~My life is never-ending.Do as I Do.~By SiR::TisT
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 

เที่ยวเวียงจันทร์ 1 วันก็เที่ยวได้

การเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งที่ 3 (ครั้งแรก พม่า บริเวณด่านเจดีย์ 3 องค์ไปแบบ private trip และครั้งที่ 2 พม่า เหมือนเดิม แต่ไปทางด่านแม่สาย ไปแต่ตัวและกระเป๋าเป้ พร้อมออกทัวร์ แต่คราวนี้ไม่ได้ไปกะแก็งค์ แต่ไปกะลูกค้า 40 กว่าคน เหนื่อยพอควร เพราะนอกจากจะต้องดูแลตัวเองแล้ว ก็ต้องดูแลลูกค้าด้วย เพราะลูกค้าคือ พระเจ้าในโลกที่ 3 ฮ่าๆๆๆควรจะภูมิใจดีไหม ที่ไปต่างประเทศแต่แบบใกล้ประเทศไทยมากๆ.....)
ครั้งนี้ก็เหมือนกับครั้งที่ 2 ไปแต่ตัว ออกทัวร์ยกแก๊งค์ คราวนี้เป็นลูกค้า ลูกบ้าน ลูกท่าน หลานเธอ โอ๊ะ สารพัด........แค่ออกเดินทางไปรับลูกค้าก็เครียดแล้ว เพราะการเดินทางมีอุปสรรคมากมาย ตั้งแต่ฟ้ายันดิน แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี......งั้นขอข้ามขั้นไปตอนที่อยู่เวียงจันทร์เลยแล้วกัน เพื่อประหยัดเวลา ฮ่าๆๆๆ

เดินทางออกจากที่พักก็สายบ่ายคล้อยๆๆย้อยๆหน่อย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ตื่นเต้นๆ จนเกือบหยุดหายใจ แต่ต้องหายใจต่อไป ไม่อยากตายข้ามประเทศ คิดอยู่ในใจว่า เอ๊ะ!!! เราควรกลั้ยหายใจเหมือนตอนข้ามสะพานบางปะกงป่าวหว่า แต่ถ้าทำก็บ้าเกิน เพราะว่า สะพานมันยาวมั่กๆๆ ถ้ากลั้นหายใจก็ตายข้ามประเทศแบบข้างต้นอีก พอผ่านด้านไทยไปได้เสร็จ ก็เข้าสู่ด่านลาวต่อ วะว้าว เห็นพี่ตำรวจเมืองลาว แล้วอยากจะโดดลงไปชักภาพคู่ เมื่อถึงที่ด่านก็ทำเรื่องผ่านแดนสารพัด หลายเรื่องราว และก็แวะรับพี่ไกด์ลาวสาวสวย (สวยจริงๆนะ มิได้โม้) บ้านเมืองลาวก็คล้ายๆกับต่างจังหวัดที่อยู่ในเมือง พูดง่ายๆคือๆๆบ้านเราอ่ะแหละ แต่เราต้องเปลี่ยนเลนส์ในการขับขี่ยานพาหนะมาใช้เลนส์ตรงข้ามกะฝั่งไทย แต่ยังคงดริฟได้ตามอัธยาศัย ถ้าท่านไม่กลัวรถจะตำกัน(ในประวัติศาสตร์ไม่มีรถชนกัน เพราะมีแต่รถตำกัน (ตำ=ชน)) ระหว่างางก็นั่งดูแผ่นป้ายโฆษณาเมืองลาว สินค้าก็คล้ายๆของไทยอ่ะแหละ แต่ที่เห็นแล้วสะดุดสุดใจก็คือป้ายโฆษณาซันซิล ที่เมืองไทยจะเป็นอั้ม พัชราภา ใช่ไหม ที่นี่ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เค้าก็มีอั้ม พัชราภาเมืองลาวเช่นกัน ความสวยสูสี เบียดกันไม่ลงเลยทีเดียว ที่แรกที่พวกเราไปคือ วัดสีเมือง ก็เหมือนวัดไทยในบ้านเรา แต่ที่นี่เวลาไหว้พระ อาจจะแตกต่างจากไทย ตรงที่ของบูชา และพิธีรีตองอาจจะเยอะนิดนึง แต่เราก็ไม่ได้ไหว้หรอก เพราะมัวแต่ดูลูกค้า อีกอย่างคนเยอะมหาศาล แต่เฉพาะลูกค้าเราเองก็ 50 กว่าและ ก็เลยได้แค่เสี่ยงเซียมซี แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าเซียมซีเค้าเป็นภาษาลาว และไม่มีsubtitleเป็นภาษาอังกฤษนะจ๊ะ หลังจากไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยแล้วก็ถึงเวลาไปจุดที่ถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญคือ ประตูชัย เมืองลาว เมื่อไปถึงแล้วเหมือนตัวเองยืนอยู่ในนครปารีส เปล่าเลย อันนี้แค่ฝัน เพราะแค่อากาศที่เมืองลาวกับปาริสก็ต่างกันลิบลับเลย ที่นี่ร้อนตับแตกเลยหล่ะ แต่ก็ยังถือว่าโชคดีตรงที่ฟ้าฝนเป็นใจ ไม่ร้องงอแงเหมือนทริปก่อนๆ
ถ้ามาถึงที่นี่ก็อย่าลืมอุดหนุนช่างภาพอิสระ หรืออาจมีแอบแฝงเป็นปาปารัสซี่ อันนี้ก็มิทราบได้ ราคาค่าถ่ายรูปเพียง 20 บาทเท่านั้น ถ่ายเสร็จก็รอรับรูปได้ทันที อย่างกับถ่ายรูปติดบัตรเลยล่ะ 1 2 3 cheezzzz !!!
หลังจากถ่ายรูปกันอย่างเมามันส์ แหกตาสามัคคีชุมนุมกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาเดินทางไปยังอีกที่หนึ่งคือไปร้านของฝากสินค้าโอทอปบ้านเมืองลาว ก็เป็นร้านขายของฝากทั่วไป ของฝากที่นี่ก็เหมือนๆคล้ายๆกัน มีทั้งเครื่องเงิน ผ้าไหม สารพัดแบบให้เลือกสรร ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องพูดภาษาอังกฤษกับคนที่นี่ด้วยรึเปล่า ขอบอกว่าไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด เพราะคนที่นี่พูดภาษาไทยได้ทุกคนเด้อ เมื่อซื้อของจนกระเป๋าแบน แต่แฟนยังไม่ทิ้ง เพราะส่วนใหญ่ที่มา ล้วนแต่โสดเฉพาะกิจกันทุกคน ฮ่าๆๆๆ เสร็จแล้วเราก็เดินทางต่อไปยังพระธาตุหลวง อากาศก็ยังคงเป็นใจเช่นเดิม ร้อนๆๆๆๆๆๆๆๆ และต้องเดินเข้าไปสักการะด้วย เนื่องจากลานจอดรถที่เคยจอดได้ บัดนี้เค้าห้ามจอดแล้ว เสียใจอย่างแรง แต่มิได้เป็นอุปสรรคสำหรับพวกเราเสียเท่าไหร่ ก็ยังคงเดินหน้าแหกตาสามัคคีกันเหมือนเดิม เมื่อเดินกลับขึ้นรถก็พบว่า สีผิวที่แม่เคยให้มาแต่กำเนิดบัดนี้มันได้กลายเป็นสีทูโทนอย่างเห็นได้ชัด เฮ้ออออออ เสียจายยยยยยย หลังจากนั้นก็เปลี่ยนบรรยากาศไปช็อปปปิ้งกันต่อที่ตลาดเช้า ตลาดเข้าที่นี่ก็คือๆๆกับพันธุ์ทิพย์พลาซ่าบ้านเรานั่นแหละ มีทุกสิ่งให้เลือกสรร ตั้งแต่สากเบือ ยัน หม้อข้าว ก็ว่ากันไปที่นี่แผ่นซีดี ราคาถูก คุณภาพดี แต่ภาคเสียงลาวก็มีให้ชมกันดาษดื่น โทศัพท์มือถือมีตั้งแต่รุ่นไฮโซสุดๆแต่ราคาย่อมย่อม คุณภาพก็ตามราคาอ่ะนะ อย่างblackberry ยังมีให้เห็นทั่วไป เราก็ดูไม่เป็นหรอก แต่ที่นี่เค้ารับประกันนะ ไม่พอใจยินดีรับเปลี่ยนคืน แต่ใครจะมากันบ่อยๆหล่ะ มิใช่mbkในกรุงเทพนะ ส่วนตัวเราเองอ่ะ ไม่ได้ซื้ออะไรมากมาย แค่โปสการ์ด 10 ใบก็พอ ฮิ้ววววววววววววว หลังจากช็อปปิ้ง และเดินจนเมื่อยตุ้ม ก็ถึงเวลาขึ้นรถอีกแล้ว แต่ที่ตลาดเช้าไม่สามารถจอดรถได้นะคะขอบอก จะต้องไปวนรถที่อื่นก่อนแล้วจึงมาจอดรับได้ แต่จอดรับได้แค่แป๊บเดียว เดี๋ยวพี่ตำรวจจะมาซิวไป ยังไม่อยากโดนใบสั่งเมืองลาวนะจ๊ะ หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาระทึกขวัญกะการที่จะโดนใบสั่ง เราก็มาถึงอีกสถานที่หนึ่ง คือหอพระแก้ว ที่นี่ห้ามถ่ายรูปด้านในนะคะ ถ่ายได้เฉพาะบริเวณด้านนอกเท่านั้นจ่ะ
สุดท้ายท้ายสุดของวันนี้คือการไปยังแหล่งช็อปสำคัญคือ ดิวตี้ ฟี (เขียนถูกรึเปล่าเนี่ย ไม่ค่อยสันทัดเท่าไหร่ ฮ่าๆๆๆ) ที่นี่ก็มีทุกสิ่งให้เลือกสรร สำหรับเราคนชอบเข้าสังคม ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องเหล้ายาปาร์ตี้ ที่นี่ราคาย่อมเยา เป็นกันเอง มือถือก็ยังมีชาย ตามหลอกหลอนกันจนถึงที่นี่ ส่วนใหญ่ก็ได้ของฝากกลับไปอีกมากมาย ยกเว้นแต่เรา เพราะมองแล้ว ก็ต้องกลับมาดูเงินในกระเป๋าตัวเอง เหอะๆๆๆๆ แอบขำในใจ ตังค์ไม่พอว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ แต่ก็ช่าง ที้บานเราก็มีขาย ราคาก็ไม่ได้หนีกันมากเท่าไหร่ (คิดแบบให้กำลังใจตัวเองมาก) สุดท้าย เราก็ถึงเวลาบั้ยบายเมืองลาวกันเสียที หลังจากที่นำเงินออกนอกประเทศมามากพอและ อย่าลืมนำเงินกลับมาช็อปในประเทศกันด้วยนะจ๊ะพี่น้อง สุดท้ายนี้ เมื่อยมือค่ะ อย่าลืมติดตามผลงานกันต่อไปนะ มิตรรักแฟนเพลงทั้งหลาย ตอนนี้อย่าลืมขอลายเซ็นไว้หล่ะ เพราะถ้าดังขึ้นมา จะหยิ่งแล้วจะหาว่าไม่เตือนนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ

โปรดติดตามตอนต่อไป.................................Sir::TisT




 

Create Date : 15 ตุลาคม 2552
1 comments
Last Update : 15 ตุลาคม 2552 13:14:18 น.
Counter : 531 Pageviews.

 

เวียงจันทร์ไปแล้วก็อยากไปอีก

 

โดย: iam_pimchaya 18 ตุลาคม 2552 17:58:30 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


gusirtist
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




   <

Friends' blogs
[Add gusirtist's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.