แอบดู ... ร่างแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 51 - 54 ตอนที่ 1
วันนี้นึกครึ๊มอกครึ๊มใจครับ เลยลองเปิดเว็บของกระทรวงกลาโหมดูเล่น ๆ จึงไปเจอ ร่างแผนปฏิบัติราชการ 4 ปี กระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 - 2554 เข้าโดยบังเอิญ
แหมในเมื่อมี Action Plan ออกมาให้ดูกันอย่างงี้ค่อยรู้สึกดีหน่อยครับ หวังว่าการทหารไทยของเราจะลดความคิดที่ว่าทุกอย่างต้องลับ ๆ ๆ ๆ ลงไปเรื่อย ๆ แล้วเปิดเผย (ในสิ่งที่ควรเปิดเผย) ครับ เพราะประชาชนผู้เสียภาษีอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ก็ต้องการรู้ว่าเงินของเราถูกเปลี่ยนไปเป็นอะไรบ้าง
เห็นแผนงานในหลาย ๆ ข้อแล้วก็น่าดีใจอยู่เล็กน้อยครับ เช่นในประเด็นด้านยุทธศาสตร์นั้น มีการระบุไว้ว่า "ต้องมีการวิจัยและพัฒนาเพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการป้องกันประเทศ ด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกประเทศ รวมทั้งภาคเอกชน"
ใช้ได้ครับ และขอให้ทำจนประสบความสำเร็จจริงจะเป็นเรื่องที่ดีมากครับ
ประเด็นอื่น ๆ เช่นแนวทางด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน ความพร้อมรบ หรือสถานการณ์ภาคใต้ คงจะไม่ได้ยกมาพูด ณ ที่นี้ครับ เพราะดูแล้วก็เป็นยุทธศาสตร์ค่อนข้างจะนิ่งแล้วและเหมาะสมแล้วตั้งแต่รัฐบาลพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ แต่จะขอดูเกี่ยวกับโครงการในส่วนของการพัฒนากำลังรบของกองทัพไทยครับ (เพราะสนุกกว่าเยอะ เหอ ๆ )
นโยบายรัฐบาลข้อที่ 1 ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประเทศ
- โครงการจัดหาฮ.ค้นหาและช่วยชีวิต รองรับภารกิจค้นหาและช่วยชีวิตแห่งชาติ งบประมาณ 6,000 ล้านบาท
ความจริงเรื่องนี้มันเป็นพันธกิจของรัฐบาลที่จะต้องช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเป็นข้อตกลงในระดับนานาชาติที่ไทยจะต้องให้ความช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันครับ
แม้ว่าประเทศไทยจะได้รับคำชื่นชมจากนานาชาติมากมายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ที่ประเทศไทยระดม ฮ. จากทั้งประเทศไม่ว่าของรัฐหรือเอกชน (แม้แต่ในหลวงของเราก็ทรงพระราชทาน ฮ. พระที่นั่งมาช่วยผู้ประสบภัย) แต่ในอีกแง่มันก็มีภาพสะท้อนกลับว่า หลาย ๆ หน่วยงานของเรายังมี ฮ. ที่ไม่พร้อมใช้อยู่
เมื่อพูดถึงทอ.นั้น ตอน ฮ. นี้กำลังหลักของทอ.ที่ใช้สำหรับค้นหาและช่วยชีวิตนั้นคือ UH-1H Huey ครับ คุณทวดฮิวอี้อยู่กับเรามาตั้งแต่ปี 2511 จนถึงวันนี้คุณทวดก็มีอายุครบ 40 ปีพอดิบพอดี คุณปู่ F-5E/F ที่จะปลดประจำการในอีก 3 ปีนั้น หลายท่านบอกว่าแก่แล้ว แต่เจอคุณทวดฮิวอี้เข้าไป คุณปู่ F-5E/F ก็หน้าเด็กขึ้นมาทันที
เมื่อกลับไปดูโครงการจัดหาอาวุธในภาพรวมระยะเวลา 9 ปีที่จัดทำขึ้นในสมัยรัฐบาลของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ก็จะพอเห็นภาพครับว่า ฮ.ที่จะมาแทนคุณปู่ฮิวอี้น่าจะออกมาแบบไหน
บันทึก 20 โครงการจัดหา ฮ.ขนาดกลาง สำหรับค้นหาและช่วยชีวิตทางยุทธวิธี/ช่วยเหลือและกู้ภัย (ระยะที่ 1) จัดหา ฮ.ขนาดกลาง (น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุดไม่ต่ำกว่า 8,500 Kg. หรือบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่ต่ำกว่า 15 คน) สำหรับค้นหาและช่วยชีวิตทางยุทธวิธี (Combat SAR) จำนวน 4 เครื่อง พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม และเอกสารเทคนิค
บันทึก 21 โครงการจัดหา ฮ.ขนาดกลาง สำหรับค้นหาและช่วยชีวิตทางยุทธวิธี/ช่วยเหลือและกู้ภัย (ระยะที่ 2) จัดหา ฮ.ขนาดกลาง (น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุดไม่ต่ำกว่า 8,500 Kg. หรือบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่ต่ำกว่า 15 คน) สำหรับค้นหาและช่วยชีวิตทางยุทธวิธี (Combat SAR) จำนวน 8 เครื่อง พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม และเอกสารเทคนิค
บันทึก 22 โครงการจัดหา ฮ.ขนาดกลาง สำหรับค้นหาและช่วยชีวิตทางยุทธวิธี/ช่วยเหลือและกู้ภัย (ระยะที่ 3) จัดหา ฮ.ขนาดกลาง (น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุดไม่ต่ำกว่า 8,500 Kg. หรือบรรทุกผู้โดยสารได้ไม่ต่ำกว่า 15 คน) สำหรับค้นหาและช่วยชีวิตทางยุทธวิธี (Combat SAR) จำนวน 4 เครื่อง พร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม และเอกสารเทคนิค
|
ดูแล้วจะเห็นภาพว่า ฮ.ที่จะจัดหาจะเป็นฮ.ขนาดกลางอย่าง NH-90 ของยูโรปหรือ H-92 ของสหรัฐครับ ซึ่งจะมีพิสัยบินและน้ำหนักบรรทุกไกลกว่าฮิวอี้ตัวเดิมของเรา และในเมื่อกองทัพจัดหาฮ.พระที่นั่งลำใหม่เป็น S-92 จำนวน 3 ลำแล้ว จึงมีความเป็นไปได้สูงที่กองทัพจะจัดหา ฮ. H-92 SuperHawk ซึ่งเป็นรุ่นทางทหารของ S-92 มาใช้เป็น ฮ. ค้นหาและช่วยชีวิตครับ
แต่อย่างไรก็ตาม การจัดหาอาวุธแต่ละอย่างล้วนใช้เวลานาน ฉะนั้นคุณทวดฮิวอี้คงจะมีอายุราว ๆ 45 ปีหรือมากกว่านั้นก่อนที่จะถูกปลดไปครับ
- โครงการปรับปรุงกองบิน 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ งบประมาณ 783.556 ล้านบาท
อืม ยอมรับตรง ๆ ครับว่าผมไม่มีข้อมูลเลยครับว่าเขาจะปรับปรุงอะไรในกองบินที่สวยที่สุดของประเทศกองบินนี้ (อ่าวมะนาวสวยมาก) ด้วยเงินจำนวนไม่มากนักในระยะเวลาสามปี จึงต้องลองดูต่อไปครับ บางทีอาจจะเป็นแผนงานเพื่อรองรับการปลดประจำการ AU-23A ก็เป็นได้ครับ
- โครงการจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนพร้อมอุปกรณ์ งบประมาณ 441 ล้านบาท
ให้จากงบประมาณเดาก็น่าจะเป็น UAV ครับ เป็นไปได้ทั้งการจัดซื้อ UAV โดยตรงจากต่างประเทศ หรือจัดหา UAV ที่กองทัพกำลังร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ พัฒนาอยู่ครับ (อยากให้เป็นแบบหลังมากกว่า)
- โครงการจัดตั้ง พล.พท. (พล.ร. 15) งบประมาณ 15,211 ล้านบาท
กองพลทหหารราบที่ 15 นี่เป็นแนวคิดของกองทัพมาตั้งแต่รัฐบาลของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตรที่ต้องการจัดตั้งหน่วยทหารเพื่อรับผิดชอบภารกิจเฉพาะอย่าง โดยเฉพาะการปฏิบัติการในพื้นที่ภาคใต้ครับ โดยในลักษณะการจัดจะเป็นกองพลเบา คือไม่มีการบรรจุอาวุธหนักเช่นรถถังหรือปืนใหญ่ แต่จะเป็นกองพลเบาที่เน้นภารกิจด้านการพัฒนาควบคู่ไปกับปฏิบัติการทางทหารครับ เงินจำนวน 15,211 ล้านนี่ น่าจะเป็นงบด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และสถานที่ครับ
- การปฏิบัติการเพื่อรักษาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ งบประมาณ 11,800 ล้านบาท
รัฐฉีดงบประมาณเฉพาะลงไป 11,800 ล้านบาทตั้งปีปี 51 - 54 ครับ ยังไงก็อยากให้งบตรงนี้ลงไปถึงพื้นที่จริง ๆ ถึงผู้ปฏิบัติงานจริง ๆ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ ได้เบี้ยเลี้ยงเหมาะสมกับสถานการณ์ และขอให้นำงบไปใช้ในยุทธศาสตร์การสร้างความเจริญและความเข้าใจของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเต็มที่ครับ
นโยบายรัฐบาลข้อที่ 2 นโยบายสังคมและคุณภาพชีวิต
- โครงการจัดหาโรงพยาบาลสนามของกรมแพทย์ทหารอากาศ กองบัญชาการสนับสนุนทหารอากาศ งบประมาณ 80 ล้านบาท
ใครว่าโรงพยาบาลทหารไม่สำคัญ สำคัญมากนะครับ ในสนามรบนี่ ชีวิตของกำลังพลจะต้องถูกดูแลเบื้องต้นที่นี่ หลาย ๆ ประเทศพัฒนาโมเดลต้นแบบของโรงพยาบาลสนามเป็นเรื่องเป็นราวเลยทีเดียวครับ
ส่วนโครงการอื่น ๆ ที่ไม่ได้ตัดมา ก็จะเป็นการพัฒนาโรงพยาบาลของกองทัพต่าง ๆ หรือ โครงการจัดหาเครื่องมือแพทย์ เป็นต้นครับ
สำหรับตอนที่สองของบทความนี้ยังมีอีกหลายโครงการที่น่าสนใจมากทีเดียวครับ เช่นโครงการวิจัยและพัฒนาจรวดเพื่อความมั่นคง หรือการส่งกำลังเรือเข้าร่วมลาดตระเวนในชองแคตบมะละกา ลองติดตามครับ
ดูแผนปฏิบัติการทั้งหมดได้ที่นี่ครับ
//www1.mod.go.th/opsd/plan/
นโยบายความมั่นคงแห่งชาติ
//www.nsc.go.th/index.php?option=com_content&task=view&id=569&Itemid=66
Create Date : 23 มีนาคม 2551 |
|
37 comments |
Last Update : 23 มีนาคม 2551 15:37:28 น. |
Counter : 3014 Pageviews. |
|
|
|
แหมๆๆๆๆ.....เป็นลูกคู่คอรัสทันทีเลยนะเนี่ย
พลาดไมไ่ด้เลยเชียว
งบทางการทหารจะเป็นงบลับเสมอ
ทำไมพี่โยถึงรู้ข้อมูลพวกนี้ได้ล่ะครับ
แต่ผมอ่านๆดู
พบว่าตัวเลขไม่น่าจะจริง
(ตั้งขอสัณนิฐานเฉยๆนะครับ)
เพราะตัวเลขเฉพาะที่เข้ากองทัพน่าจะมากกกก
มากแบบ 20-30 % ของงบประมาณประเทศรึเปล่าครับ