Tun Sie nicht sie wissen, dass es das Ende der Welt ist. Ursache lieben Sie mich nicht mehr nicht

 
มิถุนายน 2551
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
9 มิถุนายน 2551
 

หลังเกมส์ ทีมชาติเยอรมัน vs โปแลนด์ [วิจารณ์หลังเกมส์พร้อมคะแนนความสามารถนักเตะ]

ประเดิมนัดแรกได้สวยเมื่อดูจากผลสกอร์ที่ออกมา แม้ว่าก่อนเกมส์จะกดดันมากๆ เนื่องจากผลจากยูโรทั้งสองครั้งที่ผ่านมา ทีมชาติเยอรมันตกรอบแรกทั้งสองครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุดทำสถิติไม่ชนะใครได้เลย เกมส์นี้จึงดูกดดันเป็นพิเศษ สำหรับตัวนักเตะและกองเชียร์

ผลการแข่งขัน เยอรมัน 2 : 0 โปแลนด์
8/06/08

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของ เยอรมัน :
เลห์มันน์, แมร์แตซัคเคอร์, เม็ตเซลเดอร์, ลาห์ม, แยนเซ่น, บัลลัค, ฟริกงส์, ฟริตส์, โพลโดลสกี้, โคลเซ่, โกเมส

รายชื่อผู้ทำประตูของทีมชาติเยอรมัน :
1:0 โพลโดลสกี้ (20')
2:0 โพลโดลสกี้ (72')

สถิติในแมตช์ :
- โอกาสยิงเข้ากรอบประตู (เยอรมัน 5 : 5 โปแลนด์)
- ผู้เล่นที่ยิงเข้ากรอบประตูมากที่สุด (โพลโดลส์กี้, ชไวสไตเกอร์ 2 ครั้ง)
- เตะมุม (เยอรมัน 4 : 3 โปแลนด์)
- ฟาวล์ (เยอรมัน 15 : 18 โปแลนด์)
- เปอร์เซ็นตการครองบอล (เยอรมัน 52% : 48% โปแลนด์)

Man Of the match
ลูคัส โพลโดลส์กี้

ระบบและรูปแบบการเล่น :
วันนี้ทีมชาติเยอรมันยึดระบบเดิมที่เคยเล่นบ่อยก็คือ 4-1-3-2 คือแผงกองหลังแบบ 4 คนหน้ากระดาน และมีมิดฟิลด์ตัวรับหน้าแผงหลัง 1 คน และใช้แผงกลางริมเส้นสองคน ตัวกลางคอยทำเกมส์หนึ่งคน และใช้คู่กองหน้า 2 คน

----------------------------------- เลห์มันน์ --------------------------------
-- ลาห์ม -------- แมร์แตซัคเคอร์ ------------------ เม็ตเซลเดอร์ ------------ แยนเซ่น --
--------------------------------- ฟริกงส์ ------------------------------------
--- ฟริตส์ --------------------- บัลลัค ----------------------------- โพลโดลสกี้ ---
---------------------------- โกเมส ------- โคลเซ่ -----------------------------

วิจารณ์ผู้รักษาประตู
[b]เยนส์ เลห์มันน์[/b] ช่วงครึ่งแรกในบางจังหวะดูจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับแผงกองหลัง เกิดความไม่เข้าใจกันจนเป็นเหตุให้เกือบเสียประตู แต่จุดแข็งที่แสดงออกมาได้ดีก็คือการออกมาตัดลูกโด่ง แทบไม่มีข้อผิดพลาด โดยรวมแล้วจังหวะการเซฟลูกยากๆ ไม่ค่อยมีมากนัก

วิจารณ์แผงกองหลัง
-- ลาห์ม -------- แมร์แตซัคเคอร์ ------------------ เม็ตเซลเดอร์ ------------ แยนเซ่น --

โดยรวมแล้วในแผงกองหลังถือว่าเล่นได้ดีขึ้นกว่า ในเกมส์อุ่นเครื่องที่ผ่านมาถือว่ารัดกุมขึ้น พยายามจะไม่เปิดโอกาสให้กับโปแลนด์ได้เล่นง่ายๆ แต่ก็ยังมีบางจุดที่ยังดูมีปัญหาอยู่บ้าง

เริ่มกันที่ตำแหน่งแบคขวา ลาห์ม ถูกจับโยกมายืนเป็นแบคขวาอีกครั้ง ต้องบอกว่าทำหน้าที่ได้โดดเด่นมาก ในเกมส์รับแทบไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็น และเกมส์รุกสามารถเติมเกมส์สลับช่วยกับ ปีกขวาได้เป็นอย่างดี

ขยับเข้าในไปดูตำแหน่งปราการหลังตัวกลางกันบ้าง แมร์แตซัคเคอร์ ปราการหลังร่างโย่งจาก เบรเมน วันนี้ทำผลงานได้คงเส้นคงวา ทั้งในครึ่งแรกและครึ่งหลัง ลูกกลางอากาศสามารถช่วยเหลือแผงกองหลังได้ดี การยืนตำแหน่งไม่ค่อยมีข้อผิดพลาด และคอยดักสกัดจังหวะอันตรายได้ 1-2 ครั้งในเกมส์

ส่วนปราการหลังตัวกลางอีกคนหนึ่ง เม็ตเซลเดอร์ ภาพรวมในเกมส์รับดูเหมือนว่าจะพยายามเล่นให้ง่ายขึ้น การเข้าประกบตัวผู้เล่นไม่มีข้อผิดพลาด แต่การยืนตำแหน่งยังมีปัญหาอยู่บ้าง บางครั้งเพื่อนต้องหุบตัวเองลงมาช่วย และหลายครั้งพยายามจะเติมเกมส์รุกขึ้นไป แต่กลับกลายเป็นข้อผิดพลาดที่ก่อขึ้นเอง ซึ่งเกือบทำให้ทีมต้องโดนสวนกลับจนเสียประตู

ถ่างออกไปดูที่แบคซ้าย แยนเซ่น ภาพรวมถือว่าขยันใช้ได้ หลายครั้งพยายามจะเติมเกมส์รุกขึ้นมาช่วยเสริมเกมส์ทางฝั่งซ้าย ถือว่ากดดันคู่ต่อสู้ได้ดี แต่การยืนตำแหน่งในเกมส์รับถือว่ายังมีปัญหาอยู่ ตลอดทั้งเกมส์ตกเป็นเป้าโจมตีของคู่ต่อสู้ สังเกตุได้ว่าคู่ต่อสู้มักจะโจมตีทางกราบซ้ายของเยอรมัน ทำให้ตลอดเกมส์ แยนเซ่น ต้องรับศึกหนัก ในบางครั้งการหุบตัวเองเข้าไปช่วยกรอบเขตโทษ ก็ทำให้เกิดช่องโหว่ตรงริมเส้น ทำให้คู่ต่อสู้มีโอกาสเล่นเกมส์ทางริมเส้นได้บ่อย

สรุปผลงานของแผงกองหลัง โดยรวมถือว่าสอบผ่านอย่างฉิวเฉียด เพราะนักเตะบางคนอยู่ในฟอร์มที่ดี แม้จะมีบางคนยังต้องปรับปรุงอยู่บ้าง การเช็คไลน์ล้ำหน้าถือว่าทำได้ค่อนข้างดี แต่ให้ระวังเรื่องการถูกจ่ายบอลตัดหลังแบค ดูเหมือนว่าจะยังมีปัญหาอยู่โดยเฉพาะทางกราบซ้าย

วิจารณ์แผงมิดฟิลด์
--------------------------------- ฟริกงส์ ------------------------------------
--- ฟริตส์ --------------------- บัลลัค ----------------------------- โพลโดลสกี้ ---

แผงกลาง 4 คนของเยอรมันโดยรวมแล้วถือว่ารับมือแผงกลาง 5 คนของโปแลนด์ได้ดี หลายจังหวะมีการออกบอลสวยๆ ให้เห็นอยู่เป็นระยะ

มาดูกันที่ตัวเริมเส้นกันก่อนเริ่มกันด้วยตำแหน่ง ปีกขวา ฟริตส์ เกมส์ในครึ่งแรกถือว่าโดดเด่นมาก มีความขยัน การประสานงานกับแบคขวาเข้าขาสอดรับจังหวะกันได้ดี การเติมเกมส์รุกหลายครั้งสามารถพาไปถึงสุดเส้นหลังได้ ส่วนเกมส์รับก็สามารถลงมาช่วยเพื่อนได้บ่อยครั้ง แต่น่าเสียดายที่ถูกเปลี่ยนตัวออกเร็วไปหน่อย แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าโค้ชอาจจะมองว่า คู่ต่อสู้เริ่มจับทางการเติมเกมส์ของฟริตส์ ได้บ้างแล้ว

ถอยลงต่ำไปนิดไปดูที่ตำแหน่งมิดฟิดล์ตัวรับ ฟริงกส์ โดยรวมแล้วทำหน้าที่ได้ดี วิ่งพล่านไปทั่วสนาม ช่วยเพื่อนดักสกัดจังหวะสองได้บ่อย ถือว่าเป็นคนที่คอยสกรีนบอลที่จะไปถึงในแนวรับได้ดี ทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระแผงหลังได้มาก สังเกตุได้ว่าวันนี้จะยืนค่อนข้างต่ำเน้นความรัดกุม ทำให้จังหวะเติมเกมส์ขึ้นไปมีให้เห็นน้อย แม้บางครั้งจะสามารถแอบสอดขึ้นไปช่วยลุ้นทำประตูได้บ้าง

เขยิบขึ้นไปดูที่มิดฟิลด์ตัวทำเกมส์ บัลลัค ถือว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ได้โดดเด่นพอสมควร เกมส์ส่วนใหญ่จะมาพักบอลอยู่ที่บัลลัค ซึ่งจะคอยทำหน้าที่คอยเปลี่ยนแกน และกำหนดจังหวะของเกมส์ มีการออกบอลสวยๆ ให้เห็นอยู่หลายครั้ง จุดแข็งเรื่องลูกกลางอากาศวันนี้ไม่ได้ใช้เพราะโอกาสน้อย แต่ก็มีบางจังหวะที่สอดขึ้นไปลุ้นทำประตูให้ได้ลุ้น ซึ่งเกมส์นี้บัลลัค มีความขยันมากเมื่อทีมเป็นฝ่ายเสียบอล ก็จะคอยลงไปช่วยแนวรับอยู่เสมอ

ถ่างออกไปดูที่ปีกซ้าย โพลโดลสกี้ วันนี้โชว์ผลงานได้โดดเด่นมาก การเติมเกมส์โดยทั่วไปจะใช้ความเร็วของตัวเองให้เป็นประโยชน์ กล้าเลี้ยง กล้าเล่น ซึ่งสามารถกดดันคู่ต่อสู้ได้ดี การเติมเกมส์ทางริมเส้นฝั่งซ้ายของ โพลโดลสกี้ ดูวูบวาบ หลายครั้งมักจะหุบตัวเองเข้าในเพื่อหาโอกาสอยู่เสมอ แต่ช่วงปลายครึ่งหลังบทบาทจะน้อยลงไป เนื่องจากดูขยับมาเล่นเป็นกองหน้า

โดยรวมแล้วแผงกองกลางแต่ละคนสามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี สามารถสู้กับแผงกลางโปแลนด์ที่มีถึง 5 คนได้อย่างสูสีตลอดทั้งเกมส์ หลายครั้งพิสูจน์ให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพกว่าคู่แข่ง ในการให้บอลในจังหวะสำคัญๆ

วิจารณ์แผงกองหน้า
---------------------------- โกเมส ------- โคลเซ่ -----------------------------

วันนี้เลิฟใช้กองหน้าตัวเป้าถึงสองคน แต่ก็จะคอยวิ่งสลับกันขึ้นลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะโคลเซ่ มักจะคอยวิ่งส่ายหาบอลอยู่เสมอ

ไปเริ่มกันที่กองหน้าใหม่ถอดด้ามสำหรับศึกยูโร โกเมส วันนี้จังหวะการสังหารประตูดูจะเน้นมากไปหน่อย ทำให้เกิดอาการเกร็ง เลยทำได้ไม่ดีพอ แต่โดยรวมแล้วถือว่าเล่นได้ขยัน และคอยวิ่งหาพื้นที่ลุ้นทำประตูอยู่ตลอดเวลา และเมื่อทีมเป็นฝ่ายเสียบอลก็มักจะลงมาช่วยเพื่อนร่วมทีมไล่บอล สำหรับลูกขึ้นนำของทีมชาติ 1-0 ก็ต้องให้เครดิตที่ออกบอลจ่ายตัดแนวรับของกองหลัง โปแลนด์ได้ดี จนเป็นที่มาของประตู

ขยับมาดูที่กองหน้าอีกคน โคลเซ่ ส่วนใหญ่มักจะดึงตัวเองลงต่ำ หรือไม่ก็ถ่างออกริมเส้น เพื่อคอยเก็บบอล ทำให้โอกาสเข้าฮอสตามสไตล์ถนัดไม่ค่อยมี ดังนั้นจังหวะส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นการรอจังหวะ วิ่งสวนกับแผงกองหลังเพื่อใช้ความเร็วเข้าไปลุ้นทำประตู จังหวะประตูขึ้นนำ 1-0 สามารถบ่งบอกวิธีการเล่นได้ชัดเจน

โดยรวมแล้วคู่กองหน้าวันนี้ยังขาดความคมไปบ้างในการจบสกอร์ วันนี้แทคติคที่เลิฟใช้ ก็มักจะเป็นการเจาะตามช่อง จ่ายตัดหลังแนวรับ โดยที่เล็งเห็นว่าคู่กองหลังโปแลนด์ค่อนข้างอายุมากและช้า เลยทำให้ต้องเล่นสไตล์นี้ ซึ่งกองหน้าเยอรมันวันนี้ก็ฉวยโอกาสจากจุดนี้ไว้ได้ โจมตีด้วยแทคติคที่เลิฟวางไว้ได้ผล แต่ภาพรวมก็ยังต้องไปปรับปรุงเรื่องการประสานงานกันบ้างเล็กน้อย

วิจารณ์ผู้เล่นสำรองที่เปลี่ยนตัวลงมา

ชไวสไตเกอร์ วันนี้ได้รับโอกาสให้เริ่มเกมส์ด้วยม้านั่งสำรอง แต่ก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเพื่อปรับมิติของเกมส์ทางริมเส้น ซึ่งโดยรวมแล้วทำได้ดี มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนกับผู้เล่นที่เปลี่ยนตัวออกไป ซึ่งประตูขึ้นนำ 2-0 ต้องยกความชอบให้กับความขยันของเขา

ฮิตส์เซิ่ลแปร์เกอร์ ถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทน กองหน้า แต่ก็โยกตัวเองไปยืนริมเส้นทางฝั่งซ้ายแทน โพลโดลสกี้ ระยะเวลาการเล่นประมาณ 15 นาทีที่อยู่ในสนาม โดยรวมทำได้แค่ประคองเกมส์เท่านั้น ไม่ค่อยมีจังหวะที่น่าสนใจมากนัก

คูรานี่
ถูกเปลี่ยนตัวลงไปในช่วงนาทีสุดท้าย ไม่ค่อยโดนบอล ทำให้ไม่มีอะไรให้พูดถึงอีกเช่นกัน

วิจารณ์โค้ช
วันนี้ เลิฟ ได้วางแผนมาค่อนข้างดี ลูกทีมเล่นได้รัดกุมขึ้นในแนวรับ จังหวะกัดดันคู่ต่อสู้ด้วยเกมส์เพลสซิ่งตรงกลางก็ทำได้ดี ทำให้แผงกลาง 5 คนของโปแลนด์ต่อบอลกันยากขึ้น วันนี้อาวุธเด็ดที่เลิฟนำมาใช้ในแนวรุก ก็มักจะเป็นการใช้ความเร็วของผู้เล่นริมเส้นเข้าโจมตี และจังหวะการเจาะเข้าทำประตูส่วนใหญ่ จะเป็นการโจมตีจุดอ่อนของคู่เซ็นเตอร์ที่อายุมาก และค่อนข้างช้า โดยการใช้จังหวะจ่ายบอลตามช่อง ตัดหลังแนวรับ ซึ่งก็ได้ลุ้นทำประตูอยู่หลายครั้ง ส่วนเรื่องการเปลี่ยนตัวผู้เล่นมีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยเฉพาะการเปลี่ยนตำแหน่งปีกขวา ชไวสไตเกอร์ แทน ฟริตส์ ที่เล่นได้ค่อนข้างดี แต่การเปลี่ยนตัวของเขาก็ได้ผลดี แม้ว่าฟริตส์จะเล่นได้ดี แต่ถ้าเปรียบเหมือนอาวุธ ก็จะเปรียบเหมือน หอกที่พุ่งไปข้างหน้า แต่ชไวสไตเกอร์ ก็เปรียบเหมือนกระบี่ ที่มีความคมและพริ้วไหวกว่า เมื่อคู่ต่อสู้เริ่มจับทางหอกได้ เลิฟก็ปรับมาใช้กระบี่แทน ทำให้เกิดมิติที่แตกต่างในเกมส์ริมเส้นเกิดขึ้นบ้าง ซึ่งประตูขึ้นนำ 2-0 ก็เป็นสิ่งพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเขาเปลี่ยนตัวได้ถูกต้อง

คะแนนความสามารถนักเตะ
1 = ระดับโลก
2 = ดี
3 = พอใช้
4 = ต้องปรับปรุง
5 = ห่วยมาก

เลห์มันน์ (3.5), แมร์แตซัคเคอร์ (3) , เม็ตเซลเดอร์ (4) , ลาห์ม (2.5) , แยนเซ่น (4) , บัลลัค (2.5) , ฟริกงส์ (2.5) , ฟริตส์ (2.5) , โพลโดลสกี้ (1) , โคลเซ่ (3), โกเมส (3)

สำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมา : ชไวสไตเกอร์ (3), ฮิตเซิ่ลแปรเกอร์, คูรานี่

source : //www.thaigermanfanclub.com




 

Create Date : 09 มิถุนายน 2551
2 comments
Last Update : 9 มิถุนายน 2551 20:42:24 น.
Counter : 656 Pageviews.

 
 
 
 
...



เห็นด้วยกับการเปลี่ยนตัว ชไวน์สไตเกอร์ เหมือนกันครับ

เป็นการเปลี่ยนรูปแบบการรุกที่โอเคดีทีเดียว



 
 

โดย: The Legendary Midfielder วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:13:02:18 น.  

 
 
 
คิดถึงบทวิจารณ์หลังเกมส์มั่กๆ

โคลเซ่ใจบุญมาก ทีหลังยิงเองก้ได้นะ

ชไวนี่ถูกเปลี่ยนลงมาในเวลาที่เหมาะเจาะ ดูอันตรายทีเดียว
กี๋นึกถึงสิงโตที่เค้าขังไว้นานๆ แล้วปล่อยออกมาแบบกระหายเลือดอ่ะ
น่ากัวไปมั้ย


โพลดี้เล่นได้ใจมากมาย ฤดูกาลหน้าหวังว่าจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นนะ

แต่ตอนนี้ขอแชมป์ก่อนละกาน อิอิ

 
 

โดย: กี๋พกแป้ง วันที่: 11 มิถุนายน 2551 เวลา:21:14:38 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

::Sholl::
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add ::Sholl::'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com