|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
หมามุ่ย
ข่าวการเสียชีวิตน้อง จากการกินสารสกัดจากเมล็ดหมามุ่ยอินเดีย เรามาทำความรู้จักหมามุ่ยกัน
หมามุ่ย แค่ได้ยินชื่อก็แอบรู้สึกคันยุบยิบ แต่นั่นเทียบไมได้เลยกับสรรพคุณของหมามุ่ยที่เด็ดดวงจนต้องบอกต่อ ถ้าให้นับจำนวนสมุนไพรที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพนั้นเชื่อเลยว่าคงจะนับกันไม่หวาดไม่ไหว เนื่องจากมีสมุนไพรมากมายที่ให้คุณกับเราอยู่มากมาย แม้สมุนไพรบางชนิดเราเห็นรูปลักษณ์ภายนอกแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะดีต่อร่างกายอย่างเช่นสมุนไพรที่เราจะนำมาบอกเล่ากันวันนี้ ได้ยินชื่อแล้วอาจจะไม่กล้าเข้าใกล้เพราะกลัวว่าจะคันจนเกาไม่หยุด แต่จริง ๆ แล้วสรรพคุณที่ซุกซ่อนอยู่นั้นมากมายกว่าที่คิด ไปทำความรู้จักกับสมุนไพรชนิดนี้ให้ดีขึ้นกว่าเดิมกันดีกว่า
หมามุ่ย คืออะไร หมามุ่ย (Velvet bean) เป็นสมุนไพรที่มีลักษณะเป็นพืชเถา และมีขนคันอยู่บริเวณฝัก หมามุ่ยถูกนำมาใช้ในการรักษามาอย่างช้านาน เนื่องด้วยเพราะเมล็ดของหมามุ่ยนั้นมีสรรพคุณมากมายจนนับไม่ถ้วน แต่ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดก็คือสรรพคุณในเสริมสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย
นอกจากนี้ส่วนอื่น ๆ ของหมามุ่ยยังสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคได้อีกมากมาย สำหรับในประเทศไทยมีหมามุ่ย 2 สายพันธุ์หลัก ๆ ที่เรารู้จักกันดีได้แก่หมามุ่ยไทย และหมามุ่ยอินเดีย ซึ่งมีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยและสามารถสังเกตได้
หมามุ่ยไทย และหมามุ่ยอินเดีย ต่างกันอย่างไร ? หมามุ่ยไทยและหมามุ่ยอินเดียนั้นดูผิวเผินแล้วอาจจะคล้ายกัน แต่ก็มีความแตกต่างกันที่ฝักและเมล็ด โดยสามารถสังเกตได้ว่าหมามุ่ยอินเดียจะมีขนฝักสั้น เมื่อสัมผัสแล้วจะไม่มีอาการคัน และเมื่อแกะฝักออกมาแล้วเมล็ดที่อยู่ภายในจะมีสองสีสลับกัน ดำบ้างขาวบ้าง ในขณะที่หมามุ่ยไทยนั้นจะมีขนฝักยาวและหากสัมผัสก็จะทำให้เกิดอาการคัน และอาจเกิดอาการแพ้ได้ ทั้งนี้ขนาดฝักยังเล็กกว่าหมามุ่ยอินเดีย ส่วนสีของเมล็ดจะเป็นสีดำสนิทขนาดคละกันไป แต่ก็ใช่ว่าหมามุ่ยไทยจะมีประโยชน์เหมือนหมามุ่ยจีนและอินเดียที่เคยมีผลการศึกษารับรองถึงสรรพคุณในการเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ เพราะยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าหมามุ่ยไทยมีประโยชน์ ทางที่ดีหากไม่แน่ใจว่าเมล็ดหมามุ่ยที่นำมารับประทานเป็นสายพันธุ์ไหนกันแน่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่าเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์
หมามุ่ย สรรพคุณทางยาอันมหาศาลที่ไม่น่ามองผ่าน หมามุ่ยเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารเลโวโดปา (Levodopa) หรือแอลโดปา (L-Dopa)ที่เป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาทในสมองที่มีชื่อว่า โดปามีน อันมีความสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์ และหากนำไปสกัดเป็นยาเม็ดก็จะสามารถช่วยรักษาโรคพาร์กินสันได้อีกด้วย
นอกจากนี้เมล็ดหมามุ่ยยังมีสรรพคุณอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นยาบำรุงกำลัง ให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ทำให้หลับสบายมากขึ้น หรือแม้แต่สรรพคุณอันลือเลื่องอย่างการเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย ช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำอสุจิ และทำให้น้ำเชื้อนั้นมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น เพิ่มการเคลื่อนไหวของอสุจิ ลดภาวะมีบุตรยาก รวมทั้งแก้ไขปัญหาอวัยวะเพศแข็งตัวช้าในเพศชาย ในผู้หญิงก็ยังช่วยกระชับหน้าอกให้เต่งตึง ขับให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และกระชับช่องคลอดอีกด้วย ทั้งนี้การรับประทานเมล็ดหมามุ่ยก็ยังช่วยผ่อนคลายคลายเครียด ช่วยในการเผาผลาญและเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ รักษาอาการช้ำใน ใช้ถอนพิษ และแก้พิษของแมงป่องได้ ส่วนรากของหมามุ่ยก็มีประโยชน์ เพียงนำไปต้มกับน้ำแล้วนำมาดื่มก็ช่วยรักษาอาการไอ อาการคัน และล้างพิษในร่างกายได้อีกด้วย
ข้อควรระวังในการใช้หมามุ่ย แม้ว่าจะหมามุ่ยจะมีสรรพคุณทางยามากมาย แต่สำหรับคนบางกลุ่ม การรับประทานหมามุ่ยอาจยิ่งมีผลข้างเคียงที่ไม่ถึงประสงค์ได้
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและระบบหลอดเลือดหัวใจ เนื่องจากหมามุ่ยมีสารแอลโดปา ซึ่งเป็นสารที่ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดควรหลีกเลี่ยงเนื่องจากจะทำให้ความดันโลหิตลดลง ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะและเป็นลม นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะอีกด้วย - หมามุ่ยสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ แต่หากรับประทานในปริมาณที่ไม่เหมาะสมก็อาจจะทำให้ระดับน้ำตาลลดลงมากเกินไป ดังนั้นหากผู้ป่วยเบาหวานต้องการใช้หมามุ่ย ช่วยลดระดับน้ำตาลก็ควรที่จะให้ ความสนใจกับระดับน้ำตาลในเลือดให้มากขึ้น และควรปรึกษาแพทย์ถึงปริมาณของหมามุ่ยที่สามารถบริโภคได้โดยไม่กระทบต่อสุขภาพ - ผู้ป่วยโรคตับเป็นอีกกลุ่มที่ไม่ควรบริโภคหมามุ่ย เพราะสารแอลโดปานั้นจะไปเพิ่มปริมาณสารเคมีที่มีผลทำลายตับ และทำให้อาการของโรคตับเลวร้ายลง ดังนั้นจึงควรห้ามใช้โดยเด็ดขาด - สารแอลโดปานอกจากจะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยโรคตับแล้ว ยังส่งผลร้ายต่อผู้ ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย เพราะสารชนิดนี้จะไปกระตุ้นให้ร่างกายผลิตเมลานินมากขึ้น และทำให้อาการของโรคมะเร็งผิวหนังแย่ลง จึงไม่ควรใช้เด็ดขาดหากคุณเคยเป็นโรคมะเร็งหรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับผิวหนัง - มีรายงานพบว่าสารแอลโดปาสามารถทำให้เกิดการเลือดออกในระบบทางเดินอาหารได้ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีแผลในกระเพาะอาหารหรือในลำไส้ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ยังไม่มีผลวิจัยออกมาแน่ชัด และยังไม่พบรายงานผู้ป่วยที่เกิดการเลือดออกจากการรับประทานหมามุ่ย - การบริโภคหมามุ่ยเป็นสิ่งที่ต้องห้ามในกลุ่มผู้ที่มีปัญหาทางจิต เนื่องสารแอลโดปาจะไปทำให้อาการทางจิตเลวร้ายลง - ในแพทย์บางรายอาจมีการสั่งให้ใช้หมามุ่ยก่อนทำการผ่าตัดเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด แต่ก็ไม่ควรใช้อย่างต่อเนื่องจนถึงตอนผ่าตัด เพราะอาจทำให้เกิดอาการช็อก เนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำได้ ดังนั้นหากมีการใช้หมามุ่ยก่อนการผ่าตัด ควรเลิกใช้อย่างน้อยก่อนถึงวันผ่าตัดเพื่อความปลอดภัย
หมามุ่ย ปริมาณการใช้ที่เหมาะ แค่ไหนถึงปลอดภัย ปริมาณการใช้หมามุ่ยเพื่อบำรุงสุขภาพนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นภาวะสุขภาพ อายุของผู้ใช้ หรือเงื่อนไขเกี่ยวกับสุขภาพอื่น ๆ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดปริมาณอย่างแน่นอนได้ว่าควรบริโภคไม่เกินปริมาณเท่าใด ฉะนั้นหากคิดจะบริโภคหมามุ่ยเป็นอาหารเสริม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญแพทย์ หรือเภสัชกรจะดีที่สุด และที่สำคัญ ควรอ่านฉลากของผลิตภัณฑ์ให้ถี่ถ้วนอีกด้วย ได้รู้จักกับคุณค่าของสมุนไพรชนิดนี้กันไปมากขึ้นแล้ว ต่อไปก็จะได้ไม่ต้องกลัวกับเรื่องคัน ๆ แล้วล่ะ แต่ก็ต้องเตือน ว่าอย่าไปใช้แบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่อย่างนั้นอาจจะส่งผลอันไม่พึงประสงค์ที่ทำลายสุขภาพได้เช่นกัน
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมเยียน
หวังให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรง
Create Date : 21 มิถุนายน 2559 |
|
51 comments |
Last Update : 21 มิถุนายน 2559 14:13:48 น. |
Counter : 5012 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ตุ๊กจ้ะ 21 มิถุนายน 2559 14:45:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: จี้ดจ้าด (บ้านต้นคูน ) 21 มิถุนายน 2559 15:56:14 น. |
|
|
|
| |
โดย: moresaw 21 มิถุนายน 2559 18:37:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tristy 21 มิถุนายน 2559 23:20:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: ออมอำพัน 22 มิถุนายน 2559 0:03:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ออมอำพัน 22 มิถุนายน 2559 0:04:48 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 22 มิถุนายน 2559 15:44:07 น. |
|
|
|
| |
โดย: ก้นกะลา 22 มิถุนายน 2559 17:59:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนินน้ำ 22 มิถุนายน 2559 19:00:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: AppleWi 23 มิถุนายน 2559 17:11:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: panvart IP: 182.232.22.35 23 มิถุนายน 2559 21:53:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: panvart IP: 182.232.22.35 23 มิถุนายน 2559 21:54:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: Maeboon 23 มิถุนายน 2559 22:57:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: ชมพร 24 มิถุนายน 2559 8:24:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 24 มิถุนายน 2559 15:45:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) 24 มิถุนายน 2559 18:50:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 25 มิถุนายน 2559 15:57:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: mastana 25 มิถุนายน 2559 21:05:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tristy 25 มิถุนายน 2559 23:24:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 26 มิถุนายน 2559 19:31:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปรัซซี่ 26 มิถุนายน 2559 21:27:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: กิ่งฟ้า 27 มิถุนายน 2559 12:33:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: mambymam 28 มิถุนายน 2559 4:11:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: Opey (Opey ) 29 มิถุนายน 2559 10:20:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ALDI 29 มิถุนายน 2559 18:51:17 น. |
|
|
|
|
|
|
เริ่มทำ Blog ครั้งแรกเมื่อ 27 ก.ค.54
เริ่มนับ 2 มี.ค.55
ขอบคุณภาพประกอบจากบล็อค
คุณญามี่
คุณยายเก๋า
คุณนุช oranuch_sri
กรอบภาพจากบล็อค
คุณ Lozacat
คุณ KungGuenter
|
|
|
|
|
|
|
นึกว่าคันอย่างเดียว แต่ต้องสกัดเอามาทานนี่เอง
ทีแรกยังคิดอยู่ว่าจะทานยังไง
ขอบคุณมากเลยนะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
อุ้มสี Fanclub Blog ดู Blog
ชีริว Cartoon Blog ดู Blog
บ้านต้นคูน Travel Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น