|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
[คิดถึงวิทยา] ห่างไกลแต่ไม่ต่างกัน
ช่วงกักตัวอยู่บ้าน มาแนะนำหนังที่สุดของการโรมอะโลนอย่างคิดถึงวิทยากันครับ คิดถึงวิทยา เป็นภาพยนตร์ปี 2557 ของ GTH กำกับโดยนิธิวัฒน์ ธราธร และเป็นที่ประทับใจผู้ชมจนกวาดรายได้ไปถึง 100 ล้านบาท เนื้อเรื่องเกี่ยวกับครูสองคน คือครูสอง (รับบทโดยบี้ สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) และครูแอน (รับบทโดยพลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ที่ต้องไปสอนโรงเรียนบนเรือนแพกลางน้ำหลังอกหักจากรักเก่า ทั้งสองไม่เคยพบกัน แต่รู้จักกันผ่านไดอารี่ที่เขียนทิ้งไว้
เนื้อเรื่องที่โรแมนติกเรียบง่ายนี้ได้ผนวกส่วนประกอบหลักของหนังเรื่องนี้ทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน นั่นคือโรงเรียนกลางน้ำสถานที่ห่างไกลผู้คนและสัญญาณโทรศัพท์ เหตุแห่งความเหงา และไดอารี่ที่เป็นสื่อให้ครูทั้งสองคนได้รับรู้ตัวตนของอีกฝ่าย
**เอ็นทรี่นี้มีการเปิดเผยสาระสำคัญของเรื่อง**
โรงเรียนกลางน้ำ
โรงเรียนบ้านแก่งวิทยา สาขาเรือนแพ เป็นโลเคชั่นหลักของเรื่องนี้ ตัวโรงเรียนปลูกบนแพลอยน้ำ ที่นี่เป็นสาขาของโรงเรียนบ้านแก่งวิทยาที่อยู่ในตัวเมือง อ.ลี้ จ.ลำพูน
โรงเรียนนี้ใช้แบบของโรงเรียนที่มีอยู่จริงๆ คือโรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาเรือนแพ อยู่ริมลำน้ำปิงเหนือเขื่อนภูมิพล ในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เปิดในปี พ.ศ.2536 สอน ป.1-6 เพื่อเด็กด้อยโอกาส มีครูประจำหนึ่งคนคือครูมาด ใครจะตามรอยภาพยนตร์ไปดูต้องใจรักจริงๆ นะครับ เพราะเข้าไปไม่ได้ง่ายเลย ต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือแก่งก้อ (ห่างจากตัว อ.ลี้ 36 กม.) แล้วนั่งเรือเข้าไปอีก 1 ชม.
มันตั้งอยู่กลางหุบเขา เป็นอาคารเล็กๆ ที่บรรจุความเหงาไว้เต็มไปหมด เพราะมันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ผมว่าเจ้าโทรศัพท์มือถือเนี่ย มันเป็นตัวฆ่าความเหงาได้ชะงัด มันทำให้คนเราไม่ต้องคิดถึงกันแล้ว เพราะว่าแค่คิดก็โทร มันก็เลยไม่ไปถึงความคิดถึง แต่ที่โรงเรียนกลางน้ำนี้ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีไฟฟ้า มีแต่เสียงจิ้งหรีดและเสียงเด็กๆ มันเลยเต็มไปด้วยความเหงา พอเกิดความเหงามันจะกลายเป็นความคิดถึง -- เก้ง-จิระ ให้สัมภาษณ์ไอเดียในการสร้างภาพยนตร์นี้
แต่ในการถ่ายทำต้องใช้ทีมงานจำนวนมาก โรงเรียนเรือนแพของจริงจะรับน้ำหนักคน 40-50 คนไม่ไหว หนังเรื่องนี้จึงสร้างโรงเรียนเรือนแพขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แบ่งเป็นแพห้องเรียนและห้องนอน กับแพลานโล่งสำหรับทำกิจกรรม ที่สำคัญโรงเรียนที่สร้างใหม่นี้ไปสร้างและถ่ายทำที่แก่งกระจานนะครับ ไม่ใช่ลำพูน แต่โลเคชั่นอื่นๆ ที่อยู่บนบกก็ใช้สถานที่ของลำพูนกับเชียงใหม่ตามท้องเรื่อง โรงเรียนบ้านก้อจัดสรร สาขาเรือนแพ อ.ลี้ จ.ลำพูน ต้นแบบของโรงเรียนในภาพยนตร์เรื่องนี้ | โรงเรียนบ้านแก่งวิทยา สาขาเรือนแพ ที่สร้างขึ้นมาสำหรับถ่ายทำหนัง | การใช้ชีวิตบนเรือนแพไม่ได้สะดวกสบาย ต้องมีถังเก็บน้ำ ซึ่งวันดีคืนดีก็มีจิ้งจกตกไปตาย ไฟฟ้าเข้าไม่ถึงต้องต่อไฟจากแบตเตอรี่หรือเครื่องปั่นไฟ บางทีก็มีสัตว์ร้ายขึ้นมาบนแพ บางวันก็พายุเข้า และที่สำคัญคือมันไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ หนังเรื่องนี้ช่างไม่โรแมนติไนซ์ความกันดารเลย ก็มันไม่สะดวกสบายจริงๆนี่นะ เด็กนักเรียนที่นี่ล้วนเป็นลูกหลานชาวประมงที่หากินอยู่แถวนี้ พวกเขาจะขึ้นแพมาเรียนและค้างคืนอยู่บนแพ ก่อนจะกลับบ้านวันเสาร์-อาทิตย์ แพแห่งนี้จึงเป็นทั้งบ้านและโรงเรียนของครูและพวกเด็กๆ
พระเอก-นางเอกเรื่องนี้เลือกมาได้เหมาะกับบทเลยครับ เพราะลักษณะของครูสอง (คนซื่อ น่ารัก เป็นธรรมชาติ) และครูแอน (สาวมั่น ตรงไปตรงมา) คือสิ่งที่บี้และพลอยเป็นจริงๆ บี้เล่นหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เขาอยากเล่นมากเพราะเป็นติ่ง GTH บี้ว่ายน้ำเก่ง แต่ฉากหงายตัวดำน้ำก็ยากจนต้องฝึกกับนักกีฬาทีมชาติพักนึง ส่วนพลอยกลัวน้ำมากเพราะตอนเด็กๆ เคยตกสะพานจมน้ำ แต่ก็พยายามฝึกจนเล่นฉากว่ายน้ำได้ พลอยเคยรู้สึกเหมือนครูแอน คือหลงรักตัวหนังสือของหนุ่ม เมืองจันท์ จนอยากเจอตัวจริงของเขา
ครูแอนและครูสอง สลับกันมาสอน โดยครูแอนทะเลาะกับ ผอ. เรื่องไปสักมือ เลยถูกส่งไปสอนที่เรือนแพ ในปีการศึกษา 2554 แต่หนุ่ยแฟนของครูแอนก็ชวนเธอไปสอนที่ รร.ม่อนฟ้า จ.เชียงใหม่ (สถานที่จริงถ่ายทำที่ รร.มงฟอร์ตวิทยาลัย แผนกประถม) เพราะไม่อยากเจอแฟนแค่อาทิตย์ละสองวัน และเรือนแพก็ไม่ได้น่าอยู่ พอดีกับที่ครูสองขอเข้าทำงาน แต่ รร. ไม่มีตำแหน่งครูพละ เลยให้ไปสอนที่เรือนแพแทนครูแอนในปีการศึกษา 2555ครูสองจบพละ ทั้งความรู้และเทคนิคการสอนวิชาปกติจะสู้ครูแอนไม่ได้เลย แต่เขาก็มีสิ่งที่ทำให้พวกเด็กๆ ยอมรับเหมือนกับครูแอน ไม่ใช่พระเดชที่จะลงโทษเพื่อให้เด็กเชื่อฟัง แต่เป็นจิตวิญญาณของความเป็นครู ที่ต้องการให้เด็กเรียนรู้และเข้าใจมากกว่าการท่องจำ เข้าใจพื้นฐานที่แตกต่างกันในเด็กแต่ละคน ต้องการปกป้องเด็กในฐานะของผู้ใหญ่ และไม่ต้องการทอดทิ้งเด็กแม้แต่คนเดียว โดยไม่คิดว่าการมาสอนโรงเรียนที่มีเด็กแค่ไม่กี่คนมันไม่คุ้มค่า ทีแรกครูแอนมีครูจีจี้มาเป็นเพื่อนที่เรือนแพ แต่ใช้ชีวิตลำบากไปสักพักก็มาแจ็คพ็อตเจอศพที่ลอยมาอยู่ใต้ส้วม จนสติแตกหนีขึ้นบกไป ครูแอนก็กลัว แต่ต้องยอมลงไปเก็บศพเองเพราะไม่อยากรอกู้ภัยนานพวกเด็กๆ กลัว และถ้าเธอออกไปจากที่นี่ ผอ. จะสั่งปิดสาขานี้ เธอทิ้งพวกเด็กๆไปไม่ได้ | วันหนึ่งมีงูเข้ามาในห้องเรียน ครูสองต้องรวบรวมความกล้าสู้กับงูเพื่อปกป้องเด็กๆ ในคืนที่พายุเข้าก็เป็นเขาเองที่คอยปลอบโยนพวกเด็กๆ และช่วยซ่อมแซมเรือนแพให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง หลังจากนั้นเด็กๆ มองครูสองดีขึ้นมาก พวกเขาไม่ได้เคารพคนที่มีอาชีพเป็นครู แต่พวกเขาเคารพคนที่มีความเป็นครู | "เป็นครู มันไม่ใช่แค่สอนหนังสือจริงๆนะ" ชื่อของพวกเด็กๆ จะตั้งตามสัตว์น้ำ ปี 2554 เด็กในห้องของครูแอนมี 7 คน ส่วนปีถัดมา 2555 ห้องครูสองมีนักเรียน 4 คน คือ หมึก (ป.1) ทอง (ป.2) ทูน่า (ป.3) เก๋า (ป.4) เด็กห้องครูแอนก่อนหน้านี้ได้เรียนจบ ป.6 ไปสองคนคือซาบะและลักเลย์ ส่วนอีกคนนึงคือช่อน (ป.6) เรียนไม่จบเพราะต้องช่วยพ่อทำงาน
"ไม่ชอบเรียนเลขเลยครู" "ไม่เรียนเลข แล้วจะเป็นหมอ เป็นวิศวะได้ไงล่ะ?" "ไม่อยากเป็น" "แล้วเธออยากเป็นอะไร?" "อยากจับปลา" "เอาจริงดิ?" "อือ พ่อก็จับ ปู่ก็จับ" ครูแอนลองถามเด็กคนอื่นๆ ว่าโตขึ้นอยากจะเป็นอะไร แม้จะมีคำตอบที่หลากหลาย แต่พอให้ทุกคนลองนึกดูดีๆ แล้วทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่าก็คงจะจับปลา เพราะพวกเขามองไม่เห็นว่าด้วยชีวิตแบบนี้พวกเขาจะไปทำอย่างอื่นได้ยังไง
แม้จะเป็นครูที่เก่ง แต่นี่เองก็เป็นปัญหาที่ยากสำหรับครูแอน นักเรียนไม่เข้าใจว่าเขาจะต้องเรียนไปทำไม ในเมื่อสุดท้ายพวกเขาก็จะไปเป็นชาวประมงเหมือนกับพ่อของเขา เหมือนกับปู่ของเขา และเหมือนคนรุ่นก่อนหน้าไปไม่รู้อีกกี่ชั่วอายุคนที่ใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอดกาล "จะเสียใจทำไม ก็เด็กมันไม่อยากเรียนต่อ เขาจ้างมาสอน ก็สอนไปดิ" แต่ครูสองไม่ยอมให้มันจบแบบนี้ เขาอาสาไปช่วยงานพ่อของช่อนทุกเสาร์อาทิตย์เพื่อให้ช่อนได้กลับมาเรียนหนังสือ จะโตไปเป็นชาวประมงก็ได้ แต่อย่างน้อยก็เรียนหนังสือไว้ จะได้ไม่ถูกคนอื่นหลอก
แม้จะทำให้ช่อนกลับมาเรียนได้สำเร็จ แต่ช่อนก็ยังสอบปลายภาคไม่ผ่าน คะแนนของเด็กคนอื่นๆ ก็ไม่ดีนัก สองตระหนักว่าเขายังไม่เก่งพอ จึงขอออกไปเรียนต่อ พอดีกับที่ครูแอนมีปัญหากับหนุ่ยและครูที่โรงเรียนม่อนฟ้าจึงขอย้ายกลับมาสอนที่เรือนแพเหมือนเดิมในปีการศึกษา 2556 ทำให้ครูแอนและครูสองสวนกันอีกรอบ
แต่สิ่งที่เชื่อมโยงพวกเขาไว้ด้วยกันคือไดอารี่ที่ครูแอนเขียนความในใจตั้งแต่ตอนมาเรือนแพใหม่ๆ และนี่คืออีกหนึ่งส่วนประกอบหลักที่สำคัญที่สุดของหนังเรื่องนี้นอกจากเรือนแพ นั่นคือ "ไดอารี่" ครับ
ไดอารี่ของครูแอน
จุดเริ่มต้นแนวคิดของหนังเรื่องนี้มาจากเรื่องราวของเพื่อนคนหนึ่งของเก้ง-จิระ โปรดิวเซอร์หนังเรื่องนี้ เพื่อนคนนี้ย้ายที่ทำงานแล้วไปพบกับบันทึกของเจ้าของโต๊ะคนเดิม พอได้อ่านก็ตกหลุมรักคนเขียน และอยากทำความรู้จัก จนในที่สุดทั้งสองคนก็ได้แต่งงานกัน
ความรักแบบนี้เป็นเลิฟสตอรี่ที่น่ารักมาก เพราะว่าผู้ชายคนนี้เขาได้รักผู้หญิงคนนี้ก่อนที่จะได้เจอหน้าซะอีก และพอได้เจอหน้าเขาก็ยังรัก แปลว่ามันมีสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการเขียนบันทึก ผมรู้สึกว่าคำบันทึกในสมุดเนี้ยมันเหมือนความในใจที่มันผ่านหัวใจของคนเขียนมาแล้ว -- เก้ง-จิระ ให้สัมภาษณ์แนวคิดในการสร้างหนังเรื่องนี้
จะว่าไปก็เหมือนโลกโซเชี่ยลที่เราชอบ ชัง นับถือ ชื่นชม คนอื่นๆ จากความคิดที่เขาถ่ายทอดออกมา โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องรูปร่างหน้าตายศถาบรรดาศักดิ์ใดๆ น่าทึ่งที่ความสัมพันธ์บนโลกโซเขี่ยลบางทีมันก็ยั่งยืนยิ่งกว่าในโลกแห่งความเป็นจริงเสียด้วยซ้ำ เพราะเราได้ค้นพบว่าคนเหล่านี้มีแนวคิดที่ไปกับเราได้จริงๆ
และสิ่งที่เชื่อมโยงครูแอนและครูสองเข้าด้วยกันนอกจากการถูกแฟนเก่าทิ้งแล้วก็คือจิตวิญญาณของความเป็นครู ครูที่ต้องการให้เด็กเรียนรู้จริงๆ ครูที่เข้าใจคุณค่าของการที่เด็กคนหนึ่งได้เรียนหนังสือ และครูที่เป็นพ่อและแม่ของเด็กๆ ไปด้วย นอกจากสิ่งที่พวกเขาเขียนลงไปในไดอารี่แล้ว คำบอกเล่าของพวกเด็กๆ และสภาพเรือนแพที่เปลี่ยนแปลงไป ก็ทำให้ครูทั้งสองคนรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นครูที่ยอดเยี่ยมเพียงใด แม้ครูแอนจะมีข้อเสียที่ไม่ชอบทำตามกฎระเบียบ ครูสองจะมีข้อเสียที่เป็นคนสอนไม่เก่ง แต่พวกเขาได้แสดงความเป็นครูที่แท้จริงออกมา และในปีการศึกษา 2556 ครูแอนก็ผลักดันให้ช่อนสำเร็จการศึกษาได้ในที่สุด
"ครูแอนไม่รู้จักผมหรอก แต่ครึ่งปีที่ผ่านมา ชีวิตผมมีแต่เด็กๆ แม่น้ำ แล้วก็การคิดถึงครูแอน"
"ขอขอบคุณครูสองนะคะ ที่ทำให้ได้ทบทวนว่าตัวเองมาเป็นครูเพื่ออะไร"
ช่วงแรกๆ ที่เขียนไดอารี่ ครูแอนเรียกโรงเรียนนี้ว่า ถ.ท.ว. (ถูกทิ้งวิทยา) เพราะตัวเองทะเลาะกับครูหนุ่ยและ ผอ. เลยถูกจับมาลอยแพในที่ห่างไกลผู้คนแบบนี้ ซึ่งครูสองได้อ่านเข้าก็เข้าใจเพราะตัวเองก็ถูกแฟนสาวทิ้งมาเหมือนกัน สำหรับคู่ของสองไม่มีปัญหาอะไรมาก เพราะน้ำแฟนเก่าเธอเป็นสก๊อย แค่สองมาสอนที่เรือนแพได้อาทิตย์เดียวก็หนีไปมีแฟนใหม่เรียบร้อย แถมด่าว่าสองไม่มีอนาคตเพราะไม่ได้บรรจุครูเสียที (โถ แฟนใหม่เด็กแว้นมึงมีอนาคตมากเนอะ) แต่ครูหนุ่ยคู่ของครูแอน เป็นรอง ผอ. ของ รร.ม่อนฟ้า ฐานะการงานดี และเอาใจใส่แอนแม้จะมีเรื่องให้ทะเลาะกันบ่อยๆ เพราะเห็นไม่ตรงกันหลายครั้ง หนุ่ยทำพลาดร้ายแรงครั้งนึง ตอนครูแอนมาสอนที่เรือนแพเขาเหงาจนไปวันไนท์แสตนด์กับผู้หญิงคนหนึ่งจนท้อง พอรู้เรื่องนี้เข้า ประกอบกับความอึดอัดในการสอนโรงเรียนใหญ่ที่ ผอ. ไม่ได้ชอบวิธีสอนแบบปฏิบัติจริงของครูแอนเท่าไหร่แล้ว เธอก็ตัดสินใจขอกลับมาสอนที่เรือนแพอีกครั้ง หนุ่ยส่งจดหมายมาขอโทษแอนหลายฉบับ จนกระทั่งจบเทอมเขานั่งเรือมาหาแอนถึงเรือนแพและขอกลับไปคืนดีด้วย โดยเขาจะรับผิดชอบลูกของเขา และเลิกติดต่อกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว แอนเล่าให้หนุ่ยฟังว่าครูสองอยากให้เด็กรู้จักรถไฟ เลยเอาเรือลากแพให้เด็กดูแบบรถไฟ ลองมาวิเคราะห์มุมมองของครูหนุ่ย (สายเรียล) กับครูแอน (สายอินเนอร์) กันเลยครับ ว่าโจทย์เดียวกันนี้ ครูสองแบบจะมองแตกต่างกันได้ขนาดไหน ครูหนุ่ย | ครูแอน | ก็ไฟแรงดีนะ แต่ถ้าห้องมีเด็กสัก 50 คนจะทำแบบนี้ได้ยังไง | ต่อให้มีเด็กแค่คนเดียวก็คุ้มค่าที่จะสอน | สุดท้ายเด็กก็สอบไม่ผ่าน | อย่างน้อยเด็กก็ได้รู้จักรถไฟ | ครูควรเอาเวลาไปทุ่มเทกับการสอนดีกว่า | แต่นี่ก็เป็นการสอนนะ | แม้หนุ่ยจะรักแอนมากมายเพียงใด แต่สุดท้ายแอนก็รู้ว่าชุดความคิดของเธอไปกับเขาไม่ได้ หนังไม่ได้ตัดสินว่าหนุ่ยกับแอนใครผิดใครถูก แต่มันยืนยันว่าแนวคิดของพวกเขาไปด้วยกันไม่ได้ ครูสองที่เธอไม่เคยพบเสียอีกที่เข้าใจคนอย่างเธอจริงๆ แม้การตัดสินใจของแอนดูจะไม่ยุติธรรมกับหนุ่ยเท่าไหร่ แต่ได้เลิกกันตั้งแต่ตอนนี้ก็น่าจะดีกว่าไปสร้างชีวิตคู่ทั้งที่พวกเขาเป็นคนคนละประเภทและไม่เคยเข้าใจกันเลย
แล้วครูแอนก็ตัดสินใจกลับมาที่เรือนแพอีกครั้ง ได้พบกับสองที่แวะมาเยี่ยมเด็กๆ ตอนปิดเทอม
และนี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนได้พบกันจริงๆ แล้วเรื่องก็จบลงไปเลย เป็นหนังที่มีแอร์ไทม์ที่พระเอกกับนางเอกอยู่ด้วยกันสั้นที่สุดในปฐพี แต่การพบกันของทั้งคู่ก็ทำให้คนดูฟินจิกหมอนได้ถึงที่สุด
แม้องค์ประกอบของความเหงาจะจัดเต็ม แต่ด้วยความที่หนังสนุกและมีเหตุการณ์สำคัญตลอดทั้งเรื่องก็ทำให้คนดูลืมความเหงาไปเลย เพลงประกอบเรื่องนี้คือ ไม่ต่างกัน ของ 25 hours ดีงามเช่นกัน
เป็นหนังโรแมนติกฟีลกู้ดนะครับ แต่ในขณะเดียวกันหนังก็สอนเรื่องคุณค่าของความเป็นครูได้ดีมากๆ สพฐ. ควรส่งเสริมให้คุณครูทั่วประเทศได้ดูและยึดถือเป็นแนวปฏิบัติ
รับไปสี่ไดอารี่ครับเรื่องนี้
Create Date : 14 สิงหาคม 2564 |
|
37 comments |
Last Update : 15 สิงหาคม 2564 12:53:45 น. |
Counter : 6507 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณcomicclubs, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณmultiple, คุณThe Kop Civil, คุณlovereason, คุณkae+aoe, คุณทนายอ้วน, คุณสองแผ่นดิน, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณtoor36, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณเจ้าหญิงไอดิน, คุณhaiku, คุณRain_sk, คุณnewyorknurse, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณกะว่าก๋า, คุณSweet_pills, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณInsignia_Museum, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณ**mp5**, คุณภาวิดา คนบ้านป่า |
| |
โดย: กะว่าก๋า 14 สิงหาคม 2564 17:56:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: multiple 14 สิงหาคม 2564 18:43:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 14 สิงหาคม 2564 22:34:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 14 สิงหาคม 2564 23:36:02 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 15 สิงหาคม 2564 6:22:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 15 สิงหาคม 2564 21:54:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 16 สิงหาคม 2564 7:08:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทนายอ้วน 16 สิงหาคม 2564 20:06:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 16 สิงหาคม 2564 21:35:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 17 สิงหาคม 2564 8:48:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: อุ้มสี 18 สิงหาคม 2564 23:45:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: kae+aoe 19 สิงหาคม 2564 8:43:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: **mp5** 19 สิงหาคม 2564 10:52:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: กะว่าก๋า 20 สิงหาคม 2564 6:25:26 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 20 สิงหาคม 2564 10:26:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: BrandonLah IP: 51.210.176.129 18 เมษายน 2567 1:49:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เป็นหนัง Feel good มากมาก
เป็นหนังไทยเรื่องแรกในรอบปีละมัง
ที่เข้าโรงดูเรื่องนี้..ตอนนั้น บี้ โด่งดังสุด สุด
บทและการอสดงของน้องพลอย
เป็นํรรมชาติ และสวยน่ารักมาก
มิได้โดยรัศมี บี้ข่มแต่อย่างใด