เราคงได้อ่านกันมาคร่าวๆแล้ววันนี้บทความนี้จะลงลึกอีกซักหน่อย

1.เหรียญมี2ด้าน เงินบาทแข็งค่ามีทั้งผู้ได้และเสียประโยชน์ เงินบาทแข็งค่าขึ้น 1 บาท รายได้จากการส่งออกหายไปแสนล้านบาท แต่รายจ่ายจากการต้องนำเข้าสินค้า อาทิ น้ำมัน เครื่องจักร วัตถุดิบจากต่างประเทศ ก็ลดลงเป็นแสนล้านบาทเช่นกัน(การกู้หนี้จากตปท.หรือชำระหนี้ในขณะนี้เราจะได้เปรียบจากค่าเงินที่แข็งขึ้น) และผลส่วนใหญ่นั้นเกิดจากปัจจัยภายนอกfundflowที่ไหลเข้า ซึ่งยากที่จะแทรกแซงหรือคาดเดาได้expectation
2.msciเพิ่มเปอร์เซ็นความน่าเชื่อถือของประเทศไทยทำให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนจำนวนมากจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไทยวันเดียวมียอดซื้อขายถึง2แสนล้านบาท
jp morgan ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนพันธบัตรระยะยาวของไทย ทำให้มีเงินสภาพคล่องจากกองทุนหลายประเทศยักๆไหลเข้ามาลงทุนในไทยซึ่งตรงนี้สะท้อนถึงศักยภาพที่แข็งแรงของเศรษฐกิจไทย
3.ในบางช่วงแบงชาติเข้าควบคุมค่าเงินบาทที่ผันผวณจนเกิดไปไม่ใช่อยากให้อ่อนก็แทรกแซงเลย การเข้าซื้อขายต้องมีเหตุผลที่ไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนเพราะปัจจุบันเราเป็นระบบตลาดแบบเสรีหรือแบบลอยตัว ฉะนั้น จะเป็นไปตามตลาดยิ่งปัจจุบันสหรัฐป้องกัน currency manipulator คือการบิดเบือนอัตราแลกเปลี่ยนโดยเฉพาะไทยที่เกินดุลการค้า
4.ในบริบทเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีความสามารถป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของแบงชาติอย่างเดียวและผู้ประกอบเองก็มีความสามารถพอในการใช้เครื่องมือที่ล้อคเรต เพื่อป้องกันอัตราแลกเปลี่ยนของโลกที่ผันผวณในปัจบัน
5.FX options เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินที่จะช่วยล๊อคเรท เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ผันผวน ปัจจุบันภาครัฐมีโครงการ option ช่วยชาติที่สนับสนุนค่าธรรมเนียมการล๊อคเรท
6. ปัจจุบันสินค้าที่ส่งออก 80% ยัง quote เป็น USD ขณะที่ส่งออกไปสหรัฐฯ มีเพียง 10% ในบริบทที่เงิน USD มีแนวโน้มผันผวน การ quote ราคาสินค้าส่งออกในสกุลเงินของคู่ค้า (local currency)หรือในรูปเงินบาทแทน USD จะช่วยลดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและลดต้นทุนได้ อธิบายเพิ่มเติมคือ ปกติเราส่งสินค้าไปจีน เราต้องแลกเป็นดอลล่าก่อนเสียค่าสเปช1ต่อและแลกจากจีนมาเป็นดอลล่าอีกเสียอีก1ต่อ   การที่เราใช้สกุลเงิน local currency จะช่วงลดต้นทุนตรงส่วนนี้ได้
7.มองไปในอนาคต ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้มีแนวโน้มลดลง มีแต่จะเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการควรปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ค่าธรรมเนียมการปิดความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนในการทำธุรกิจในโลกสมัยใหม่
 
*ธนาคารแห่งประเทศไทยมีหน้าที่หลักคือการกำกับดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจดูแลตลาดเงิน ไม่ใช่แทรกแทรงหรือกำหนดทิศทางค่าเงินบาท (เข้าแทรกแซงได้เฉพาะกรณีที่สำคัญจริงๆที่ส่งผลกระทบอย่างหนักขั้นวิกฤตต่อระบบหรือเข้าแทรกแซงกำกับดูแลเฉพาะเมื่อค่าเงินแกว่งขึ้นลงแรงจนผู้ประกอบการรับมือไม่ไหวการดูแลในที่นี้คือการดูแลให้ขยับขึ้นลงช้าๆแต่เป็นไปตามdemand supplyของตลาดจริงๆ)
 
 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2562		0 comments
Last Update : 21 กรกฎาคม 2562 21:27:42 น.
Counter : 787 Pageviews.
Share Tweet