*♥*´¯`*.¸¸.*´¯`* Is that right?? !!! *´¯`*.¸¸.*´¯`*♥*
อัพย้อนไปเมื่อวีคที่แล้วหน่อยดีกว่า ถ้าไม่อัพก็เสียดายรูปแย่ เป็นความทรงจำดีๆที่ไว้ให้ลูกเข้ามาอ่าน มี๊เขียนไทยเพื่อเป็นแรงบัลดาลใจให้ลูกอยากเรียนอ่านไทยให้ออก จะได้รู้ว่ามี๊เล่าอะไรบ้าง ไม่งั้นก็ดูแต่รูปไปก็แเล้วกัน อย่างไรก็ตามรูปก็พอจะเล่าเรื่องได้บ้างนะคะลูก
วีคที่แล้วแด๊ดดี๊พาพวกเราไปทานปูหิมะอีกแล้ว อิอิ มี๊ช๊อบชอบ แต่ไปคราวนี้มี๊งอแงไม่อยากแกะ แด๊ดดี๊ก็เลยต้องแกะให้ทาน หวานปาก หนูต้องเป็นคนที่ดีเหมือนแด๊ดดี๊นะครับ อิอิ
น้องชอบหันไปมองทางโน๊นทีทางนี้ที ส่วนพี่จัสเค้าน่ะหรือตามแด๊ดดี๊ไปเอาอาหารจ๊ะ
น้องเจทานได้เยอะเลยลูก น้องชอบทานหมี่สิงค์โปร น้องหยิบเข้าปากไม่หยุดเลย แม่เห็นก็ชื่นใจที่น้องทานได้เยอะ
อาโหยววว หมี่ติดปาก ฮ่าๆๆๆ
สามหนุ่มสามมุมจริงๆ
อาหารของมี๊จ๊ะ ไม่เน้นแป้งเท่าไหร่ เกี๊ยวอร่อยนะข้างในเป็นครีมๆ กรอบๆดี อ้วนเล็กน้อย อิอิ
ขากลับเจอเพื่อนแด๊ดดี๊ด้วย เค้าทักว่าในที่สุดเราก็มีลูกสาว เหอๆ น้องเจของมี๊มีคนทักอย่างนี้บ๊อย บ่อย
ก็บอกเค้าไปว่าไม่ใช่คร๊าบ ป๋มเป็นปู้ชายยยยย
เพราะน้องเจหน้าหวานไงครับ แล้วก็มีคนทักเยอะว่าน้องหน้าคล้ายมี๊ ตาถึงจริงๆๆ
แอบปลื้มมม ไม่น้อย โตไปน้องต้องหล่อแน่ๆๆๆ ตามพี่ไปติดๆเลยนะครับ
วันนี้ขอชมลูกๆสักวันเพราะไม่บ่อยเลยที่มี๊จะชมลง Blog ^__^
ทิ้งท้ายด้วยรูปเก็บตกของสองหนุ่มของมี๊นะครับ
พี่จัสตินคนเก่ง 5 ขวบไปเมื่อสิ้นเดือนที่แล้ว
มี๊บอกให้พี่จัสทำปากจุ๊ๆๆ ได้มาแบบนี้ อิอิ
ส่วนน้องเจเด้น 17 เดือนเศษครับ
นั่งสบายจริงๆนะคะคุณลูกขา
น้องเจของมี๊อารมณ์ดีเสมอ ยิ้มตลอด
วันก่อนมี๊ยืนแปรงฟันในห้องน้ำ น้องก็ตามมายืนทางซ้ายมองมี๊เอียงคอ
มี๊มองไปก็เห็นน้องเจเอียงคอยิ้มกว้างมาให้ โอยหัวใจมี๊ละลาย น่ารักเหลือเกิน
น้องเป็นเงาของมี๊ล่ะ มี๊ไปไหนก็ตามๆๆๆๆ ชอบเข้าห้องน้ำรื้อลิ้นชัก เหอๆ
เป็นมิสเตอร์รื้อของ เด็กหนอเด็ก วันหน้าจะเอารูปรื้อมาลง อิอิ
แม่รักลูกๆมากจ๊ะ I love you baby~ all my heart
สั้นๆนะคะ Blog สไตล์ของมี๊
ทิ้งท้ายด้วยสิ่งที่น่าสนใจที่อ่านเจอมา น่าสนใจมากๆๆๆๆ
มี๊เป็นภรรยาแบบไหนกันน๊อ ไว้จะมาเฉลยนะจ๊ะ
ภรรยา 7 จำพวก
พระไตรปิฎก : พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต วรรคที่ไม่สงเคราะห์เข้าในปัณณาสก์ อัพยากตวรรคที่ ๑ ภริยาสูตร
[๖๐] ครั้งนั้น เมื่อเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงนุ่งแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปยังนิเวศน์ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูลาดแล้ว ก็สมัยนั้นมนุษย์ทั้งหลายในนิเวศน์ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีส่งเสียงอื้ออึง ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามว่า ดูกรคฤหบดี เหตุไรหนอ มนุษย์ทั้งหลายในนิเวศน์ของท่านจึงส่งเสียงอื้ออึง เหมือนชาวประมงแย่งปลากัน
อนาถบิณฑิกเศรษฐีกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นางสุชาดาคนนี้ข้าพระองค์นำมาจากตระกูลมั่งคั่ง มาเป็นสะใภ้ในเรือน นางไม่เชื่อถือแม่ผัว พ่อผัว สามี แม้แต่พระผู้มีพระภาคนางก็ไม่สักการะเคารพนับถือบูชา
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกนางสุชาดาหญิงสะใภ้ในเรือนว่า มานี่แน่ะนางสุชาดา
นางสุชาดาหญิงสะใภ้ในเรือนทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
ครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสถามว่า ดูกรนางสุชาดา ภริยาของบุรุษ ๗ จำพวกนี้ ๗ จำพวกเป็นไฉน คือ ภริยาเสมอด้วยเพชฌฆาต ๑ เสมอด้วยโจร ๑ เสมอด้วยนาย ๑ เสมอด้วยแม่ ๑ เสมอด้วยพี่สาวน้องสาว ๑ เสมอด้วยเพื่อน ๑ เสมอด้วยทาสี ๑ ดูกรนางสุชาดา ภริยาของบุรุษ ๗ จำพวกนี้แล เธอเป็นจำพวกไหนใน ๗ จำพวกนั้น
นางสุชาดากราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันยังไม่รู้ทั่วถึงความแห่งพระดำรัส ที่พระผู้มีพระภาคตรัสแล้วโดยย่อนี้ได้โดยพิสดาร ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอประทานพระวโรกาส ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงแสดงธรรมแก่หม่อมฉัน โดยที่หม่อมฉันจะพึงรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งพระดำรัส ที่พระผู้มีพระภาคตรัสโดยย่อนี้ โดยพิสดารเถิด ฯ
พ. ดูกรนางสุชาดา ถ้าอย่างนั้นเธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว
นางสุชาดาหญิงสะใภ้ในเรือนทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ภริยาผู้มีจิตประทุษร้าย ไม่อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูล ยินดีในชายอื่น ดูหมิ่นสามี เป็นผู้อันเขาซื้อมาด้วยทรัพย์ พยายามจะฆ่าผัว ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า วธกาภริยา ภริยาเสมอด้วยเพชฌฆาต
สามีของหญิงประกอบด้วยศิลปกรรม พาณิชยกรรม และกสิกรรม ได้ทรัพย์ใดมา ภริยาปรารถนาจะยักยอกทรัพย์ แม้มีอยู่น้อยนั้นเสีย ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า โจรภริยา ภริยาเสมอด้วยโจร
ภริยาที่ไม่สนใจการงาน เกียจคร้าน กินมาก ปากร้าย ปากกล้า ร้ายกาจ กล่าวคำหยาบ ข่มขี่ผัวผู้ขยันขันแข็ง ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า อัยยาภริยา ภริยาเสมอด้วยนาย
ภริยาใดอนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูลทุกเมื่อ ตามรักษาสามีเหมือนมารดารักษาบุตร รักษาทรัพย์ที่สามีหามาได้ไว้ ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า มาตาภริยา ภริยาเสมอด้วยมารดา
ภริยาที่เป็นเหมือนพี่สาวน้องสาว มีความเคารพในสามีของตน เป็นคนละอายบาป เป็นไปตามอำนาจสามี ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า ภคินีภริยา ภริยาเสมอด้วยพี่สาวน้องสาว
ภริยาใดในโลกนี้เห็นสามีแล้วชื่นชมยินดี เหมือนเพื่อนผู้จากไปนานแล้วกลับมา เป็นหญิงมีตระกูล มีศีล มีวัตร ปฏิบัติสามี ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า สขีภริยา ภริยาเสมอด้วยเพื่อน
ภริยาใดสามีเฆี่ยนตี ขู่ตะคอก ก็ไม่โกรธ ไม่คิดพิโรธโกรธตอบสามี อดทนได้ เป็นไปตามอำนาจสามี ภริยาของบุรุษเห็นปานนี้เรียกว่า ทาสีภริยา ภริยาเสมอด้วยทาสี (ทาสที่เป็นหญิง - ธัมมโชติ)
ภริยาที่เรียกว่า วธกาภริยา ๑ โจรีภริยา ๑ อัยยาภริยา ๑ ภริยาทั้ง ๓ จำพวกนั้น ล้วนแต่เป็นคนทุศีล หยาบช้า ไม่เอื้อเฟื้อ เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงนรก
ส่วนภริยาที่เรียกว่า มาตาภริยา ๑ ภคินีภริยา ๑ สขีภริยา ๑ ทาสีภริยา ๑ ภริยาทั้ง ๔ จำพวกนั้น เพราะตั้งอยู่ในศีล ถนอมรักไว้ยั่งยืน เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงสุคติ
ดูกรนางสุชาดา ภริยาของบุรุษ ๗ จำพวกนี้แล เธอเป็นภริยาจำพวกไหน ใน ๗ จำพวกนั้น ฯ
ส. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอพระผู้มีพระภาคโปรดทรงจำหม่อมฉันว่า เป็นภริยาของสามี ผู้เสมอด้วยทาสี ฯ
จบสูตรที่ ๑๐
ผู้รวบรวม ธัมมโชติ 11 มกราคม 2546
Thanks everyone and have a nice day ka ^__^
Create Date : 26 สิงหาคม 2551 |
Last Update : 26 สิงหาคม 2551 13:18:03 น. |
|
28 comments
|
Counter : 378 Pageviews. |
|
|
Commentโดนๆ...คลิ๊กที่นี่
สวัสดีค่ะพี่แพท น้องเจเด้นกำลังน่ารักเลยนะคะ หันซ้าย หันขวา คงชอบดูสิ่งรอบข้างตามประสาเด็กน่ะค่ะ
น้องจัสติน เค้าตาสวยจริงๆ นะคะ แต่ของน้องเจเด้นเนี่ยหนูไม่ออกว่าสีอะไรกันแน่
ลูกหนูสองคนตาได้แม่เลยค่ะ น้ำตาลอ่อน อยากจะให้เค้าได้สีฟ้าจริงๆ เลย โดยเฉพาะคนเล็ก แห่ะๆ
อาหารเยอะมากกินหมดไม๊คะนั่น อยากจะร่วมวงกินปูด้วยจัง