ตูมมม ตูมมมม ตูมมม
ปังปังปังๆๆๆ ปังๆๆๆ
F16 ยังคงถล่มแนวหลังของข้าศึกต่อไป ข้าศึกแนวหน้าซึ่งตอนนี้ขวัญกระเจิงไปหมดแล้ว แต่ได้พยายามบุกตะลุยเพื่อเข้าไปประชิดทหารไทยให้ได้มากที่สุด เพราะรู้ดีว่า F16 ไม่กล้าถล่มใกล้แนวของทหารฝ่ายเดียวกันมากนัก เนื่องจากอาจจะเกิดการผิดพลาดได้ แต่ทหารไทยก็รู้ทันจึงยับยั้งพวกมันด้วยอาวุธทั้งหมดที่มี ขวัญกำลังใจก็เริ่มดีขึ้น เพราะรู้ว่ากำลังจะได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งจะถูกส่งมาจากทางฟ้า
6 Minute Warning
หลังคำเตือนของ Navigator อนันต์ กัปตันวุฒิ ก็ผ่อน Power ทำความเร็วให้ลดลงเหลือประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อเปิดแล็ม ( ช่องประตูท้ายเครื่อง ) เตรียมทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้บรรลุ นั่นก็คือการทิ้ง CDS ( Container Delivery System ) ซึ่งภายในอัดแน่นไปด้วยอาวุธกระสุน,อาหาร,น้ำและยาต่างๆ อันเป็นที่ต้องการอย่างยิ่งของเพื่อนทหารบกที่ตกอยู่ในวงล้อมนรกข้างล่างนั้น
เราเร็วไป 5 sec ครับ
โอเค ทราบ กัปตันวุฒิรีบผ่อน Power ทันทีหลังจาก Navigator บอกให้แก้ไขเรื่องเวลา
ความสูงต่ำไป 50 ฟุต Heading เสีย ให้แก้ไปทางซ้าย 5 องศาครับ
Roger ( รับทราบปฏิบัติ )
เสียงนักบินผู้ช่วยแจ้งให้กัปตันทราบถึงข้อผิดพลาดต่างๆอยู่ตลอดเวลา เพราะการทิ้ง CDS โดยใช้ร่มหน่วงนั้น ถ้าจะให้ถูกต้องแม่นยำตรงเป้าหมายนั้นจะต้องบินให้ได้ตำแหน่งทิศทางและ ความสูงที่ถูกต้อง ตามที่ได้คำนวณมาเป็นอย่างดีจากที่พื้น ทั้งนี้ทิศทางลมและความเร็วลมต้องไม่เปลี่ยนจากที่ได้คำนวนไว้ตอนแรกด้วย จะเห็นได้ว่าการทิ้ง CDS นั้นเป็นงานที่ละเอียดอ่อนยุ่งยาก ประณีต และต้องอาศัยการทำงานเป็นทีมที่ดีจึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด และผู้ที่จะมาทำงานนี้ได้ก็ต้องเป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีเท่านั้น
One Minute Warning เสียงขานนับเวลาถอยหลังจาก Navigator ดังมาเป็นระยะๆ นักบินและเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างเครียดมากขึ้น เพราะความเร็วขณะนี้เร็วกว่ารถยนต์เพียงนิดเดียว แต่เมื่อเทียบกับขนาดอันใหญ่โตของเครื่องบินแล้วนั้น และยิ่งถ้าบินด้วยความสูงสำหรับการทิ้ง CDS ด้วยแล้ว เครื่องบินก็จะกลายเป็นเป้าบินขนาดใหญ่ลอยเอื่อยๆ ชวนให้ซ้อมมือสำหรับฝ่ายตรงข้ามยิ่งนัก แต่เพราะความเป็นทหาร เพื่อภารกิจอันสำคัญยิ่งของชาติ เพื่อเพื่อนทหารบกทั้งหลาย พวกเขาจึงต้องทำในสิ่งที่เรียกว่า กล้าหาญ
30 Second Warning
ความสูงเกิน 20 ฟุต แก้ Heading ขวา 5 องศาครับ
เร็วไป 3sec ถ้าพ้นเขาข้างหน้านี้ไปก็ถึงเป้าหมายแล้วครับ
โอเค รับทราบ
เสียงบอกข้อผิดพลาดและเสียงรายงานต่างๆดังมาเป็นระยะๆ ทุกคนต้องทำงานแข่งกับเวลา โดยมีชีวิตของทหารฝ่ายเดียวกันเป็นเดิมพัน ทุกคนจึงได้พยายามอย่างถึงที่สุดที่จะให้ CDS ตกลงไปยังตำแหน่งของทหารบกที่ถูกล้อมอยู่ ตามรายงายจากสายลับที่แฝงตัวอยู่บริเวณใกล้เคียงที่ได้เล็ดลอดแอบมาบอกข้อมูลต่างๆ
อีก 15 sec
F เริ่มเข้า
นักบินผู้ช่วยแจ้งเวลาและบอกเตือนตามแผนที่ได้วางไว้ว่า เมื่อถึงเวลานี้ F16 จะบินต่ำโฉบเป้าหมาย เพื่อหลอกข้าศึกให้เข้าใจผิดว่าจะทิ้งระเบิด ข้าศึกจะได้ไม่กล้าโงหัวขึ้นมายิงเครื่องลำเลียงที่บินเข้ามาช้าๆ คล้ายเป้านิ่ง ฉะนั้นเวลาในการบินเข้าหาที่หมายจะผิดพลาดไม่ได้ เพราะถ้าเร็วหรือช้าไปก็จะผิดจากแผน โอกาสที่จะถูกยิงก็จะยิ่งมีมากขึ้น
10...9...8...7
สูงไป 10 ฟุต แก้ Heading ซ้าย 3 องศาครับ
เสียงนับถอยหลังกับเสียงบอกความผิดพลาดดังสลับกันไปมา ยิ่งเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องทำทุกอย่างให้ละเอียดมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
6...5...4
ปังปังปังๆๆๆ เพล้ง โอ้ย!
ข้าศึกบางส่วนที่รู้ทันได้ยิงสกัดกั้นขึ้นมา และบางส่วนของกระสุนนั้นคือแจ็กพอต ที่สาดเข้ามาถูกเครื่อง ถูกพื้นบังคับหลัก ทำให้เครื่องบินเหมือนถูกมือยักษ์จับเหวี่ยงด้วยแรงมหาศาล เปออกจากแนวทิ้งร่ม แล้วหนึ่งในกระสุนส่วนนั้นยังได้ทะลุเข้ามาใน Cockpit ( ห้องนักบิน ) ทะลุขากัปตันวุฒิจนเลือดทะลัก นักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์นักบินที่สองจึงรีบควบคุมอากาศยานแทน แล้วรีบปิดแรมท้าย เร่ง Power หน้าสุด เพื่อเร่งความเร็วรีบบินหลบวิถีกระสุนออกไปโดยใช้แนวสันเขาช่วยบดบังแนวการยิงของข้าศึก ที่นักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์สามารถทำหน้าที่แทนกัปตันได้ทันที ก็เพราะก่อนขึ้นบินได้มีการศึกษาแผนที่มาเป็นอย่างดี จึงรู้ว่าควรจะบินหลบไปทางไหนจะได้ให้ภูเขาช่วยบังวิถีกระสุนให้ ไม่ใช่กลายเป็นบินไปชนเขา
เป็นยังไงบ้างครับพี่ อนันต์ Navigator ละมือจากแผนที่มาช่วยดูแผลกัปตัน
พี่ไม่เป็นไรมาก กัปตันวุฒิกัดฟันบอกทั้งๆที่เลือดไหลอาบขาท่วมไปถึงรองเท้า โชคดีที่อนันต์ห้ามเลือดได้และทำแผลให้เรียบร้อยในเบื้องต้น
การทิ้ง CDS เที่ยวนี้จึงต้องยกเลิกไป เพราะเครื่องบินไม่อยู่ใน Condition ( ข้อกำหนด ) ในการทิ้งร่ม เพราะถ้ายังฝืนทิ้ง CDS ก็จะตกไม่ตรงเป้าหมาย ยิ่งถ้าหน่วยภาคพื้นดินตกอยู่ในวงล้อมเช่นนี้แล้ว การทิ้ง CDS ผิด ก็อาจจะกลายเป็นการทิ้ง CDS ให้ศัตรูนำอาวุธของเรามาถล่มฝ่ายเราเสียเอง
เอาไงดีครับพี่ นักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์ ถามเมื่อพ้นรัศมีอันตรายในขณะที่เขายังทำหน้าที่บังคับอากาศยานแทนอยู่
พี่คิดว่า มันคงไม่คิดว่าเราจะกลับไป
ข้าศึกรู้ตัวแล้วอย่างนี้ไม่มีใครบินกลับไปหรอกครับ แต่ผมแล้วแต่พี่ครับ
ทหารฝ่ายเรากำลังนอนรอความตายอยู่ ในเมื่อมันคงไม่คิดว่าเราจะกลับไป ถ้าเรากลับไปก็เหมือนมันยังไม่รู้ตัว โอกาสสำเร็จยังมี ฉะนั้นพี่คิดว่าเราควรจะกลับไป
แม้มันจะคล้ายกับบินกลับไปหาความตายแต่นักบินกับเจ้าหน้าที่ทุกคนกลับยินดีที่ได้ยินการตัดสินใจเช่นนี้ของกัปตัน
ตกลงครับพี่ เดี๋ยวผมจะรีบตี Track ใหม่ครับ อนันต์พูดพลางเริ่มลงมือ
พี่ ครับ คราวนี้พี่บังคับเครื่องบินไม่ไหว ผมขอเปลี่ยนหน้าที่ให้พี่ทำหน้า Monitor ( ตรวจดู ) เครื่องวัด ส่วนผมจะบินแทนครับ
ตกลง ช้าง
กัปตันวุฒิตอบรับให้นักบินผู้ช่วยรับหน้าที่บังคับอากาศยานแทน เพราะความเชื่อมือ เนื่องจากได้เคยมีการฝึกซ้อมกันอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว
เลี้ยวกลับไปทิศ 240 ลดความสูงไปที่ 800 ฟุตก่อน กัปตันวุฒิสั่งนักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์ ซึ่งตอนนี้รับหน้าที่เป็นคนบินแทน ให้บินไปตามทิศทางที่ Navigator อนันต์ คำนวณไว้เพื่อกลับไปทำภารกิจท้านรกอีกครั้ง
Cobra Blue จาก Cowboy 603
Cowboy 301 Go ahead
ให้ Cobra Blue บินโฉบที่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง ที่ความสูง 1,000 ฟุต ที่นาทีที่ 44 และเที่ยวนี้ขอให้ Cobra ทิ้ง Flare ด้วย
ให้เข้าไปทิ้ง Flare ที่ที่หมายตรงตำแหน่งเดิม ความสูง 1,000 ฟุต นาทีที่ 44 Cobra Blue
หลังจากรับทราบแผนการบินใหม่ หมู่บินF16 ที่ใช้ Call Sign ว่า Cobra Blue ก็ทะยานขึ้นไปที่ความสูง 5,000 ฟุต เตรียมจัดตัวสำหรับการบินโฉบลงอีกครั้ง
6 Minute Warning
หลังคำเตือนจาก Navigator ทุกคนก็ต่างทำตาม Procedure ( ขั้นตอน ) ของตนเหมือนเดิมอีกครั้ง
แก้ซ้าย พ๊อยหัวตรงแนวเขาเล็กๆนั่น ลดความสูงไปอีกนิด
ยังช้าไป 5 sec
รับทราบครับ
นักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์รีบตอบรับแล้วรีบทำการแก้ไขตามข้อแนะนำทันที ทุกคนปฏิบัติงานกันด้วยความเครียด เพราะทุกขั้นตอนมีความสำคัญมากหากเกิดการผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียว ก็อาจจะต้องยกเลิกเที่ยวบินนี้ อันหมายถึงความล้มเหลวของภารกิจอีกครั้ง และนั่นยังหมายถึงชีวิตของพี่น้องทหารบกข้างล่างด้วย
1 Minute Warning
เฮ้ยระวัง! กัปตันวุฒิร้องเตือนเสียงหลงเมื่อมีแสงไฟสายกระสุนปืนพุ่งฝ่าความมืดของราตรีกาลตรงดิ่งเข้ามาหาเครื่องเป็นแนวยาว แต่นักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์เห็นแล้วจึงรีบบินหลบออกจากแนวกระสุนก่อนที่มันจะฉีกเครื่องบินของเขาเป็นชิ้นๆ
บินรักษาแนวเดิมต่อไป
ครับพี่ นักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์รับคำกัปตันวุฒิอย่างแข็งขัน G222 ลำนั้นจึงบินฝ่าสวนไปกับลำแสงของสายกระสุนมรณะที่พุ่งขึ้นมาคล้ายดอกไม้ไฟเต็มทองฟ้า เพราะ 1 ใน 5 นัดของสายกระสุนจะมีกระสุนเทรเซอร์ (ส่องวิถี) เป็นแสงไฟคอยบอกตำแหน่งกระสุนแก่คนยิง
ชีวิตของทุกคนรวมถึงเครื่องบินที่มีมูลค่ามหาศาลลำนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา กัปตันวุฒิซึ่งเขาได้ตระหนักดีว่าข้าศึกเริ่มรู้ตัวแล้วจึงพากันระดมยิงสกัดขึ้นมาอย่างนี้ โอกาสที่จะบินเข้าไปทิ้ง CDS ง่ายๆนั้นไม่มีทางและโอกาสที่จะถูกยิงตกก็มีมากขึ้นแต่ชีวิตของทหารบกข้างล่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาด้วยเช่นกัน ถ้ายกเลิกการทิ้ง CDS ทหารบกก็คงจะถูกข้าศึกบดขยี้จนไม่เหลือแม้แต่ซากอย่างแน่นอน เพราะเขาคือกัปตัน G222 ของกองทัพอากาศไทย เขาจึงต้องคิดหาทางออกที่ดีที่สุดแก่กองทัพไทย จากการประเมินสถานการณ์แล้วเขาตัดสินใจที่จะทำภารกิจต่อ โดยสั่งให้นักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์บินลงต่ำระดับยอดไม้ก่อน แล้วให้อนันต์คำนวณแนวการเข้าทิ้ง CDS ช่วงสุดท้ายใหม่ ซึ่งวิธีนี้อาจจะหลบการยิงของศึกได้แต่เสี่ยงที่จะชนกับสิ่งกีดขวางต่างๆ ดังนั้นจึงต้องขึ้นอยู่กับฝีมือบินของนักบินล้วนๆ
30 Second Warning
ปรับระดับขึ้นไป ให้หัวชี้ไปยอดเขาทางขวาสูง 300
ปังปังปังๆๆๆ ปังปังปังๆๆๆ
ปังปังๆๆๆๆ ปังปังปังๆๆๆ
เมื่อเครื่องบินเริ่มบินสูงขึ้นจึงกลายเป็นเป้าให้ข้าศึกระดมยิง ประกายไฟจากกระสุนส่องวิถี พุ่งเข้าหาเครื่องบินอย่างมากมาย แต่หาได้ระคายผิว G222 ไม่
อีก 15 sec
F เริ่มเข้า
คราวนี้กัปตันวุฒิเป็นคนแจ้งเตือน นักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์ซึ่งกำลังกำคันบังคับแน่นจนปวดมือเพื่อควบคุม G222 ให้ฝ่าแสงไฟมฤตยูไปยังเป้าหมาย ที่ยิ่งใกล้แสงไฟมฤตยูก็ยิ่งมากขึ้นราวกับว่าบริเวณนี้มีการจัดงานเฉลิมฉลอง
ทุกคน Check Visor Down
กัปตันวุฒิเตือนอีกให้ทุกคนนำกระจกกันแสงของหมวกนักบินลงมาปิดหน้าก่อน F16 จะบินเข้าถึงเป้าหมาย
พรึ่บ ฟู่วววว
พรึ่บ ฟู่วววว
เพราะแสงไฟของแฟร์หรือลูกไฟที่ใช้สำหรับล่อจรวดนำวิถีแบบติดตามความร้อนที่มีพลังเท่ากับ 100,000 แรงเทียนนั้นทำให้ตาคนที่มองตรงๆด้วยตาเปล่าในตอนกลางคืนตาพร่าเลือนสูญเสียการมองเห็นไปชั่วขณะ ฉะนั้นข้าศึกที่มุ่งแต่จะยิงเครื่องบินจึงโดนแสงแฟร์เข้าเต็มสองตาทำให้ประสาทรับรู้การมองเห็นสูญเสียไป
10.....9....8....7.....6
สูงไป 20 ฟุต แก้ Heading ซ้ายไป 3 องศาครับ
เมื่อปราศจากอาวุธสกัดกั้นรบกวน G222 จึงสามารถพุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างไม่ต้องกังวลถึงอันตราย แต่การบินให้ได้ตาม Condition นั้นก็ไม่ง่ายนักทุกคนจึงต้องพยายามสุดความสามารถ
5
.4
ข้าศึกบางส่วนที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์คำรามของ G222 จึงฝืนเพ่งมองหาต้นเสียง เมื่อพบจึงได้ระดมยิงสกัดกั้นเพื่อความอยู่รอดของตนเอง
ระวัง!
จับคันบังคับให้แน่น เกร็งมือไว้
กัปตันวุฒิรีบบอกนักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์เมื่อแสงไฟมฤตยูพุ่งขึ้นมาหาเครื่องอีกครั้ง ส่วนกัปตันวุฒิเอื้อมมือไปเตรียมกดปุ่มสัญญาณไฟที่แผงหน้าปัทม์
3.....2.....1
Green Light On
หลังสัญญาณไฟสีเขียวปรากฏวาบขึ้น จ่าทอง ลูกเรือ G222 ผู้รับผิดชอบในการปลด CDS จากเครื่องก็ใช้มีดฟันเชือกยึด CDS CDS จึงเคลื่อนไปตามรางหลุดจากเครื่องไปแล้วลอยหมุนไปมาตามแรงของเครื่องบินจนครบ 4 วินาที ทหารบกจึงเห็นของขวัญที่ประทานจากสวรรค์ลอยลงมาจากฟ้าโดยมีร่มหน่วงความเร็ว เสียงไชโยโห่ร้องจึงดังไปทั่วเมื่อ CDS ตกลงพื้นไม่ไกลจากจุดที่ถูกล้อมอยู่มากนัก มันหมายถึงการรอดพ้นจากเงื้อมมือของมัจจุราช เพราะของที่ต้องการทุกอย่างอยู่ในนั้น ทุกคนจึงดีใจกันที่สุดเท่าที่เคยเกิดมา
แต่ COWBOY 603 หรือ G222 ลำนั้นไม่สามารถดีใจกับความอยู่รอดของเพื่อนทหารได้ เนื่องจากเป็นเวลาวิกฤต เพราะเมื่อทันทีที่ CDS หลุดจากท้ายเครื่อง นักบินก็รีบปิดแรมท้าย แล้วเร่งPower หน้าสุดเพื่อใช้ความเร็วสูงสุดออกจากบริเวณนั้น แต่โชคร้ายที่ช่องเขาที่บินหนีออกมามีทหารฝ่ายตรงข้ามซุ่มตัวอยู่พอดี กระสุนปืนจากทั้งชุดลาดตระเวณย่อยของฝ่ายศัตรู จึงพุ่งเข้าทะลวงตามส่วนต่างๆของเครื่องบินขณะที่เครื่องบินบินผ่าน
อ๊ากกก อ๊อคค อ๊ออค
โอ้ยย
นักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์ถูกยิงเข้าช่องท้องกระสุนฝังในนั่งกระอักเลือดอยู่ ส่วนจ่าทองกระสุนฝังในที่ต้นแขนขวา
กัปตันเครื่องยนต์ขวาไฟไหม้ ไฟลุกท่วมแล้ว เสียงของ Navigator อนันต์ ร้องบอกทุกคนดังลั่น
Emergency engine fire in flight!
กัปตันวุฒิขานเรียกขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหัวข้อ Engine fire in flight หรือไฟไหม้เครื่องยนต์ขณะบินอันเป็นสิ่งที่นักบินทุกคนต้องท่องจำจนขึ้นใจได้อย่างถูกต้องรวดเร็วแม่นยำ เพราะเวลาทุกวินาทีนั้นหมายถึงชีวิต
ในการปฏิบัตินั้นนักบินผู้ช่วยเป็นคนขานขั้นตอนให้กับกัปตันหรือนักบินที่เป็นคนทำขั้นตอนต่างๆ แต่คราวนี้นักบินถูกยิงบาดเจ็บสาหัส อนันต์ที่เป็น Navigator จึงรีบปฏิบัติหน้าที่แทนปล่อยให้ จ่าทัต เจ้าที่ช่างอากาศรับหน้าที่พยาบาลจำเป็น ดึงนักบินผู้ช่วย ณรงค์ศักดิ์ออกจากที่นั่งนักบินไปช่วยกันปฐมพยาบาลด้านหลัง
Power Idle
Prop Feather
Engine Cond Stop
Fire Handle Pull
เสียงอนันต์ขานบอกขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆโดยมีกัปตันวุฒิเป็นคนปฏิบัติให้เร็วที่สุด เป็นการต่อสู้เพื่อชีวิตของทุกคนบนเครื่องบินลำนี้ เพราะไฟที่ไหม้อาจลามไปถึงถังน้ำมันเชื้อเพลิงที่อยู่ใต้ปีกได้ ซึ่งถ้าเป็นตามนั้น G222 ลำนี้ก็จะระเบิดกระจายเป็นชิ้นๆภายในเสี้ยววินาที
ไฟดับแล้วครับ
โอเค เปิด Charge หา Drife Down
กัปตันวุฒิสั่งอนันต์ให้เปิดตารางจากหนังสือคู่มือเครื่องบินประจำเครื่อง หาความสูงและความเร็วที่เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยสูงสุด เพราะตอนนี้ยักษ์ใหญ่ขนาดสี่สิบตันต้องเหินฟ้าด้วยเครื่องยนต์เพียงข้างเดียว แต่มันไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้สำหรับเครื่องบินที่มีสมรรถนะดีเยี่ยมเช่นนี้ เพียงแต่ว่าในวัฒนธรรมนักบินนั้นต้องทำทุกอย่างให้ปลอดภัยสูงสุด
สนามบินฉุกเฉินที่ใกล้ที่สุดตอนนี้ คือ (..ชื่อสนามบิน..) Charge ต่างๆอยู่นี่ครับ อนันต์รีบหาข้อมูลสนามบินที่ใกล้ที่สุดที่สามารถลงได้ เพราะเครื่องวัดเครื่องยนต์ซ้ายก็เริ่มบ่งบอกถึงความผิดปกติ เรื่องฉุกเฉินที่เป็นอยู่ก็ยิ่งฉุกเฉินขึ้นไปอีก
ไปที่ HD 070 ความสูง 4,000 Speed 150 Knot ครับ
กัปตันวุฒิกัดฟันฝืนความเจ็บจากบาดแผลที่ขา คอยปฏิบัติตามขั้นตอนการลงสนามจากการบอกข้อมูลตาม Charge การลงสนามบินของอนันต์ทุกขั้นตอนอย่างเคร่งครัด
Mayday Mayday Mayday
COWBOY 603 Decare Emergency position now three zero miles on radial two seven -zero from brovo delta three two six altitude four thousand ถูกยิงเครื่องยนต์ดับไปหนึ่งเครื่อง จะไปลงที่สนามบินสำรอง
ROGER Good luck SCOPION stand by on the way
อนันต์รีบรายงานเหตุฉุกเฉินให้หน่วยเหนือทราบ เพื่อให้หน่วยเหนือเตรียมตัวรับนกเหล็กที่บาดเจ็บลำนี้ หน่วยเหนือจึงส่งเฮลิคอปเตอร์xxx้ภัย นามเรียกขาน SCOPION วีรบุรุษผู้ปิดทองหลังพระ
ขึ้นมาบินประกบเพราะถ้าเกิด G222 ลำนี้บินไปไม่ถึงสนามบิน ต้องร่วงลงไปที่ไหน เฮลิคอปเตอร์
xxx้ภัยจะได้ไปยื้อชีวิตคนเจ็บจากอุ้งมือมัจจุราชได้ทันท่วงที แล้วในที่สุดกัปตันวุฒิก็บินพาทุกคนมาจนถึงจุด Final( จุดสุดท้าย ) ที่จะลงสนาม อนันต์ก็เงียบเสียงไปเพราะสลบเนื่องจากเสียเลือดจากบาดแผลที่แขน
กัปตันวุฒิเอื้อมมือไปดูอาการลูกน้องแต่แล้วก็ต้องรีบละมือมาจับคันบังคับให้แน่นเพราะการ
ลงสนามด้วยเครื่องยนต์เพียงข้างเดียวทำให้เครื่องเสียสมดุลย์เครื่องจะเอียงชนพื้นได้ง่ายกัปตันวุฒิจึงต้องจับคันบังคับให้มั่น คอยบังคับเครื่องบินให้บินลงไปตามขั้นตอนที่เคยฝึกมา พร้อมท่องข้อสำคัญในการร่อนลงสนาม นั่นก็คือ Speed ( ความเร็ว) สนาม (ตัวเครื่องบินตรงสนาม) ความสูง จนเครื่องค่อยๆถลาลงกลาง Runway
ตึ่ง ตึ่งๆ
เสียงล้อแตะพื้นแล้วไถลไปตาม Runway จนกระทั่งหมดความเร็วรถหวอต่างๆก็จึงแล่นเข้ามาประกบเครื่องบินเพื่อช่วยเหลือวีรบุรุษทั้งหลายผู้กลับมาจากนรกที่นั่งหายใจรวยริน แต่ยังคงมีรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจที่ได้รับใช้ชาติ ทำภารกิจให้สำเร็จด้วยลมหายใจสุดท้าย
ผมได้ฟังนิยายเรื่องเล่าที่มีเค้าโครงเรื่องจริงของฝูงบิน COWBOY 603 แห่งกองทัพอากาศไทยจากรุ่นพี่นักบิน ในกลางดึกคืนหนึ่ง หลังจากที่เล่าจบ พี่เขาก็ต้องไปเตรียมตัวบินภารกิจขนส่งทางอากาศที่แม้ปัจจุบันจะไม่มีการศึกสงคราม แต่การเตรียมพร้อมเผชิญเหตุร้ายต่างๆเพื่อปกป้องชาติของเหล่าทหารทั้งหลายนั้น ต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆมากมายเพื่อให้คงศักยภาพความพร้อมรบไว้ ดังนั้นฝูงบินลำเลียงจึงต้องพร้อมที่จะรับปฏิบัติภารกิจเพื่อกองทัพอากาศและชาติไทยทุกเวลา ดั่งเช่นกลางดึกของคืนวันนี้ที่มีภารกิจด่วนเข้ามา แต่นักบินและเจ้าหน้าที่แห่งฝูงบิน 603 ทุกคน ไม่เคยย่อท้อเหนื่อยหน่าย แต่กลับเต็มใจที่จะรับใช้กองทัพอากาศและชาติไทยทุกเวลาสมกับเป็น Cowboy ผู้กล้า เป็นม้าศึกผู้อารีย์
Create Date : 10 มิถุนายน 2550 |
|
2 comments |
Last Update : 10 มิถุนายน 2550 3:05:42 น. |
Counter : 2035 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หนูนีล (นางน่อยน้อย ) 10 มิถุนายน 2550 18:36:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: swotor506 IP: 125.26.145.115 3 สิงหาคม 2550 20:51:33 น. |
|
|
|
|
|
|
@ จ่อยน้องลิง @
@ จ่อยหัวหอม @
|
|
|
|
|
|
|