กาญจนบุรี(4): ทองผาภูมิ
พาวนรอบจังหวัดกาญจนบุรีมาถึงตอนที่ 4 แล้วนะครับ หนนี้ขึ้นทองผาภูมิกัน หลุดจากบรรยากาศของสงครามโลกบนเส้นทางรถไฟสายมรณะมาแล้ว คราวนี้มาสูดอากาศบนเทือกเขาตะนาวศรีกัน ซึ่งก็แน่นอนว่ารวบรวมมาจากหลายทริปครับ
รอบที่ไปบ้านอีต่อง เลือกพักที่ทองผาภูมินี่ละครับ เพราะบนอีต่องไม่ค่อยมีไฟฟ้าใช้ ที่พักส่วนใหญ่เป็นโฮมสเตย์ไม่ติดเครื่องปรับอากาศ หลังโควิดที่พักราคาหดลงไปมาก สามารถนอนโรงแรมหรูในราคาถูกได้แบบไม่ต้องใช้สิทธิ์คนละครึ่ง รอใช้ช้อปดีมีคืนดีกว่า ได้ที่พักนาคาคีรีรีสอร์ทแอนด์สปา แถวๆ หินดาด ก่อนถึงตัวเมืองทองผาภูมิ ที่นี่มีห้องพักแบบเหมาหลัง ห้องพักปกติ และห้องพักในเรือนแพ ใช้สิทธิ์ลูกค้าชั้นดีของ booking ด้วย ลดราคาลงไปอีก เลยสามารถจองบ้านทั้งหลังได้ในราคาเพียง 1,168 บาทเท่านั้น (รวมอาหารเช้า) ที่พักนี้อยู่แถวๆ หินดาด ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อน ที่พักหลายที่แถวนี้เลยมีสปาให้แช่น้ำร้อนด้วยนะ (ซึ่งแน่นอนว่าช่วงโควิดมันปิด)
เสียดายปีนี้ไม่มีหมอก หน้าหนาวยังไม่มาสักที วิวที่พักติดแม่น้ำเลยธรรมดาไปหน่อย หาที่กินมั่วๆบนกูเกิ้ล เจอร้านบ้านเนินหินดาด ขายพิซซ่าเตาถ่านอยู่ห่างจากถนนใหญ่เป็นสิบโล ขับเข้ามายากหน่อย แต่ร้านสวยงามและกว้างขวางครับ ร้านนี้เน้นอาหารฝรั่งประยุกต์ จึงมีพิซซ่าหน้าที่หากินที่อื่นไม่ได้อย่างไข่ผำ (พืชน้ำเล็กๆ) หรือเห็ดโคน (มีเฉพาะฤดูฝน) เมนูเด็ดอย่างซี่โครงหมูบาร์บีคิวร้านนี้นุ่มมมมมมาก เหมือนเอาไปตุ๋นก่อนจับมาบาร์บีคิว หลังที่กินอาหารมีบ้านสวนให้เดินเล่น ผักที่นี่สดสะอาดเพราะปลูกกันหลังร้านเลยครับ แหล่งท่องเที่ยวเด่นของโซนนี้คือ พุน้ำร้อนหินดาด ครับ เขาทำเป็นบ่อคอนกรีตให้แช่ตัวได้ 3 บ่อ ทหารญี่ปุ่นเป็นคนค้นพบพุน้ำร้อนนี้ เอนทรี่นี้ก็ยังไม่พ้นจากเรื่องสงครามโลกแแฮะ แถวนี้ยังมีหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกอยู่เลย อันนี้ไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2560 นะครับ ไม่รู้หลังโควิดช่วงนี้เขาให้แช่ตัวได้หรือยัง เจอของท้องถิ่นแบบหากินไม่ได้ในกรุงเทพ ซื้อมาลองสักหน่อยครับ กล้วยนากทองผาภูมิ หวีละ 70 นอกจากสีเปลือกแล้ว รสชาติไม่ต่างกับกล้วยหอมเท่าไหร่ กลับไปกินกล้วยหอมเถอะครับ มื้อเย็นมากินร้านครัวต้นน้ำ อาหารอร่อยราคาไม่แพงครับ ผัดเผ็ดปลาบึกจานนี้ 80.- เอง เสียดายรอบนี้มากับแม่สองคน สั่งแค่สองอย่างก็จุกกลับไป รอบแรกที่ไปทองผาภูมินอนที่ The Rabbit House ในซอย รพ.ทองผาภูมิ ห้องสีแจ๋นดี เช้าวันต่อมา ขับออกจากปากซอยโรงพยาบาลผ่านวัดทองผาภูมิไปตลาดครับ ตลาดทองผาภูมิ เป็นตลาดเช้าที่มีผู้คนคึกคัก นักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไป อช.ทองผาภูมิหรือบ้านอีต่องจะนิยมแวะพักที่นี่เป็นจุดสุดท้ายก่อนขึ้นเขายาวๆครับ ของขายที่ขึ้นชื่อคือปลาจากเขื่อนและของป่า แต่ซื้อไปก็ไม่มีโอกาสทำอะ แวะมากินข้าวเช้าเฉยๆครับวันนี้ จากตัวอำเภอ ขึ้นเหนือไปอีก 8 กม. จะมาถึง เขื่อนเขาแหลม หรือเขื่อนวชิราลงกรณ์ ยามมีหมอกบรรยากาศแถวนี้จะสวยสะพรึง กฟผ. สร้างเขื่อนเขาแหลมขึ้นในปี พ.ศ.2522 เพื่อคุมระดับน้ำไหลลงแม่น้ำแควน้อย และผลิตไฟฟ้า สันเขื่อนยาว 1,019 เมตร | พื้นที่อ่างเก็บน้ำเก็บน้ำได้ 8,860 ลบ.ม. เล็กกว่าอ่างเก็บน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ครึ่งหนึ่ง | บนสันเขื่อนมีลิงเจ้าถิ่น ไม่ดุร้าย แต่ขี้ขโมยตามประสาลิงครับ | เขาแหลมสกายวอล์ค เพิ่งสร้างเมื่อปีก่อน ช่วงที่เป็นพื้นกระจกใสสั้นนิดเดียวเอง | ที่ไปกาญจนบุรีรอบล่าสุดคือวันที่ 31 ต.ค. - 1 พ.ย. 63 จุดหมายปลายทางอยู่ที่บ้านอีต่อง ติดกับชายแดนพม่าเลย ช่วงนี้เพิ่งมีข่าวโควิดจากคนลักลอบเข้าเมืองที่แม่สอด แต่บ้านอีต่องยังปลอดภัยอยู่ครับ อำลานาคาคีรีกินข้าวเช้าเสร็จก็ออกจากที่พักตั้งแต่ 7 โมงเช้า มีหมอกลงจางๆ ทางไปบ้านอีต่องเป็นทางขึ้นเขา มี 399 โค้ง เทียบกับตอนไปแม่ฮ่องสอนอันนี้เบๆมากครับ ขับรถเพลินๆมาสักพักนึง พอเข้าใกล้บ้านอีต่องก็จะพบถนนอันสุดเรศแสนสาหัส โค้งเยอะไม่ว่า แต่ถนนแบบนี้หมดสิทธิ์ทำความเร็วครับ เห็นคนมาซ่อมทางอยู่เหมือนกันนะ แต่เจอคนที่ไปเที่ยวหลายปีก่อนบ่นว่าถนนพังตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว สงสัยจะเข้าลิสต์ถนนที่ซ่อมไม่มีวันเสร็จไปอีกเส้นนึง ใช้เวลาสองชั่วโมงมาถึงบ้านอีต่อง เป็นหมู่บ้านชายแดนที่มีร้านค้าและที่พักมากมาย อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี กลางหมู่บ้านมีบ่อน้ำ เห็นแล้วคิดถึงบ้านรักไทยที่แม่ฮ่องสอนเลยครับ | บ้านอีต่อง [E-Tong Village] | อีต่อง เป็นภาษาพม่า แปลว่าภูเขาเทวดา เพราะตัวหมู่บ้านอยู่ในหุบเขา สูง 800 เมตรจากระดับน้ำทะเล ช่วงสงครามโลกมีคนเข้ามาขุดแร่กันเยอะ โดยเฉพาะดีบุกและวุลแฟรม โดยเหมืองที่ใหญ่ที่สุดคือเหมืองอีต่องที่อยู่ติดกับหมู่บ้านนี้ ชาวบ้านจึงมีหลายเชื้อชาติปะปนกันไป โดยส่วนใหญ่เป็นครอบครัวของแรงงานที่ถูกจ้างมาทำเหมือง พอดีบุกราคาตก เหมืองก็ปิดตัวลง ชาวอีต่องดั้งเดิมทิ้งถิ่นฐานออกไปหางานทำที่อื่นกันเกือบหมดแล้วครับ ตอนนี้รายได้ของคนในหมู่บ้านมาจากการท่องเที่ยวเป็นหลัก
หมู่บ้านอีต่องเป็นเรือนไม้ประมาณ 50 หลังคาเรือน พอสิ้นยุคการทำเหมืองไปแล้ว ชาวบ้านก็หันมาเปิดร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร และที่พักต้อนรับนักท่องเที่ยว จนกลายเป็นตลาดอีต่อง สะพานเหมืองแร่ เป็นสะพานที่สร้างตั้งแต่แรกตั้งหมู่บ้านในปี พ.ศ.2482 คนนิยมเขียนคำอธิษฐานลงแผ่นไม้แล้วแขวนไว้ที่สะพานนี้ และสะพานเข้าตลาด พื้นที่นี้เป็นร่องเขามีลมพัดแรง ได้ยินเสียงแผ่นไม้กระทบกันยิ่งสร้างบรรยากาศเข้าไปอีก ในหมู่บ้านดอกไม้สวยมากมายเลยครับ หลายพันธุ์ไม่ค่อยมีให้เห็นในภาคกลางด้วย มื้อเที่ยงเล็งแกงฮินเลที่ร้านตรงทางเข้าหมู่บ้านไว้ แต่ร้านขายหมดอดซะงั้น เลยกลับไปที่บ้านอีต่องอีกรอบ กินร้านดังอย่างครัวเจ๊ณีที่โด่งดังเรื่องอาหารทะเลอิมพอร์ตจากพม่า ....แต่รอบนี้ไม่มีอาหารทะเลเพราะด่านชายแดนปิดจ้า ชื่อเมนูเป็นเอกลักษณ์ครับร้านนี้ หลังคาแดงซี๊ดซ้าด (ปูนึ่ง) น้องปูท่องราตรี (ปูผัดผงกะหรี่) ถั่วหวานผ่านสงคราม (ถั่วหวานผัดน้ำมันหอย) อะไรแบบนี้... ถ้าอยากรู้ว่าแต่ละเมนูมันคืออะไรก็อ่านชื่อภาษาอังกฤษเอา ราคาค่อนข้างแพงอยู่ครับ เน้นขายนักท่องเที่ยวเป็นหลัก เหมืองปิล็อก ดำเนินการในปี พ.ศ.2483 แต่พอปี พ.ศ.2527-2528 ก็ปิดตัวลง เพราะราคาดีบุกตกต่ำ ตัวเหมืองเข้าไปไม่ได้นะครับ ขึ้นไปชมอุปกรณ์ทำเหมืองเก่าที่เขาทิ้งไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปแค่นั้น พวกรถขนและอุปกรณ์ขุดแร่ที่วางทิ้งกลางแจ้งจนสนิมเขรอะ | บ่อปลาคาร์ฟน้ำใสนิ้งเห็นก้นบ่อเลย | เนินด้านเหนือหมู่บ้านมีวัดเหมืองปิล็อก ด้านบนสุดของเนินคือพระพุทธรัตนศากยมุนีศรีทองผาภูมิ มองเห็นแต่ไกล ช่วงที่ไปมีงานแห่นาคพอดี มีจุดชมวิวยอดนิยมที่มองเห็นถึงชายแดนคือเนินช้างศึกและเนินเสาธง ตอนไปด้านเนินเสาธงยังไม่เปิด ส่วนเนินช้างศึกไม่ได้ไปจ้า ขี้เกียจเดินอะ
หมดแล้วครับ ที่เที่ยวกลางสายหมอกและขุนเขาที่ทองผาภูมิ ถ้าขึ้นไปอีกจะถึงสังขละบุรี ซึ่งเคยอัพบล็อกไปแล้วในอดีตกาลนานไกล คงไม่รวมในซีรี่ยส์เที่ยวเมืองกาญจน์รอบนี้นะครับ เอ็นทรี่ถัดไปพาเที่ยวโบราณสถานแถวพนมทวนจ้า
Create Date : 05 ธันวาคม 2563 |
|
35 comments |
Last Update : 5 ธันวาคม 2563 17:01:05 น. |
Counter : 2261 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณอาจารย์สุวิมล, คุณเนินน้ำ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSai Eeuu, คุณnonnoiGiwGiw, คุณทนายอ้วน, คุณสองแผ่นดิน, คุณกะว่าก๋า, คุณhaiku, คุณtoor36, คุณKavanich96, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณThe Kop Civil, คุณTui Laksi, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณmcayenne94, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณkae+aoe, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณtuk-tuk@korat, คุณInsignia_Museum, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก |
| |
โดย: เนินน้ำ 5 ธันวาคม 2563 18:41:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: Sai Eeuu 5 ธันวาคม 2563 18:48:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทนายอ้วน 5 ธันวาคม 2563 20:16:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 5 ธันวาคม 2563 22:25:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: toor36 6 ธันวาคม 2563 0:18:42 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 6 ธันวาคม 2563 5:24:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทนายอ้วน 6 ธันวาคม 2563 21:02:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 7 ธันวาคม 2563 8:13:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทนายอ้วน 7 ธันวาคม 2563 13:24:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 8 ธันวาคม 2563 21:32:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 8 ธันวาคม 2563 22:32:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 11 ธันวาคม 2563 8:17:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทนายอ้วน 11 ธันวาคม 2563 14:20:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 13 ธันวาคม 2563 11:38:39 น. |
|
|
|
|
|
มีเพื่อนบล็อกอยู่ที่ทองผาภูมิ พวกเราเคยไปเที่ยวค่ะ
ที่นี่อากาศดีนะคะ โดยเฉพาะหน้าหนาว
กล้วยนาคเคยชิมแล้ว พี่ว่ากล้วยหอมอร่อยกว่าค่ะ