Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
31 ธันวาคม 2553
 
All Blogs
 
AC/DC หนึ่งในวงร็อคระดับตำนาน (ตอนที่ 1)

อ้างอิง //en.wikipedia.org/wiki/AC/DC
เรียบเรียงโดย SIMcityCorN

AC/DC เป็นวงร็อคชาวออสเตรเลีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1973 โดยพี่น้อง Malcolm และ Angus Young
แม้ว่าโดยทั่วไปแนวดนตรีถูกจัดให้เป็นประเภท hard rock และมองว่าเป็นผู้บุกเบิกดนตรี heavy metal แต่พวกเขาบอกเสมอว่าแนวดนตรีของพวกเขาคือ rock and roll และ ณ ปัจจุบันพวกเขาก็ยังเป็นหนึ่งในวงยอดฮิตตลอดกาล
AC/DC เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสมาชิกในวงสองสามครั้งก่อนที่จะปล่อยอัลบั้มแรก high voltage ออกมาในปี 1975

สมาชิกในวงยังเป็นชุดเดิมจนกระทั่งสมาชิกในยุคก่อตั้งวง Mark Evans ถูกแทนที่โดย Cliff Williams ในปี 1978 ในอัลบั้ม Powerage และต่อมาในระหว่างเดือนที่มีการบันทึกอัลบั้ม Highway to Hell นักร้องนำและผู้ร่วมแต่งเพลง Bon Scott เสียชีวิตเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1980 หลังจากคืนที่ดื่มแอลกอฮอลล์เข้าไปอย่างหนัก สมาชิกในวงคิดจะยุบวงแต่ญาติผู้ใหญ่ของ Scott ได้แนะนำให้พวกเขาสานต่อวงดนตรีของพวกเขาต่อไปและยังแนะนำให้หาสมาชิกในตำแหน่งร้องนำคนใหม่เข้าร่วมวง Ex-Geordie นักร้อง Brian Johnson ผ่านการคัดเลือกและถูกเลือกเข้ามาแทนที่ Scott และในปีถัดมา วงก็ได้ปล่อยอัลบัมที่มียอดขายสูงสุดของพวกเขา Back In Black

For Those About to Rock We Salute You คืออัลบั้มถัดมาของวงเป็นอัลบั้มแรกที่ขึ้นอับดับหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา AC/DC เสื่อมความนิยมลงอย่างรวดเร็วหลังจากมือกลอง Phil Rudd ถูกขับออกจากวงในปี 1983 และแทนที่โดย Simon Wright ผู้ที่กลายเป็น Dio ในเวลาต่อมา และดูเหมือนว่าวงจะกลับมามีชีวิตอีกครั้งในช่วงต้นปี 1990 เมื่อปล่อยอัลบัม The Razor's Edge ต่อมาในปี 1994 Phil Rudd ได้กลับมา (หลังจาก Chris Slade ที่ร่วมวงระหว่างปี 1990-1994 ขอออกจากวงด้วยความสมัครใจของเขาเอง) และร่วมวงอีกครั้งในปี 1995 สำหรับอัลบัม Ballbreaker
Stiff Upper Lip ถูกปล่อยออกมาในปี 2000 และได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักวิจารณ์ ตั้งแต่นั้น สมาชิกที่ร่วมวงกันเป็นหน้าเดิมเช่นเดียวกันกับช่วงปี 1980-1983 อัลบั้มต่อมาของวงคือ Black Ice ปล่อยออกมาในวันที่ 20 ตุลาคม 2008 และกลายเป็นอัลบั้มยอดฮิตครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาเมื่อเพลง For Those About to Rock ขึ้นเป็นอันดับ #1 และบนทุกชาร์ทจัดอันดับเพลงในที่สุด


AC/DC มีอัลบั้มล่าสุดคืออัลบั้มซาวด์แทร็คหนัง Iron Man2 วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2010 ในปี 2010 ทั่วโลก AC/DC ขายได้มากกว่า 200 ล้านอัลบั้ม สำหรับอัลบั้มล่าสุด Black Ice และ Iron Man2 (Soundtrack) นั้นขายไปกว่า 71 ล้านอัลบั้มในสหรัฐอเมริกา อัลบั้ม Back in Black ขายไปได้ประมาณ 49 ล้านยูนิตทั่วโลก ทำสถิติวงที่มีอัลบั้มที่มียอดขายสูงที่สุด และเป็นอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดอันดับที่ 2 ในประวัติศาสตร์วงการเพลงตามหลังอัลบั้ม Thriller โดย ไมเคิล แจ๊คสัน เฉพาะในสหรัฐอเมริกาอัลบั้มนี้ขายได้ 22 ล้านอัลบั้ม และกลายเป็นอัลบั้มขายดีที่สุดอันดับ 5 (ผู้แปล: สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงขนาดอุตสาหกรรมวงการเพลงของสหรัฐอเมริกาที่มีขนาดใหญ่มาก)

AC/DC ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 4 ใน "100 Greatest Artists of Hard Rock" ซึ่งจัดโดย VH1 และถูกอยู่ในลำดับที่เจ็ดของ "Greatest Heavy Metal Band of All Time" โดย MTV ในปี 2004 AC/DC จัดอยู่ในลำดับที่ 72 สำหรับ "100 Greatest Artists of All Time" บน the Rolling Stone list

ประวัติ
ปูมหลังและชื่อวง
พี่น้อง Malcolm และ Angus และ George Young เกิดใน Glasgow ประเทศสก็อตแลนด์ และอพยพมายัง Sydney กับครอบครัวส่วนใหญ่ในปี 1963 George เป็นคนแรกที่ฝึกการเล่นกีต้าร์และกลายมาเป็นสมาชิกวง The Easybeats เป็นวงที่ประสบความสำเร็จวงหนึ่งของออสเตรเลียในปี 1960 ในปี 1966 พวกเขากลายเป็นวงร็อควงแรกที่นิยมในระดับสากลด้วยเพลง Friday on My Mind ต่อมา Malcolm ตามรอยเท้า George โดยเข้าร่วมวงใน Newcastle, New South Wales กับวงที่มีชื่อว่า Velvet Underground (ระวังสับสนกับวง Velvet Underground ในนิวยอร์ค)

Malcolm และ Angus Young ได้แนวความคิดเกี่ยวกับการตั้งชื่อวงจากการที่พี่สาวพวกเขา Margaret Young เจอสัญลักษณ์ "AC/DC" ที่อยู่บนเครื่องซักผ้า AC/DC นั้นย่อมาจาก "alternating current/direct current" (กระแสสลับ/กระแสตรง) ของเครื่องใช้ไฟฟ้า สองพี่น้องรู้สึกว่าชื่อนี้เป็นสัญลักษณ์ของพลังดิบของวง, กำลังขับเคลื่อนศักยภาพ, และความรักในดนตรีของพวกเขา AC/DC ใช้วิธีอ่านออกเสียงทีละตัวอักษร ลองนึกถึงวงที่รู้จักกันในในชื่อ "Acca Dacca" ในออสเตรเลีย

Highway To Hell


ในช่วงปีเริ่มแรก (ยุคของ Dave Evans, 1973-1974)
ในเดือนพฤศจิกายน 1973 Malcolm และ Angus Young ได้ตั้งวง AC/DC ขึ้นและรับสมัครผู้ร่วมก่อตั้ง Larry Van Kriedt, นักร้องนำ Dave Evans และ Colin Burgess, ex-Masters Apprentices มือกลอง ด้วยการผลักดันอย่างหนักเพื่อความสำเร็จของวงโดยบุคคลระดับตำนาน Ray Arnold และคู่หู Alan Kissack ทั้งสองคนสร้างความเชื่อมันให้กับผู้จัดการ Chequer Entertainment ให้วงเข้าไปเล่นในไนท์คลับชื่อดังของซิดนี่ย์ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในปี 1973 อย่างไรก็ตามผู้บริหารที่นั่นก็ยังบ่นว่าวงนั้นส่งเสียงดังเกินไป อย่างไรก็ตาม Pierson รู้สึกสนใจและจองตัวพวกเขาให้แก่ Bondi Lifesaver รวมทั้งหาช่องทางอื่นๆ เพื่อเลื่อนชั้นเวทีแสดงของพวกเขา ในช่วงเริ่มต้นผู้ร่วมก่อตั้งได้เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ Colin Burgess เป็นสมาชิกคนแรกที่ออกจากวง และผู้ร่วมก่อตั้งวงคนอื่นๆ เช่นมือกลองก็อำลาสมาชิกในวงในปีต่อมา

ในช่วงนี้นี่เอง Angus Young ได้ปรับเปลี่ยนลุคของเขาด้วยการใสชุดยูนิฟอร์มนักเรียนขึ้นแสดง ความคิดดังกล่าวเป็นของ Margaret น้องสาวของเขาเอง Angus ยังได้ทดลองการแต่งตัวแบบอื่นๆ แม้กระทั่ง Spider-Man, Zorro, กอลิล่า และแต่งตัวล้อเลียน Superman โดยเขาเรียกตัวเองว่า Super-Ang อันที่จริงแล้วในช่วงแรกๆ สมาชิกส่วนใหญ่ของวงจะแต่งตัวสไตล์ glam(การแต่งตัวสไตล์ป็อปร็อค) หรือ satin(ชุดผ้าพลิ้วๆ) แต่การแต่งกายดังกล่าวได้ถูกยกเลิกเมื่อพวกเขาได้พบกับวงใน Melbourne ชื่อ Skyhooks และนำมาประยุกต์ใช้กับการแต่งตัวขึ้นแสดงของพวกเขา

พี่น้อง Young ตัดสินใจว่า Evans ไม่เหมาะที่จะอยู่ตำแหน่งหน้าเวที เพราะพวกเขารู้สึกว่า Evans ดูเหมือนนักดนตรีป็อปร็อคเช่นเดียวกับ Gary Glitter ในบางโอกาสบนเวที Evans จะถูกแทนที่โดยผู้จัดการวงคนแรกของพวกเขา Dennis Laughlin ผู้ซึ่งเคยเป็นนักร้องนำคนแรกของวง Sherbet ก่อนที่ Dadyl Braithwaite จะเข้าร่วมวง จนกระทั่ง Evans ไม่ร่วมแสดงกับ Laughlin และทำให้สมาชิกในวงรู้สึกย่ำแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Evans

Its A Long Way To The Top (1975)


และก็เป็น Gene Pierson ที่ทำตัวเป็นนายหน้าคว้าเอา Bon Scott จาก Fraternity มาร่วมวงในตำแหน่งร้องนำ และชักนำให้เพื่อนของเขา Ted Albert จาก Albert Productions มาชมการแสดงของวง AC/DC และรวมทั้งผู้จัดการรายการ Rod Muir ของสถานีวิทยุเพลงร็อคที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย 2SM เพื่อให้มีวงอยู่ในรายชื่อของการแสดงคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ในช่วงวันหยุดภาคเรียน ณ Chequers ซึ่งทำให้ AC/DC เป็นที่รู้จักและนำไปสู่การเซ็นสัญญากับ EMI-distributed ภายใต้สัญลักษณ์ Albert Productions สำหรับ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

ยุคของ Bon Scott (1974-80)
เริ่มต้นการเดินทาง (1974-77)
กันยายน ปี 1974 Ronald Belford "Bon" Scott นักร้องที่มีประสบการณ์และเป็นเพื่อนกับ George Young มาแทนตำแหน่ง Dave Evans เช่นเดียวกันกับพี่น้อง Young, Scott เกิดในประเทศ สก็อตแลนด์ ก่อนที่จะย้ายถิ่นฐานมายังประเทศออสเตรเลียในช่วงวัยเด็ก วงได้บันทึกเสียงกับ Evans เพียงแค่ซิงเกิลเดียว "Can I Sit Next to You, Girl" / "Rockin' in the Parlour" กระนั้นก็ตามได้มีการบันทึกใหม่โดย Bon Scott ในเพลง "Can I Sit Next to You Girl" (แทร็คที่ 7 สำหรับอัลบั้ม T.N.T ที่ขายในออสเตรเลีย และแทร็คที่ 6 สำหรับ High Voltage เวอร์ชั่น International)

มกราคม 1975 อัลบั้มที่วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศออสเตรเลียบันทึกเสร็จสิ้น ใช้เวลาเพียงแค่ 10 วันเท่านั้นด้วยการแต่งทำนองโดยพี่น้อง Young และใส่เนื้อร้องโดย Scott เพียงแค่ไม่กี่เดือนสมาชิกในวงก็อยู่ตัวโดยมี Scott, พี่น้อง Young, ผู้ร่วมก่อตั้งวง Mark Evans และมือกลอง Phil Rudd และอีกปีหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ปล่อยซิงเกิล "It's aLong Way to the Top (If You Wanna Rock 'n Roll)" ซึ่งกลายเป็นเพลงสัญลักษณ์ของวง ซึ่งรวมอยู่ในอัลบั้มที่สองของพวกเขา คืออัลบั้ม T.N.T ที่วางจำหน่ายเพียงแค่ในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ ในอัลบั้มยังใส่เอาเพลงอมตะ "High Voltage" เอาไว้ด้วย

ระหว่างปี 1974 และ 1977 ด้วยการเปิดเพลงที่เป็นตัวแทนอยู่อย่างสม่ำเสมอโดย Molly Meldrum's Countdown, รายการโชว์เพลงป็อปนานาชาติสถานีโทรทัศน์โดย ABC ทำให้ AC/DC กลายมาเป็นวงที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในออสเตรเลีย การแสดงในวันที่ 3 April 1977 ได้กลายเป็นการแสดงสดทาง TV ครั้งสุดท้ายนับจากวันนั้นอีกกว่า 20 ปี

ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ
ในปี 1976 วงได้เซ็นต์สัญญาระดับนานาชาติกับ Atlantic Records และออกแสดงคอนเสิร์ตอย่างยาวนานทั่วทั้งทวีปยุโรปรวมทั้งการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกในอังกฤษ นิตยสาร "Sound" ให้สมยานามวงว่า "Lock up your Daughters Summer Tour" (ผู้เรียบเรียง: คงจะหมายความประมาณว่าเป็นวงที่ทำให้สาวๆ วัยรุ่นไม่ต้องออกไปเดินทางท่องเที่ยวในช่วงหน้าร้อน) พวกเขายังได้สั่งสมประสบการณ์ที่มิอาจประเมินค่าได้จากการแสดงเป็นวงเปิดให้กับวง Hard Rock อย่างเช่น Black Sabbath, Aerosmith, Kiss, Styx และ Blue Öyster Cult และเล่นร่วมกับวง Cheap Trick

อัลบั้มแรกของ AC/DC ที่ได้จำหน่ายทั่วโลกในปี 1976 เป็นอัลบั้มที่รวบรวมผลงานเพลงจาก High Voltage และ T.N.T แต่ยังคงไว้ในชื่ออัลบั้ม High Voltage จำหน่ายโดย Atlantic Records อัลบั้มดังกล่าวได้ทำยอดจำหน่ายไปกว่า 3 ล้านก็อปปี้ทั่วโลก และเป็นการเพิ่มแฟนๆที่ติดตามวงในจำนวนนั้นยังมีส่วนหนึ่งที่เป็นแฟนเพลงพังค์ชาวอังกฤษ การคัดเลือกเพลงต่อมาต้องทำการคัดเลือกอย่างหนักหน่วงหลังจากประสบความสำเร็จในอัลบั้ม T.N.T และเพิ่มเพลงเข้าไปอีกสองเพลงจากอัลบั้ม LP ซึ่งเป็นอัลบั้มแรกของพวกเขา อัลบั้มถัดมาของวงคืออัลบั้ม Dirty Deeds Done Dirt Cheap วางจำหน่ายในปีเดียวกันทั้งเวอร์ชั่นที่ขายเฉพาะในออสเตรเลียและเวอร์ชั่น international เช่นเดียวกับที่อัลบั้มที่ผ่านๆ มา

สำหรับรายชื่อเพลงนั้นจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่และในเวอร์ชั่น international ได้เพิ่มเพลง "Rocker" จากอัลบั้ม T.N.T เข้าไปด้วย ส่วนเวอร์ชั่นที่ขายในออสเตรเลียมีเพลง "Jailbreak" เพิ่มเข้าไป (ปัจจุบันนอกจากเพลง Jailbreak ของอัลบั้ม EP(1974) ที่วางจำหน่ายในปี 1984 แล้วยังมีอีกเวอร์ชั่นที่เป็นอัลบั้มบันทึกการแสดงสดในปี 1992) แต่อัลบั้ม Dirty Deeds ไม่ได้ออกวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาจนกระทั่งปี 1981 ในช่วงเวลาที่วงพวกเขามีความนิยมสูงสุด

หลังจากที่มีการบันทึกเสียงอัลบั้ม Let There Be Rock ในปี 1977 สมาชิกที่ร่วมก่อตั้งวง Mark Evans ถูกเชิญออกจากวงเพราะความแตกต่างส่วนตัวระหว่างเขากับ Angus Young และเป็น Cliff Williams ที่เคยรับตำแหน่งร้องนำสนับสนุนเคียงข้าง Malcolm Young พี่น้อง Young ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนักกับการจากไปของ Evans เช่นเดียวกับ Richard Griffiths ผู้เป็น CEO ของ Epic Records และจัดหานายหน้าสำหรับวง AC/DC ในช่วงกลางของปี 1970 ได้กล่าวภายหลังว่า "You knew Mark wasn't going to last, he was just too much of a nice guy." (ผู้เรียบเรียง: "นายรู้อยู่แล้วว่า Mark จะไม่อยู่ร่วมวงจนถึงวาระสุดท้าย นั่นเพราะเขาเป็นคนดีมากเกินไป")

AC/DC กลายเป็นวงที่มีอิทธิพลอย่างมากกับบรรดาวง Heavy Metal ที่เป็นคลื่นลูกใหม่ในอังกฤษ ที่เริ่มในช่วงปี 1970 อย่างเช่นวง Saxon และ Iron Maiden ในฐานะวง heavy metal ที่ตอบโต้กับความเสื่อมโทรมทางวัฒนธรรมในยุคต้นปี 1970 ในปี 2007 นักวิจารณ์กล่าวถึง AC/DC รวมทั้งวง Thin Lizzy, UFO, Scorpions และ Judas Priest ล้วนเป็น "the second generation of rising stars ready to step into the breach as the old guard waned." ("วงดาวรุ่งยุคที่สองของที่พร้อมจะก้าวสู่การล่มสลายเสมือนทหารยามที่อ่อนแรง")

ชาวอเมริกันรู้จักวง AC/DC ครั้งแรกจากสถานีวิทยุ AM 600 WTAC ในรัฐ มิชิแกน ในปี 1977 ผู้จัดการสถานี Peter C. Cavanaugh ได้ติดต่อให้วงมาทำการแสดงที่โรงภาพยนต์ในเมือง Flint และมีวง MC5 ที่เพิ่งรวมตัวกันและยินดีที่จะแสดงในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย วงเริ่มแสดงด้วยเพลงยอดนิยมของพวกเขา "Live Wire" และปิดการแสดงด้วยเพลง "It's a Long Way to the Top (If You Wanna Rock 'n' Roll)"

วง AC/DC กลายมาเป็นเป็น ความเคลื่อนไหวของ punk rock ระบุโดยสื่อสิ่งพิพม์ในอังกฤษ อย่างไรก็ตามด้วยชื่อเสียงของวงได้ช่วยให้ punk rock รอดพ้นช่วงกลียุคในช่วงปลายของปี 1970 และขับเคลื่อนวัฒนธรรมของชาวอังกฤษให้ก้าวพ้นผ่านช่วงเวลาดังกล่าว Angus Young ยังโด่งดังยิ่งขึ้นในแง่ที่ผู้ชม เปลือยก้น ระหว่างการแสดงสด

อัลบั้ม Powerage ที่จำหน่ายในปี 1978 เป็นแรกที่ Cliff Williams มีส่วนร่วมและการ riffs ที่หนักหน่วงขึ้นตามพิมพ์เขียวในเพลง Let There Be Rock เพียงแค่ซิงเกิลเดียวที่ออกมาในอัลบั้ม Powerage "Rock 'n' Roll Damnation" และทำให้ AC/DC อยู่ในอันดับสูงที่สุดอันดับที่ #24 Eddie Van Halen บอกว่านี่เป็นการบันทึกเสียงที่เขาโปรดปรานเช่นเดียวกันกับ Highway To Hell การปรากฏตัวที่ Apollo Theatre ใน Glasgow ระหว่างทัวร์คอนเสิร์ตอัลบั้ม Powerage ได้ถูกบันทึกและวางจำหน่ายในชื่อ If You Want Blood You've Got It โดยมีเพลง "Whole Lotta Rosie", "Problem Child" และ "Let There Be Rock" และเพลงที่เป็นที่รู้จักจำนวนน้อยในอัลบั้มคือ "Riff Raff" และเป็นอัลบั้มสุดท้ายที่ได้โปรดิวเซอร์ Harry Vand และ George Young พร้อมกับ Bon Scott ทำหน้าที่ร้องนำและเป็นอัลบั้มที่ถูกสบประมาทมากที่สุดของ AC/DC

การฝ่าฟันอุปสรรคครั้งใหญ่ของวงในวงการเพลงร็อคเกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของพวกเขาและโปรดิวเซอร์ "Mutt" Lange ในอัลบั้มที่หก Highway to Hell ที่วางจำหน่ายในปี 1979 และกลายเป็นครั้งแรกของ AC/DC LP ที่ขึ้นสู่ US top 100 ในอันดับที่ #17 และกลายเป็นแรงขับเคลื่อนให้วง AC/DC ก้าวไปสู่อันดับต้นๆ ของศิลปินฮาร์ดร็อค Highway to Hell มีเนื้อร้องที่ละทิ้งความเป็นเด็กและความขบขันที่เป็นภาพลักษณ์ส่วนใหญ่ และเพิ่มความหนักแน่นด้วยเสียงร้องแบคกราวนด์แต่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของ AC/DC ที่ เสียงดัง เข้าใจง่าย การกระหน่ำ riff และจังหวะเพลงที่มีจังหวะนำร่องเป็นพื้นเสียง แทร็คสุดท้าย "Night Prowler" ได้รับความสำเร็จเพียงแค่ชั่วอึดใจตั้งแต่เพลงเริ่ม โดยตั้งใจสร้างโทนเสียงแห่งความหวาดกลัวและความเกลียดชัง

การจากไปของ Scott
ในตอนต้นปี 1980 วงได้เริ่มทำงานสำหรับอัลบั้มใหม่ที่ต่อมาก็คืออัลบั้ม Back in Black แต่ Bon Scott กลับไม่ทันได้อยู่จนได้เห็นโครงการสำเร็จ ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1980 Scott เข้าไปในรถและขับกลับไปตามเส้นทางสู่บ้าน Alistair Kinnear เพื่อนของเขาหลังจากที่ได้ดื่มอย่างหนักในคลับชื่อ Music Machine ในลอนดอน จนกระทั่งถึงบ้านของเขา Kinnear ไม่สามารถลากตัว Scott จากรถเข้าไปในบ้านในค่ำคืนนั้น ดังนั้นจึงปล่อยให้เขาอยู่ในรถเพื่อให้สร่างจากฤทธิ์แอลกอฮอลล์ ในตอนสายวันต่อมากลับไม่สามารถปลุก Scott ให้ตื่นได้ Kinnear จึงได้รีบพาตัวเขาไปส่งโรงพยาบาล King's College ใน Camberwell ที่ Scott ได้รับการวินิจฉัยว่าเสียชีวิตเมื่อมาถึง สาเหตุการตายของเขาก็คืออาการสำลักอาเจียนเข้าปอด (Pulmonary aspiration of vomit) และทางการระบุสาเหตุไว้ว่าเกิดจาก "พิษแอลกอฮอลล์เฉียบพลัน" และ "เสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ"
ครอบครัวของ Scott ฝังเขาไว้ใน Fremantle ใน เวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาอพยพมาอาศัยในช่วงวัยเยาว์ ความไม่สอดคล้องในสาเหตุการตายของ Scott ได้ถูกนำมากล่าวถึงทฤษฏีสนับสนุนที่ว่า Scott น่าจะเสียชีวิตเพราะเสพเฮโรอีนเกินขนาด หรือตายเพราะไอเสียที่รั่วเข้าไปในห้องโดยสารรถที่เขานอนหลับ หรือ Kinnear ไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ด้วย ยิ่งกว่านั้น Scott ยังเป็นโรคหอบหืดและอุณหภูมิยังต่ำกว่าจุดเยือกแข็งในเช้าที่เขาเสียชีวิต


Create Date : 31 ธันวาคม 2553
Last Update : 23 มกราคม 2554 17:06:28 น. 3 comments
Counter : 1358 Pageviews.

 



สวัสดีปีใหม่ 2554 ขอให้สุข

หมดสิ้นทุกข์ กายจิต มิผิดผัน

อายุมั่น ขวัญยืน สี่หมื่นวัน

แสนสุขสันต์ สุขภาพดี มีเงินทอง



โดย: หน่อยอิง วันที่: 31 ธันวาคม 2553 เวลา:18:45:33 น.  

 


แวะมาสวัสดีปีใหม่ค่ะ


โดย: deeplove วันที่: 1 มกราคม 2554 เวลา:1:43:04 น.  

 

ขอให้ปีใหม่ คิดดี ทำดี และพบเจอแต่สิ่งดีๆ ตลอดปี และตลอดไป
ขออวยชัยให้มีสุขสมหวัง มีพลังในการต่อสู้ แฮปปี้นิวเยียร์ (n_n)


โดย: ดอกไม้บานริมรั้ว วันที่: 1 มกราคม 2554 เวลา:10:25:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

SIMcityCorN
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add SIMcityCorN's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.