ทรามาดอล เป็นยาในกลุ่ม โอปิออยด์ ใช้เป็นยาบรรเทาปวด สำหรับรักษาอาการปวดระดับปานกลางถึงระดับรุนแรง เป็นสารสังเคราะห์ที่ไม่มีความสัมพันธ์กับโอปิออยด์อื่น และออกฤทธิ์ที่ระบบ GABAergic, noradrenergic และ serotonergic ถูกพัฒนาขึ้นโดย บริษัทยา ของประเทศเยอรมนี ชื่อ Grünenthal GmbH ชื่อการค้าว่า ทรามัล (Tramal) Grünenthal ทรามาดอลมีทั้งรูปยาฉีดเข้าเส้น เข้ากล้ามเนื้อ และยารับประทาน วิธีการใช้ ผู้ใหญ่ ครั้งละ 50-100 มก.ซ้ำได้ทุก 4-6 ชั่วโมง สูงสุดไม่เกิน400 มก./วัน(อายุ>75ปี ไม่เกิน 300 มก./วัน
ผลข้างเคียงของ Tramadol ถูกใช้ในการรักษาอาการปวดปานกลางถึงรุนแรง และจำนวนของผลข้างเคียงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและปริมาณที่ใช้ การวินิจฉัย Tramadol เป็นยาตามใบสั่งแพทย์จัดว่าเป็นยาเสพติด โดยผู้ที่ได้รับจะมีอาการมึนงงในสมอง และระบบประสาทจากความเจ็บปวด Tramadol สามารถกลายเป็นเสพติด จะกำหนดการใช้งานระยะสั้น ผลข้างเคียงที่พบบ่อย Tramadol มีผลข้างเคียงที่พบบ่อย: ปากแห้ง วิงเวียน, ท้องร่วง, ปวดหัว, คลื่นไส้, นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย, ท้องผูก, ง่วงนอนและอาเจียน แม้ว่าร้ายแรงน้อยกว่าผลข้างเคียงอื่นๆ การคงอยู่จากหลายรายการข้างต้นอาจส่งสัญญาณสภาพที่ร้ายแรง ผลข้างเคียงที่รุนแรง Tramadol สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง รวมทั้งอาการเจ็บหน้าอก, วิงเวียนอย่างรุนแรง และอาการง่วงนอน ผื่นผิวหนังหรือการระคายเคืองอย่างรุนแรง หัวใจเต้นผิดปกติ, ภาพหลอน, ปัสสาวะเจ็บปวด สูญเสียการประสานงาน การเปลี่ยนแปลงอารมณ์และการกวน ปฏิกิริยาการแพ้อย่างรุนแรงอาจเกิดขึ้นกับการใช้ ถ้ามีผลข้างเคียงที่รุนแรงเหล่านี้เกิดขึ้นติดต่อแพทย์ทันที
การใช้ Tramadol ควรใช้ตามที่กำหนดไว้โดยแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ไม่เปลี่ยนยาหรือระยะเวลาในการใช้งาน ทำเช่นนี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่รุนแรง
คำเตือน Tramadol สามารถติดเป็นนิสัย อย่าใช้ Tramadol ถ้าเคยได้รับติดยาเสพติดหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะที่ใช้ Tramadol มันอาจเพิ่มความรุนแรงของผลข้างเคียงบางอย่าง Tramadol สามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรง ยานี้ในเด็กอายุน้อยกว่า 16 ไม่แนะนำให้ใช้ และไม่ควรใช้ถ้ามีปัญหาไตหรือตับ
ข้อห้ามสำหรับการใช้ยาทรามาดอล - ห้ามใช้ยานี้ในปริมาณที่มากกว่า บ่อยกว่าหรือใช้เป็นระยะเวลานานกว่าที่แพทย์ระบุ - ห้ามหายใจหรือสูดเอาผงของเม็ดยาเข้าสู่ร่างกาย - ห้ามฉีดสารละลายของยาหรือเม็ดยาเข้าสู่ร่างกาย - ห้ามใช้ยานี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน และห้ามหยุดใช้ยาเองโดยทันที ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนหยุดใช้ยา การใช้ยาทรามาดอลในทางที่ผิด พบว่ามีรายงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2552 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากระทรวงสาธารณสุข ได้มีประกาศเตือน ห้ามใช้ยาชนิดนี้เมื่อไม่จำเป็น จากกรณีพบวัยรุ่น 3 จังหวัดภาคใต้นำยาทรามาดอลมาใช้เป็นส่วนผสมของยาเสพติด โดยผสมกับยาแก้ไอ และเครื่องดื่มโคล่าจนกลายเป็นสารเสพติด ประเภทสี่คูณร้อย ต่อมาในปี2554 จังหวัดสตูลได้มีประกาศห้ามนำยาชนิดนี้มาจำหน่าย จ่ายแจกหรือแลกเปลี่ยน หลังพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมาก นำไปผสมเป็นยาเสพติดร้ายแรงมีการเสพร่วมกันเป็นจำนวนมาก ในปี 2555 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ประกาศเตือน และให้มีการเฝ้าระวัง หลังได้รับรายงานว่าในพื้นที่ภาคเหนือมีกลุ่มวัยรุ่นใช้ยาชนิดนี้ ในปริมาณมากโดยกินร่วมกับน้ำอัดลม เครื่องดื่มชูกำลัง หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีอาการมึนเมาเหมือนคนสูบฝิ่น และในเดือนมกราคม ปี 2556 สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 5 จังหวัดลำปาง เตือนให้เฝ้าระวังการใช้ยาทรามาดอล (Tramadol) ในทางที่ผิด ซึ่งพบที่จังหวัดเชียงใหม่ว่ามีการระบาดในกลุ่มวัยรุ่น และนักเรียน ตามสถานบันเทิงโดยผสมกับเครื่องดื่มหลายรูปแบบ ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีรายงานว่านักเรียน นักศึกษา ใช้ยามาทราดอลโดยกินร่วมกับน้ำอัดลม ผงชาแบบพร้อมชง ยาลดน้ำมูก ยาบรรเทาอาการไอ เพื่อให้เกิดความมึนเมา บางรายใช้มากกว่า 10 แคปซูลต่อวัน (50 มิลลิกรัม/แคปซูล) โดยซื้อยาได้จากร้านขายยาใกล้โรงเรียน เพื่อเป็นการป้องกันการใช้ยาในทางที่ผิด ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้ยาเสพติดของเด็กและเยาวชน พ่อ แม่ ผู้ปกครองควรร่วมมือ กับโรงเรียนในการสอดส่องดูแลพฤติกรรมลูกอย่างใกล้ชิด ชุมชนร่วมเฝ้าระวังเมื่อเห็นนักเรียน มีการจับกลุ่มมั่วสุม หรือมีอาการมึนเมาควรแจ้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อแก้ไข และร้านขายยาต้องไม่ขายยาอันตรายให้แก่นักเรียนที่มาขอซื้อตามลำพัง
บล็อคนี้อยู่ในหมวดสุขภาพค่ะ
|
Tramadol Hydrocloride,
For Your's Song.