อะไรอยู่ในปาก
ช่องปากของเรามีมากกว่าฟันกับลิ้น มารู้จักให้ลึกลงไปอีกนิดนึงว่ามีอะไรบ้าง
เหงือก เหงือกดี ๆ ต้องมีสีชมพู เฟิร์ม ไม่มีเลือดออกยึดฟันไว้ได้แน่น
ลิ้น ไม่ต้องบอกอะไรมากกับอวัยวะที่ช่วยในการเคี้ยวกลืน และรับรสชาติ พอแลบออกมาจะเห็นตุ่มเล็ก ๆ และปุ่มรับรสอยู่เต็มไปหมด ลิ้นที่ดีจะมีสีชมพูระเรื่อ ชื้นและเกือบเรียบ เมื่อไหร่ก็ตามที่ลิ้นแห้ง มีสีซีด สีแดงจัด หรือปวดลิ้นควรไปพบแพทย์ อย่าปล่อยไว้นาน เพราะลิ้นอาจเป็นแค่สัญญาณแรกที่บ่งบอกอาการเจ็บป่วยก็ได้
ต่อมน้ำลาย ชื่อก็บอกชัดเจนว่ามีหน้าที่ผลิตน้ำลายจะมีอยู่สามคู่ก็คือ 1. ต่อมน้ำลายใต้ลิ้น 2. ต่อมน้ำลายใต้ขากรรไกรล่าง มีโอกาสติดเชื้อและเป็นนิ่วสูง และ 3. ต่อมน้ำลายใกล้กกหู เป็นต่อมน้ำลายที่ใหญ่ที่สุด อาจมีปัญหาเนื้องอกได้ง่าย ถ้าพบว่ามีก้อนโต ๆ อยู่แถว ๆ กกหูก็ควรจะไปพบแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ
ต่อมทอนซิล หลายคนคงคุ้นเคยกับต่อมทอนซิลอักเสบกันดีอยู่แล้ว ถ้าลองอ้าปากและฉายไฟดูจะพบต่อมซ้าย-ขวาอยู่ที่โคนลิ้นด้านหลังลิ้นไก่ มีหน้าที่สำคัญในการตัดทำลายเชื้อโรค บางครั้งก็ทำงานหนักมากเกินไปจนอักเสบ ทำให้มีไข้และเจ็บคอ และอาจจะกลายเป็นที่กักเก็บแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ ได้
กล่องเสียง แอบซ่อนอยู่ในลำคอ คืออวัยวะสำคัญที่คอยปกป้องหลอดลม และทำให้เกิดเสียง ถ้าไม่ระวัง ตะโกนบ่อย ๆ หรือสูบบุหรี่ ก็อาจจะอักเสบเรื้อรัง และกลายเป็นปัญหาร้ายแรงได้เหมือนกัน
เกิดอะไรขึ้นในปากได้บ้าง
สัญญาณจากลมปาก
บางคนแม้จะแปรงฟันทั้งวันแล้วก็ยังพบว่าปากของเราส่งกลิ่นตุ ๆ ออกมาอยู่ ความจริงแล้ว กลิ่นที่ออกมานั้นมันบ่งบอกอะไรได้เยอะมาก เช่น โรคเหงือก มะเร็งในช่องปาก มะเร็งหลอดอาหาร โพรงจมูกอักเสบ แต่กลิ่นจากโรคบางอย่างก็มีลักษณะเฉพาะตัวที่เราสังเกตได้
กลิ่นผลไม้ ไม่ใช่กลิ่นมะนาวหอมชื่นใจ หรือกลิ่นแบบลูกอมรสผลไม้ แต่อาจเป็นสัญญาณที่อันตรายสุด ๆ เพราะจะบ่งบอกถึง Ketoacidosis (ภาวะโคม่าจากน้ำตาลในเลือดสูง) ซึ่งร่างกายพยายามกำจัดอะซีโตนส่วนเกินด้วยการหายใจ มักจะพบได้ในผู้ป่วยเบาหวาน และถ้าสงสัยว่าเป็นก็ต้องรีบไปพบแพทย์ด่วน
กลิ่นอุจจาระ ถึงแม้จะอี๋ แต่ก็ไม่อันตรายเท่ากลิ่นผลไม้ เกิดขึ้นได้บ่อย ๆ เวลาที่ท้องผูกหรืออาเจียนติด ๆ กันเป็นเวลานาน
กลิ่นแอมโมเนีย ถ้าไม่รู้ว่าแอมโมเนียมีกลิ่นอย่างไร นี่ก็คือลมปากที่มีกลิ่นคาวคล้ายปัสสาวะ พบได้ในผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง
แลบลิ้นเช็คสุขภาพ
ลิ้นซีด เรียบ อย่างนี้อาจจะขาดสารอาหาร โดยเฉพาะวิตามินบี-12 หรืออาจบ่งบอกว่าโลหิตจางแล้ว ลิ้นมีฟ้าสีเข้ม น่าขยะแขยงแต่ไม่อันตรายเท่าไหร่ เป็นเพราะแบคทีเรียและยีสต์เติบโตมากเกินไปจนทำให้ลิ้นเปลี่ยนสี ป้องกันได้ด้วยการแปรงลิ้นเบา ๆ วันละสองครั้ง
ลิ้นบวม มีสาเหตุมากมายที่ทำให้ลิ้นคับปาก ไม่ว่าจะเป็นโรคดาวน์ซินโดรม ลูคีเมีย มะเร็ง หรือโรคไฮโปธัยรอยด์ อาจเป็นผลข้างเคียงจากอาการเมาค้าง หรือแพ้อาหารก็ได้
ลิ้นสีขาว คราบสีขาวที่ปกคลุมลิ้นบ่งบอกว่าร่างกายต้องการน้ำด่วน หรือไม่ก็เป็นเพราะบุหรี่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าโชคร้ายอาจเป็นเพราะมีเชื้อราปกคลุมก็ได้ ไม่ต้องทำอะไร แค่สังเกตก็พอ
ถ้ามีอาการต่อไปนี้ต้องไปพบแพทย์ มีแผลในปาก เลือดไหลนานกว่า 2 สัปดาห์
หมั่นใช้นิ้วชี้กดเพดานปาก คอยสังเกตความนุ่มและพื้นผิว ถ้าผิดปกติ แสบ หรือบวม ก็ลองไปถามคุณหมอดู
เจ็บคอไม่หายสักที
อยู่ดี ๆ เสียงก็เปลี่ยน
ปวดที่หูด้านใน
อยู่ดี ๆ ขากรรไกรก็บวม เคี้ยวอาหารยาก จะพูดก็ลำบาก กลืนอะไรไม่ค่อยได้
ตำแหน่งฟันเปลี่ยนไป
ส่องกระจกแล้วใบหน้ากับลำคอด้านซ้าย-ขวา ไม่เหมือนกัน
อวัยวะในกลุ่มนี้เสี่ยงมะเร็งด้วย...
มะเร็งช่องปากและลำคอจะดุร้ายพอสมควร คนที่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่จะมีปัจจัยเสี่ยงมะเร็งช่องปากและลำคอสูงกว่าคนทั่วไปมากถึง 60-70% ถ้าตรวจพบตั้งแต่แรก โอกาสรักษาหายก็มี เราอาจสังเกตจาก
มีกลิ่นเหม็นเน่าออกมาจากปาก มีเสมหะปนเลือด กลิ่นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วถ้าบางคนมะเร็งไปอยู่ที่กล่องเสียงหรือเส้นเสียงเนี่ย เสียงจะแหบ แล้วเสียงจะเปลี่ยนไปไม่หายสักที บางคนเกิดอาการไอเรื้อรัง หรือไอแล้วมีเสมหะปนเลือด (แต่ในเรื่องไอเราต้องดูปอดด้วย ไม่ใช่แค่กล่องเสียงอย่างเดียว) อย่างสุดท้ายก็คือกลืนแล้วเจ็บ ความรู้สึกเหมือนกับกลืนแล้วมันแปล็บ ๆ อยู่ในลำคอ แล้วจะค่อย ๆ กลืนลำบากขึ้นเรื่อย ๆ ตอนแรกกินข้าวได้ หลัง ๆ จะรู้สึกว่าข้าวสวยเริ่มกินไม่ได้แล้ว ต้องเป็นข้าวต้ม จากข้าวต้มก็อาจต้องดื่มแต่น้ำ แล้วทีนี้ระยะเวลาในการก่อโรคมะเร็งจะค่อยเป็นค่อยไป
|
ต้องหมั่นดูแล อาจเกิดโรคร้ายได้
แปะใจให้กับข้อมูลดีๆก่อน
คุณได้ทำการแปะ ให้กับคุณ pantawan เรียบร้อยแล้วนะคะ
คุณเหลือ อีก 4 ดวง สำหรับวันนี้ค่ะ
ไว้มาใหม่จ้ะ