|
|
โชคลาภ มิตรภาพข้าวปั้นโอนิกิริ แนะนำเรื่อง : มิตรภาพที่ดี มีการแบ่งปัน ผู้หญิงสองคนที่สนิทกัน เกิดการทะเลาะเมื่อทั้งสองทราบแหล่งสมบัติโดยบังเอิญและแก่งแย่งชิงเป็นเจ้าของ การแย่งชิงสมบัติที่นับว่าสูญเปล่า ลงเอยด้วยความเป็นมิตรที่ยังคงมี แล้วความรักมิตรภาพที่มีแบ่งปันนี่ล่ะ เป็นโชคลาภที่ดีที่มิตรภาพจะเจอ https://writer.dek-d.com/unsweetkamui/writer/view.php?id=2323347 https://www.joylada.com/story/62b8e2ba83622309fc4bcf66 ยามเช้าได้ส่งความสว่างของแสงอาทิตย์มายังที่พำนักคนจีนในพื้นที่ชนบท ในนั้นมีผู้อาศัยหลับนอนในที่พำนักเพียงคนเดียว คือผู้หญิงสาว นางคือสาวชาวจีนย้อนยุคผู้โดดเดี่ยว ที่นางถูกเรียกว่านางย้อนยุคมาเพราะนางคือคนแต่งตัวตามวัฒนธรรมจีนโบราณ ทั้งๆขณะนี้คือเวลาแห่งยุคปัจจุบัน ในห้องนอน ร่างสตรีที่แสนบอบบางอย่างนางนอนอยู่บนเตียง บนเตียงมีผ้ามุ้งกั้นเปรียบเสมือนสิ่งกำบังโปร่งแสงการมองเห็นจากบริเวณที่นอนและข้างนอกของที่นอน ท่านอนของนางตอนนี้ยังถือว่าปกติสามัญในลักษณะตะแคงไปทางขวา just a moment นางเกิดเปลี่ยนท่าทางโดยไม่รู้ตัวเพราะนางตกอยู่ในห้วงนิทราเช่นนี้ ช่างน่าขัน สภาพการนอนท่านี้ ถ้าใครมาแอบเห็นนางนอนในท่ากางแขนและกางขาถ่างออกเหมือนปลาดาวในทะเลสาบอาจจะสร้างเสียงหัวเราะให้แก่คนมอง ผู้คนที่มาเห็นนางได้นั้นอาจจะคลายความเครียดกับชีวิตที่สะสมมาเกือบทั้งวัน วันนั้นคนมองนางคงจะยิ้มแย้มแจ่มใสขึ้นมาได้บ้าง แต่ตัวนางจะได้ชื่อเสียงกุลสตรีที่ลดคุณค่าในด้านความเรียบร้อยดั่งเทพธิดาความเรียบร้อยต่ำลงกว่าเก่า การนอนท่าทางอย่างนั้นไม่ได้ถูกสายตาดวงใดมาจับจ้องนางจนโชคดีแล้ว ร่างบางกึ่งลุกกึ่งนั่งมาหาวอย่างสบายกาย บิดขี้เกียจ แต่ตามหลักความรู้สมัยใหม่กล่าวไว้ว่าตอนตื่นนอนใหม่ๆไม่ควรบิดขี้เกียจ คนนอนหลับเต็มอิ่มจะไม่งัวเงียหรือเหนื่อยล้าใดๆ นางคนนี้เรี่ยวแรงมีมาก สดชื่นมากในเวลาตื่นนอน สาวน้อยมองดูมุ้งที่มีความโปร่งแสง โปร่งแสงมันหมายความว่ามีแสงผ่านวัตถุ(คือมุ้งดังที่เกริ่นไว้)ได้น้อย สิ่งที่อยู่ด้านนอกเป็นภาพของห้องนอนเธอที่เห็นมันมัวๆพร่าไม่ชัดเจน ร่างกึ่งลุกกึ่งนั่งใช้ขายันผ้าห่มออกจากร่างแล้วนางก็สำรวจตัวเอง " เออ จริงสินะ ข้านอนหลับไปโดยไม่ได้มีเสื้อผ้าอาภรณ์ มันสบายตัวสบายใจข้าที่สุด " นางลงจากเตียงไปทำภารกิจในที่พำนักเล็กๆอย่างเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ นางส่องกระจก กระจกส่องใบหน้าของนางด้วย กระจกส่องนางด้วยการทำหน้าที่สะท้อนภาพตรงข้ามจากตัวนาง และสตรีที่หน้ากระจกก็เผลอกรีดร้องสั้นๆ ตกใจกับภาพตัวเองที่อยู่ในสภาพผมเผ้ากระเซอะเซิง นี่แสดงว่าเป็นเพราะตอนนอนนางไม่ได้นอนให้เรียบร้อย " หวี หวี ต้องหาหวีมายืดผม " ชื่อสกุลของนาง คือ เฉินคุ จริงๆนางไม่ใช่สาวชาวบ้านคนธรรมดาสามัญชน นางเป็นผู้มีพลังปราณอย่างตามเรื่องราวยุทธจักรจีนในหมู่พวกใช้กำลังภายใน นางเป็นเพศสตรีใส่ชุดที่ไม่ใช่แบบอาหมวยสวมกี่เพ้า เพราะอาภรณ์ของนางนั้นประกอบด้วยชั้นในสตรี เสื้อสตรีโบราณผูกรัดมัดกับกางเกงจีนโบราณแบบบุรุษ ทั่วร่างของเฉินคุเป็นชุดสีหยกแบบว่าออกสีเขียวที่ดูอ่อนหวานสว่างสไว ลักษณะที่นางสวมกางเกงย่อมทำให้นางมีการเคลื่อนไหวร่างกายต่างกับสาวสวมกระโปรงบานยาวๆ นางจะสามารถก้าวกว้างๆได้โดยไม่สะดุด ดวงตาของนางช่างบาดใจ ผมดำยาวสยายปักด้วยปิ่นของจีน นางคือคนจีนอาศัยอยู่ที่พำนักแบบจีน ข้างๆที่พำนักเป็นบาร์เหล้าของคาวบอย..... อ้าว ถ้าเรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่คนแต่งเรื่องเขาเมาน้ำเขียวหรือเปล่า แต่ขอบอกไว้ว่าไม่ใช่ความเมาที่ว่ามีคนจีนอยู่ในต่างประเทศ ที่นี่ นางมีที่มา รัฐ texas ที่แห่งนี้เฉินคุเป็นคนจีนที่มีการอพยพจากประเทศจีนเตี๊ยะ จีนตูบ เอ๊ย จีนแผ่นดินใหญ่ อันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนและมาอาศัยอยู่ที่อเมริกา นางไม่มีครอบครัว ไม่มีญาติ และนางก็เหมือนกาฝากมาอาศัยอยู่โดยไม่มีอาชีพเลี้ยงตัว ไม่สิ นางมีคอกวัว นางทำงานเกษตรกรรมประมาณงาน slow life เฉินคุใช้แรงผลักประตูเบาๆ บริเวณหน้าที่พำนักออกมาแล้วมองไปทางซ้ายมือมีคอกที่มีวัวอยู่สามสี่ตัว นางหันไปทางขวาที่ว่าบริเวณด้านข้างคือบาร์เหล้าคาวบอย มีกระถางปลูกกระบองเพชรตั้งประดับดูสวยงาม นางจะไปหาวัวในคอกทางซ้าย เดินไปพลางในใจคิดว่าสถานที่ที่นางอยู่เหมือนกับว่าไม่ต้องมีชีวิตวุ่นวายเหมือนคนในตัวเมือง เสียงอะไรที่ค่อยๆดังออกมาแถวๆนั้น กีบม้าหรอ? มีม้าสง่างามวิ่งมาทางข้างหลังเฉินคุ บนอานม้ามีสตรีคาวบอยชุดชมพูอ่อนสว่างๆนางหนึ่งที่นั่งควบบังคับม้าไว้ เฉินคุไม่ได้หันไปมองข้างหลังเลย สาวคาวบอยที่มือข้างหนึ่งถือบังเหียนอีกข้างชูบ่วงบาศก์หมุนเป็นวงๆ ดึงบังเหียนม้าให้เบรคและนางคาวบอยยืนขึ้นบนนั้นทิ้งบ่วงบาศก์ไปและกระโดดใส่ท่าดร็อบคิกออกจากตัวม้า "ยี้ ฮ่า" เป้าหมายของเท้านั้นเล็งที่แผ่นหลังเฉินคุ สตรีแซ่เฉินมีไหวพริบและจิตสัมผัสการโจมตีนั้นได้เหมือนมีดวงตาที่สามบริเวณแผ่นหลัง รองเท้าคาวบอยใกล้เข้ามาเกือบจะถึง ร่างสตรีจีนก็ไหวตัวลอยออกห่างไปข้างหน้า มือเท้าขยับอย่างแหวกว่ายไปกับสายลมห่างไปจนร่างได้ลงมาเหยียบธรณีพร้อมกับหันหลังกลับมามองสตรีคาวบอย ตั้งฝ่ามือเตรียมรับ " นี่เจ้า " ตุ้บ !! "โอ๊ย เจ็บๆๆๆ" สตรีคาวบอยที่ก้นลงมากระแทกกับพื้นพยายามลุกด้วยแรงที่เกือบจะหมดไป มือข้างหนึ่งปัดฝุ่นที่บั้นท้ายและอีกมือที่จับบั้นท้ายอยู่เพราะเธอเจ็บจากการกระแทกพื้น " เฉิน เธอต้องมาดวลกับฉันอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ดูว่าใครจะเก่งที่สุด " " เจ้าอยากพูดเรื่องอะไร " เฉินคุที่อยู่ในท่าตั้งฝ่ามือเปลี่ยนอิริยาบทเป็นเอามือไขว้หลังแล้วเดินไปที่นางคาวบอยสาว " เอมี่ เจ้าชอบท้าสู้ตัวข้ามาแสนนาน จริงๆมันก็มีแค่เรื่องไม่พอใจเรื่องเดียวเท่านั้นในหัวสมองของเจ้า" เมื่อเข้าใกล้ตัวสาวคาวบอย มือของเฉินคุก็ยื่นเข้าบีบที่บริเวณทรวงอกของเอมี่ " แค่เจ้าไม่ยอมรับว่าเชื้อชาติจีนคนหนึ่งอย่างข้าจะชนะเรื่องเกี่ยวกับขนาดได้ " " อึ๋ยยย" เอมี่รีบใช้มือตัวเองจับสะบัดแขนของสตรีจีนออก " ยัยเฉินคุ หนอย ฉันไม่เข้าใจว่าเธอจะชนะฉันเรื่องขนาดหน้าอกได้ยังไง ฝรั่งทำไมเล็กกว่าจีน ช่างไม่น่าเชื่อ แหะๆๆ แต่เอาเถอะนะ.... " เฉินคุกับเอมี่ยืนคุยกันตามประสาผู้หญิง แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกจะต่างวัฒนธรรมกัน แต่สองคนนี้มีความสัมพันธ์แบบเป็นมิตรภาพที่ดีมากๆ วัชพืชชนิดหนึ่งที่มักพบเห็นในหนังคาวบอย เรียกว่า ดัมเบิ้ลวีด เคลื่อนที่ด้วยแรงลมพัดผ่านกลิ้งหลุนๆผ่านสตรีทั้งสองและกลิ้งต่อไปตามแรงลมที่ไม่รู้จุดหมาย ดัมเบิ้ลวีด นับว่าเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ย้ายถิ่นฐานไปที่ต่างๆได้ด้วยแรงลมที่พัด มีดัมเบิ้ลวีดลูกที่สอง สาม สี่ ห้า หก และอีกมากกลิ้งผ่านทั้งสองคนไปกองรวมกันที่แห่งหนึ่ง เอมี่เดินไปผูกม้าไว้กับเสา ถอดหมวกของเธอมาพัดบริเวณแก้มนวล แขวนหมวกไว้ด้านหลังเสื้อ แล้วเข้าไปในบาร์เหล้า สักพักคาวบอยสาวก็ออกมาพร้อมกับที่มือถือข้าวปั้นโอนิกิริห่อสาหร่ายที่ข้างล่างมีแผ่นกระดาษสำหรับรองรับ เธอไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับข้อมูลเลยถามเพื่อน " เฉิน สิ่งนี้ใช่อาหารของจีนหรือเปล่า " " ไม่ใช่ " เฉินคุตอบ เพราะข้าวปั้นเป็นเรื่องของทางประเทศญี่ปุ่น เอมี่กัดข้าวปั้นคำหนึ่ง บอกลาสตรีจีนและนั่งควบม้าของเธอกลับ เฉินคุมุ่งไปที่คอกวัว หารู้ไม่ว่า.....มีอะไรจะดลใจให้เกิดปัญหา ขณะที่เอมี่ย้อนกลับมาแถวๆใกล้บ้าน ข้าวปั้นสามเหลี่ยมที่เอมี่ทานหมดแล้วเหลือกระดาษห่อที่มันเคยรองข้าวปั้นเอาไว้ กระดาษมีข้อมูลบอกแผนที่สมบัติ เป็นลายแทง มันบอกที่ซ่อนว่าอยู่ในคอกวัวของเฉินคุ " จริงเหรอเนี่ย เราต้องรีบกลับไปแล้ว " ทางด้านคอกวัว เฉินคุที่กำลังให้อาหารสัตว์ที่เคี้ยวเอื้อง ได้สังเกตพื้นดินตรงที่รั้วคอก นางรู้สึกมีอะไรที่เป็นจุดสังเกต มีรอยร้าวตรงนั้น เฉินคุจึงรีบไปหาเอาจอบมาขุดดินที่ตรงนั้นแล้วปรากฏสิ่งหนึ่งที่กำลังโผล่มาในสายตา "เฉิน" เอมี่ที่วิ่งกลับมาถึง พร้อมกับเห็นว่าเฉินคุขุดเจอหีบสมบัติ " หีบนั่น " แล้วคาวบอยสาวก็รีบเดินเข้ามา "เอมี่ หรือว่าเจ้าจะรู้ว่านี่คือ...." เฉินคุรีบตะครุบหีบกันเอมี่จะมาดึงเอาไป " หยุดนะเอมี่ หีบใบนี้ข้าขุดเจอนะ " สองคนเริ่มตบตีกัน "เฉิน เธอรู้หรอ ว่ามันคือสมบัติใช่มั้ย " เอมี่ปลุกปล้ำสู้กับเฉินคุอยู่แถวนั้น และเริ่มใส่ความรุนแรงต่อกันมากขึ้นทุกที สุดท้าย สองสาวนอนหงายบนดินในสภาพสะบักสะบอมทั่วร่างกาย " พวกเราเป็นเพื่อนกันแท้ๆ " เอมี่ที่นอนอยู่บอกแล้วลุกขึ้นมาจะประคองเฉินคุ " เฉินคุ เธอไหวมั้ย " ชายวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของบาร์เหล้าที่ขณะนี้เดินมาที่คอกวัว " ไง สองสาว พวกเธอมีเรื่องอะไรกัน " เอมี่ที่คุกเข่าหนึ่งข้างและคอยใช้สองแขนประคองเฉินคุในท่ากึ่งลุกกึ่งนั่ง บอกกับชายคนนั้นว่า " มีหีบสมบัติตรงนั้น ข้างในคืออะไรเรายังไม่เห็น" " ไหน " ชายเจ้าของบาร์เหล้าเดินมาดู ใช้เท้าเตะใส่หีบ แรงเตะทำให้ฝาหีบเปิดอ้าขึ้นมา เขาก้มสำรวจดู "อะไรเนี่ย ข้างในมีใบโบชัวร์เกี่ยวกับร้านขายข้าวปั้นทั้งที่อื่นและร้านบาร์เหล้าของเรา" สองสตรีมองกันด้วยความอึ้ง พวกเธอคงจะรู้สึกผิดหวังยามได้รู้ได้เห็นความจริง ความผิดหวังพุ่งขึ้นมาจุกที่ทรวงอก และอยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก สิ่งที่พวกเธอพยายามสู้กันมากลับสูญเปล่าไป "เธอสองคนมานี่ มาที่บาร์" ชายเจ้าของบาร์เหล้าเรียกให้ตามแกไป เอมี่สวมหมวกและช่วยเฉินคุลุกขึ้นประคองเดิน จนเฉินคุฟื้นร่างกายกลับมาเดินได้ปกติ และตอนนี้มาถึงที่บาร์ ชายเจ้าของบาร์ยืนที่เคาน์เตอร์ สองสาวอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา" เธอทั้งคู่เป็นคนค้นพบสมบัติแต่ความสัมพันธ์ทางมิตรภาพกลับต้องมาแข่งมาสู้กันอย่างนี้ซะได้ " เอมี่กับเฉินคุเหมือนเป็นลูกๆที่โดนพ่อตัวเองเทศน์ ยืนก้มหน้ารับความผิดที่เกิดจากการะทำของพวกเธอ ชายเจ้าของบาร์เดินออกไปทางข้างหลังร้าน สองสาวลองมองใบหน้าที่โทรมด้วยกันอีกครั้ง เฉินคุเห็นว่าเอมี่มีประกายแววตาที่อยากจะขอโทษ จนกระทั่งชายเจ้าของบาร์กลับมาพร้อมถาดบรรจุข้าวปั้นโอนิกิริสองลูก " อะนี่ ทั้งสองคนกับข้าวปั้นโอนิกิริสองลูก แบ่งกันกิน " เอมี่มีอะไรจะบอกกับสตรีจีนเพื่อนตัวเองคนนี้ " เฉิน ฉันได้กินมาก่อนแล้วลูกหนึ่ง ข้าวปั้นสองอันนี้ฉันให้เธอละกัน ขอโทษนะที่เราสองคนต้องต่อสู้ทะเลาะกัน " ตอนที่เฉินคุมองแววตาของเอมี่ว่าเอมี่จะขอโทษเอมี่ก็กล่าวออกมาจริงๆ เฉินคุแอบคิดเกี่ยวกับสภาพร่างกายของทั้งสอง แม้ว่าตนเองจะเจ็บปวดร่างกายไปทั้งร่างจากคาวบอยสาวก็ตาม นางไม่โกรธอะไรเพื่อนมาก เฉินคุกินข้าวปั้นเพียงลูกเดียวแล้วยังเหลือหนึ่งลูก เฉินคุปล่อยเอาไว้ เอมี่ประหลาดใจ " เฉิน ทำไมไม่กินให้หมดล่ะ " " ข้ากับเจ้าต้องแบ่งปันกินให้เท่าๆกันสิ ลูกสุดท้ายก็คือข้าวปั้นของสองเรา เรายังมีกันและกัน " เอมี่ได้ยินอย่างนั้นจึงยิ้มแล้วเข้ากอดคอสตรีจีนอย่างแน่น เฉฺินคุเกือบส่งเสียงไม่ออก "โอ๊ยๆ หายใจไม่ออก อย่ารัดคอข้าแน่นสิ" ชายเจ้าของบาร์เห็นสองคนทำอย่างนี้แล้วเขาก็รู้สึกดี เขากระซิบเบาๆกับเอมี่และเฉินคุ " ลุงมีสมบัติที่ซ่อนไว้ มันมาจากหีบใบนั้นล่ะ เป็นทองคำแท่งที่ลุงพอจะแบ่งปันให้เธอทั้งสองคน ช่วยตามลุงมาที่สวน" ที่สวนหลังร้าน " เมื่อสองคนที่เป็นเพื่อนกันรู้จักรักกันแบ่งปันกัน " เจ้าของบาร์เดินไปหยิบทองคำแท่งสองแท่งจากที่ซ่อนมาให้สองสาว มอบคนละแท่ง " ลุงรู้สึกได้ถึงน้ำใจของเพื่อนรักกันในตอนที่เธอแบ่งข้าวปั้นโอนิกิริ เธอทั้งสองซึ่งมีการค้นพบสมบัติในเวลาเดียวกัน โดยเอมี่ทราบมาจากกระดาษบอกลายแทง เฉินคุทราบมาจากการสังเกต เมื่อเธอสองคนคืนดีกันแล้วยังรักกัน แบ่งปันให้แก่กันจนรู้สึกยังไงล่ะ มิตรภาพดีๆของเธอทั้งสองได้รับสมบัติแล้วนะ " " เฉิน ฉันชอบเธอที่สุดเลย !!!!!" " เอมี่ ข้าดีใจนะ ข้ารักเจ้า !!!!! " สองสาวกอดกันกลมเกลียว ด้วยความมีน้ำใจแก่กันให้อะไรกันและความดีงามอย่างนี้ถ้าคนเราทำได้ ก็อาจมีโชคดีมอบมาให้แก่คนที่มีความรักความมีน้ำใจในมิตรภาพ "คัต !" เสียงผู้กำกับออกคำสั่งต่อการทำงานถ่ายหนัง " โอเค โป๊ะเชะ เรื่องมิตรภาพเรื่องนี้ เธอสองคนถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีมาก " " ค่ะ " สองสาวที่รับบทเป็นเอมี่และเฉินคุกล่าว " ขอบคุณค่ะท่านผู้กำกับ " ........... ........ ....
" ศิญา " แม่ของนักเรียนสาวมัธยมปลายส่งเสียงเรียกสองพยางค์ ชื่อเต็มของเธอมีสามพยางค์ ศิญาภา ศิญาภาได้ยินเสียงแม่ของเธอเรียกมาจากข้างนอกห้อง เธอเพิ่งเขียนนิยายเกี่ยวกับงานกองถ่ายหนังที่มาถ่ายการแสดงเกี่ยวกับสาวสองคนมีน้ำใจการแบ่งปันจนจบแล้ว " ค่ะ แม่ เดี๋ยวหนูออกไป " ศิญาภาเซฟนิยายที่เธอแต่งไว้ในโน๊ตบุ๊คบนโต๊ะเขียนหนังสือ แล้วลุกจากเก้าอี้ มองนาฬิกาที่แขวนตรงผนังห้อง แล้วเดินออกไปหาแม่ของเธอ จบ ============= |
Group Blog All Blog
Link |
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |