อาหารผู้ป่วยมะเร็ง
"อโรคยา ปรมา ลาภา การไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ"
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง คือ อาหาร ที่ผู้ป่วยรับประทาน หากผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยแข็งแรงพร้อมที่จะได้รับการรักษาต่างๆ ได้ดีขึ้น รวมทั้งจะช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้นด้วยหลังจากได้รับการรักษาแล้ว อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของผู้ป่วยมะเร็ง
อาหารจำพวกโปรตีน ได้แก่ อาหารประเภทเนื้อปลา, อาหารทะเล, เนื้อไก่, เนื้อหมู, ไข่, นม, เต้าหู้, อาหารประเภทถั่วต่างๆ, เห็ด เป็นต้น อาหารโปรตีนเหล่านี้ จะช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อและซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ และยังช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้อีกด้วย สำหรับผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ควรลดปริมาณอาหารที่ทำมาจากถั่วเหลืองลง เช่น น้ำเต้าหู้ เต้าหู้ เป็นต้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองจะมีสารที่คล้ายกับฮอร์โมนในเพศหญิง ซึ่งอาจจะกระตุ้นมะเร็งเต้านมได้ อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต ได้แก่ อาหารประเภทแป้งต่าง ๆ, ข้าว, ขนมปังต่างๆ, ของหวาน เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังวังชา ไม่อ่อนเพลียมาก และช่วยรักษาระดับน้ำหนักไม่ให้ลดลงมาก อาหารจำพวกวิตามิน ซึ่งจะมีอยู่ในผักและผลไม้ต่างๆ โดยเฉพาะวิตามินที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยมะเร็ง ได้แก่
สารเบต้าแคโรทีน พบได้มากในผักพื้นบ้านต่าง ๆ ผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้ม เช่น ฟักทอง, มะเขือเทศ, แครอท, ตำลึง, มะละกอสุก, มะม่วงสุก, กล้วยไข่ เป็นต้น วิตามินซี พบมากในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวต่าง ๆ เช่น ส้ม, มะนาว, ฝรั่ง, แอปเปิ้ล, มะขามป้อม, สมอไทย เป็นต้น วิตามินอี พบมากในอาหารประเภทถั่วต่างๆ และธัญพืช เช่น ถั่วลิสง, ถั่วเหลือง, เมล็ดฟักทอง, เมล็ดทานตะวัน, งาดำ, ข้าวกล้อง เป็นต้น วิตามิน เส้นใยอาหารและสารอาหารที่มีอยู่ในผักผลไม้เหล่านี้จะทำงานไปด้วยกัน วิตามินดังกล่าวจะช่วยยับยั้งการทำลายเนื้อเยื่อจากอนุมูลอิสระในกระบวนการเผาผลาญอาหารของร่างกาย(ต้านอนุมูลอิสระ) ยับยั้งการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อปกติไปเป็นมะเร็ง และช่วยให้ระบบภูมิต้านทานของร่างกายทำงานดีขึ้นอีกด้วย สารอาหารและเส้นใยอาหารจากผักและผลไม้รวมทั้งธัญพืชต่างๆ เหล่านี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งบางอย่าง และยับยั้งการแพร่กระจายของมะเร็งอีกด้วย นอกจากนี้ผักตระกูลบร็อคโคลี่, กะหล่ำ, คะน้า จะมีสารต่อต้านการเกิดมะเร็งด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่จะมีปัญหาในการรับประทานอาหารซึ่งจะทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน พยายามเพิ่มการรับประทานอาหารระหว่างมื้อ โดยจัดเวลาอาหารเป็นการรับประทานอาหารมื้อหลัก 3 มื้อแล้วเพิ่มอาหารระหว่างมื้อเข้าไป อาจจะเป็นอาหารช่วงบ่ายและช่วงก่อนนอนเป็นต้น ตัวอย่างอาหารระหว่างมื้อ เช่น โจ๊ก, ขนมปังทาเนย หรือแยมคุ้กกี้, ขนมปังกรอบต่างๆ, ไอศครีม, น้ำเต้าหู้, ไมโล หรือโอวัลติน, ข้าวโอ้ต ฯลฯ รวมทั้งอาหารเพิ่มพลังงานอื่นๆ ที่ชอบและควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด รู้สึกเบื่ออาหาร, คลื่นไส้, อาเจียน
รับประทานอาหารครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆ รับประทานอาหารในช่วงเวลาที่รู้สึกเบื่ออาหารน้อยที่สุด เช่น มื้อเช้า หรือมื้อก่อนการให้ยาเคมีบำบัดเป็นต้น รับประทานอาหารที่ชอบ และรับประทานช้า ๆ รับประทานขนมปังกรอบหลังจากตื่นนอน หรือหลังจากนอนพักผ่อนแล้ว หลีกเลี่ยงจากอาหารที่มีกลิ่นฉุนต่างๆ เช่น กลิ่นกระเทียม, หัวหอม, กลิ่นเครื่องเทศต่างๆ เป็นต้น ให้ดื่มน้ำขิง, น้ำมะนาว, น้ำผลไม้เย็นๆ, ไอศครีม หรือเครื่องดื่มที่เย็นๆ ซึ่งจะช่วยไม่ให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนมาก ส่วนเครื่องดื่มที่ร้อนจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนมากขึ้น มีแผลบริเวณปากหรือมีอาการเจ็บคอ หลีกเลี่ยงอาหารที่แห้งและแข็ง, อาหารที่มีรสจัด เช่น เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หรืออาหารที่ร้อน-เย็นเกินไป รับประทานอาหารอ่อน เช่น โจ้ก, ข้าวต้ม, ข้าวโอ้ต หรืออาหารเหลวๆ เช่น นม, น้ำเต้าหู้, ไมโล เป็นต้น เติมแกงจืดในข้าวเพื่อรับประทานได้ง่ายขึ้น บ้วนปากทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันการติดเชื้อภายในปาก
มีอาการท้องเสีย หลีกเลี่ยงจากอาหารที่อาจจะทำให้ท้องเสีย ดังนี้ นม, ผลไม้, อาหารมัน, รสเผ็ด, อาหารหมักดอง เป็นต้น นอกจากนี้ หากดื่มนมแล้วท้องเสีย สามารถเปลี่ยนมาดื่มน้ำเต้าหู้(นมถั่วเหลือง) แทนได้ หากท้องเสียมาก โดยถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้ง/วัน ให้ดื่มน้ำหรือสารละลายเกลือแร่ เพื่อทดแทนของเหลวที่สูญเสียไป รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม, โจ้ก เป็นต้น หากอาการท้องเสียยังคงมีอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ ไม่ควรรับประทานยาแก้ท้องเสียเอง คำแนะนำการรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยที่กล่าวมาข้างต้น จะช่วยให้ร่างกายของผู้ป่วยแข็งแรงขึ้น และส่งเสริมให้การรักษาของแพทย์ได้ผลดีมากยิ่งขึ้น และยังช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นจากการที่ร่างกายอ่อนแอได้อีกด้วย
โรคมะเร็ง | ปัจจัยเสี่ยง อาการแสดงที่ควรระวัง | | มะเร็งปากมดลูก | | | | | | | มะเร็งเต้านม | | | | | | มะเร็งบริเวณปากและลำคอ | | | | | | | | | มะเร็งปอด | | | | | | มะเร็งลำไส้ใหญ่และำลำไส้ตรง | | | | | มะเร็งหลอดอาหาร | | | | | มะเร็งตับ | | | | | | | มะเร็งต่อมลูกหมาก | | | | | | | | - มีประวัติติดเชื้อหูดหงอนไก่ หรือติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ | | - มีเลือดหรือตกขาวออกทางช่องคลอดผิดปกติหรือมีกลิ่น | | - มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย หรือมีคู่นอนหลายคน | | - สูบบุหรี่ | | | | - มีก้อนที่เต้านมหรือมีเลือด น้ำเหลืองไหลออกจากหัวนม | | - มีประวัติญาติที่ใกล้ชิดเป็นมะเร็งเต้านม | | - ใช้ยาคุมกำเนิดนานมากกว่า 5 ปี | | | | | - สูบบุหรี่และดื่มสุราจัด | | - การดูแลสุขภาพอนามัยของปากไม่ดี | | - รับประทานหมากหรืออมเมี่ยง | | - เป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกและในช่องปาก | | - คลำพบก้อนบริเวณลำคอ | | | | - สูบบุหรี่จัด หรือเริ่มสูบหรี่ตั้งแต่อายุน้อย | | - ไอเรื้อรัง หรือไอเป็นเลือด | | - มีอาการเหนื่อยหอบ | | | | | - มีประวัติติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรงทั้งของตนเองและ | ญาติใกล้ชิด | | - มีประวัติญาติใกล้ชิด(พ่อ แม่ พี่น้อง) เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ | | - ลำไส้อักเสบเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ | | - อุจจาระเป็นมูกหรือมูกปนเลือด ท้องผูกสลับท้องเสีย | | | - เครื่องดื่มร้อนจัดเป็นประจำ ดื่มสุราจัด | | - มีอาการกลืนลำบาก | | | | | | - รับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น กุ้ง หอย และปลา(น้ำจืด) | | - มีประวัติเป็นโรคตับอักเสบ | | - รับประทานอาหารที่มีเชื้อรา เช่น ถั่วลิสง พริกแห้ง เป็นต้น | | - ท้องอืด ท้องโตขึ้น ตัวหรือตาเหลือง | | | | | - มีอายุมากกว่า 60 ปี | | - มีประวัติญาติใกล้ชิด(พ่อ พี่น้อง) เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก | | วิธีปฏิบัติตนเพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ดังนี้ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเพิ่มอาหารที่มีปริมาณกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช เป็นต้น หลีกเลี่ยงจากสารก่อมะเร็ง เช่น สารเคมีต่างๆ การสูดดมควันบุหรี่ หรือควันจากท่อไอเสีย หรือน้ำมันเบนซิน อาหารใส่ดินประสิว อาหารรมควัน อาหารที่ไหม้เกรียมจากการปิ้ง ย่าง ทอด และไม่รับประทานอาหารที่มีเชื้อราขึ้น เป็นต้น ลดอาหารไขมันสัตว์ และเนื้อสัตว์สีแดง หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนจัด ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิด ป้องกันการติดเชื้อพยาธิใบไม้ในตับ โดยเลิกรับประทานปลาน้ำจืดดิบ ๆ ที่มีเกล็ด หลีกเลี่ยงการได้รับแสงแดดจัด ๆ เป็นเวลานาน ผ่อนคลายความเครียด และให้ร่างกายได้พักผ่อน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจหามะเร็งระยะเริ่มแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งที่สามารถตรวจพบได้ในระยะแรก คือ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง มะเร็งต่อมลูกหมาก ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ บล็อคนี้มอบสำหรับคุณแม่ที่รัก ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพที่แข็งแรง บล็อคนี้อยู่ในหมวดสุขภาพค่ะ
Create Date : 17 สิงหาคม 2556 |
|
57 comments |
Last Update : 19 สิงหาคม 2556 21:21:56 น. |
Counter : 7935 Pageviews. |
|
|
|