Group Blog
 
<<
เมษายน 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
10 เมษายน 2556
 
All Blogs
 
เที่ยวศาสนสถานสองพันปีที่อินเดีย อะชันตา-เอลโลร่า


ดองมานาน ถึงคิวบล็อกเล่าเรื่องท่องเที่ยวอินเดียช่วง ธ.ค. ปีที่แล้วเสียทีครับ เป็นปีที่ทริปสังเวชนียสถานได้รับความนิยมสุดๆเพราะครบรอบ 2600 ปีที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ทัวร์สถานที่ประสูติ-ตรัสรู้-ปรินิพพานเลยราคาโด่งแบบสุดๆ ซึ่งทัวร์นั้นผมไม่ได้ไป (แล้วจะเล่าทำไม?) ทัวร์ที่ผมไปนี้เน้นท่องเที่ยวศาสนสถานเก่าแก่ในเมืองมุมไบและออรังกาบัดที่มีความวิจิตรสวยงามแบบที่ศิลปินสมัยใหม่ยังอาย โดยเฉพาะหมู่ถ้ำอชันตาและหมู่ถ้ำเอลโลร่า จัดทัวร์โดยแพลเน็ตเวิลด์ไวด์ที่เชี่ยวชาญการท่องเที่ยวเชิงโบราณคดีต่างประเทศครับ

อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่หลายๆคนอยากมาเพราะเป็นแหล่งกำเนิดศาสนาของโลกมากมาย มีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมขึ้นชื่อหลายแห่ง และมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ในขณะที่อีกหลายๆคนก็ไม่อยากมาเพราะสกปรก เบื่อขอทานรุมตอม และอาหารอินเดียไม่ถูกปาก สถานที่ท่องเที่ยวในทริปนี้คือเมืองมุมไบและออรังกาบัด สองเมืองในรัฐมหาราษฎระ ซึ่งเป็น 1 ใน 28 รัฐของอินเดีย

เครื่องบินออกจากสุวรรณภูมิลงจอดที่มุมไบครับ เมืองที่มีประชากรมากที่สุดและร่ำรวยที่สุดในอินเดีย เดิมทีเมืองนี้ชื่อบอมเบย์ หลังจากตกอยู่ในอาณัติของอังกฤษ เมืองก็กลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญและมีตึกรามบ้านช่องสไตล์ยุโรปขึ้นมากมาย ดูไปแล้วก็เหมือนเมืองลอนดอน แต่เป็นลอนดอนที่มีอาบังเดินกันเต็มไปหมด ภายหลังจากอินเดียได้รับเอกราชแล้วก็เปลี่ยนชื่อบอมเบย์เป็นมุมไบเพื่อสลัดภาพของอังกฤษออกไป เราพักที่โรงแรมมิราดอร์ หรูหราและสะอาด และมีที่ฉีดตูด ที่สำคัญอาหารอินเดียอร่อยมากครับ

มุมไบเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยเชื่อมเข้าด้วยกัน ภาพนี้นั่งรถข้ามสะพานระหว่างเกาะ ที่เห็นนี้คือมหาสมุทรอินเดียครับ


สุเหร่าฮาจิอาลีตั้งอยู่กลางทะเลอาระเบียน เป็นที่ๆนั่งรถผ่านไป-มาอยู่ 4 รอบเห็นจะได้ แต่ไม่ได้เข้าไปดูนะครับ ไปเมื่อไหร่ก็เห็นคนต่อแถวบนสะพานทางเข้ากันยาวเหยียดเลย




ถ้ำเอเลแฟนต้า


ไฮไลท์ของวันแรกนี้คือเกาะเอเลแฟนต้าหรือเกาะฆรบุรี ซึ่งต้องนั่งเรือออกจากประตูอินเดีย (Gateway of India) แถวนี้มีอนุสาวรีย์ ตึกสวยๆ และของขายมากมาย โชคดีที่วันก่อนกลับมีเวลามาแวะเดินถ่ายรูป แต่ด้านขวาคือกองทัพเรือถ่ายรูปไม่ได้ครับ


เกาะอยู่ไกลจากฝั่ง 10 กม. การเดินทางกินเวลาค่อนข้างมาก (45 นาที) นานจนอีกาที่นั่งเรือมาด้วยทนไม่ไหว ต้องกระโดดน้ำตาย


ในที่สุดเราก็มาถึงถ้ำเอเลแฟนต้า (Elephanta Caves) ที่โด่งดัง โดยเฉพาะภาพสลักตรีมูรติกลางถ้ำที่หลายคนผ่านตาจากภาพโปรโมทการท่องเที่ยวอินเดียหลายครั้ง หลังลงจากเรือก็ต้องนั่งรถรางเข้าไปครับ จากนั้นก็ลงเดินขึ้นเขาเตี้ยๆ มีบริการแบกขึ้นเสลี่ยงสำหรับคนขี้เกียจเดินขึ้นเขาด้วย


ถ้ำเอเลแฟนต้า หรือเรียกในชื่อไทยว่าถ้ำคุณช้าง (ผมมั่ว) เป็นถ้ำที่เกิดจากการเจาะภูเขาหินเข้าไป สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7-8 และอยู่ยั้งยืนยงมาได้ โดยมีการบุบสลายน้อยมากเทียบกับเหล่าปราสาทหินแถวบ้านเราที่อายุน้อยกว่าหลายร้อยปี เพราะถ้ำนี้แกะจากหินบะซอลท์ที่มีความแข็งแกร่งทนทาน ลำบากตอนแกะ แต่อยู่ได้ทนเป็นพันๆปีครับ ถ้ำแห่งนี้เป็นมรดกโลกด้วยครับ มีทั้งถ้ำของฮินดู เชน และ พุทธ แต่ภาพส่วนใหญ่เก็บจากถ้ำใหญ่ที่สุดที่มี Mehesh Murti มากกว่า ภาพสลักแรกที่อยู่ต้อนรับผู้มาเยือนคือศิวนาฏราชอันงดงามครับ


ฟังไกด์ท้องถิ่นเล่าเรื่องลำบากตรงที่ชื่อเทพและอสูรต่างๆเป็นชื่อภาษาอังกฤษซึ่งไม่เหมือนชื่อที่เราคุ้นเคยกัน เลยเดาเรื่องไม่ค่อยถูก อย่าง Shiva (พระศิวะ), Vishnu (พระนารายณ์), Brahma (พระพรหม), Ganesha (พระคเนศ), Lakshmi (พระลักษมี), ฯลฯ ยังพอเดาได้ แต่พอ Durga, Saraswati, Andhaka, Ravana, ฯลฯ เริ่มไปไม่ถูกละครับ ดีที่คุณชาร์ลีไกด์ชาวไทยทำหน้าที่บรรยายซับไทยเสริมท้ายไกด์ต่างชาติให้ฟังทุกครั้ง

กลางถ้ำมีห้องบูชาศิลลึงค์ พร้อมทวารบาลเฝ้าประตูอยู่ 4 ด้านๆละ 2 องค์


ด้านในถ้ำหลักมีภาพที่เรียกว่า Mehesh Murti ซึ่งเป็นปางทั้งสามของพระศิวะ หน้ากลางคือปางแห่งการสร้าง หน้าขวาคือปางแห่งการรักษา และหน้าซ้ายคือปางแห่งการทำลาย ผู้คนมักสับสนกับตรีมูรติซึ่งหมายถึงเทพสูงสุดของฮินดูคือพระศิวะ-พระนารายณ์-พระพรม แต่ภาพสลักนี้คือพระศิวะทั้งหมดครับ ภาพสลักครึ่งองค์นี้มีความสูงสามเมตร นับเป็นงานแกะที่สวยงามและโด่งดังที่สุดของถ้ำเอเลแฟนต้าแห่งนี้เลย


ในถ้ำยังมีภาพแกะอีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดเป็นภาพเล่าเรื่องในศาสนาฮินดู ทั้งตอนพระศิวะแต่งงานกับพระแม่อุมา, พระศิวะฉีกร่างอสูรนีลา, ทศกัณฐ์แบกเขาไกรลาส, และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากถ้ำนี้แล้วยังมีถ้ำเล็กอื่นๆ อีก เสียดายที่มีเวลาเดินแค่ ชม. เดียวครับ





จากนั้นก็นั่งรถรางและนั่งเรือกลับมาที่เมืองมุมไบ มื้อเที่ยงวันนี้เป็นอาหารจีน ซึ่งทัวร์อินเดียหลังๆมีแนวโน้มจับคนไทยไปเลี้ยงอาหารจีนบ่อยขึ้น เพราะคนไทยส่วนใหญ่รับอาหารอินเดียไม่ได้ (ทีปลาร้าละแดกได้แดกดี) สำหรับผมมื้อนี้เสียของครับ มาอินเดียดันมานั่งกินอาหารจีนซึ่งเป็นอาหารต่างชาติราคาถูกที่สุดในทุกประเทศที่ไป

ช่วงบ่ายของวันแรกหมดไปกับการนั่งรถไปยังสนามบินครับ ระหว่างทางมีอนุสาวรีย์ที่ระลึกวันประกาศอิสรภาพของอินเดียจากอังกฤษ ซึ่งเริ่มจากการลุกขึ้นสู้ของทหารอินเดียในปี 1857 ด้วย


สถานีรถไฟวิคตอเรีย สวยงามสไตล์อังกฤษ เช่นเดียวกับสถานีรถไฟในหลายๆเมืองที่อังกฤษเคยไปยึดครองครับ ที่นี่สร้างขึ้นในปี 1878 แต่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นสถานีรถไฟฉัตรปตีศิวาจิ อดีตกษัตริย์อินเดียผู้สร้างอาณาจักรมาราธาหรือก็คือรัฐมหาราษฎระในปัจจุบันนี้เอง


โค้งเลียบฝั่งทะเลที่สวยงามที่สุดในเมืองมุมไบ รสบัสจอดให้ถ่ายรูปคาสะพานเลย


เรานั่งเครื่องบินภายในประเทศ จากมุมไบไปออรังกาบัด เมืองที่มีโบราณสถานเก่าแก่สวยงามจำนวนมาก กว่าจะถึงก็เกือบๆเที่ยงคืนแล้วครับ โรงแรม VITS ที่พักในออรังกาบัดนี้ก็สะอาดสวยงาม แม้อาหารจะอร่อยสู้ที่มิราดอร์ไม่ได้ก็เถอะ


วันที่ 2-3 เป็นการท่องเที่ยวในออรังกาบัด เมืองนี้เป็นเมืองที่พระเจ้าออรังเซบแห่งราชวงศ์โมกุลเป็นผู้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ออรังเซบเป็นลูกชายของพระเจ้าชาห์ จาฮัล ผู้สร้างทัชมาฮาลเป็นที่ฝังเมีย (แถมยังประหารคนสร้างทัชมาฮาลหลังสร้างเสร็จ เพื่อไม่ให้สร้างสิ่งที่งดงามยิ่งกว่านี้ได้อีก) และมีเมกะโปรเจ็คต์จะสร้างปราสาทหินอ่อนสีดำเป็นที่ฝังตัวเองต่อมา แต่เปลืองงบประเทศชาติครับ คุณลูกเลยจับพ่อตัวเองขังไว้ในวังหินอ่อนนั้นแล้วครองราชย์แทนซะเลย พอพ่อตายก็เอาไปฝังกับแม่ในทัชมาฮาล ส่วนวังหินอ่อนก็ถูกใช้เป็นเป็นป้อมอักราในเวลาต่อมา

ทั้งเมืองจะเต็มไปด้วยโบราณสถานสมัยราชวงศ์โมกุล แต่ไฮไลท์ที่เราจะไปดูคืองานฝีมือของช่างยุคเก่าแก่กว่านั้นครับ




ถ้ำอะชันตา



หลังนั่งรถบัสจนตูดระบมมากว่า 3 ชม. (ระหว่างทางมีแวะกินชาอินเดียด้วย) ในที่สุด เราก็มาถึงถ้ำอชันตาไฮไลท์ของทริปอินเดียครั้งนี้ หมู่ถ้ำเหล่านี้เป็นการขุดเจาะภูเขาเข้าไปเป็นศาสนสถานสำหรับสวดมนต์ นั่งสมาธิ ประกอบศาสนกิจอื่นๆของศาสนาพุทธ ถ้ำแรกขุดเจาะเข้าไปก่อน ค.ศ. 200 ปี และขุดเจาะมาเรื่อยจนถึงศตวรรษที่ 7 ก่อนที่มุสลิมจะเข้ายึดครองอินเดีย แล้วถ้ำแห่งนี้ก็ถูกเก็บไว้เป็นความลับเพื่อป้องกันการถูกทำลาย


คนขายถั่วของแท้จ้ะ


จนกระทั่งผ่านไปหลายพันปี ถ้ำถูกปกคลุมด้วยป่ารกชัฏและได้เลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน จนกระทั่งทหารอังกฤษชื่อจอห์น สมิธ ได้ค้นพบถ้ำอชันตาขณะออกล่าสัตว์ในปี 1819 (มือบอนสลักชื่อตัวเองไว้ด้วยนะ)

ที่นี่มีถ้ำทั้งหมด 30 ถ้ำ แกะสลักต่างยุคต่างสมัยกัน ถ้ำที่เก่าแก่ลำดับต้นๆจะเป็นของพุทธหีนยาน (มหายานยังไม่เกิด) ในขณะที่ถ้ำที่สร้างเพิ่มเติมขึ้นมาเป็นของพุทธมหายาน หมายเลขของถ้ำจะเรียงตามระยะทาง ถ้ำหมายเลข 1 จะอยู่ใกล้ทางเข้ามากที่สุดครับ แต่ไม่เรียงตามลำดับการแกะนะ ในถ้ำต่างๆมีทั้งงานแกะสลักที่วิจิตรสวยงามจนได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปะอินเดียโบราณที่สวยงามที่สุดที่หลงเหลือมาถึงยุคปัจจุบัน ตั้งแต่องค์พระ ลวดลายกรอบประตู เสา แล้วยังมีภาพเขียนสีเก่าแก่ที่สวยงามบนผนังและเพดาน ภาพเขียนที่โด่งดังที่สุดได้แก่ภาพพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร บนผนังถ้ำหมายเลข 1 รูปนี้ครับ


งานแกะสลักพระพุทธองค์ที่งดงามในถ้ำหมายเลข 1


ถ้ำที่มีภาพเขียนสวยงามที่สุดคือถ้ำหมายเลข 1, 2, 16, 17 และ 19 ส่วนภาพที่มีงานแกะสลักงดงามที่สุดคือถ้ำหมายเลข 1, 4, 17, 19, 24 และ 26 ครับ

ถ้ำที่เราได้เข้าไปด้านในมีหมายเลข 1, 2, 9, 10, 17, 19, 26 อันที่จริงจะเข้ากี่ถ้ำก็ย่อมได้ แต่ด้วยเวลาจำกัดไกด์เลยพาเข้าเฉพาะไฮไลท์ถ้ำที่คุ้มค่าเสียเวลาครับ

(ภาพซ้ายบน) ภาพเขียนตอนประสูติพระพุทธเจ้า ในถ้ำหมายเลข 1
(ภาพกลางบน) งานแกะสลักพระพุทธองค์ในถ้ำหมายเลข 2
(ภาพขวาบน) ลวดลายบนเสาถ้ำหมายเลข 2
(ภาพซ้ายล่าง) ภาพเขียน ในถ้ำหมายเลข 2
(ภาพกลางล่าง) งานแกะเทพคุบิร่าและมเหสี ในถ้ำหมายเลข 2
(ภาพขวาล่าง) ลวดลายบนเสาและภาพเขียน ในถ้ำหมายเลข 2




ทางเข้าถ้ำหมายเลข 9 แกะสลักสวยงามตั้งแต่ประตูทางเข้าเลยทีเดียว ถ้ำนี้แกะสลักขึ้นช่วง 100 ปีก่อนคริสศักราช เก่าแก่ที่สุดรองจากถ้ำหมายเลข 10



ทั้งถ้ำหมายเลข 9 และ 10 เป็นถ้ำของหีนยาน ภายในเป็นห้องโถงสวดมนต์ มีสถูปเป็นประธาน ไม่ใช่พระพุทธรูป เนื่องจากหีนยานไม่สร้างรูปเคารพพระพุทธองค์ครับ พระพุทธรูปองค์แรกมีขึ้นก็หลังจากพระพุทธเจ้านิพพานไป 500 กว่าปีแล้ว และนี่คือภายในถ้ำหมายเลข 10 ครับ ที่นี่เป็นถ้ำแรกที่ถูกสร้างขึ้น ตั้งแต่เมื่อ 200 ปีก่อนคริสศักราช และยังเป็นถ้ำแรกที่จอห์นสมิธค้นพบ และเขียนชื่อไว้บนเสาต้นหนึ่งด้วย (แต่ถ่ายมาแล้วอ่านไม่ออก)



(ภาพซ้าย) ภาพเขียนพระพุทธเจ้า 8 องค์ใน 3 กัปหลังสุด ได้แก่พระวิปัสสีพุทธเจ้า, พระสิขีพุทธเจ้า, พระเวสสภูพุทธเจ้า, พระกกุสันธพุทธเจ้า, พระโกนาคมนพุทธเจ้า, พระกัสสปพุทธเจ้า, พระโคตมพระพุทธเจ้า (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) และพระศรีอารยเมตไตรย (พระพุทธเจ้าในอนาคต) บนกรอบประตูถ้ำหมายเลข 17
(ภาพกลาง) ภาพกงล้อธรรม บนเพดานหน้าทางเข้าถ้ำหมายเลข 17
(ภาพขวา) ภาพเขียนที่งดงามภายในถ้ำหมายเลข 17



สมัยก่อนพวกเขาใช้แสงอะไรส่องตอนทำงานที่ละเอียดขนาดนี้ในถ้ำ? ตามทฤษฎีเชื่อว่ามีการทำบ่อขังน้ำไว้ตื้นๆ สำหรับสะท้อนแสงจากด้านนอกเข้ามาทำให้ด้านในสว่างไสว นับเป็นภูมิปัญญาของคนโบราณครับ


ถ้ำหมายเลข 19 (คริสศตวรรษที่ 6) เป็นหนึ่งในถ้ำที่มีลวดลายแกะสลักสวยงามที่สุด


(ภาพซ้าย) ลวดลายแกะสลักบริเวณทางเข้าถ้ำหมายเลข 19
(ภาพกลาง) ลวดลายแกะสลักบนผนังถ้ำหมายเลข 19
(ภาพขวา) ภายในถ้ำหมายเลข 19 มีภาพสลักพระพุทธองค์เต็มตัว หลังคาเป็นรูปโค้งรับแรง และเพิ่มความสวยงามของภายในถ้ำ



ถ้ำหมายเลข 20 ขึ้นไปส่วนมากยังสร้างไม่เสร็จ ด้านในของถ้ำที่ยังสร้างไม่เสร็จเหล่านี้ก็ยังเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาวิธีการก่อสร้างของช่างสมัยโบราณด้วย


และแล้วเราก็เดินมาถึงถ้ำที่มีการแกะสลักงดงามที่สุด ถ้ำหมายเลข 26 ครับ จากการเล่าเรื่องราวในถ้ำต่างๆไล่มาตั้งแต่ถ้ำที่ 1 เป็นพระโพธิสัตว์และการประสูติของพระพุทธเจ้า, ตามมาด้วยพุทธประวัติตอนต่างๆในถ้ำอื่นๆ และในถ้ำที่ 26 นี้ แกะสลักภาพปรินิพพานไว้ครับ ถ้ำแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 625 สวยงามตั้งแต่ปากทางเข้าเช่นเดิม


ลักษณะของถ้ำนี้ใกล้เคียงกับถ้ำหมายเลข 19 คือเป็นถ้ำของมหายาน แต่สถูปประธานแกะสลักได้วิจิตรบรรจงกว่ามาก


ภาพแกะสลักผนังโดยรอบก็ล้วนน่าทึ่งครับ เป็นพุทธประวัติตอนเผชิญมารผจญในรูปแบบต่างๆ แต่พระพุทธเจ้าก็ยังไม่หลุดจากสมาธิ



ภาพสลักปรินิพพาน บนด้านซ้ายของผนัง มีเทวดามาส่งเสด็จ มีพระอานนท์ร้องไห้อยู่ที่ปลายเท้า คุณชาร์ลีนำทีมมาสวดมนต์ตรงนี้ด้วย




หลังกินมื้อเที่ยงแบบเลทๆแล้วเราก็ฝ่าแก๊งค์ขายของกลับขึ้นรถบัส แล้วกลับโรงแรมครับ อชันตาอยู่ไกลจากตัวเมืองออรังกาบัด 104 กม. วันนี้เลยเสียเวลาไปกับการนั่งรถไป-กลับซะเยอะ มีแวะดูร้านขายผ้า แต่ผมว่าซื้อที่จตุจักรก็ได้น่ะ

คืนนี้ว่าจะลองออกไปเดินชมเมืองออรังกาบัดดู เดินได้แค่ 15 นาทีไม่เจออะไรน่าตื่นตาตื่นใจทั้งสิ้นครับ ตอนไปเวียดนามหรือญี่ปุ่นยังมีร้านรวงให้ช้อป แต่อินเดียมีแต่ฝุ่นให้ย่ำ เลยกลับโรงแรมไปดูหนังอินเดียดีกว่า



ถ้ำเอลโลร่า


เช้าวันที่ 3 เราออกเดินทางไปถ้ำเอลโลร่า ไฮไลท์อีกที่หนึ่ง ซึ่งทีแรกผมไม่รู้จัก ได้ยินชื่อถ้ำอชันตาบ่อยกว่า แต่พอได้ไปเห็นเอลโลร่าแล้ว เชื่อว่านี่คือสุดยอดสิ่งมหัศจรรย์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาอย่างแท้จริงครับ

ถ้ำนี้สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5-10 โดยการสลักภูเขาหินเข้าไปเป็นเทวสถานเช่นเดียวกับเอเลแฟนต้าและอะชันตา มีทั้งหมด 34 ถ้ำ แบ่งออกเป็นถ้ำของศาสนาพุทธมหายาน 12 ถ้ำ (หมายเลข 1-12) ฮินดู 17 ถ้ำ (หมายเลข 13-29) และเชน 5 ถ้ำ (หมายเลข 30-34) ที่สาวกของแต่ละศาสนาต่างแข่งกันสร้างถ้ำด้วยแรงศรัทธา แต่บางส่วนถูกมุสลิมทำลายในสมัยที่มุสลิมเข้ามาครอบครองอินเดีย โชคดีที่ยังเหลือส่วนสวยๆให้ดูอีกเยอะ


รถบัสของเราจอดในโซนถ้ำของศาสนาเชน เข้าไปดูถ้ำหมายเลข 32 เป็นที่แรกครับ ลักษณะที่น่าทึ่งคือที่นี่ไม่ใช่แค่เจาะเป็นโพรงเข้าไป แต่ยังเปิดพื้นที่รอบด้านเป็นสามมิติสมจริงด้วยการเจาะด้านบนและแกะสลักเทวสถานออกมาเป็นสามมิติทั้งหมด ไกด์เล่าว่าเขาใช้อุปกรณ์เพียงสิ่วและค้อน เรียกว่าต้องมีความแม่นยำในการกำหนดตำแหน่ง สัดส่วน และรูปร่างของรูปสลักทั้งหมดในเทวสถานแห่งนี้เป็นอย่างมาก แถมยังแกะเป็นสองชั้นสามารถเดินขึ้นไปชมด้านบนได้ด้วยครับ


ทั้งหมดนี้แกะขึ้นมาจากภูเขาหิน จึงเชื่อมต่อกันทั้งหมดเป็นชิ้นเดียวกัน เดินเที่ยวไปใจก็สั่นเทิ้ม พวกท่านแกะมันขึ้นมาได้อย่างไรนี่!!




ศาสนาเชนมีศาสดาคือพระมหาวีระ เกิดในยุคเดียวพุทธกาล ว่ากันว่าพระมหาวีระสร้างแนวทางของตนเองที่แตกต่างจากพระพุทธเจ้าและสามารถไปถึงนิพพานได้โดยไม่ผ่านมรรคมีองค์แปด ที่เห็นพระคล้ายๆพระพุทธเจ้ายืนแก้ผ้านั่นคือพระมหาวีระครับ ศาสนานี้นุ่งลมห่มฟ้าน่ะ เป็นการปลดเปลื้องจากพันธนาการต่างๆ (ส่วนพวก nudist นั่นลามกครับ ไม่เกี่ยวกับศาสนาเชนแต่อย่างไร)


จากนั้นเราก็เข้ามาในโซนถ้ำของพุทธบ้าง ส่วนใหญ่เป็นที่ทำสมาธิและหอสวดหรือตึกเรียนศาสนาน่ะครับ ถ้ำหมายเลข 10 นี้มีรูปพระพุทธองค์แสดงธรรม มีแสงสีทองส่องจากด้านนอก พร้อมเบื้องหลังการถ่ายทำ อิอิ



ไกด์เขาพาไปชมหลายถ้ำครับ แต่สุดยอดจริงๆเลยคือถ้ำหมายเลข 16 นี้ เป็นถ้ำของฮินดูที่แกะเป็นภูเขาไกรลาส และนับเป็นถ้ำแกะสลักจากภูเขาหินที่ใหญ่โตและสวยงามที่สุดในโลก สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 8-9 โดยกษัตริย์ Krishna I แห่งราชวงศ์ Rashtrakut (ไม่กล้าอ่านชื่อ กลัวอ่านผิด) มีปริมาณหินที่ต้องแกะสลักทั้งหมดถึง 3 ล้านลูกบาศก์ฟุต


ถ้ำนี้เป็นเทวสถานสำหรับบูชาพระศิวะ จะเต็มไปด้วยรูปสลักวีรกรรมของพระศิวะและเทพเจ้าต่างๆ




อาคารกลางชั้นบนมีศิวลึงค์ อีกอาคารหนึ่งมีรูปสลักโคนนทิ พาหนะของพระศิวะที่ชาวฮินดูกราบไหว้



ทศกัณฐ์แบกเขาไกรลาสแต่พระศิวะมานั่งทับไว้ ภาพแกะสลักนี้ใหญ่โตมหึมามากครับ ตัวทศกัณฐ์สูงกว่าคนปกติสามเท่าเห็นจะได้


ย้ำว่าในนี้ไม่มีรูปปั้นนะครับ ทั้งหมดคือรูปสลักที่แกะจากภูเขาลูกเดียวเชื่อมต่อกันเป็นก้อนเดียวกันหมดครับ







ป้อมเดาลาตาบัด


จุใจกับถ้ำเอลโลร่าไปแล้ว ช่วงบ่ายเรามาป้อมเดาลาตาบัดครับ ป้อมนี้มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร สร้างบนภูเขาและมีกลไกดักข้าศึกสลับซับซ้อนเหมือนเล่นเกมโหดมันส์ฮากันอยู่ กษัตริย์ Bhillama V เป็นผู้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 ครับ เดิมทีมีชื่อว่าป้อมดีโอกิรี แต่กษัตริย์ Mohmmed Tughlaq ได้ย้ายเมืองหลวงจากเดลีมาที่นี่แล้วเปลี่ยนชื่อป้อมเป็นเดาลาตาบัด ภายในป้อมมีเชิงเทินสองแห่งคือมาฮากอตและกาลากอต


ประตูของป้อมนี้เป็นบานไม้ขนาดใหญ่ เสริมโครงเหล็ก ซึ่งมีหลามแหลมติดป้องกันข้าศึกเอาช้างชน เมื่อเข้ามาในป้อมจะต้องเผชิญหอคอยที่มีทหารจำนวนมหาศาลเฝ้ายิงธนู ทุ่มหิน หรือเทโลหะหลอมเหลวใส่ด้วย

ด้านในมีเส้นทางให้เดินต่ออีกยาวเลยครับ บ่อ Hathi Haud เป็นหนึ่งในหลายๆบ่อเก็บน้ำที่อยู่ภายในป้อมนี้ บ่อน้ำพวกนี้ใช้สำรองน้ำใช้ภายในป้อมแห่งนี้ครับ


เข้ามาต่อจะเป็นลานกว้างที่มีโบสถ์ให้บูชาพระแม่อินเดีย (Bharat Mata) ซึ่งปั้นไม่สวยเลยไม่ได้เอามาลงครับ แต่ที่เด่นเป็นสง่าตลอดทางเดินก็คือหอคอย Chand Minar ก่อนเข้าไปในโซนกาลากอตครับ


พื้นที่ด้านในสุดมีคูน้ำล้อมรอบ สามารถควบคุมระดับน้ำในคูเพื่อจมสะพานเชื่อมเข้าด้านในได้ (แต่ตอนนี้มีสะพานสร้างใหม่ให้นักท่องเที่ยวเดินเข้าไปได้) กำแพงหินมีความชันมาก ไม่มีคนสามารถไต่ขึ้นไปได้แน่ๆ ไกด์เล่าว่าสมัยก่อนเขาเลี้ยงจรเข้ไว้เต็มคูน้ำ เอาไว้งับข้าศึก


มีช่องแคบๆให้ลอดเข้ามาแล้วจะมีทหารดักเอาหอกแทงที่ปลายทางด้วย กว่าจะเข้ามาได้มันทุลักทุเลขนาดนี้ข้าศึกอ้อมไปเข้าทางอื่นดีกว่ามั้งครับ

ยัง...ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สำหรับผู้กล้าที่ผ่านมาจนถึงด่านป้อมชั้นในสุดนี้ได้ ยังมีทางเดินวงกตที่มืดสนิท อย่าลืมพกไฟฉายกันไปด้วยนะครับ


เข้ามาด้านในจะมีเทวสถานและปืนใหญ่โบราณให้ชมครับ ภาพนี้ละถ่ายหลังจากออกจากวงกตมืดหมาดๆเห็นทิวทัศน์โบราณสถานที่สวยงามเป็นอย่างยิ่ง


ขากลับเห็นคนงานกำลังสร้าง เอ้ย! บูรณะป้อมครับ ดูเบื้องหลังการถ่ายทำซะก่อน จับค้อนกับสิ่วมาตอกกันเลย




บีบี กา มักบารา


ออกจากเดาลาตาบัด นั่งรถต่ออีกประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงอนุสรณ์สถาน บีบี กา มักบารา หรือที่คนนิยมเรียกกันว่ามินิทัช เพราะที่นี่ช่างเหมือนทัชมาฮาลแบบย่อส่วนครับ ตามที่ได้เล่าไปแล้วว่าออรังเซบถีบพ่อตัวเองตกบัลลังก์เพราะใช้ตังค์เปลืองเหลือเกิน อาซามชา ลูกชายของออรังเซบได้สร้างอนุสรณ์นี้ไว้ในปี 1657 เพื่อบรรจุศพพระนางบีกัมราเบีย อุเด ดาราณี ภรรยาของออรังเซบ ใช้งบประมาณเพียง 7 แสนรูปี ในขณะที่ทัชมาฮาลใช้งบถึง 32 ล้านรูปีในสมัยนั้นครับ

ถึงงบจะน้อยเป็นอนุสรณ์คนจน แต่ก็สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังนะ



เย็นวันนั้นเราบินกลับมุมไบครับ กว่าจะได้เข้านอนก็เกือบเที่ยงคืน



ถ้ำกันเหรี




วันสุดท้ายเที่ยวภายในเมืองมุมไบ หลังจากที่วันแรกไปเกาะเอเลแฟนต้าแล้ววันนี้เที่ยวในเมืองครับ ช่วงเช้าเรานั่งรถไปเที่ยวที่ถ้ำกันเหรี ห่างตัวเมืองไป 20 ไมล์เห็นจะได้ (นั่งรถชั่วโมงเดียว)

ถ้ำนี้เป็นถ้ำของพุทธทั้งหีนยานและมหายานครับ มีจำนวนถ้ำถึง 110 ถ้ำ!! ...แต่ส่วนใหญ่เจาะเป็นโพรงเข้าไปซุกตัวอยู่เฉยๆนะ ไม่ได้อลังการมากนัก

ถ้ำที่สำคัญที่สุดคือถ้ำหมายเลข 3, 11, 34, 41, 67, 87 และ 90 ครับ ถ้าจะดูหมดก็แทบจะต้องเดินรอบเทือกเขาเลย




สำหรับภาพแกะสลักมีทั้งที่แกะเป็นองค์พระพุทธ พระโพธิสัตว์ เป็นต้นโพธิ์ เป็นรอยพระบาท และเป็นสถูป



ภาพสลักพระพุทธรูปพันองค์บนผนัง ชาวพุทธผู้มีศรัทธานิยมเข้ามาสวดมนต์กันที่นี่ครับ



เส้นทางก็มีที่เดินสบายบ้าง ทุลักทุเลบ้าง ไกด์ก็พยายามพาไปดูหลายๆถ้ำนะครับ แต่ทนเสียงบ่นของลูกทัวร์ไฮโซที่อยากกลับไปตากแอร์ในรถไม่ไหว




หลังกินมื้อเที่ยงเป็นอาหารจีนแล้ว มีเวลาเหลือไกด์จึงสัญญาว่าจะพาไปบ้านคานธีกับร้านซักผ้า มีลูกทัวร์ที่ประกอบธุรกิจเสนออยากไหว้พระพิฆเนศเพื่อขอพรให้ค้าขายรุ่งเรือง คุณไกด์จึงจัดให้ครับ ผมเลยได้อานิสงส์เข้าโบสถ์พิธีพราหมณ์เป็นประสบการณ์ด้วย ก็ไปซื้อพวงมาลัยและถอดรองเท้าต่อคิวยาวเหยียดเข้าไปในโบสถ์ แล้ววางพวงมาลัย จากนั้นก็รับขนม (มะพร้าวบด) จากพราหมณ์ นำไปกินหรือแปะไว้ที่ต้นไม้เพื่อเป็นศิริมงคลครับ เสียดายที่เขาห้ามถ่ายรูป


บ้านคานธี


เวลาบ่ายสาม เรามาถึงบ้านที่มหาตมะ คานธี เคยทำงานอยู่ ท่านคานธีเป็นมหาบุรุษที่ชาวอินเดียยกย่อง เช่นเดียวกับที่ชาวเวียดนามยกย่องโฮจิมินห์ ชาวจีนยกย่องประธานเหมา และชาวพม่ายกย่องอองซาน ซูจี คานธีทำงานด้านการต่อต้านความไม่ยุติธรรมมานาน จนกระทั่งเข้ามามีบทบาทเป้นผู้นำในการเรียกร้องอิสรภาพจากอังกฤษ เขาประท้วงโดยไม่ใช้ความรุนแรง หรือที่เราเรียกกันว่าหลักอหิงสา จนกระทั่งอินเดียได้รับอิสรภาพจากอังกฤษในปี 1947 แต่ก็ต้องแยกเป็นสองประเทศ โดยชาวฮินดูอยู่ในอินเดีย ส่วนชาวมุสลิมไปตั้งประเทศปากีสถาน หลังจากนั้นคานธีก็ยังทำงานเพื่อสร้างสมานฉันท์ระหว่างฮินดูและมุสลิมต่อไป

คานธีถูกยิงเสียชีวิตในปี 1948 ณ กรุงนิวเดลี ขณะสวดมนต์ โดยชาวฮินดูหัวรุนแรงที่ไม่อยากปรองดองกับมุสลิม หลังจากนั้นมือปืนก็โดนเอาไปแขวนคอครับ


ในบ้านมีข่าวและภาพถ่ายเก่าๆมากมาย ที่เกี่ยวข้องกับชีวประวัติของคานธี ทั้งการประท้วงกฎห้ามคนอินเดียผลิตเกลือกินเอง การทิ้งเสื้อผ้าแบบตะวันตก กลับไปแต่งกายแบบท้องถิ่นอินเดีย การสู้รบกับอังกฤษ ภาพถ่ายคานธีกับบุคคลสำคัญในยุคนั้น เช่นชาร์ลี แชปลิน หรือเนห์รู ฯลฯ มีห้องหนังสือของคานธี ห้องทำงานของคานธี จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ขณะอยู่ในคุก และชั้นบนสุดยังมีโมเดลจำลองเหตุการณ์สำคัญต่างๆอีกด้วย


นี่คือห้องทำงานของคานธี พร้อมอุปกรณ์ที่คานธีเคยใช้งานจริงๆครับ


ในบรรดาภาพทั้งหมดที่แขวนอยู่ในบ้าน ผมชอบภาพนี้ที่สุด ภาพนี้ถ่ายในปี 1924 ขณะอดอาหารประท้วง 21 วันในกรุงนิวเดลี เป็นภาพของคานธีและอินทิรา ลูกสาวของเนห์รู ศิษย์เอกของคานธี ผู้ได้ชื่อว่าเป็นบิดาแห่งประชาธิปไตยของอินเดีย และเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกหลังอินเดียได้รับอิสรภาพครับ ในเวลาต่อมาอินทิราผู้นี้ก็ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของอินเดียด้วย




ออกจากบ้านคานธีมาสักพักก็ผ่าน "ร้านซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ครับ ตอนไกด์บอกว่าจะพามาดูทีแรกผมก็งงว่าจะให้มาดูเขาซักผ้าทำไม แต่พอได้เห็นแล้วเป็นที่แปลกตาเพิ่มค่าประสบการณ์ทีเดียว กับการทำสลัมเป็นโรงซักผ้าจำนวนมหาศาลเลย ซักกันในบ่อซีเมนต์แล้วตากครับ


ก่อนขึ้นรถกลับโรงแรมเตรียมขึ้นเครื่องบินกลับไทยยังมีเวลาให้เดินเตร่แถวๆประตูอินเดียสองชั่วโมงครับ หลายๆคนก็ไปนั่งร้านกาแฟในโรงแรมรอ แต่ผมมาถึงที่นี่แล้วต้องเที่ยวสิ! ต้องถ่ายรูปไว้เยอะๆสิ! ว่าแล้วก็พุ่งออกไปเก็บภาพอันงดงามแถวประตูอินเดียที่เห็นตั้งแต่วันแรกแต่ยังไม่มีเวลาโต๋เต๋ครับ จากนั้นก็ไล่เดินในมุมไบ มีมหาวิทยาลัย ร้านค้า รถม้า อนุสาวรีย์ ร้านโกนหนวด ชั่งน้ำหนัก หรือการแสดงสดข้างทาง และยังมีอาคารสวยๆอีกมากมาย สองชั่วโมงยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ



จากนั้นเรากลับโรงแรมไปกินมื้อเย็น เป็นมื้อสุดท้ายที่จะได้กินอาหารอินเดียของโปรดแล้ว เลยเบิ้ลมันสองจานพูนๆเลยครับ ^^

มาถึงสนามบิน รอขึ้นเครื่องประมาณสี่ชั่วโมง ถึงไทยตีห้ากว่าๆได้มั้งครับ พอเช้าก็ไปทำงานต่อ ไม่ต้องนอนเลย เฮๆ~




ก่อนจบขอเล่าเก็บตกความประทับใจและสิ่งที่ได้พบเห็นในอินเดียเพิ่มเติมครับ

อาหารอินเดียเป็นอาหารที่ผมชอบกินตั้งแต่สมัยอยู่โร้ดไอแลนด์ (ตอนนั้นคงเป็นเพราะคิดถึงเครื่องเทศ) แต่ราคาอาหารอินเดียในเมืองไทยก็โหดเอาเรื่อง ร้านที่ราคาไม่โหดก็ทำไม่อร่อย เป็นอาหารอินเดียปลอม เมนูที่ผมชอบก็เช่น Chicken Tikka Masala, Korma หรือ Chicken Butter ใช้เนื้อแกะก็อร่อยครับ แต่ไม่ถูกปากคนไทยส่วนใหญ่เท่าไหร่ ของหวานก็มีขนมที่ใช้นมแพะทำหรือของหวานที่ทำจากข้าวก็อร่อยครับ หลังกินบางมื้อมีเครื่องเทศให้เคี้ยวล้างปากด้วย ไปอินเดียผมกินมื้อละ 2-3 จานได้เลย


แต่ลูกทัวร์ไฮโซพอเจออาหารอินเดียก็ทำหน้าเหมือนเข้าโรงเชือด เรียกร้องหาอาหารจีน บางมื้อไกด์พาไปทานอาหารจีนก็อุตริอยากแดกอาหารทะเลขึ้นมา และสิ่งที่ทำให้ผมเบื่อที่สุดในทริปนี้ก็คือลูกค้าไฮโซกลุ่มนี้แหละ เรื่องมากตอนกินยังพอทำเนา แต่ถึงขนาดขอให้ไกด์พาไปร้านนู้นร้านนี้แล้วมาวิจารณ์ว่าร้านกากๆ, เดินตัดหน้ากล้องแบบไม่แคร์สื่อ, พูดจาดูถูกคนอินเดียเพราะรู้ว่าเขาฟังไม่ออก, ไกด์พาเดินไปหลายๆถ้ำให้คุ้มราคาก็บ่นว่าเหนื่อย บอกให้กลับเร็วๆ, ไกด์จะพาออกเดินทางตั้งแต่ 7 โมง ก็ขอเลื่อนเป็น 9 โมงครึ่ง เพราะอยากนอน (พวกมึงมาอินเดียทำไม?) แต่ไกด์จะไม่ตามใจก็ไม่ได้ เพราะก๊วนไฮโซมากันเป็นโขลง เยอะเกินครึ่งของทริปนี้ซะอีก กรรมแท้ๆ

ตามแหล่งท่องเที่ยวจะมีชาวอินเดียคอยตามขายของตามทาง ตื๊อขนาดกระโดดขึ้นรถบัสมาตื๊อกรอกหูข้างๆ จนบางคนไม่กล้าสบตาเซลล์แมนเลือดแท้เหล่านี้ ทำเหมือนเจอผี รัฐส่งเสริมสร้างอาชีพตื๊อขายของแบบนี้ครับ ขอทานจะได้ลดลง ของส่วนใหญ่เป็นเครื่องประดับและหนังสือท่องเที่ยว ราคาไม่ค่อยแตกต่างจากที่ขายตามร้าน แต่ก่อนซื้อก็ถามราคาไกด์ดูก่อนก็ดีครับ พ่อค้าพูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน (อันที่จริงต้องบอกว่าคนอินเดียพูดอังกฤษได้ทุกคนมากกว่า เพราะถือเป็นภาษาราชการที่สอง) สื่อสารง่าย อินเดียใช้เงินรูปี บางคนจ่ายเป็นดอลลาร์ก็ได้ แต่ดอลลาร์มันใหญ่ไป ไม่รับเงินบาทนะจ๊ะ


ถึงพ่อค้าจะหน้าโหด แต่ตอนอ้อนขายของเขาทำหน้าตาน่ารักนะครับ อิอิ


ขอทานก็มีบ้าง แต่ไม่ได้เยอะเท่าที่คิด ไกด์บอกว่าฉกชิงวิ่งราวไม่ค่อยมีครับ เวลาซื้อของก็สบายใจกว่าไปซื้อแถวตลาดรัสเซียของจีนหรือตลาดดองบาในเวียดนามที่แม่ค้าดุเหมือนหมาท้องผูก ผมว่าคนอินเดียหน้าโหดแต่ใจดีนะ

เมืองออรังกาบัดให้บรรยากาศของความเป็นบ้านนอกของอินเดียที่มีทุ่งแห้งแล้งและภูเขาสุดลูกหูลูกตา มีฝูงวัวฝูงแพะเดินกันให้เพียบ ให้ความรู้สึกว่านี่แหละ อินเดียต้องแบบนี้ (มุมไบมันอังกฤษเกินไป) แม้จะแห้งแล้งยากจน แต่ผู้คนยิ้มแย้มรับแขกมากกว่าชาวมุมไบครับ


ชาวอินเดียชอบถ่ายรูป ถ้ารู้ตัวว่าเราถ่ายรูปเขาอยู่จะหันมาโพสต์ท่าให้เต็มที่อีกต่างหาก ผิดกับญี่ปุ่นที่พอเห็นกล้องก็ตีลังกาหลบกันอุตลุด (พวกแกเป็นนินจาสินะ)


สิ่งที่พบตามข้างทางมากที่สุดคือวัว รองมาคือแพะ หมา ไก่ และหมูป่า ตามลำดับ (เลี้ยงหมูป่าไว้ทำไมหว่า....?) วัวตัวที่เขาสวยๆเขาจะทาสีไว้ด้วยครับ


เมืองมุมไบมีทั้งส่วนที่เจริญเหมือนเมืองในยุโรป ในขณะเดียวกันก็มีสลัมหลายแห่ง ไกด์ไม่ได้พาไปดูส่วนที่ทุเรศๆเพราะคิดว่าลูกทัวร์ผู้ดีหลายคนคงรับไม่ได้แน่ๆ แต่อย่างน้อยก็มีขี้คนและขอทานให้เห็นตามถนนบ้างนะ



งานแต่งงานเป็นงานสำคัญที่ชาวอินเดียจะยากดีมีจนอย่างไรก็พร้อมทุ่มเงินเต็มที่ บ้างก็จองทั้งโรงแรมเพื่อจัดงานแต่งงานกันเลย คุณชาร์ลีเล่าเรื่องการกดขี่ผู้หญิงในอินเดียสมัยโบราณที่ผู้หญิงแทบจะอยู่ไม่ได้หากปราศจากคู่ ถึงขนาดเล่ากันว่าถ้าสามีตาย แม่หม้ายต้องกระโดดเข้ากองไฟตายไปด้วยกัน แต่ผมว่าปัจจุบันไม่มีแล้วหละ


ทีวีช่องต่างๆบางทีก็มีรายการแบบอินเดี๊ยอินเดีย ดูเป็นเอกลักษณ์ดี ดาราอินเดียเต้นเก่งนะครับ




สมัยก่อนเวลานึกถึงคนอินเดียผมจะนึกถึงคนตัวดำๆ ใส่กำไลอันใหญ่ๆ เต้นโยคะแปลกๆ แล้วก็พ่นไฟด้วย ...นึกไปนึกมา นั่นมันไอ้ดัลซิมแล้ว!! เกมมันมีอิทธิพลต่อความคิดเด็กมากจริงๆ จะว่าไปดัลซิมนี่มันไทป์แอฟฟริกันชัดๆ

ส่วนช้างมาเดินตามเมืองหรือเป่าปี่แล้วมีงูออกจากไห รอบที่ไปยังไม่เห็นนะครับ

ดัลซิมจ้ะนายจ๋า



สงกรานต์นี้ เที่ยวให้สนุกและปลอดภัยนะครับ เจอกันคราวหน้าทริปพม่าจ้า





Create Date : 10 เมษายน 2556
Last Update : 30 กรกฎาคม 2560 19:05:14 น. 73 comments
Counter : 4768 Pageviews.

 
เจิม


โดย: schnuggy วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:2:12:18 น.  

 
โห วันนี้ฟังน้องริวร่ายยาวเรื่องสารอาหารในจานสปาเก็ตตี้
ฟังแล้วมึนตึ๊บ 555555 จบโภชนาการมาแน่ๆเลย

วันนี้มาจองที่ไว้ก่อนเน้อ ง่วงแระ
ฝันดีค่า


โดย: schnuggy วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:2:13:33 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

พี่ก๋าโหวตบล็อกท่องเที่ยวให้นะครับ

อินเดียเป็นประเทศที่พี่ก๋าอยากกลับไปอีกมากที่สุดพอๆกับจีนเลยครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:6:50:14 น.  

 
ป๊าดดดดดด

มหากาฬย์ อภิมหาความยาวและแน่นแท้
ลงชื่อก่อน

เด๋วกินข้าว เคลียร์งานนิดมาอ่าน วันนี้ท่าจะว่างแระ อิอิ




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:9:15:09 น.  

 
สวัสดีตอนสายๆ ครับคุณชีริว .....

ยาวจุใจมากครับบล็อกนี้ ทั้งเรื่องราวและรูปภาพประกอบ .....

อ่านไปได้ยังไม่ถึงครึ่งเลย ขอแปะเม้นท์ไว้ก่อน เดี๋ยวมาอ่านต่อครับ ตอนนี้ต้องไปทำงานก่อนล่ะ .....



โดย: NET-MANIA วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:10:24:52 น.  

 
ท่านพี่ศาสนสถานที่อินเดยกับบ้านเราไม่ต่างกันเลยเนอะ

อย่างว่าแหล่ะเมืองพุทธเหมือนกัน จะให้ต่างกันมากมายก็ไท่ใช่

อยากไปบ้าง แต่คงลำบาก เป็นพวกกินยาก ไม่กล้ากิน 555+

ดีจะได้ผอมๆ อดตายกันไปข้าง ถ้าไปที่ไหนสักที่ ที่ไม่ใช่เมืองไทย คงได้แบกม่าม่าไปแน่นอนเลย เอิ๊กๆๆๆ

อย่าว่างั้นเลย ค่าเครื่องยังไม่มี ภาษาก็อ่อนได้อีก อิอิ

อยากไปอินเดีย อยากไปดูถ้าเอลโลร่า ดูน่้าไปดีอ่ะ มองจากข้งนอกสวยดี แต่ไม่รู้ข้างในเป็นไงมนุษย์เราก็เก่งนะ สร้างนั่นนี่ได้เยอะแยะเชียว
โว้ ถ้าอย่างใหญ่เค้าสร้างกันนานแค่ไหน ใช้คนกี่คน อ๊ากกกกถ้าเป็นเค้าคงไไหวตายก่อนพอดี

แต่ยอมรับท่านพี่มาก แบ่งเป็นหลายตอนก็ได้นะ แต่เล่นเอาลงบล็อกเดียว สมองเค้าจำไม่หมด แม้จะอ่านจบก็ตามเหอะ เอ้อ!เพลียกับสมองตัวเองมากกกก 555


อ่านไปอ่านมามึนด้วย อิอิ เอาเป็นว่าเดี๋ยวมาใหม่นะ มาอ่านทีละเรื่อง เม้นทีละอัน ตอนนี้มึนมาก 555+

สงสัยสมองถึงบ้านนอกแล้ว คิดถึงลูกสาวสองตัว อิอิ

กลับบ้านนอกแล้วนะ กลับมาก็ 18 นั่นล่ะ เที่ยวสงกรานต์ให้สนุกนะคะ เที่ยวเผื่อด้วย เค้าคงไม่ออกไปไหน

เดินทางปลอดภัยนะคะ


โดย: maitip@kettip วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:10:40:29 น.  

 
อินเดียพี่ก๋าไป 4 สังเวชฯครับ
ไม่ได้เที่ยวที่สวยๆงามๆเลย 555
เจอแต่ความสังเวช
แต่ชอบนะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:10:58:29 น.  

 
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
like like like ค่ะ
ชอบจังเลยบล๊อกนี้ค่ะคุณชีริว
บุ๊งไม่เคยไปอินเดียค่ะ
แต่บล๊อกนี้ทำให้อยากไปเลยนะคะ ขอบอก

ที่เห็นนี่ถ้ำหมดเลยเหรอคะ
กรี๊ดมากๆ ค่ะ
ถ้ำหมายเลข 19 สวยจริงๆ ค่ะ
ดูไม่ออกเลยว่าเป็นถ้ำ
นึกว่าเป็นแบบแนวปราสาทไรงี้เลยค่ะ

แอบมีฮาเล็กน้อย
คนอินเดียหน้าดุแต่น่ารักเหรอคะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:11:29:17 น.  

 
2 ถ้ำแรก น่าไปสุดๆครับ(อ่านจากหนังสือท่องเที่ยว)
ไว้มีโอกาสจะไปเที่ยวบ้างครับ
ชมภาพจากบล็อกคุณชีริว ไปพลางๆก่อนครับ
ห้องทำงานของคานธี มีโต๊ะ ที่นอนเป็นเก้าอี้
นั่งทำงานเสร็จ ก็นอนข้างโต๊ะ
อาหารอินเดีย ถ้าไปเที่ยวเองแบบไม่มีไกด์ คงได้รับประทานทุกมื้อครับ

จากที่บล็อก ข้าวหุงเสร็จ ก็โรยด้วยดอกชมนาด หอมชื่นใจครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:13:00:34 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณชีริว มาเที่ยวอินเดียด้วย
ชอบภาพที่สอง วิวสวยกระชากใจมากกก

จริงๆแล้วมีความรู้สึกว่าประเทศอินเดียไม่น่าเที่ยว แหะๆ
พอมาเห็นที่นี่ ผิดคาดอ่ะจิ
สถานที่ต่างๆ น่าสนใจมาก นึกอยากไปเที่ยวมั่งซะแล้ว

ไล้ค์ก่อนนะนายจ๋า อิอิ



โดย: mambymam วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:14:04:34 น.  

 
อิอิ มาอ่านบล็อกน้องชีริวสามบล็อกรวดครับผม ^^

อยู่กับนักวิชาการที่มีข้อมูลแน่นๆแบบนี้คนอ่านสบายเลยนะครับ ไม่ต้องเอาหัวหาข้อมูลมาย่อยอีก 555++

อ่านราคาน้ำมัน ไฟฟ้า แล้วก็เที่ยวอินเดีย แหมละเอียดยิบเลยนะครับผม ตาส่วางเลย สุดยอดครับ

อินเดียจากที่มีคนบอกจนกลัว ดูในนี้แล้วก็ทำให้กลัวน้อยลงนะครับ 5555++

ศิลปะเขาเหนือกว่านครวัดเลยครับ อันนั้นใช้หินทรายหยาบๆ เจาะไม่ยาก อันนี้หินภูเขาไฟเลยนะครับ

จะคอยติตตามพม่าตอนต่อไปครับผม อิอิ ^^







โดย: วนารักษ์ วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:14:38:33 น.  

 
สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากที่เข้าไปเยี่ยมบล็อคของแม่บุญ ๆ เลยถือโอกาสมาเที่ยวอินเดียต่ออีก อิ อิ ของมัก อ่านรีวิวของน้องแล้ว น่าเสียดายที่ไปกับกลุ่มไฮโซ...คราวหน้าลงชื่อไว้ทัวร์ทุลักทุเล ทรมาน ทรกรรมทัวร์กับแม่บุญจะมันในชีวิตแบบหาที่ไหนไม่ได้อีก รับรองค่ะ ..

แม่บุญไปเที่ยวลาว เวียดนาม และพม่า แบบหนักหนาสาหัส ที่พอเบาะ ๆ ก็นั่งรถไฟไปเที่ยวมาเลเซีย อันนั้นถือว่าดีหน่อย นี่เป็นทริปทัวร์เอเชีย แต่ญี่ปุ่นยังไม่เคยไป คงจะไป..แต่รอคิวไว้ก่อน

หากอยากเที่ยวยุโรป พอจะเป็นไอเดีย..ลองเข้าไปอ่านดู ที่อยากแนะนำคือ เที่ยวฝรั่งเศส เพราะแม่บุญไม่เจาะลึกปารีส แต่เจาะลึกชนบทของฝรั่งเศส ที่มีมนต์เสนห์แบบไปแล้วไปอีก ไม่มีเบื่อ ไปกันได้ทุกปี แต่ปีนี้เดือน มิย.จะไปตลุยโปรตุเกส ๓ อาทิตย์ ตั้งแต่เหนือจดใต้ เราเที่ยวกันแบบนี้แหละค่ะ พอไปที่ไหน ๆ ก็ไปกันเป็นเดือน เอาให้เห็นกันจะ ๆ ถึงก้นครัว เพราะชอบกิน ชอบทำอาหารกันอีกด้วย ที่สำคัญเราไม่เลือกนอนโรงแรม...มันไม่หนุก ไปนอนบ้านชาวบ้านเขาเลย ได้อารมณ์กว่าเยอะ อาจจะไม่สะดวกบ้าง แต่มันรู้จักผู้คน จารีต ประเพณีเขาด้วย

เที่ยวกับแม่บุญ...มีเรื่องเกร็ดเล้กเกร็ดน้อยตลอดการเดินทาง เพราะคงจะ...อายุมาก...มีมุมมองที่แตกต่างออกไป เขียนไปตามที่นึก ที่คิด ที่รู้สึก มันเลยมีหลากหลายรสในเรื่องเดียว ..แมงโม้บินเข้าปากอีกแล้ว ไม่พูดแล้ว ไปอ่านเองนะคะ

ส่วนแม่บุญ..จะตามมาอ่านรีวิวเรื่องอื่น ๆ แต่ตอนนี้ขอตัวไปเตรียมทำซาลาเปาก่อน ..แล้วจะเอามาให้ชิมค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:15:05:54 น.  

 
ทำไมคุณชีริวต้องอัดให้จบตอนเดียวน้าาา บ่นแบบเปิดเผยค่ะ

ภาพสวย อลังการ ชอบงานแกะสลักหินแบบนี้ค่ะ เหมือนเค้าทุ่มทุนสร้างจริงๆ ใส่ใจสุดๆ เคยคิดว่าพี่จีนมีแต่อะไรใหญ่โต ได้เห็นแบบนี้เปิดหูเปิดตาดีเหมือนกัน อินเดียในมุมที่ไม่ได้ตามรอยสังเวชนียสถานแค่นั้น อยากไปเนาะ

หลงไปกับลูกทัวร์ไฮโซ ทำใจหน่อยนะคะ พี่ไม่เคยลองอาหารอินเดีย เค้าว่าที่บ้านเราก็พอจะมีอินเดียแท้ๆ อยู่บ้างนะ (เคยเห็นในทีวีน่ะ)

ภาพเล็กๆ ที่กดดูเพื่อให้เป็นรูปใหญ่ ก็ยังหมุนอึดใจใหญ่เหมือนเดิม สวยจริงๆ ค่ะ ตื่นตาตื่นใจมาก ชอบค่ะ



บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น






โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:15:16:11 น.  

 
ค้างหน้าบล็อกนี้ไว้นานมาก จะบอกคุณชีริวเหมือนกันค่ะ เห็นเนื้อหาบล็อกวันนี้ นึกถึงแม่บุญพาเที่ยวอินเดียเหมือนกัน ได้เห็นคอมเมนท์ของแม่บุญพอดีเลยค่ะ

*** บัตรเซเลเนดนี่ดีนะ เป็นอภิสิทธิ์ชนโดยแท้เลย พี่ไปงานหนังสือตั้งแต่ประตูเปิดด้วยซ้ำ ยังต้องไปจอดที่โรงงานยาสูบปู๊นนนน ของอภิสิทธิ์ชนที่จอดเยอะมาก ไม่มีคนจอด...

ที่เที่ยวแบบนี้ หรือเค้าจะรู้ว่ามีแต่คนเดินมังคะ ร้านไหนร้านนั้น แพงหูดับตับฉีก พี่ไม่ได้กินหรอก เดาๆ เอาว่าน่าจะเหมือนเอเชียทีค / หมาตัวเท่าวัวเลยเหรอ เซนต์เบอร์นาดหรือเปล่าคะ หมาที่พี่ถ่ายมา เค้านอนขี้เกียจไม่อยากเดิน เบื้องหลังคือ ถ่ายมาสามช็อต ใช้ได้ภาพเดียวค่ะ

ยังไม่จบนะ ดอกไม้ในครึ่งชั่วโมง ดูความสามารถพี่สิ

เดือนนี้คุมไม่อยู่ค่ะ ค่าไฟเพิ่งมา จากเดือนที่ผ่านๆ มา 2,400 - 2,600 เดือนนี้ทะลุไปถึงสามพันกว่า แม่เจ้า


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:15:25:28 น.  

 
นั่นๆๆๆ ไม่อัพตะพาบอีกแย้ว ..นึกว่าจะได้อ่านเรื่องราวโรแมนติก ของหนุ่มๆ แถวนี้ อิอิ..

แต่โหๆๆ ทริปดอง มาตั้งแต่ ปลายปีหรือนี่ มิน่ายัด มันลงบล็อกเดียว จะรีบไปไหน หาา..เนื้อหาก็แน่นเปรี๊ย น่าอ่านทั้งนั้น ไม่สงสาร คน สว มั่งนะหูตาลาย พอดี ..กัน
พี่อ่านได้ไม่ถึงครึ่ง เอาไว้มาต่ออีก ..ต้องไปตามอ่านงานตะพาบเพื่อน สักหน่อย..
เมือ วานอัพเสด หายจ้อยเลย ..
เที่ยวแบบนี้ นะ ต้องมีข้อมูลอ่านก่อนไป หรือดูไปอ่านไป จะได้อรรถรส ..จะไปเดินดูรูป เฉยๆ ไม่ได้แน่ ..

ยังดีนะมีโอกาสได้เที่ยว พี่ไม่เคยไปเลย มีรุ่นพี่ที่รู้จัก ชวนไปทริปที่ซีริวไม่ได้ไป แหละ แต่พี่ติดเรื่องเวลา เขาไป 10 วันแนะ แล้วพี่ทิ้งกิจการไปนานๆ อย่างนั้นได้ที่ไหน ..ต้องบอกตัวเอง ว่าบุญยังไม่พอ ..อิอิ..

เด๋วมาอ่านต่อ ช่วงสงกราน ไม่ไปไหน อยู่เฝ้าสำนัก ฮี่ๆ ..
วันนี้เห็นใครๆ เขาเดิน ทาง แล้ว เราซัก อยากไปกะเขามั่ง แต่พอ มาดูทีวี รถติด ยาวววว(สม ..อิอิ) ..



โดย: tifun วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:15:30:19 น.  

 
จากที่อ่านได้เปิดมุมมองใหม่เยอะดี พวกถ้ำของเขารู้สึกจะเยอะจังนะครับ

พวกลูกทัวร์เจอพวกกากๆ แล้วเซ็งครับ ยิ่งถ้าพวกเขาเป็นคนหมู่มากยิ่งลำบาก เราคนส่วนนั้นในกลุ่มก็ต้อมงยอมๆ ถึงในใจจะด่าก็ตาม

โดยทั่วไปที่ผมเจอจะเป็นลักษณะ 6-7-8 นอกจากว่าลูกทัวร์เหนื่อยล้ามาก จะเป็น 6 ครึ่ง 7 ครึ่ง 8 ครึ่ง ซึ่งก็ต้องดูด้วยว่าเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวนานมั้ย เพราะบางครั้งหลายคนยอมออกเช้าแต่ขึ้นรถแล้วหลับกันหมดเลยก็มี

เรื่องอาหารเจอบ่อยนะอาหารจีน ส่วนหนึ่งเพราะถูกปากคนไทยด้วยแหละ แต่อีกส่วนก็เพราะราคาด้วย

ผมยังค่อนข้างอคติกับอินเดีย เนื่องจากข่าวการข่มขืน และข่าวอะไรอีกหลายๆ อย่าง ความจริงไปเที่ยวไม่ว่าประเทศไหนก็ตามถ้าไปกับบริษัททัวร์ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร ถ้าไปเองนี่แหละจะมีปัญหา (แต่สนุกกว่า)

หลายคนคงไม่คุ้นกลิ่นเครื่องเทศด้วยแหละ ส่วนตัวผมเรื่องอาหารผมเฉยๆ กินอาหารท้องถิ่นได้ทุกมื้อ เพราะเราไปเที่ยว แต่ถ้าไปอยู่อันนั้นอีกเรื่องเหมือนกัน


หนูหมึกน่าจะรุ่งในฐานะตัวร้ายครับ ปัญหาต่อมาคือจะหาใครเข้ากลุ่มตัวร้ายต่างหาก

+


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:21:24:10 น.  

 
มาแล้วววววว บอกว่าวันนี้จะว่างทั้งวัน
แต่กลับหายไปทั้งวัน

มาอ่านเอาเวลานี้แหละ
ขอตัวแป๊ปปปปปป



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:22:21:38 น.  

 
โห อ่านนานมากกกกก
กำเลย ไปกะกลุ่มทัวร์ไฮโซกว่าครึ่งเนี่ย อย่างเซ็ง
คราวหน้าบอกมันไปฮ่องกง เกาหลีโน่น มาเตร่อะไรแถวนี้
มาก็บ่น เดินก็เหนื่อย เพราะเป็นโบราณสถานทั้งนั้น
ถ้ำๆ แต่ละที่สวยมากกกกกก


การแกะสลักวิจิตรเหลือเกิน
ไม่รู้่ว่าคนแกะสลักพอแกะำ้้ำถ้ำนั้นเสร็จก็จะถูกฆ่าตายด้วยหรือป่าวนะ
เพราะกลัวไปแกะถ้ำอื่นได้สวยกว่าไง

แบบนี้เรียกว่า ความเห็นแก่ตัวชัดเลย กำจริงๆ





อาหารอินเดียชอบมากเลยเหรอ กินที 2-3 จานพูนเลย
กลับมาน้ำหนักขึ้นเลยใช่ป่าว 555 ปกติก็ตัวบวมอยู่แล้วนิ


แต่อาหารอินเดียยังไงก็ถูกพวกแกงค์ไฮโซบ่นอีกแระ กำจริงๆ
ใครได้ไปร่วมทริปกะพวกไฮโซนี้ โคตรเซ็งเลย


คนอินเดียหน้าโหด แต่น่ารัก ไม่รู้นะ
เพื่อนรินไปก่อนหน้าคุณชีริวอาทิตย์เดียวนี่มั้ง
ก็ถูกแท็กซี่จะหลอกเอาเงินจากหนามบินไปส่งโรงแรมซะอีก
ไม่ได้แอ้มหรอก 555
เค้าพากันไปกันเองน่ะ หนุกดีเหมือนกัน

แต่ไปกะทัวร์เนี่ย มีโปรแกรมแล้ว
บางทีก็ให้เวลาเรา ดูวันสุดท้ายคุณชีริวก็ได้ใช้เวลา 2 ชั่วโมงไปเดินถ่ายรูปต่อ
ในขณะที่หลายคนจิบกาแฟรอเวลาอย่างเดียว

การมาทัวร์ของแต่ละคนต่างกันด้วยมั้ง
บางคนมาเที่ยวจริงๆ คือศึกษาข้อมูล ได้รู้ได้เห็นทะลุในสิ่งที่อยากรู้มาสัมผัส

แต่ กับบางคนมาแค่ถึงอย่างเดียวถ่ายรูปเป็นที่ระลึกแล้วกลับมาเล่าต่อว่า ชั้นไปถึงแระ คงเป็นพวกไฮโซนั้นแน่ๆ 555




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:22:52:52 น.  

 
โหย.. น่าตามไปเที่ยวมากๆเลยครับ จะไปเที่ยวอินเดียผมเองก็นึกถึง
โบราณสถานที่มีชื่อเสียงต่างนี้แหละที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว
ตึกสไตล์อังกฤษสวยดีแปลกตาเข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมของอินเดียเลยครับ


โดย: Don't try this at home. วันที่: 11 เมษายน 2556 เวลา:22:54:44 น.  

 
โหวตท่องเที่ยวให้กับความตั้งใจอัพอภิมหาอัดแน่นจ้า อิอิ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog

ตาจะปิดแระ ทำบล้อกก็ไม่เสร็จแงๆ
ดองต่อไป



โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:0:23:24 น.  

 
โบราณสถานเก่าแก่มากๆ
ดูลึกลับแปลกๆค่ะ ^^



โดย: lovereason วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:1:52:02 น.  

 
แววพี่มาแล้วค่ะ คุณชีริว สงกรานต์นี้คงอยู่กรุงเทพฯ แน่เลย ให้กำลังใจตัวเองว่าอีกตั้งนานกว่าลูกจะเปิดเทอม หวังทริปไกลอยู่นะ


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:9:05:12 น.  

 
ภาพคมชัด เป็นบล็อกที่น่าสนใจอ่านเป็นอย่างยิ่ง อ่านไปพี่ก็คิดไป เอ..นี่น่าจะเป็นคอลัมน์นิสต์ซักคนในคมชัดลึกเขียนเลยนะเนี่ย 555

สุขสันต์วันสงกรานต์นะน้องริว


โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:13:37:54 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณชีริว..

อ่านจบ ไม่ต้องไปแล้วอินเดีย..

เพราะได้ไปเที่ยวกับคุณชีริวมาเรียบร้อยโรงเรียนจีนไปแล้ว

บรรยายได้ละเอียดดีค่ะ..

ขอให้มีความสุขมากๆในเมศกาลปีใหม่ไทยนะค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:17:37:32 น.  

 
สงกรานต์คงไม่ไปไหนนค่ะ พี่ไม่ชอบเที่ยวเทศกาล
คนเยอะ ต้องแย่งกันทุกอย่าง ต้องเข้าคิว
เบื่อมากๆ
คิดว่าคงนอนตีพุงอวบๆอยู่บ้านริมคลองค่ะ อิอิ
มีฟามสุขกว่าเยอะเลย



คุณชีริวไปไหนรึป่าวคะ



โดย: mambymam วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:19:20:46 น.  

 
อยากลองไปญี่ปุ่นเองเหมือนกัน ว่ากันว่ามีหมื่นหมดหมื่อ มีแสนหมดแสนเลยทีเดียว สำหรับญี่ปุ่น

ด๋อยจัดมาแล้ว (หลายตัว) ตอนนี้เหลือแค่จะแกะเมื่อไหร่ (ต้องหาตู้มาเพิ่มก่อน) ตอนนี้ได้ริทสึมาแล้วด้วย K-ON วงน้ำชายามบ่ายสมาชิกครบซะที

ตัวที่มีอยู่หักหลังให้เป็นตัวร้ายคงน่าสงสารจริงๆ คงโดนเกลียดกันตรึม แต่จะเป็นตัวเด่นไปเลยเช่นกัน

เท่าที่ดู ตัวที่ซื้อมายังไม่มีตัวที่ดูร้ายแบบร้ายจริงๆ เลย^^


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:19:35:31 น.  

 
นี่แหละน้า บล็อกนี้ อัดแน่นจนต้องเสียเวลาในการอ่านเยอะ
ยังไม่ได้แซวอีกา คิดสั้นจะกระโดดน้ำตายด้วย

ภาพให้มากกกกก 555

มาทันเวลาพอดี บล็อกรีสอร์ทนั้นปิดทำการแระ
เปิดทำการบล็อกใหม่
ทำเสร็จ สดๆ ร้อนๆ มาอ้อนคนบ้านนี้ไปชมก่อนล้อหมุน อิอิ






One Day Trip ฉะเชิงเทรา
เราไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง




โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:19:45:59 น.  

 
สวัสดีครับน้องชีริว


4 สังเวชฯพี่ก๋าไปด้วย
แต่เหมือนไปถ่ายรูปให้กลุ่มคณะสงฆ์ครับ
ส่วนใหญ่เขานั่งปฏิบัติกัน
พี่ก๋าเดินถ่ายภาพครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:20:33:04 น.  

 
ด๋อยผู้ชายที่่แกะแล้วคือ นายเคียวน์

ที่ยังไำม่แกะเป็นตัวเอกจากเรื่อง BAKUMAN ทั้งหมดเลย (ชูจิน ไซโค นิสิมะ) +มิโฮะ (อันนี้ตัวผู้หญิง)


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:22:10:57 น.  

 
ลองไปอ่าน ทริปพม่า ลาว เวียดนาม และฝรั่งเศสดูนะคะ เพราะมีภาพสวย ๆ ให้ชมเพียบเลยค่ะ

ตามชนบทของยุโรป บางครั้งจะมีบ้านแบ่งให้เช่าเป็นห้อง ๆ เจ้าของบ้านอยู่อีกซีกหนึ่งของบ้าน แล้วจะรวมอาหารเช้าด้วย พักแบบนี้เราสองคนชอบ และประทับใจมากกว่าพักตามโรงแรมค่ะ เพราะได้พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเจ้าของบ้านด้วย บางครั้ง..บ่อยเหมือนกัน ที่แม่บุญหอบเครื่องครัวไปด้วย เพราะขับรถเที่ยวกันเอง เลยมีเนื้อที่เยอะในรถ ทีนี้พอไปถึงที่พัก บางครั้งแม่บุญจะขอทำอาหาร และเรียกเจ้าของบ้านมาทานด้วยค่ะ เที่ยวแบบนี้สนุกมาก ลองตามไปอ่านนะคะ

ขอบคุณมากสำหรับความรู้เรื่องพลังงานค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 12 เมษายน 2556 เวลา:23:40:37 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ไทยจ้า

มีความสุข สดชื่น เย็นกาย สบายใจนะคะ



วันนี้โดนภูมิแพ้เล่นงาน มึนหัวค่ะ
ไว้อาการดีขึ้นจะกลับมาเที่ยวอินเดียด้วยค่ะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:1:16:04 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:6:34:30 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะคุณชีริว



ขอให้มีความสุขความโชคดีตลอดไปนะคะ

เที่ยวสยามโอเชี่ยนเวิลด์เผื่อด้วยนะ






โดย: mambymam วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:10:07:25 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:13:07:33 น.  

 

สวัสดีวันปีใหม่ไทย
ขอให้สุขใจสุขสรรและสุขขี
ทุกถ้วนหน้าทุกคนสมฤดี
ตลอดปีตลอดไปทุกคนเอย....





โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:14:50:15 น.  

 
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ


โดย: **mp5** วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:16:26:48 น.  

 
อ่านจบแล้ววว อิอิ..ได้แต่ทึ่ง ..กับปฏิมากรรมในถ้ำ แถมมาเจอกำลังทำกันสดๆๆอีก เขาเก่งเนาะ ..กว่าจะแกะสลักหินได้สวยขนาดนี้ ..

ดีที่ถ้ำเขาไม่น่ากลัวเหมือนบ้านเรา พอบอกถ้ำ พี่ไม่อยากเข้าเลย หายใจไม่ออก อึดอัด เป็นคนกลัว มืดๆๆ พี่ชอบนึกว่ามันจะถล่ม (บร้า..)
ภาพแรก เหมือนบ้านเราเลย บนสะพาน .. นะ ไปเที่ยวอินเดียอากาศ คงพอๆกะเรา พูดถึงไปเที่ยวกับพวก"ฮโซเนี่ยพี่เคยเจอ พวก ประเภท ลำบากไม่เป็น เขามีอย่าง นึงจะเอาอย่างนึง..กินยากอยู่ยาก ไม่น่าไปเลย ก็ที่ไหนจะสะดวกเท่าบ้านเราเนาะ..อิอิ..

แต่ที่พูดเหมือนกัน คือ ขอทานเยอะเขาว่า .ก็ได้แต่อิจฉาเนาะได้เที่ยว แล้วก็เอามาแบ่งกันดู ..

สงกรานต์ ไม่ได้ไปไหน มาสาดน้ำ เล่น ..โจทตะพาบรอบนี้ พี่แถ ไปได้ แต่รอบหน้า เอ๊า เอาอีก ..ความรักครั้งสุดท้าย ..เหอๆ สงสัยจะเขียนไม่ออก ครั้งแรก พอ ว่า..หุหุ..
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...



โดย: tifun วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:16:56:05 น.  

 
สวยงาม อลังการ น่าไปเที่ยวชมมากค่ะ


โดย: sawkitty วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:19:31:28 น.  

 
แหะๆ ครับผม มีอีกคนนึงครับจำไม่ได้ อัพเพลงฝากฟ้าทะลฝันด้วยครับ แต่ว่าไม่ได้เขียนงานตะพาบครับ ^^

สงสัยหลานๆจะเกิดไม่ทันนะครับเพลงนี้ 555+++

มีความสุขสดชื่นแจ่มใส เคลียงานได้หมดเกลี้ยงเลยนะครับน้องชีริว

สุขสันต์วันสงกรานต์
มีความสุขสดชื่นแจ่มใส
ไร้ทุกข์โศกไร้โรคภัย
คิดหวังสิ่งใดได้พลันเอย อิอิ ^^






โดย: วนารักษ์ วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:22:02:28 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
ข้ามขอบฟ้า Music Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


มาแล้วค่าาาา อิอิ

ตลาดรัสเซีย เมืองจีน
อันนี้หมายถึงสองประเทศหรือเปล่าคะ
แต่แม่ค้าจีนน่ากลัวจริงๆ อ่ะ
ถ้าไม่ชอบจริงๆ ก็ไม่กล้าต่อราคานะคะ
แต่จะว่าไปก็ไม่เป็นไรนะคะ
เพราะฟังไม่ออกอยู่ดีค่ะ 5555555555555


โดย: Close To Heaven วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:22:06:23 น.  

 
ไม่เคยไปอินเตียแต่ดูแล้วก็เจริญมากเนอะ
สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่ง ใหญ่โต กว้างขวางมาก ๆ เลยคะ
..
เพิ่งรุ้ประวัติทัชมาฮาล เจ้าอินเดียก็โหดไม่เบาเหมือนกันนะเนี่ย
..
ไปกับไฮโซ ก็ต้องทำใจ บางคนไม่เกรงใจคร ถือว่าเงินในมือตัวเองเป็นใหญ่..แบบนีน่าไล่ให้ไปคนเดียวจิรง ๆ
..
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะ


โดย: ปันฝัน วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:22:38:26 น.  

 
สวัสดีตอนดึกๆ วันสงกรานต์ครับ .....

กว่าจะได้แวะเข้ามาอ่านจนจบ ก็ข้ามไปซะสองวันแล้ว ขออภัยด้วยนะ .....

เส้นทางท่องเที่ยวอินเดียที่คุณชีริวไปเที่ยวคราวนี้ ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้เห็นจากที่ไหนเท่าไหร่ ไม่รู้เพราะคนไทยไม่นิยมเที่ยวแนวนี้หรือเปล่า .....

ดูผลงานแกะสลักหินทั้งภูเขา ให้เป็นถ้ำเล็กถ้ำน้อยที่ภายในเต็มได้วยภาพแกะสลักสุดวิจิตรบรรจงแล้ว ผมว่ายิ่งใหญ่อลังการไม่แพ้งานแกะสลักของปราสาทหินนครวัตที่เขมรเลยนะครับ น่าทึ่งในฝีมือและความพยายามของคนสมับโบราณจริงๆ .....

อาหารแบบแขกๆ สำหรับผมไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่เลย เคยไปเที่ยวเนปาล เขาพาไปทานอาหารพื้นเมือง ผมว่ารสชาติแปลกๆ แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้ไปลองชิมนะครับ เพราะผมคิดว่า อุตส่าห์ไปเมืองเขาทั้งทีก็ต้องไปสัมผัสให้หมดทั้งที่เที่ยว ศิลปวัฒนธรรม รวมถึงอาหารการกิน ถึงจะเรียกว่าเที่ยวอย่างคุ้มค่า .....

ว่าแต่ไปเที่ยวอินเดียตั้งหลายวัน ทำบล็อกเดียวจบเลยนะครับ ยังคิดอยู่ว่าทำไมบล็อกนี้ถึงไ้ด้ยาวเป็นพิเศษ ดูจากภาพและข้อมูลที่อัดแน่นแล้ว จริงๆ ซอยเป็นสามสี่ตอนก็ยังได้เลยนะเนี่ย .....



โดย: NET-MANIA วันที่: 13 เมษายน 2556 เวลา:23:41:01 น.  

 
ถ้าพูดถึง อินเดีย + อาหาร ก็ต้องนึกถึง "บังก้อง" ด้วยสิครับ
(ถูกเป็ด @pantip จิก อ๊าคคคคคคคคคค)

.....

สงกรานต์นี้ผมไม่ได้ไปเล่นน้ำ...
แต่ถูกขังในห้องน้ำครับ (เฮือก!)
คือต้องเคลียร์แบบดีเทลห้องน้ำให้เสร็จน่ะ
ช่างเป็นงานที่เหมาะจะทำในช่วงสงกรานต์จริง~จิ๊ง

ช่วงก่อนหน้านี้ผมพลาดไปหลายเอนทรีย์สินะครับ
ได้อ่านแล้วล่ะแต่ไม่ว่างตอบ (ถูกขังในห้องน้ำนั่นแหละ)
ทั้งการ์ตูนเอย...ทั้ง ปตท.เอย ได้ข่าวว่าเป็นประเด็นร้อนในโซเชียวมีเดียด้วยนิ
(แต่ทำอะไรผมไม่ได้หรอก เพราะเน็ตผมไม่มีสัญญาณ ^^")

เอนทรีย์นี้ก็เหมือนกันครับ ผมยังอ่าน+ดูรูปได้ไม่หมด
ไว้ค่อยมาใหม่ครับ...ไปล่ะ ^^


โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก วันที่: 14 เมษายน 2556 เวลา:13:01:16 น.  

 
มาแล้วค่าน้องริว มาอ่านแระ
โห...บล๊อคนี้อลังการณ์มั่กๆ ยาวเฟื้อยเลย
จริงๆแบ่งทำได้สามบล๊อคเลยนะนั่น

ขอบคุณที่หาภาพสวยๆมาฝากค่า
พร้อมคำบรรยาย อิอิ เพิ่งเดือนธค.ยังดองไม่ได้ที่เท่าไรน๊า
ของพี่บางอันนี่ปีกว่าแระ แหะๆ ละอายมั่งมั๊ยล่ะเนี่ย

ขอชมแบบนี้แล้วกันค่ะ ไม่เคยคิดจะไปอินเดียกะเค้าเลย บอกตรงๆ
รับไม่ได้แบบที่น้องริวพูดนั่นแหละ
ถ้าจะไปทำบุญ ขอไปที่ที่เราสบายนิดนึงแล้วกันเนาะ
ไม่ต้องสบายมาก ขอสบายนิดหน่อยก็พอ ยังยึดติดกับวัตถุน่ะ แหะๆ
อาหารก็ไม่ชอบตรงเนื้อแกะนั่นแหละ ที่นี่เค้าก็กินกันนะ
พี่กินไม่ได้อ่ะ มันเหม็นมาก ติดปากติดคอไปหลายวัน
ขนาดไปกินที่แคนทีนนะ สั่งแบบไม่รู้ด้วยว่าเนื้ออะไร
สรุปว่ากินไปได้3คำ ต่อไม่ไหวจ๊ะ ต้องอมลูกอมทั้งวัน

วันนี้มีหมึกแดดเดียวค่ะ



โดย: schnuggy วันที่: 14 เมษายน 2556 เวลา:15:27:13 น.  

 

กรี๊ดดดดดดดดด

เม้นท์เค้าโดนแบน แงๆ

ไม่ได้เขียนอะไรหวือหวาซะหน่อย กู้ให้หน่อยจ๊า



โดย: schnuggy วันที่: 14 เมษายน 2556 เวลา:15:28:02 น.  

 
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ




โดย: tifun วันที่: 14 เมษายน 2556 เวลา:18:41:19 น.  

 
มาแล้วค่าน้องริวที่รัก(ของใครหว่า)

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Home & Gargen Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: schnuggy วันที่: 15 เมษายน 2556 เวลา:0:46:30 น.  

 
น่าเอาไวด์ไปส่องมวากกกกกกกก

หูยยยย

น้ำลายไหล


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 15 เมษายน 2556 เวลา:1:09:12 น.  

 
มาแล้วววววว

เพิ่งกลับจากเที่ยวกาจน์มา อิอิ
ไปมา 2 คืน 2 รีสอร์ท

คงได้อัพ 3 บล็อกแน่ๆ

แต่เมื่อไหร่มะรู้ บอกไว้ก่อน ฮรี่ๆ



จากบล็อกรินนั้น น้องขาวอวบยังมีชีวิตอยู่จ้า
อยากได้รถคันเล็กมาเพิ่มขับในเมืองดูน่ะ
ก็เอาตัวแรงอีกคันไปเปลี่ยนพริกขี้หนูมาจ้า คันนั้นมันแกร่มากแระ
อิอิ

ฟิ้ววววว
กลับมาถนนเส้นเพชรเกษมติดโคตรๆๆๆๆ






โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 15 เมษายน 2556 เวลา:22:45:29 น.  

 
โห พี่มากพระโขนงหรา พี่อยากดูจัง
เค้าว่าฮากระจายทั้งเรื่อง ชิมิ
ชอบดูหนังแบบนี้ ถ้าผีล้วนๆไม่ไหวอ่ะ
ไว้ว่างต้องไปดูมั่ง

ขอบคุณที่ส่งข่าวนะคะ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ



โดย: mambymam วันที่: 15 เมษายน 2556 เวลา:23:08:12 น.  

 
สวัสดีครับน้องชีริว

ประโยชน์ของยูทูปอีกอย่างที่พี่ก๋าชอบก็คือ
มักจะมีคลิปดีดีที่สร้างแรงบันดาลใจให้เยอะมากครับ

อย่างวเรื่องของคนพิการใจสู้
ก็มีตัวอย่างดีดีอยู่หลายเรื่องเลย






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 เมษายน 2556 เวลา:23:10:49 น.  

 
หายปวดหัวเรื่องแต่ปวดหัวอีกเรื่อง แหะๆ
คอมฯเกเรทั้งวัน เพิ่งจะเข้ามาบล๊อกได้ค่ะ


โดย: ข้ามขอบฟ้า วันที่: 16 เมษายน 2556 เวลา:0:54:10 น.  

 
ขอบคุณครับ ได้ไปเที่ยวอินเดียช่วงสงกรานต์ในสถานที่อยากไปมานานแล้ว ในยุคโบราณประชาชนน่าจะนับถือศาสนากันอย่างเสรีไม่แบ่งแยกกัน ดังคัวอย่างศาสนาพุทธ-ฮินดู-เชน อยู่ร่วมกันในถ้ำต่างๆโดยไม่ทำลายกันหลงเหลือมาให้เห็นจนปัจจุบันนี้...สบายดีวันสงกรานต์ ครับ


โดย: surya21 (surya21 ) วันที่: 16 เมษายน 2556 เวลา:8:38:40 น.  

 
ดูเหมือนจะมีแต่ด๋อย นีซึมะ เอย์จิ เท่านั้นที่พอจะเอามาเล่นเป็นฝั่งตัวร้ายได้ เดี๋ยวรอโจทย์เข้าทางก่อนได้เปิดตัวแน่ ตอนนี้ไม่อยากรีบแกะ รอจัดตู้ก่อน

//www.goodsmile.info/top/en/
รายชื่อกำหนดการออกด๋อย

//nendoroid.jp/category/%E3%81%AD%E3%82%93%E3%81%A9%E3%82%8D%E3%81%84%E3%81%A9/
รายนามด๋อยเรียงตามเบอร์

ด๋อยไลท์ไม่ค่อยโดนใจครับ แถมออกเป็นตัวแรกๆ ด้วย ตอนนี้คงหายากสุดๆ แล้วล่ะ ส่วนลูลูซ อยากให้มีเหมือนกัน ถ้าออกก็คงโดน (รวมไปถึง CC ด้วย) แต่ตัวที่มีข่าวลือว่าจะมีแล้วอยากให้มีจริงๆ คือ โฮโระ กับ คิโนโมโตะ ซากุระครับ

เห็นโจทย์ครั้งหน้ารึยังท่าน ยากจนอยากโดดจริงๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 เมษายน 2556 เวลา:13:53:35 น.  

 
คนบ้า(น)ป่า Home & Gargen Blog ดู Blog
ปรัซซี่ Food Blog ดู Blog
ชีริว Travel Blog ดู Blog

สนุกมากค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 16 เมษายน 2556 เวลา:15:05:18 น.  

 
อิอิ..ไปดูมาเหมือนกัน .. พี่มาก ตอนช่วงสงกรานต์ คนเยอะมาก ดูแล้วก็สนุกดี ฮาๆๆ ตอนแรก พอหนังออกมา มีสี่คน โผล่ มาเขาหัวเราะกัน แร่ะ เรางง เลย ยังไม่เห็นมุกขขำ อิอิ..
แต่ไปๆ ก็สนุก ดี เอิ๊ก ๆ คลายเครียดไปได้หลายเฮือก นะ ..

ก็ต้อง ชื่นชมที่เขาเอาเรื่องอดีต กับยุคปัจจุบันมา ผสม กันได้ดูดี ..โดนๆๆ

มาทักทายก่อนไม่อยู่ยาววว ..
ตะพาบ ตามนั้น อย่าว่าแต่ซีริงเลย พี่ เอง ก็เขียนไม่ถูก ..พักนี้ งานเราออกแนวหวานๆ บ่อยเนาะ..อิอิ


โดย: tifun วันที่: 16 เมษายน 2556 เวลา:15:45:42 น.  

 

พี่อุ้มแวะมากด Like ให้เป็นคนที่ 5
สุขสันต์วันสงกรานต์ย้อนหลัง
ชมภาพและคำบรรยายเหมือนได้ไปเห้นมากับตาเลยค่ะ
ชอบ


โดย: อุ้มสี วันที่: 17 เมษายน 2556 เวลา:9:22:53 น.  

 
วันนี้พาเที่ยวไกลเลย ดีจังค่ะ


โดย: มี๊เก๋&ซีทะเล (kae+aoe ) วันที่: 17 เมษายน 2556 เวลา:13:07:30 น.  

 
ไอ้หน้าตาแบบสะกิดให้เสียทรัพย์นั่นน่ะ

มันมีจริงๆหรอ? มิสเตอร์คุณท่านชีริว


โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 18 เมษายน 2556 เวลา:1:44:29 น.  

 
อลังการณ์มากเลยค่ะ
เห็นแล้วเกิดกิเลส อยากไปๆจริงๆ
อาหารอินเดียก็พอทานได้ ชอบๆ ค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 เมษายน 2556 เวลา:10:27:31 น.  

 
ไม่มีบล็อกคั่นเวลาก่อนโจทย์ใหม่หรือท่าน แบบนี้แสดงว่ามีแววโดดตะพาบครั้งต่อไปแหงๆ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 18 เมษายน 2556 เวลา:14:06:04 น.  

 


อินเดีย ดูแห้งแล้งเนอะ ว่บ้านเรแห้งแล้งแล้วนะ บ้านเค้าสุดยอดยิ่งกว่าอีก

อยากไปเที่ยวต่างประเทศ แต่กลัวผอม 5555

เห็นอาหารแล้วบ่กล้ากิน เอิ๊กๆๆๆ กินยากน่ะ อิอิ

สวัสดีค่ะท่านพี่ กลับมาแล้ว สงกรานต์เที่ยวในเมืองหรา ไม่ชวนเลย เค้ากลับมาตั้งแต่ 15 อิอิ

กลับบ้านไม่กี่วันเอง

กลัวรถติดก็เลยหนีกลับก่อนเลย ฮรี่ๆๆๆ ว่าแต่สนุกเปล่า

ที่อยู่ ไม่เห็นส่งมาให้ แล้วจะส่งโปสกา์ร์ดให้ยังไง


โดย: maitip@kettip วันที่: 18 เมษายน 2556 เวลา:16:14:49 น.  

 
เมื่อวานวันพระเค้ามีงานตะพาบกันหรือเปล่าคะนี่




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:9:16:30 น.  

 
ว้าววววววว สวยจังเลยค่ะ อิจฉาคนได้ไปเที่ยวจังเล้ย ขอบคุณที่เอาภาพสวยๆ มาฝากนะคะ โหวตหมดแระ เดี๋ยวเข้ามาโหวตใหม่ เพราะติดใจภาพถ้ำหินสวยจริงสวยจังดูขลังดี
---
ถ้าฝากบ้านแล้วได้ดอกเบี้ยก็จะขอฝากไว้สักปีอ่ะ เผื่อจะมีตังค์ตามไปเีที่ยวมั่ง โหะๆ



โดย: ประกายพรึก วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:17:42:57 น.  

 
ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ เต็มอิ่ม ดูเพลิน น่าประทับใจมากๆ เลย


โดย: sawkitty วันที่: 19 เมษายน 2556 เวลา:19:40:57 น.  

 
สวัสดีจ้าาาาาท่านพี่ชีริวไปอินตาระเีดียมาหราาาาา ฮรี่ๆ

ภาพสะพานที่เชื่อมเกาะมหาสมุทรอินเดียสวยนะค่ะ มองเห็นภาพมหาสมุทรอันกว้างไกล(หายร้อนไปได้เลยนะเนี่ย)ภาพในมุมมองของหนุ่มวิศวะรีวิวได้น่าไปเที่ยวมากอ่ะค่ะมีมุมสวยๆงามๆของโบราณคดีเยอะเหมือนกันน๊า..ใช่ๆ เคยได้ยินมาว่าที่อินเดียมีขอทานเยอะแร่ะก็สกปรกติดอันดับ .. แถมมีหน้าโหดๆ ด้วย มีเด็กน่ารักมาให้แอ๊ดถ่ายภาพ ไม่หนี เพราะไม่ได้เป็นนินจาเหมือนญี่ปุ่นช่ายเสะ อิอิ



โดย: mastana วันที่: 20 เมษายน 2556 เวลา:14:04:33 น.  

 
โอ้เย่!!ลืมบอกว่าอลังการได้จัยท่านผู้ชมน๊าา ภาพสวยๆก็มีเยอะด้วยจ้าา...



สุขสันต์วันปีใหม่ย้อนหลังด้วยน๊าท่านพี่ ขอให้หล่อๆรวยๆเฮงๆมีความสุขมากๆนะฮับ ..โจทย์หน้าแพมไม่โดดแร่ะน๊าาา อืมมมว่าแต่หายไปเป็น..นินจา..ผลุดๆ โผล่ๆ ยุหนายคะเนี่ยยยย ^^



โดย: mastana วันที่: 20 เมษายน 2556 เวลา:14:08:23 น.  

 
ท่านพี่ กิล่นไรมันตุตุ ยลจมูกมาแต่ไกล

อ๊ายยย อย่าว่าเค้านะ 555

บล็อกเหม็นเปรี้ยวแล้ววววว ฮิ้วววๆๆ

บอกตรงๆ เค้าอ่านไม่หมด เยอะนะ 555

ท่านพี่สงกรานต์ที่ กทม. ปีนี้เงียบเหงาหนอ เพราะไรอ่า
ท่านนายกสั่งห้ามมากไปเปล่า คริคริ

ส่วนอุ๊ กลับบ้าน สุขขัง สุขขี ดีนักแล หนุกมากมาย

ว่าแล้วไปเที่ยวบ้านนอุ๊จังนะ อิอิ



โดย: maitip@kettip วันที่: 20 เมษายน 2556 เวลา:14:45:34 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog
วันนี้แวะมาโหวตตามคำสัญญาค่า


โดย: ประกายพรึก วันที่: 22 เมษายน 2556 เวลา:14:45:03 น.  

 
ก๊อก ก๊อก พี่ชิริววววววววววววยุหนาย
เที่ยวไหนนิ..ยังไม่กลับมาอีกหราาาาา
สงสัยจะรอออนตะพาบเลยซิมิ แพมมาโหวตหั้ยฮับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ชีริว Travel Blog ดู Blog




โดย: mastana วันที่: 22 เมษายน 2556 เวลา:21:02:55 น.  

 
สวัสดีจ้ะน้องชีริว

เกือบพลาดทริปนี้แล้วมั๊ยหล่ะเนี่ย ภาพเยอะที่สำคัญมุมสวย ๆ หลายมุมเลยด้วย ข้อมูลก็แน่นเชียว

กำลังอยากจะไปที่นี่นะ แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นเงาว่าจะมีทัวร์ไหนจัด เห็นจากสารคดีช่องไทยพีบีเอสนั่นหล่ะ แค่แรกสบตาก็อยากจะไปให้ได้แล้ว แต่ที่ยากคือต้องหาเพื่อนร่วมทางด้วย และคาดว่าเป็นการเดินทางที่ทรหดระดับหนึ่ง (ยังไม่ถึงระดับห้า)

จริง ๆ มีทริปที่อยากไปอยู่ไม่กี่ทริปนะ แต่ก่อนอยากไปญี่ปุ่นมาก ตอนนี้เฉยสนิท แต่จิ่วไจ้โกวก็ยังอยากอยู่ แล้วก็มีอินเดียที่นี่หล่ะที่อยากไป กับแคชเมียร์อีกที่ ถ้ามีโอกาสก็อยากไปเนปาล แล้วตบท้ายแถว ๆ กลุ่มสแกนดิเนเวีย ถ้าชีวิตยังไม่สิ้นหวังว่าจะได้ไปเยือนตามลายแทงที่ว่าไว้ ^^

รอดูทริปพม่ารอบหน้า ดูซิว่าจะทำให้ก่อเกิดความอยากไปเยือนบ้างหรือไม่ วันก่อนคุยกับพ่อว่า พม่า กะฮ่องกงเป็นอะไรที่ไม่อยากไปสุด ๆ ทั้งที่เพื่อนพร้อม ตั๋วพร้อม เงินพร้อม ทริปพร้อม ทัวร์พร้อม แต่เพื่อนชวนไม่เคยสำเร็จ พ่อเลยได้ทีแซวว่า "ก็เราหน่ะมันคนอยุธยา เลยไม่ถูกกับพม่า" 555 ที่พ่อแซวแบบนี้เพราะตั้งแต่เล็กจนโต จะต้องไปเยือนพระราชวังบางปะอินตลอด ไปเกือบจะ10ครั้งแล้วมั้งก็ยังไม่เบื่อ คนอื่นไปหนเดียวก็จบแล้ว คงเป็นความชอบส่วนตัวของแต่ละคนเนอะ


โดย: oa (rosebay ) วันที่: 22 เมษายน 2556 เวลา:21:31:27 น.  

 
ย่องๆ เ้ข้ามาเมียงมองบล็อกนี้
คิดว่าจะอัพอะไรเพิ่มหรือป่าวน้า

อิอิ

พกความดีใจกลับไปแระ
ยังไม่อัพ
ยังไม่ถึงคิวอ่านอะไรยาวๆ 555555

ลำบากเพื่อนบล็อกจริงๆน้อ บล้อกอัดแน่นขนาดนี้
แต่ก็จนจบ แบบมันเพลินอะ
เดี๋ยวไม่รู้เรื่อง

เวลาในการทำบล็อกไม่ค่อยมีมาก แต่ก็อยากหาเรื่องออน คริ คริ








โดย: Rinsa Yoyolive วันที่: 23 เมษายน 2556 เวลา:14:24:26 น.  

 
ยาวเลยบล็อกนี้ แต่ละถ้ำอลังการจริงๆครับ ขุดกันหลายร้อยปีเลย
ไม่มีแสงเลยวาดลำบาก แล้ววาดให้ใครดูน้อ

เสียดายไม่มีโชว์ปาหี่ อยากเห็นโยคะเฟลม โยคะเทเลพอร์ท

เจอลูกทัวร์ไฮโซนี่ซวยจริงๆครับ จริงๆใครเหนื่อยก็น่าจะให้กลับไปรอเอง

ปล. เพิ่งรู้ว่าบอมเบย์คือมุมไบ ความรู้รอบตัวต่ำจริงๆผม


โดย: OceanSage วันที่: 4 พฤษภาคม 2556 เวลา:18:46:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.