เป็นยังไง...ไอ้ต้นใบขับขี่





... หลังจากที่ขับเป็นแต่มอเตอร์ไซค์ ใช้มอเตอร์ไซค์ไปเรียนทุกวัน มาจนจะเรียนจบอยู่แล้ว วันดีคืนดี พ่อก็ชวนไปหัดขับรถยนต์ค่ะ รถยนต์คันแรกที่หัดเป็นรถกระบะเกียร์กระปุก(เกียร์ธรรมดา)


... พ่อก็แสนจะใจเย็น จอดรถอธิบายทุกอย่างจนหมด แล้วจากนั้นก็ให้ลอง การเหยียบครัชท์ การเข้าเกียร์... แล้วก็ให้ลองออกตัว รถออกตัวครั้งแรกก็กระตุก ... แล้วก็ดับ

"อ้าวววว พ่อบอกให้ค่อยๆ ไง เหยียบครัชท์แล้วค่อยๆ ยกเท้าออกจากครัชท์ให้มันสัมพันธ์กับเท้าที่เหยียบคันเร่ง"

... บลา บลา บลา ... และอะไรอีกมากมาย


... จนตอนนี้ออกตัวที่เกียร์ 1 อุ๋มก็ยังขับกระตุกอยู่ เฮ้ออออ ... ฝีมือ ไม่ได้พัฒนาเลยเรา เป็นคนเสมอต้นเสมอปลายก็งี้นะ ... คนมันไม่มีรถยนต์เป็นของตัวเอง ตอนที่หัดขับจนได้แล้วก็ไปสอบใบขับขี่ เข้าอบรมตอนเช้า แล้วก็สอบข้อเขียน เกินความคาดหมายแฮะ สอบข้อเขียนผ่าน ตอนบ่ายได้สอบภาคปฏิบัติ ... เอาละดิ ไม่มีรถสอบ ตอนเช้าที่ไปเข้าอบรมกะสอบข้อเขียนก็เอามอเตอร์ไซค์ไป เลยต้องโทรหาที่บ้าน อ้อ มีรถป้าอยู่ กลับมาเอาไปสอบซิ ... ก็เลยบึ่งมอเตอร์ไซค์หน้าเริ่ดกลับไปเอารถด้วยอาการตื่นๆ งงๆ ... พอไปถึงบ้าน ... อ้าววววว ยุ่งละ ... รถป้าเป็นรถเก๋ง ไม่เคยขับเลยอะ ทำไมพ่อไม่สอนขับรถเก๋งด้วยนะ


... จากอาการไม่มั่นใจ ขอให้มามาไปส่งสอบหน่อย ... เหอะๆ มามาก็เลยตกลงไปเป็นเพื่อน ลองให้เราขับรถเองจากที่บ้านไปขนส่ง จะได้เป็นการลองรถให้คุ้นมือ(แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม) ตอนที่เข้าไปอยู่ในรถขับออกจากบ้านก็ออกอาการตื่นๆ แล้วหละ


อุ๋ม-- "มา ... รถมันเตี้ยอะ"

มา-- "เตี้ยอะไร ปกติ ... "

อุ๋ม-- "มา ... มันต่ำอะ จริงๆ นะ มองไม่ค่อยเห็นข้างหน้า"

มา-- "รถมันปกติ ขับไป ขับไป "

อุ๋ม--" มา ..."

มา-- "อะไรอีกล่ะ ... เรื่องมากจริงเลยเรานิ"

อุ๋ม-- “....”



...แล้วก็ไปสอบมาจนได้ ผลนะเหรอ ... ก็ ...


... มันไม่ง่ายอย่างที่คิดค่ะ ความที่ไม่ชินกับรถ(เก๋ง) แม้ว่าเก๋งมันจะเล็กกว่าคล่องตัวกว่า แต่ตอนนั้นความคล่องตัว ความปรู๊ดปร๊าดปราดเปรียว ใช้ไม่ได้กับอุ๋มค่ะ เพราะตอนนั้นทำอะไรก็ดูจะเงอะๆ งะๆ งึกๆ งักๆ ไปซะหมด ความที่ชินกับกระบะ เวลามาขับเก๋งจะเกร็งค่ะ จากที่เคยนั่งอยู่หลังพวงมาลัยกระบะ จะรู้สึกว่าเราอยู่สูงไง แต่พอมาอยู่ในเก๋ง รู้สึกว่ามันเล็กกกกก มันเหมือนเราถูกบีบให้ตัวเล็กนิดเดียว อำนาจในการมองเห็นมันก็น้อย กังวลไปต่างๆ นาๆ รวมทั้งตอนนั้นตาขาวมากกว่าตาดำเยอะ


... สุดท้าย สอบภาคปฏิบัติก็สอบตามบัตรคิวที่ได้รับค่ะ ดูคนอื่นเค้าทดสอบก็ดูไม่มีอะไรมาก ขับกันสบายๆ แล้วพอถึงตัวเอง


1... ขับตรงไป ชะลอให้คนข้ามถนน(ผ่าน)

2... เดินหน้าไป จอดติดไฟแดง ด้านหลังเส้นขาว(ผ่าน)

3... ถอยหลังเข้าซอง(ผ่าน)

4... ข้ามสะพานตรงนี้เค้าทำเป็นเนินไว้ค่ะ ให้ขึ้นไปจอดค้างอยู่บนเนินแล้วให้เยียบเบรกจนเห็นไฟท้ายสว่างจ้า(อย่างที่เจ้าหน้าที่บอก) หลังจากที่ค้างไว้แล้วแทนที่จะขับขึ้นต่อไปได้อย่างสบาย ... แต่ ... รถอุ๋มมันไหลลงมาเยอะกว่าที่เค้ากำหนดค่ะ เหอะ เหอะ


... เอารถเข้ามาจอดฟังผล เจ้าหน้าที่บอกว่าสอบไม่ผ่าน ... มามา ก็มองหน้าเราแบบว่างอน หรือว่างง ก็ไม่รู้ แล้วก็ทำหน้าแบบว่า 555++ ลูกกรูสอบตก


... เจ้าหน้าที่ให้ใบนัดค่ะ บอกว่าให้กลับไปหัดขึ้นเนินมาใหม่ ... อีก 2 อาทิตย์ค่อยกลับมาทดสอบขับรถอีกที ... พอเข้ามานั่งในรถด้วยกัน มามาว่า รู้งี้เอาเกียร์ออโต้มาสอบก็ดี ... แต่คิดไปคิดมา เอาเกียร์ธรรมดามาขับก็ดีแล้ว จะได้รู้ว่าเรายังไม่เก่ง … การเป็นแม่ที่ดีต้องมองให้เห็นความผิดพลาดของลูกบ้างเนาะ อย่าปิดหูปิดตาตัวเองเชื่อไปเองว่าลูกตัวเองทำถูกทุกอย่าง


“มา ... คราวหน้าเอากระบะมาสอบดีกว่า”

“ไปบอกพ่อตัวซิ ... สอนลูกขับกระบะ ดันทิ้งรถเก๋งไว้ให้เอามาสอบ”

“เหอะๆ … มา แล้วจะไปหัดขับขึ้นเนินที่ไหนนะ”

“หน้าบ้านไง ทางขึ้นลงตรงปากซอยนั่น ... ชันกว่าที่ทดสอบวันนี้อีก แล้วเราก็ขับผ่านมาได้ ไหงมันสอบไม่ผ่านหว่า”

“ตอนนั้นเลียครัชท์เอา”

“เออ ... นั้น ... งั้นเดี๋ยวกลับไปให้พ่อพาไปสอนเหยียบเบรกค้างไว้”



... หลังจากการฝึกฝน ติวข้อสอบกันเป็นเวลา 2 อาทิตย์ กลับไปอีกครั้งผ่านฉลุย ... สบายมาก แต่เหมือนเป็นอะไรที่ฝังใจแฮะ ถ้าให้เลือก ยังไง อุ๋มก็ยังปลื้ม ยังรู้สึกดีเวลาขับกระบะมากกว่าเก๋งอยู่ดี



หมายเหตุแห่งครอบครัว

... มามาใจร้อนค่ะ ไม่เหมาะแก่การสอนในบางเรื่อง เช่นการขับรถเป็นต้น แต่มามาเป็นคนที่มีความอดทนสูงงงง ฉะนั้น มามาจะไม่บ่นเวลาลูกขับรถห่วย มามาจะแอบเอามือจิกบริเวณเบาะด้านข้างไว้แทนที่จะแสดงอาการหวาดเสียวหรือว่าบ่น หรือว่าบงการอะไรออกมา มามาจะแอบเอาเท้าจิกช่วยเบรกแทนที่จะคอยบอกว่าทำอย่างนั้นซิ อย่างนี้ซิ อุ๋มว่าสอนกันแบบนี้เจ๋งดีอะ เพราะว่าเวลาเราขับรถ คนที่ตัดสินใจ ก็คือคนที่อยู่หลังพวงมาลัยคนเดียวจริงๆ ถ้ามีคนมาช่วยตัดสินใจ บางทีคนนั้นน่าจะมาขับเอง


… มีหลายอย่างที่อุ๋มได้เรียนรู้จากการขับรถไปไหนมาไหนกับคนในครอบครัวนะ

“ทำไมลูกไมลองเปิดไฟสูงดู แล้วเราจะเห็นอะไรได้ไกลขึ้นเยอะเลย”

พอลองเปิดไฟสูง เออ จริงแฮะ การมองเห็นของเรามันกว้างขึ้น มันทำให้จุดนำสายตาของเราอยู่ไกลขึ้น


... บางครั้งเคยติดใจที่จะเปิดไฟสูง เวลามีรถสวนก็ไม่หรี่ คิดไปเองแบบเด็กๆ ว่าสวนกันแป๊บเดียว เดี๋ยวก็พันไปแล้ว ไม่ต้องตบไฟต่ำให้ก็ได้ ก็มีเสียงลอยๆ มาอีกว่า

“เวลาลูกไม่ตบไฟต่ำให้เค้านะ เค้าไม่ด่าลูกหรอก ... เค้าด่าพ่อนี่”


...เคยไหมที่มีรถขับตามเรามาแล้วคิดจะแซงเค้าเร่งเครื่องขึ้นมาแต่เรากับกดคันเร่ง เพิ่มความเร็วให้เค้าแซงไม่ได้ หรือว่าเพิ่มความยากในการแซงให้เค้า

“รถเราไม่ใช่รถแข่ง ... เค้าจะแซงทำไมไม่ให้เค้าแซง ... ลูกต้องคิดเผื่อไว้ด้วยว่า ถ้าตีคู่ขนานกับเค้าไปแบบนี้เกิดภาวะคับขัน ไม่เค้าก็เรา ถึงตอนนี้ลูกจะทำไง”


“คนขับรถเก่ง ไม่ได้ขับเร็วกว่าคันอื่นแล้วจะเก่ง พ่อคิดว่าคนที่ขับรถปลอดภัย คนที่นั่งมาด้วยสบายใจ ถึงจะเรียกว่าขับรถเก่ง”


“เวลาเราขับรถ อย่านึกแต่ภาวะคับขันของตัวเอง ทำไมเราไม่คิดเผื่อให้คนอื่นด้วย อย่างเค้าเร่งเครื่องแซงมา เราเห็นทำไมเราไม่ชะลอ ทำไมเรายังเร่งเหมือนพุ่งไปหาเค้า ถ้าเค้าแซงไม่พ้นก่อนเราถึงตัวเค้าทำยังไง”


“บางครั้งเหยียบเบรกกับบีบแตร การเหยียบเบรกมันดูมีน้ำใจดูเป็นนางเอกมากกว่านะลูก”


... แป่ววววว ... อ้อ ค่ะ จากนั้นมามันเลยจำได้ขึ้นใจแฮะ


“สรุป ... จะทำอะไรต้องคิดให้ดีก่อนไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม”



... เรื่องพวกนี้มันไม่ได้เป็นความผิด ความถูก แต่มันคือน้ำใจ ... น้ำใจของการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน ถ้าเราเรียนรู้ที่จะมีน้ำใจให้เค้าก่อน เราก็จะได้น้ำใจตอบแทนมาค่ะ


สุดท้าย

... ขอบคุณครูเงาะนะคะสอนจนขับรถเป็น ขอบคุณเจ๊ฟางสำหรับความอดทด(ยอดเยี่ยม)

... ขอโทษผู้ร่วมทางบางท่านที่เราอาจจะไปทำความเดือนเนื้อร้อนใจให้บ้างบางท่าน ... ถ้าเคยปาดหน้าใคร เคยจี้ตรูดใคร เคยสาดไฟสูงใส่ใครไว้ ขอโทษ ขอโทษ จริงๆ นะคะ ตอนนี้เริ่มคิดได้แล้ว(มันเป็นไปตามวัยจริงๆ)









Create Date : 09 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2552 11:40:06 น. 9 comments
Counter : 830 Pageviews.

 
ความรู้สึกเหมือนกันเลยคะ ขับกะบะอยู่ พอมาขับเก๋งของพี่สาว ไม่คล่องเลย มองอะไรก็ไม่เห็น


โดย: nadee-natanon วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:43:16 น.  

 
ชอบที่พ่อของคุณ SIMAKHA สอนจังเรื่องน้ำใจในถนน เป็นคนขับรถเหมือนกัน สิบกว่าปีมานี่รู้สึกว่าการขับรถบนถนนมันยากขึ้นเยอะ สังเกตว่าน่าจะเป็นที่ความไร้น้ำใจของใครหลายๆ คน ก็เข้าใจนะคะว่าบางครั้งขับรถก็มีเครียดบ้าง แต่บ่อยครั้งที่เสียเวลาแตะเบรคสัก 2-3 วินาที กลับช่วยประหยัดเวลา (รอบริษัทประกัน) ไปได้ 2-3 ชั่วโมง

อีกอย่างที่หายไปจากท้องถนนก็คือ ไฟเลี้ยว... ไม่ค่อยชอบเปิดกันเล้ยยยยย ไม่เข้าใจ


โดย: นั่งมอร์มาต่อเมล์ วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:16:26 น.  

 
น้องอุ๋ม ขับรถเป็นแล้วจิ มะ พี่จะไปแอ่วเหนือ ขับให้นั่งมั่งเน้อ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมบล็อค เมื่อไหร่จะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีะคะ คิดถึงนะ

จุ๊บ ๆ


โดย: wynterblue (wynterblue ) วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:29:00 น.  

 
ชอบวิธีสอนของคุณพ่อเหมือนกัน....น่ารักดีอะ

แต่เรา จะใจร้อนเหมือนกับพ่อ...ก็เลยคิดไปในแบบเดียวกัน...ซิ่งโลดดดด ลูก


โดย: NuHring วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:31:30 น.  

 
... เค้าว่ากันว่า "ถ้าใครเป็นคนสอน จะขับเหมือนคนนั้นค่ะ"

... มามา ใจร้อน พ่อใจเย็น สรุป พ่อเลยเป็นคนสอน

... รถก็ขับเป็นแล้ว ใบขับขี่ก็มีแล้ว แต่ยังไม่มีรถเป็นของตัวเองเลยค่ะ รออยู่ ... รอว่าเมื่อไหร่จะเจอรถที่เหมาะกับเราจริงๆ (อีกนานนนน)

... ตอนนี้พ่ออุ๋มขับ KSR หละ ท่าทางหวงมันน่าดู


โดย: SIMAKHA วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:11:47:09 น.  

 
ตอนนี้เครียดเรื่องใบขับขี่เหมือนกันจ้า

ต้องสอบใบขับขี่รัฐ สอบไม่ผ่านอดขับรถ


โดย: nada_jay วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:13:24:35 น.  

 
บ้านก็มีแล้ว รถก็กำลังจะมี

มั่งคงสุดริด...เหลือก็แต่...นะ...ละไว้ฐานเข้าใจ


โดย: นักล่าน้ำตก IP: 115.67.158.26 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:32:06 น.  

 
อ่านไปก็ลุ้นไปด้วยแหละน้องอุ๋ม
สมัยที่พี่หัดขับ หัดรถปิคอัพคันเบ้อเริ่ม
แต่ตอนไปสอบใบขับขี่ ไปสอบกับเพื่อน รถเพื่อนเป็นมาสด้าแฟมิเลีย (รุ่นดึก) ก็เลยสบายไป คันมันเหลือเล็กนิดเดียว กะระยะง่าย

แล้วพี่ก็ยังคงขับรถเกียร์กระปุกมาตลอดจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ เคยขับเกียร์ออโต้สองครั้ง...ไม่คุ้นเลยอ่ะ...ขอกลับไปขับเกียร์กระปุกอย่างเดิมดีกว่า



โดย: เอื้องสามปอย วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:45:32 น.  

 
... ป้าเคยบอกว่า "ทำตัวอย่างขอนมีเห็ด ตึงมีคนมาผ่อมากอย"

ความหมายก็ประมาณว่า ... คนเราถ้ามีแต่ตัวก็ไม่มีใครมาสนใจ ถ้าแก่เฒ่ามา ถ้าเรามีทรัพย์สิน(เอาไว้ล่อลูกหลาน)ยังไงก็มีคนแวะเวียนมาหา ...555++

... ทำไมป้าสอนประโยคนี้หว่าาาาา เอิ๊กกกกก


โดย: SIMAKHA วันที่: 10 พฤศจิกายน 2552 เวลา:7:59:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

SIMAKHA
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




... คนธรรมดา เดินดิน ...

... ไม่ว่าจะล้มกี่ครั้ง ...

... จะขอลุกทุกครั้งที่ล้ม ...

*****Color Codes ป้ามด*****

: Users Online
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
9 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add SIMAKHA's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.