Group Blog
 
 
มีนาคม 2563
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
7 มีนาคม 2563
 
All Blogs
 

[Parasite] ยากจนได้ แต่อย่าเหลื่อมล้ำ


นานทีปีครั้งกับบล็อกพูดคุยเนื้อหาภาพยนตร์กันครับ วันนี้มาชวนคุยประเด็นของหนังอย่าง Parasite ชนชั้นปรสิต หนังแบล็คคอเมดี้จากเกาหลีใต้ และเป็นหนังจากเอเชียเรื่องแรกที่ไปถึงรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผมได้ดูเพราะ AIS Play เอามาฉายให้ดูกันฟรีๆ เป็นหนังที่ทั้งดีทั้งสนุกมากครับ แม้บางมุกจะดูมักง่ายผิดวิสัยหนังรางวัลออสการ์ แต่สามารถมองข้ามไปได้ เอาคะแนนไป 5 หินมโนทัศน์



เนื้อเรื่องว่าด้วยเรื่องของครอบครัวคนจน (พระเอก-น้องสาว-พ่อ-แม่) ที่แฝงตัวเข้าไปอยู่กับครอบครัวคนรวย (พ่อ-แม่-ลูกสาว-ลูกชาย) และได้เห็นความแตกต่างของแนวทางการใช้ชีวิตราวกับอยู่คนละโลกเดียวกัน



ชื่อตัวละครออกจะเรียกยากสักหน่อยหากไม่ค่อยถนัดแนวเกาหลีนะครับ

ในเรื่องเป็นการเปรียบเทียบชีวิตความเป็นอยู่ของสองครอบครัวที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหวนรก ครอบครัวของพระเอก (คีอู) เป็นครอบครัวคนจนบ้านอยู่ต่ำกว่าถนน ต้องขโมยสัญญาณ wifi ข้างบ้านใช้ ในบ้านเต็มไปด้วยแมลง ต้องเปิดบ้านให้เขาพ่นยาฆ่าแมลงเข้ามาในบ้าน พ่อแม่ตกงาน น้องสาวไม่ได้เรียนหนังสือต่อ ตัวเองก็สอบมหาลัยไม่ติด


จนวันหนึ่งเขาได้เจอเพื่อนที่แนะนำให้ปลอมวุฒิเข้าไปสอนภาษาอังกฤษให้ลูกสาวบ้านคนรวย เขาได้เข้าไปในบ้านที่เหมือนกับหลุดมาอีกโลกหนึ่ง คีอูได้เข้าไปสอนภาษาอังกฤษให้ทาเฮลูกสาวคนโตของบ้าน และทุกอย่างก็ดูไปได้สวย ก่อนที่คีอูจะเป็นหน้าม้าค่อยๆชวนครอบครัวตัวเองปลอมโปรไฟล์เข้ามาทำงานที่บ้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นคีจองน้องสาวที่ปลอมเป็นครูสอนศิลปะให้ทาซง คุณคิมพ่อที่ปลอมตัวเป็นคนขับรถมืออาชีพ และชุงซุกแม่ที่ปลอมตัวเป็นแม่บ้านจากบริษัทที่มีชื่อเสียง แถมยังสร้างสถานการณ์เพื่อเขี่ยคนขับรถและแม่บ้านคนเก่าออกไปด้วย ดูแล้วก็เหมือนกับชื่อหนังที่เปรียบครอบครัวคนจนเหมือนปรสิตที่แฝงตัวเข้ามาสูบกินทรัพยากรจากบ้านนี้ไป


คีอู (ปลอมเป็นครูเควินเข้ามาสอนภาษาอังกฤษด้วยวุฒิปลอมจนทาเฮปลื้มยกเป็นโอปป้า) คีจอง (ปลอมเป็นครูเจสสิก้าโกหกว่าจบนอกเข้ามาสอนศิลปะและเอาทาซงอยู่หมัด) คุณคิม (ปลอมเป็นคนขับรถมืออาชีพซึ่งคุณพัคติดใจฝีมือมาก) และชุงซุก (ปลอมเป็นแม่บ้านมืออาชีพและทำงานบ้านได้ไม่แพ้คนเก่า) ถึงจะปลอมทั้งบ้าน แต่คนพวกนี้ก็ทำงานของตัวเองได้ดีจริงๆนะ ขอแค่ได้รับโอกาส คีจองน่าจะเป็นคนที่เล่นละครเก่งที่สุดในบ้าน แต่ก็ต้องรับกรรมหนักตอนท้ายเรื่อง

เรื่องราวดูจะเบาสมองกว่าที่คิด จนกระทั่งคืนที่ครอบครัวคนรวยออกจากบ้านไปตั้งแคมป์ ปล่อยให้ครอบครัวคนจนเข้ามากินอยู่ในบ้านตามใจชอบ ประจวบเหมาะกับแม่บ้านคนเก่าที่กลับมาและเปิดเผยว่าเธอแอบพาสามีที่หนีเจ้าหนี้เข้ามาอยู่อาศัยในห้องใต้ดินของบ้านหลังนี้ และคอยส่งอาหารให้ตลอด (เป็นห้องหลบภัยซึ่งบ้านคุณพัคไม่รู้ว่ามีห้องนี้เพราะซื้อบ้านต่อจากสถาปนิกชื่อดัง ส่วนสามีคุณแม่บ้านคนเก่าขอเรียกสั้นๆว่าคุณแมงดา) แล้วปรสิตสองครอบครัวก็ห้ำหั่นกัน โดยต่างก็พยายามรักษาความลับตัวเอง และต้องการไล่อีกครอบครัวให้พ้นไปจากเส้นทางหากินของตัวเอง


คุณแม่บ้านคนเก่าน่าจะเป็นตัวละครที่น่าสงสารที่สุดในเรื่องแล้ว ถูกครอบครัวคีอูกุเรื่องจนโดนให้ออกจากงาน
แต่ก็ต้องกลับมาเลี้ยงดูคุณแมงดา และสุดท้ายก็ตายอยู่ในห้องใต้ดิน

ทั้งที่สองบ้านอยู่ในสถานการณ์เดียวกันควรจะเห็นใจกัน แต่มันคือการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของตัวเอง เช่นเดียวกับตอนที่คีจองพยายามตัดบทไม่ให้พ่อต้องไปห่วงคนขับรถคนเก่าที่ถูกไล่ออก เป็นธรรมดาที่คนยากลำบากจะคิดถึงคนอื่นน้อยกว่าคนที่มีกินมีใช้ บ้านคีอูเคยสงสัยว่าทำไมครอบครัวคุณพัคถึงเป็นคนดีจัง จนชุกซุกถามขึ้นมาว่า "เพราะเขารวยหรือเปล่า ถึงได้นิสัยดี?" นั่นคือคนที่มีของที่เกินความจำเป็นไปแล้ว ย่อมมีโอกาสให้เอื้อเฟื้อและแบ่งปันมากกว่าคนที่ยังคงต้องฟันฝ่าอุปสรรคเพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งพื้นฐานในการดำรงชีวิต คนรวยไม่ต้องวางแผนอะไรมากชีวิตก็ออกมาดูเพียบพร้อม ในขณะที่คนจนถึงจะวางแผนยังไงสถานการณ์ที่ถาโถมมันก็ทำให้แผนพังลงไปครั้งแล้วครั้งเล่าจนคุณคิมตัดพ้อออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อยว่า "แผนที่ดีที่สุดก็คือการไม่มีแผน"

ผมชอบแนวคิดของชาร์ล ดิคเคน จากเรื่อง The Great Expectations นะครับ Happiness is the matter of comparison เราจะไม่มีปัญหากับความจนถ้าเราไม่ได้เห็นคนที่รวยกว่า มีการศึกษาที่พบว่าคนจนในเมืองมีโอกาสก่อปัญหามากกว่าคนยากจนในชนบท ดังเช่นที่เคยเกิดการจลาจลโดยคนผิวดำในเท็กซัสช่วง 60s เพราะความที่อยู่ใกล้คนรวย ได้เห็นและได้เปรียบเทียบชีวิตของทั้งสองกลุ่ม ถูกปฏิบัติอย่างสองมาตรฐานจากคนในสังคมโดยเฉพาะตำรวจ

พูดถึงความเหลื่อมล้ำหลายคนที่ฐานะไม่ได้ยากจนอะไรก็คงข้องใจว่าถ้าไม่ทำมาหากินมันจะรวยได้ยังไง อยากรวยก็ขยันสิ ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานสิ! ในอุดมคติใช่ครับ ถ้าประชากรทุกคนได้รับโอกาสในการเข้าถึงทรัพยากรและสวัสดิการของรัฐอย่างเท่าเทียมกันมันจะเป็นแบบนั้น แต่สังคมที่ความเหลื่อมล้ำสูง ตั้งใจเรียนยังไงก็ไม่มีโอกาสเข้ามาสอบเข้าโรงเรียนดีๆ ที่อยู่ไกลจากบ้าน ถึงเข้าได้พ่อแม่ก็ส่งไม่ไหว จะชิงทุนก็แข่งขันสูง ในขณะที่เด็กในกรุงที่มีฐานะดีเรียนมั่งหลับมั่ง กากแค่ไหนก็ยังเรียนสูงขึ้นไปได้เรื่อยๆ ตามที่ต้องการ (คุณเคยเห็นพวกเด็กเกๆกากๆในห้องต้องออกไปกวาดขยะ/ขายพวงมาลัยหรือเปล่าครับ? ...ผมไม่เคย แถมไอ้พวกนั้นแม่งโตมาดูถูกคนจนอีก) คนจนขยันตื่นตั้งแต่ตีสามมาทำสวนต้อนวัวต้อนควายก็มีรายได้ไม่เท่าข้าราชการนั่งตากแอร์รอรูดบัตรไปวันๆ โรงเรียนในสังคมเมืองจะได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลมากกว่าโรงเรียนเล็กๆตามต่างจังหวัด นั่นคือทรัพยากรภาครัฐลงถึงประชาชนแต่ละกลุ่มไม่เท่ากันตั้งแต่แรกเกิดแล้วนะครับ ย้ำกันชัดๆ อีกทีว่าสาเหตุหลักของความเหลื่อมล้ำในสังคมต่างๆ มันไม่ได้เกิดจากความขยันหรือขี้เกียจ แต่เกิดจากความไม่มีประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากรให้ประชาชนเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน

และสังคมที่มีเส้นแบ่งชนชั้นจนการเลื่อนจากชั้นหนึ่งไปอีกชั้นหนึ่งแทบเป็นไปไม่ได้นี่เองที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ในหนังก็ใช้สัญลักษณ์เส้นแบ่งหลายครั้งเหมือนกันที่แสดงให้เห็นว่ามันมีอะไรบางๆขีดคั่นระหว่างคนสองกลุ่มอยู่นะ และสังคมที่เหลื่อมล้ำนี้เองที่ขัดขวางกลไกของตลาดเสรี ทุกคนไม่ได้เอาชนะกันด้วยความเก่งและการแข่งขัน แต่คนที่ได้เปรียบจะพยายามใช้ฐานอำนาจและทรัพย์สินที่มีอยู่เพิ่มความได้เปรียบให้ตนเองไปเรื่อยๆ เช่นใช้เงินซื้อสินบน หรือใช้ความสัมพันธ์ในการเข้าถึงอำนาจรัฐ โดยไม่สนใจเพิ่มผลิตภาพ เป็นเหตุให้ประเทศที่เศรษฐกิจตั้งอยู่บนธุรกิจสัมปทานที่ขาดการแข่งขันหรือประเทศที่รัฐผูกขาดตลาดมากเกินไปจะมีความสามารถในการแข่งขันต่ำในเวทีโลก


และสิ่งนี้เองกำลังเป็นปัญหาที่หนักหนาขึ้นในหลายสังคม โดยเฉพาะสังคมไทยที่มีความเหลื่อมล้ำ "ด้านความมั่งคั่ง" เป็นอันดับต้นๆของโลก (อย่าสับสนกับความเหลื่อมล้ำด้านรายได้แบบสภาพัฒน์ที่ออกมาเถียงเครดิตสวิสเมื่อสองปีก่อนนะครับ)  การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดให้นายทุนตัวใหญ่ๆ ที่สร้างผลิตภาพมากเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายและเห็นผลเร็ว แต่แม้ GDP จะสูงขึ้นแต่ก็ทำให้ความเหลื่อมล้ำในสังคมพุ่งทะยานขึ้นไปอีก เพราะผู้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเม็ดเงินที่รัฐอัดฉีดลงไป อย่างล่าสุด World Bank เพิ่งรายงานว่าไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่มีคนจนเพิ่มขึ้นจาก 7.2% ในปี 2015 เป็น 9.8% ในปี 2019 เกิดจากการที่เศรษฐกิจไทยเติบโตช้ากว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคทำให้เส้นแบ่งระดับคนจนวิ่งแซงรายได้ของคนไทยกลุ่มล่างๆไป และ Forbes ก็รายงานว่าจากที่เศรษฐีไทยที่รวยที่สุด 50 คนแรกรวมทรัพย์สินกัน จะถึง 100 billion USD แต่พอมาถึงปี 2019 เศรษฐีไทยที่รวยที่สุดแค่ 7 คนแรกก็มีทรัพย์สินรวมกันแตะ 100 billion USD แล้ว นี่คือภาวะรวยกระจุกจนกระจายที่หนักหนาสาหัสขึ้นแบบที่ต่อให้อวยรัฐบาลขนาดไหนก็คงไม่สามารถปิดตาแกล้งทำเป็นไม่เห็นได้ เป็นผลจากการเอื้อประโยชน์ให้คนที่รวยอยู่แล้วทุกวิถีทางโดยทิ้งคำที่รัฐบาลพร่ำบอกว่าเราจะไม่ทอดทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ให้เป็นเพียงคำสวยหรู

เราพยายามปฏิรูปสังคมกันมาหลายยก แต่การปฏิรูปครั้งล่าสุดที่ถูกจุดขึ้นมาโดย กปปส. นั้นมุ่งประเด็นป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น และสร้างกฎกติกายุ่งยากขึ้นในทุกภาคส่วน ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ชัดเจนแล้วว่ากฎที่หยุมหยิมหรือบทลงโทษที่รุนแรงไม่ได้มีไว้ลดคอรัปชั่นอย่างที่กล่าวอ้าง เพราะดัชนีคอรัปชั่น (Corruption Perception Index) ของประเทศไทยในรัฐบาลนี้ไม่ได้ดีขึ้นเลย และมีคดีแดงที่ไม่สามารถตอบข้อซักถามของสังคมปักหลังอีกเป็นจำนวนมากแต่ก็ไม่มีใครในรัฐบาลถูกเอาผิด สุดท้ายกติกาต่างๆ นั้นก็เป็นแค่เครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมืองเท่านั้นเอง ....อันที่จริงย่อหน้านี้ไม่ได้มาพูดเรื่องคอรัปชั่นสิ ก่อนจะเตลิดไปไกลกว่านี้ขอกลับมาที่ประเด็นที่ควรปฏิรูปที่สุดในสังคมก่อนครับ ปี 2553 ในสมัยรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ที่กำลังเป็นช่วงที่เหลือง-แดงยังฮึ่มๆกันอยู่ได้มีความพยายามตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ (คปร.) ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาของสังคมไทยและลดความขัดแย้ง โดยเฉพาะลดความเกลียดชังของฝั่ง นปช. ที่ถูกรัฐสั่งฆ่ากลางเมืองเกือบร้อยศพ ประธานของคณะกรรมการนี้คือท่านอานันท์ ปันยารชุน และมีตัวแทนนักคิด นักวิชาการ ทั้งจากฝั่งเหลืองและแดงมานั่งในคณะกรรมการ และได้แนวทางที่น่าสนใจ (มากกว่าคณะปฏิรูปยุคหลังที่รับลูก กปปส. มาแต่งตั้งพรรคพวกตัวเองขึ้นมาแล้วก็แก้ไขอะไรไม่ได้ นอกจากสร้างกติกาที่เอื้อพวกพ้องตัวเองล้วนๆ) คปร. เสนอว่าสิ่งที่ต้องแก้ไขแรกสุดของสังคมไทยคือ "ความเหลื่อมล้ำ" (โอเค เริ่มเข้ากับธีมบล็อกนี้แล้ว) และแนวทางการปฏิรูปคือการลดอำนาจรัฐกระจายอำนาจสู่ประชาชน ปฏิรูปกองทัพ และปฏิรูปศาลยุติธรรม ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่ได้รับการตอบสนองโดยผู้มีอำนาจแต่อย่างใด แม้แต่ตัวรัฐเองก็ขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับรัฐบาลในประเทศอื่นๆ ที่เจริญแล้วและกำลังจะเจริญทั่วโลก แนวทางการปฏิรูปที่น่าจะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืนก็ดูจะเป็นอนาคตที่ไม่มีวันไปถึงราวกับประเทศไทยถูกแสตนด์โกลด์ E เรเควี่ยมเล่นงาน

ช่วงท้ายเรื่องหลังบ้านคุณคิมขังคุณแม่บ้านเก่าพร้อมคุณแมงดาไว้ใต้ดินและหลบหนีออกมาได้สำเร็จโดยความไม่แตกแล้วก็มาถึงฉาก "ฝน" ซึ่งเป็นฉากที่ใช้ทุนสร้างมากที่สุดของเรื่องนี้ ฝนตกธรรมดาๆ นี่แหละครับ บ้านคนรวยก็เห็นว่าบรรยากาศดี จนทาซงออกไปตั้งแคมป์ตากฝนนอกบ้าน ในขณะที่บ้านคนจนต้องรีบกลับบ้านมาเก็บข้าวของเพราะน้ำเข้าท่วมบ้านที่ระดับต่ำกว่าพื้นถนน ข้าวของลอยเต็มบ้าน ต้องรีบเก็บของสำคัญขึ้นที่สูง ส้วมก็สำลักจนเรี่ยราด คนจนอีกบ้านนึงที่ถูกขังไว้ใต้ดินคุณแม่บ้านหัวกระแทกและสติเลือนรางจนค่อยๆหมดลมหายใจ ส่วนคุณแมงดาก็พยายามเคาะสัญญาณไฟเป็นรหัสมอสเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ข้างบนก็ไม่มีใครเอะใจ ทาซงที่ถึงจะอ่านรหัสมอสออกก็ไม่ได้สนใจอะไร เป็นภาพที่น่าสมเพชเวทนาเป็นอย่างยิ่ง และเหมือนเอาน้ำมันมาราดบนกองไฟเมื่อวันถัดมาบ้านคนรวยต้องการจัดปาร์ตี้ฉลองปลอบใจให้ทาซงที่ไม่ได้ไปแคมป์เนื่องจากติดฝน และตามพวกคีอูมาร่วมงานทั้งที่ตัวเองบ้านจมน้ำไปเมื่อคืนจนต้องมานอนที่โรงยิมกัน พอได้กลับมาเห็นสังคมคนรวยที่ครั้งแรกดูงดงามหรูหราน่าหลงใหล แต่คราวนี้มันดูน่าชิงชัง ทำไมคนอื่นๆที่ถูกเชิญมาแบบกะทันหันก็ยังแต่งตัวให้ดูดีกันได้ง่ายๆ? ทำไมคนพวกนี้ถึงไม่ต้องคอยกังวลกับการที่ต้องใช้ชีวิตให้รอดไปถึงวันต่อไป? ทำไมเขาและครอบครัวที่ไม่ได้ด้อยความสามารถไปกว่าคนพวกนี้เลย แต่ก็ไม่สามารถเข้ามาอยู่ในสังคมแบบนี้ได้???




แม้เวลาปกติครอบครัวของคุณพัคจะเป็นมิตร แต่ก็ยังมีความรู้สึกที่ไม่สามารถเป็นหนึ่งเดียวกับบ้านคุณคิมได้ โดยเฉพาะตัวคุณพัคเองที่สร้างกำแพงอากาศคั่นไว้ระหว่างชนชั้นตลอดเวลา แม้คุณคิมจะพยายามทลายกำแพงนั้นเช่นชวนคุยเรื่องส่วนตัว แต่ก็จะถูกดีดกลับไปที่เดิมอยู่เสมอ "นายข้ามเส้นมาแล้วนะ" และพอได้ยินคุณพัคนินทากับคุณนายเรื่องกลิ่นสาบของคนจนที่ไม่สามารถปิดได้มิด ก็ทำให้คุณคิมระแวงท่าทีของบ้านนี้มากขึ้น ตอนนี้พวกคีอูรู้ดีแล้วว่าแม้จะอยู่ใกล้กันขนาดไหน แต่ทั้งสองบ้านต่างก็มีเส้นที่กั้นไว้ไม่ให้สามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ อีกทั้งความโกรธแค้นในโอกาสที่พวกเขาไม่มีวันได้รับ และความที่คนรวยไม่เคยตระหนักถึงปัญหาที่มีอยู่ในสังคมนี่แหละที่สร้างความเกลียดชังระหว่างชนชั้นขึ้นแบบที่คนรวยไม่ต้องทำอะไรผิด เช่นเดียวกับที่ผมเคยได้ยินอาจารย์ด้านสังคมศาสตร์กล่าวไว้ว่าสังคมที่ไม่ให้โอกาสคนเหล่านั้นจะสร้างแรงกดดันมหาศาลพอที่จะเปลี่ยนสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจทีเปราะบางไปสู่ความรุนแรง ดังที่นำไปสู่การปฏิวัติในฝรั่งเศส รัสเซีย และที่อื่นๆ ซึ่งการปฏิวัติในระดับสังคมนี้คงจะไปพูดตอนรีวิวเรื่องโจ๊กเกอร์ดีกว่า ปรสิตนี่แค่บ้านสองบ้าน แต่มันก็เกิดความรุนแรงขึ้นเช่นกัน และคนที่ระเบิดขึ้นมาก็คือคุณแมงดาที่หลุดออกจากห้องใต้ดินขึ้นมาล้างแค้นบ้านคีอู จนทำให้งานปาร์ตี้กลายเป็นโศกนาฏกรรม และในความวุ่นวายนั้น คุณคิมเห็นลูกสาวและลูกชายโดนเล่นงานจมกองเลือด เมียตัวเองก็กำลังจะถูกฆ่าตายแต่พวกคนรวยก็เอาแต่แห่ไปสนใจทาซงที่ตกใจจนเป็นลมไป แถมท่าทีรังเกียจกลิ่นสาบคนจนของคุณพัคก็ทำให้คุณคิมระเบิดขึ้นมาจนพลั้งมือฆ่าคุณพัคตาย ช่วงชุลมุนเขาจึงต้องหลบหนีลงไปอยู่ในห้องใต้ดินของบ้านหลังนี้แทน

คีจองเสียเลือดมากจนเสียชีวิตไป ส่วนคีอูและแม่ขึ้นโรงขึ้นศาลอยู่พักใหญ่ๆ ด้วยคดีต้มตุ๋น ตอนจบเรื่อง คีอูให้สัญญากับพ่อว่าจะตั้งใจเรียน มีงาน มีเงิน และร่ำรวยพอที่จะซื้อบ้านหลังนี้ได้ ครอบครัวของเขาจะเข้ามาอยู่ที่บ้านนี้ และพ่อก็จะเดินขึ้นจากห้องใต้ดินกลับมาหาเขาและแม่ได้อย่างเต็มภาคภูมิ


...ซึ่งนั่นคงเป็นเพียงความฝันที่ไม่มีวันไปถึง หนังชวนให้พวกเราลองถามใจตัวเองดูว่าด้วยความเหลื่อมล้ำนี้ แม้คีอูจะพยายามขนาดไหนเขาจะมีวันก้าวข้ามเส้นแบ่งชนชั้นนี้ไปได้จริงหรือ?

เราไม่ใช่รัฐบาล คงทำอะไรกับการจัดสรรทรัพยากรไม่ได้มาก แต่พวกเราในฐานะประชาชนที่มีกินมีใช้ อย่างน้อยก็ขอให้ตระหนักว่ามันมีปัญหาเช่นนี้อยู่ในสังคม ให้สำนึกว่าเราเบียดเบียนทรัพยากรส่วนที่คนชั้นล่างควรจะได้รับมากกว่านี้มาตั้งแต่เกิด และช่วยกันทำความเข้าใจพร้อมให้โอกาสพวกเขา โศกนาฏกรรมสมมุตินี้คงไม่ขยายวงกว้างขึ้นจนไปถึงระดับการปฏิวัติทำลายโครงสร้างสังคมครับ


 




 

Create Date : 07 มีนาคม 2563
55 comments
Last Update : 10 มีนาคม 2563 20:32:38 น.
Counter : 5328 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณThe Kop Civil, คุณtuk-tuk@korat, คุณกาบริเอล, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณmcayenne94, คุณกะว่าก๋า, คุณJinnyTent, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณtoor36, คุณnewyorknurse, คุณTui Laksi, คุณเริงฤดีนะ, คุณตะลีกีปัส, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณเพรางาย, คุณmariabamboo, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณอุ้มสี, คุณkae+aoe, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณ**mp5**, คุณInsignia_Museum, คุณSai Eeuu, คุณhaiku, คุณหงต้าหยา

 

อื้อหือ คุณชีริววิเคราะห์หนังออสการ์ปีนี้ได้แบบเบ็ดเสร็จเลยครับ ขอยกตำแหน่งบล็อกดีเด่นไปเลยครับ
ในหนังเรื่องนี้มีหลายอารมณ์มาก ๆ เอามาโยงใย ผูกรวมกันแบบที่คุณชีริวเขียนเลยครับ

 

โดย: The Kop Civil 7 มีนาคม 2563 16:04:46 น.  

 

โลกนี้ไม่เคยมีความเสมอภาค
และคนชั้นปกครองก็ดันรวย และไม่เคยพอกับความรวย

 

โดย: tuk-tuk@korat 7 มีนาคม 2563 16:40:57 น.  

 

หนังเรื่องนี้น่าดูนะ กำลังคิดจะหาเวลาดูอยู่พอดี
คิดถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำ โอกาส และการก้าว
ออกมาจากสิ่งที่เป็นอยู่ จะให้ตามทฤษฎีเนี่ยมัน
ง่ายแต่ในทางปฏิบัตินี่มันซับซ้อนกว่านั้น เอ้อ...
ถ้าเกิดมาแล้วนับจาก 0 เท่ากันหมดค่อยว่าไปอย่าง

 

โดย: กาบริเอล 7 มีนาคม 2563 17:50:56 น.  

 

พี่ก๋ากำลังเตรียมดูหนังเรื่องนี้อยู่ครับ
อ่านรีวิว มาติดใจตรงการเมืองนี่ล่ะ 555
น้องชีริวน่าจะเขียนการเมืองนะ
เขียนมันส์ดีครับ

ช่วง กปปส. เป็นช่วงถ่ายเทความขัดแย้งลงสู่ใจคน
เหลืองแดงจัดๆ ยิ่งกว่าช่วงพันธมิตรฯอีก

แล้วผลพวงแห่งการเล่นการเมืองนอกระบบในวันนั้น
ก็กลายเป็นรัฐบาลในวันนี้
ที่มีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย
(และดูเหมือนจะแก้ปัญหาแบบผิดทิศผิดทางโดยตลอด)

เอาแค่เรื่องฝุ่นควันก็ได้ครับ
คนเชียงใหม่เจอปัญหานี้มา 4-5 ปีแล้ว
แต่ก็ยังเจอหนักขึ้นเรื่อยๆ
โดยปัญหาไม่ได้เกิดจากภาคประชาชน
แต่เกิดจาก......เป็นหลัก

เมื่อไหร่ที่ผิดเป็นถูก
ถูกเป็นผิด
คนบางกลุ่มบางพวกที่ครองอำนาจอยู่
ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจเสมอ

เหมือนกับบทสรุปท้ายบล็อก
ที่น้องชีริวเขียนไว้เลย
นั่นล่ะ ชะตากรรมประเทศไทย


 

โดย: กะว่าก๋า 7 มีนาคม 2563 19:00:41 น.  

 

ชีวิตจริงของบางคนอาจเศร้ากว่าเรื่องนี้ก็เป็นได้​ เราไม่มีวันทำให้นิ้วทั้งห้าเท่ากัน​ แต่นิ้วแต่ละนิ้วก็ใช้ประโยชน์พอเหมาะกับงานต่างกัน​ คนทุกคนเป็นฟันเฟืองที่สำคัญของสังคม​ เราอาจจะมีความสามารถในบางอย่างและต้องพึ่งพาผู้อื่นในบางงานที่เราทำไม่ได้​ สังคหวัตถุ​4​ เป็นคำสอนที่ควรพยายามทำให้มี​

โชคดีที่ไทยเป็นเมืองพุทธพระพุทธเจ้าสอน​ สังคหวัตถุ4​เครื่องยึดเหนี่ยวน้ำใจให้แก่กัน​ ทาน​ ปิยวาจา​ อัตถจริยา​ สมานัตตา

ที่เกาหลีคงไม่มีสอน​ ซีรี่ย์เขาชอบเอารองเท้ามาตีกันด้วย

วันนี้ไลน์เพื่อนๆ​ถกเถียงกันเรื่องแจกเงิน​ เพื่อนบางคนอยู่แต่บนกองทอง​ จะมีใครสักกี่คนกล้าแย้งให้ขัดใจ​กัน​ คนร่ำรวยไม่เข้าใจหรอก​ ว่าบ้านที่เคยมีลูกมีงานทำเมื่อเกิดวิกฤต​ งานไม่มี​เงินไม่มี​

เงินที่ดูว่าน้อยพันสองพันมันอาจจะดูไม่มากนักแต่ถ้าประหยัดก็พอยังชีวิตไปได้อีกหลายวัน​ ให้พอหาหนทางต่อไป​ ถ้าเราไม่ลำบากแล้วแบ่งปันช่วยเหลือกันเถอะ​ ในยามทุกข์ยาก​ คิดดีก็เกิดความสุขและกุศลแก่ตนเอง​ รัฐบาลเพียงเหมือนพ่อแม่​ ลูกคนใดด้อยโอกาสลำบาก​หากินไม่เก่งฝืดเคือง ก็ช่วยมากกว่าคนเก่ง​ก็ถูกต้องควรแล้ว​

แต่หนังรันทดหดหู่​จิตตก​ แนวนี้แม้จะกวาดรางวัล​ พี่ก็ไม่ดูค่ะ​ ชีวิตจริงมีให้ดูเยอะแล้วค่ะ

 

โดย: mcayenne94 7 มีนาคม 2563 19:06:13 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องชีิว

ขอบใจสำหรับความห่วงใยและอวยพรให้หายจากไข้หวัด
โดยเร็วไว ก็ค่อยยังชั่วแต่ก็ยังเพลีย ๆ อยากนอนมาก ๆ อยู่ อิอิ

อ่านเรื่องย่อของภาพยนตร์ เรื่อง ปรสิต (Parasite) เธอ
เล่าได้ละเอียดมาก จ้ะ เหมือนได้ไปนั่งดูหนังเองเลย

ยิ่งมาอ่าน บทวิเคราะห์หนังเรื่องนี้ ของเธอแล้ว หันมามอง
ประเทศไทยของเรา ก็จริงอย่างที่เธอวิเคราะห์ นะ การเมือง
ของเมืองไทย ก็แก้ยาก ใครมาเป็นรัฐบาล ก็เหมือน ๆ เดิม
ประชาชนอย่างเรา ก็คงทำได้แต่รักษาตัวเอง อย่าฟุ่มเฟือย
อย่าเอาอย่างคนรวย คนรวยบางกลุ่ม ก็รวบอำนาจการค้าไว้
ในมือ ก็เยอะ คนไทยที่ขี้เกียจ รักงานสบายก็มีไม่น้อย ไม่
งั้นแรงงานต่างชาติคงไม่เต็มบ้านเต์มเมือง มาแย่งการรักษาของ
คนไทยตามโรงพยาบาลต่าง ๆ มากมาย เฮ้อ ! ไม่รู้จะโทษ
อะไรดี เนาะ เขียนแล้วก็เศร้าใจเนาะ

โหวดหมวด ภาพยนตร์

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 7 มีนาคม 2563 19:16:58 น.  

 

แวะมาลงทะเบียนให้ก่อนนะ
ซิซุกะจิน ตอนนี้เป็นซิซุกะจน และจวนเป็นผีบ้าละ
หมดเงินกับการซื้อหน้ากาก เจลล้างมือ
แอลกอฮอร์ น้ำยาฆ่าเชื้อในร้าน ทำประกันโควิดให้เด็ก
และติดตามข่าว พร้อมกับเฝ้าระวังกับการรับมือลูกค้าที่ร้านทุกวัน

ไปก่อนอ่านเน้อ
บล็อกที่บ้าน ปล่อยให้ขึ้นอืดไปก่อน
สบายใจแล้วจะอัพเน้อ

 

โดย: JinnyTent 7 มีนาคม 2563 19:39:32 น.  

 

ไม่ได้ดูซีรี่ย์เกาหลีมานานล่ะ..

เครียดเหมือนกันนะคะ...

เรื่องความเลื่อมล้ำต่ำสูงในสังคม..

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 7 มีนาคม 2563 19:53:33 น.  

 

เด่วนะ กำลังอ่านเรื่องราวในบล็อก
เปรียบเสมือนเรื่องย่อ ๆ อ่านแล้วสนุก
ไหง๋ตัดฉับมาเข้าการเมืองไทยไปได้

เออ ๆ ให้อภัย เพราะยกมาเปรียบเทียบ
ให้เห็นภาพชัดเข้าไปอีกเย้ออออ
เข้าใจเอาข้อมูลมาเสริมในรีวิวนะ
ไทยเรามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ตอนนี้

คิดเหมือนคุณก๋า ถ้าเขียนวิเคราะห์การเมืองท่าจะมันส์ 555
จากพล็อตเรื่อง เข้าใจทำนะ น่าจะกระชากอารมณ์คนดูน่าดู
แต่พี่ไม่ค่อยชอบหนังแนวนี้ ดูแล้วเครียด
วัตถุประสงค์การของดูหนังหรือซีรี่ย์ของพี่ตอนนี้
คือ ผ่อนคลาย อะไรที่เสริมเครียดและหนักหน่วง พักไว้ก่อน

มันไม่เหมือนสารคดี ความรู้สึกม้นคนละอย่าง
สารคดีหนักหน่วง มันก็ยังโอเคกว่า มันคือความจริงที่น่าศึกษา

แต่หนังแนวนี้ ดูแล้วมันอดคิดไม่ได้ว่า..
ทำไมชั้นต้องเอาเวลาว่างที่น้อยนิดของชั้น
มาดูอะไรที่ทำให้ตัวเองจมดิ่งกับความรู้สึกอินไปกับด้วยเนี่ย
ดูแนวนี้ทีไรแล้วเพลีย หมดพลังแทนที่จะได้ชาร์ทพลัง
ขออ่านรีวิวผ่านเพื่อนบล็อก (เรื่องนี้มีคนทำรีวิวหลายคนเนอะ)
ขอชื่นชมในการทำหนังดี ๆ ออกมาสู่สายตาอย่างเดียว

แล้วก็ขอชื่นชมชีริว
รีวิวหนังได้ดีมาก ดูแล้ววิเคราะห์ตามไปด้วย
อ่านแล้วสนุก น่าติดตามและทำออกมาได้น่าสนใจมาก ๆ

การแบ่งชนชั้น ความเหลื่อมล้ำทางสัง มีอยู่ทั่วโลก
เพียงแต่เราจะอยู่ในสังคมแบบไหน กลุ่มไหน ประเทศอะไรแค่นั้นเอง
มีคนจน ก็มีคนรวย เป็นธรรมดา ทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม

สำหรับพี่ กรรมจะจัดสรรให้เราไปอยู่ในสังคมแบบไหน
ขึ้นอยู่กับกรรมเก่าที่เราทำมา แล้วเราเลือกที่ออกจากเส้นทางกรรมเก่าของเราได้
ด้วยการเรียนรู้ความจริง และใช้ธรรมะของพระพุทธเจ้านำทาง

เราสามารถเลือกได้ว่า เราจะจมอยู่กรรมเก่าที่ขีดเส้นให้เราเป็นแบบนั้น
หรือทวนกระแส เหมือนปลาว่ายทวนน้ำ ไปหาสิ่งที่ดีกว่า

เอิ่ม.. ชักจะว่ายแหวกแนวรีวิวหนังของชีริวไปไกลละ
ดูหนัง แล้วหันมาดูชีวิตจริง ไม่ต่างกัน
ชีวิตจริงของเราก็คือโรงละครโรงใหญ่ของโลกใบนี้ นั่นเอง

 

โดย: JinnyTent 7 มีนาคม 2563 20:18:00 น.  

 

พี่ต๋าขอส่งกำลังใจก่อนนะคะน้องชีริว

 

โดย: Sweet_pills 7 มีนาคม 2563 23:44:14 น.  

 

เนื้อหาอย่างแน่นเลย โหวตให้ก่อน เดี๋ยวมาอีกทีท่าทางว่าน่าจะมีประเด็นให้พูดถึงเยอะ

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 8 มีนาคม 2563 0:42:35 น.  

 



อรุณสวัสดิ์ครับน้องชีริว

 

โดย: กะว่าก๋า 8 มีนาคม 2563 6:18:46 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณชีริว
หนังเรื่องนี้ เราก็ได้ดูจาก AIS Play เช่นกัน
เห็นว่าได้รางวัลหนังยอดเยี่ยมจากเอเชีย...
ผลจากการได้ชม คุณชีริววิเคราะห์หนังจากเนื้อเรื่อง
ได้เยี่ยมบรรยายยาว มากกว่าที่เราชมเองอีกคร้า...

หักมุมดีค่ะ และเรื่องราวก็สมชื่อเรื่องจริงๆ Parasite
ความต่างของคนจนกับคนรวย...มันมีจริงๆบนโลกนี้อ่ะ!!!

เราชอบแนวคิดของชาร์ล ดิคเคน ที่คุณชีริว ยกมาเขียนไว้
"เราจะไม่มีปัญหากับความจนถ้าเราไม่ได้เห็นคนที่รวยกว่า"

ทางพุทธศาสนา จึงมีสอนไว้ว่า ...ถ้าไม่อยากเป็นทุกข์
อย่าเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น !


 

โดย: Tui Laksi 8 มีนาคม 2563 9:00:20 น.  

 

ผมรออ่านบล็อกหนังจากคุณชีริวนะครับ นาน ๆ มาทีแต่สุดยอดเลยครับ มีของคุณเต้ย กับคุณทุเรียนด้วยที่รีวิวได้ถึงแก่นเลยครับ

 

โดย: The Kop Civil 8 มีนาคม 2563 9:45:41 น.  

 

ตอนนี้คำว่า
ม๊อบกลับใจ
เริ่มจะดังขึ้นเรื่อยๆ
เพราะเห็นแล้วว่า
คนที่เคยเชื่อว่าดี
ชักจะไม่ดีอย่างที่ดี

นักศึกษาเริ่มออกมาแสดงความรู้สึกมากขึ้นๆเรื่อยๆ
พอไปถึงจุดที่พวกเขาแสดงความคิด
ตรงนี้น่ากลัวแล้วล่ะครับ

เมื่อเช้าพี่ก๋านั่งฟังคลิปนักศึกษาให้สัมภาษณ์
โอ...น้องๆเหล่านี้พูดได้ดี
สรุปเนื้อหาได้ชัดเจนมากๆครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 8 มีนาคม 2563 10:29:23 น.  

 


Trump ออกมาโวยวายว่า
หนังพูดเกาหลี มาได้ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมได้อย่างไร?

ก็ยังงๆอยู่เช่นกัน

ฤา Oscar 2020 อยากเป็นที่ให้พูดถึง
เพราะว่าไปแล้ว
ความนิยมชมชอบการติดตามดูถ่ายทอดสด
ลดลง..
ขนาดพิธีกร ยังไม่มีเลย Oscar หนนี้
เพราะไม่สามารถหาคนที่จะดึงดูดมาทำหน้าที่ได้
อะไรๆ มัน fade ไป

 

โดย: คนผ่านทางมาเจอ 8 มีนาคม 2563 11:03:06 น.  

 

AIS Play มีอะไรให้ดูเยอะจริงๆ ครับ พวกการ์ตูนในนี้ก็มีให้ดูเยอะไล่ๆ ญี่ปุ่นเลยด้วย มีมาโดกะภาคใหม่ด้วยนะ (ผมยังไม่ได้ดูเลย)

เรื่องราวในตอนแรกดูบันเทิง แต่พอคนใช้เก่ากลับมาเท่านั้นแหละบันเทิงยิ่งกว่าเดิม

เรื่องขยันทำมาหากิน มันพูดยาก ผมว่ามันเหมือนกับเวลาเด็กจบใหม่หางานนะ ไม่ทำงานก็ไม่มีประสบการณ์ แต่ถ้าไม่มีประสบการณ์ก็จะไม่ได้งาน และถ้าเทียบกับการเล่นเกม ผมขอเปรียบเทียบกับเกมที่สามารถยืมทรัพยากรในเกมกับเพื่อนได้นะครับ ถ้าเราได้เงิน หรือทรัพยากรมาใช้ก่อน มันก็จะเก็บเลเวลได้ไว ถึงแม้จะต้องใช้คืนเพื่อนก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า มันเก็บเลเวลได้ไวขึ้นมาก นี่แหละความเหลื่อมล้ำของคนรวยกับคนจน ยิ่งถ้าเป็นเกมที่เติมเงินซื้อทรัพยากรก็ยิ่งใช่เลยอัดเงินเข้าไปแปบเดียวก็เทพ

"ถ้าไม่ทำมาหากินมันจะรวยได้ยังไง อยากรวยก็ขยันสิ" ถ้าขยันอย่างเดียวและมันทำให้รวยได้ มันก็ดี ขยันอย่างเดียวไม่ช่วยหรอก มันมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย แต่ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเพิ่ม % ที่จะร่ำรวยขึ้นได้ แต่...... ถ้าใช้แรงกายมากเกินไป จนล้มป่วยจากการทำงาน ทรัพย์สินที่ได้มาจากการที่เราขยันก็อาจหมดในพริบตาได้เหมือนกัน ดีไม่ดีติดลบอีกต่างหาก

ข้าราชการบางคนโดดงาน 300 กว่าวันได้เงินเดือนเป็นแสนก็มีนะครับแหม... มีงานบางงานของพวกคนรวยที่เข้าไปนอนหลับแล้วได้เงินก็มี

ความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาใหญ่ในสังคม ณ วันนี้น่าจะเป็นสังคมแบบที่บางคนเรียกร้องกันมานานแล้ว คือ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพราะเขาแซงเราไปหมด และคนจนหมดไป เพราะมันจนกันหมด ไม่ก็ตายไปแล้ว โศกนาฏกรรมแบบนี้คงไม่จบลงง่ายๆ หรอกครับ ระเบิดที่ถูกจุดมันก็แค่รอเวลาที่จะตูม



เอาเข้าจริงๆ ตอนนี้ผมเขียนบล็อกการ์ตูนแนววิเคราะห์แบบวิเคราะห์หนังแบบนี้มาได้พักนึงแล้ว รอเวลา release กำหนดการน่าจะเป็นช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคมคงได้อัพให้ได้อ่านกัน

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 8 มีนาคม 2563 11:21:03 น.  

 


แน่ะคุณชิริววิจารณ์หนังด้วย
เริด

พี่อ้อไม่ชอบตอนจบ
เคยบอกกล่าวในบล็อกหนัง"เรื่องนี้"ไปแล้วว่า...
ขมวดจบง่ายไป..
ที่ให้ลูกชายมีความฝัน
(Mission Impossible ที่แท้true)

และมุกเหม็นสาปคนจนนี่
มันโหดร้าย/ทำร้ายจิตใจ ได้เจ็บปวดเหลือแสน


รางวัลOscar 2020 แบ่งๆกันไป
แต่มาแบ่งรางวัลใหญ่ให้ Parasite
เลยเป็นประเด็น
Talk of the town

ผู้แสดงเป็นแม่ครัว(คนเดอม)
เป็นคนพูด(ภาษาอังกฤษ)ขอบคุณ
บนเวที ตอนยกทีมรับรางวัล Best Picture ช่วงสุดท้ายด้วย

 

โดย: เริงฤดีนะ 8 มีนาคม 2563 11:23:18 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะ

เรื่องย่ออย่างยาวค่ะ
หนังแนวเครียด ต้องพักไว้ก่อน
ช่วงนี้ดูแต่แนวตลกค่ะ
เพราะเครียดเรื่องรอบๆตัวมาก
ขอบคุณกำลังใจที่ให้กับเจ๊าะแจ๊ะด้วยค่ะ
อายุ14ปี 7เดือนแล้วค่ะ

 

โดย: ตะลีกีปัส 8 มีนาคม 2563 14:19:08 น.  

 

ผมมาอ่านก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ยังอ่านไม่หมด แหะ ๆ ยาวจัง

แต่เนื้อเรืองมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ คุณชีริวตีแตกซะมองภาพออก
ในชีวิตจริงพวกเรา เคยเจอแบบน้้นมาบ้าง แต่คงไม่มากขนาดนั้น

หนังเรื่องนี้มีคนรีวิวมาครั้งหนึ่งแต่สั้นมาก ๆ คงเป็นที่สนใจคน
ในโอกาสต่อไปหลังจาก โคขวิดหยุดขวิดแล้วมังคับ ลุ้น ๆ ให้
หนังดี ๆ แบบนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้นครับ

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 8 มีนาคม 2563 19:12:36 น.  

 

ชีริว-'วิวหนัง!

ก่อนอื่นเลยดีใจมาก ๆ ที่คุณชีริวใช้ฟอนต์ในบล็อกตัวใหญ่ขึ้น
ผมไม่ต้องขยายหน้าจอ 110% เพื่ออ่านบล็อกนี้อีกต่อไปแล้ว Yeah!
(มันสำคัญมากสำหรับการอ่านบล็อกที่มีตัวหนังสือเยอะ ๆ จนจบ ^^")

.....

นี่เป็นการรีวิวพร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์สังคมที่ยอดเยี่ยมมากครับ
แต่บอกตรง ๆ ว่าผมจำชื่อตัวละครเรื่องนี้แทบไม่ได้เลยครับ
ตอนที่อ่านบล็อกนี้เนี่ย ต้องเลื่อนขึ้นไปดูชื่อคนที่รูปแรกทุกครั้ง
สงสัยผมไม่คุ้นกับชื่อคนเกาหลีจริง ๆ แฮะ
คิดดู! วง Blackpink มี 4 คน ผมจำชื่อลิซ่าได้คนเดียวเอง
^
^
(มันเกี่ยวกันมั้ยเนี่ย -_-)


ผมเข้าใจนะครับ ที่คุณชีริวบอกว่าบางมุกในหนังดูง่าย
เพราะคนที่มีประสบการณ์การอ่านการ์ตูนเท็ตสึกะมาเยอะ ๆ
เจอความเงิบแบบหักมุมมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว
แต่ที่พูดมานี่ผมก็ยังไม่ได้ดูหนัง Parasite หรอกนะครับ
และคิดว่าคงไม่ได้ดูแน่ ๆ
ผมว่า...โลกที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบันนี่ดูท่าโหดร้ายกว่าในหนังเยอะ
ดูสิ! ขนาดเชื้อโรคมันยังเหลื่อมล้ำเลย ไวรัสไม่เกาะคนมีฐานะหรอกนะ
เอ๊ะ! เริ่มรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวพิกล ไม่พูดต่อดีกว่า แฮ่

 

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก 8 มีนาคม 2563 23:48:53 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

ข่าวดังเช้านี้
ไม่มีข่าวไหนดังเกินคนสนิท รมต.
กักตุนหน้ากากอนามัยแล้วนะครับ

 

โดย: กะว่าก๋า 9 มีนาคม 2563 6:22:22 น.  

 

แต่เราว่าคนรวยไม่ได้เป็นมิตรจริงๆ นะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณพัค โคตรหน้าไหว้หลังหลอกเลย แบบที่เรารีวิวไว้แหละ

ปากบอกว่าไม่ซีเรียส ไม่จับผิด แต่คอยมองถ้วยกาแฟตัวเองเวลาพ่อครอบครัวจนขับตลอดเวลา

ด่าว่าสะอิดสะเอียนคนขับที่เอาผู้หญิงมานอน แต่กลับถามหากางเกงในถูกๆ ตัวนั้น

เหอๆ สุดอ้ะ

อะไรที่คิดว่าเป็นมุขที่ง่าย? ไหนบอกซิ?

น่าจะมาเอาดีทางรีวิวหนังนะเธอน่ะ 5555

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
mariabamboo Photo Blog ดู Blog
บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน Review Food Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Review Travel Blog ดู Blog
Sweet_pills Food Blog ดู Blog
ชีริว Movie Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 9 มีนาคม 2563 10:24:58 น.  

 

เขียนได้ดีค่ะ
แต่อ่านแล้วทำให้มั่นใจว่าคงไม่เลือกดูหนังเรื่องนี้แน่ๆ
เพราะดูแล้วคงจะเครียดเกินไปสำหรับสมองน้อยๆ ของเรา

ปัญหาความเหลื่อมล้ำคงไม่หมดไปง่ายๆ
ขอแค่ลดลงจนไม่ห่างกันเกินไปก็ยังดีเนอะ

 

โดย: เพรางาย 9 มีนาคม 2563 15:41:08 น.  

 

ชีริว Movie Blog

หนังจบแล้วเกิดคำถามกับตัวเองว่าต้องจิตแค่ไหนถึงจะสร้างหนังอย่างนี้ได้ แล้วเราจิตตกแล้วด้วยล่ะที่ดูจนจบ ดูแล้วอารมณ์ไม่จบค่ะ
สมแล้วที่ได้รางวัลกับเขา
ส่งกำลังใจนะคะ

 

โดย: mariabamboo 9 มีนาคม 2563 18:35:36 น.  

 

ค่อยๆอ่านตามประสาพี่ก็ยังเครียดน่าดู
คุณชีริวเล่าถึงเนื้อหาคนรวยคนจนได้ชัดเจนมาก
แต่พี่คงไม่อยากดูเองนะคะ
ขอบคุณรีวิวมากๆค่ะ

 

โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า 9 มีนาคม 2563 18:53:20 น.  

 

จากบล็อกที่ไปคุย
เป็นวิเคราะห์แบบประเภทกำหนดหัวข้อแล้ว พูดวกเข้าหาการ์ตูน จพะเป็นลักษณะนั้นมากกว่าครับ

เดี๋ยวๆ Head blog กับตรงชื่อ กลายเป็นไดโนเสาร์ไปแล้ว!!

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 9 มีนาคม 2563 23:57:48 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

เศรษฐีสงคราม
มีทุกยุคทุกสมัยจริงๆ
เพียงแต่สถานการณ์แบบนี้
ไม่น่าจะทำขนาดนี้
จนประชาชนเดือดร้อน
แพทย์ พยาบาลไม่มีใช้
อันนี้แย่ยิ่งกว่าแย่
แถมยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบอีก

เฮ้อ ---


 

โดย: กะว่าก๋า 10 มีนาคม 2563 6:45:03 น.  

 

เขียนผิดอยู่แค่ประโยคนี้จ๊ะ

...ประจวบเหมาะกับแม่บ้านคนเก่าที่กลับมา
และเปิดเผยว่าเธอแอบพาสามี
ที่หนีเข้าหนี้เข้ามาอยู่อาศัยในห้องใต้ดิน

"ที่หนีเข้าหนี้"
คำที่ถูกต้อง "เจ้าหนี้" ใช่ไหมจ๊ะ

โหวต

 

โดย: อุ้มสี 10 มีนาคม 2563 7:11:23 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณชีริว
ขอบคุณหลายๆคร้า...มาเจิมบล็อกใหม่ให้ด้วย
อย่างปลื้มเลย...ปัจจุบันมาเปิดสาขาในกรุงเทพฯด้วย
เราเคยไปทานที่สาขา สยามสแควร์ โห...รอคิวนานครึ่งวัน
ไป 11 โมง ได้คิว(โทรตาม) ตอนมื้อเย็น 5 โมงเย็น
มื้อกางวันจึงเป็นมื้อเย็น...และไปนั่งทานร้านอื่นแทนในมื้อเที่ยง
ได้ไปชิม ก็จะได้ทานผักสดสมใจละที่นี้ ...ขอบคุณอีกครั้งนะคร้า

 

โดย: Tui Laksi 10 มีนาคม 2563 7:32:04 น.  

 

ไม่ได้ดูเรื่องนี้ (ปกติได้ดูหน้งกับเค้าด้วยรึมี้เก๋ อิอิ) ตอนนี้หนังเข้าก็รู้สึกว่าน่าสนใจดีเลยค่ะ

 

โดย: kae+aoe 10 มีนาคม 2563 8:35:35 น.  

 

เธอจะสู้ขาประจำได้ไง รีวิวละเอียดซะขนาดนี้ แต่ไม่ต้องเอาปริมาณหรอก เอารีวิวละเอียดๆ มีคุณภาพน่ะดีแล้ว อ่านแล้วได้อะไรดี

เราเองก็คงไม่ดูหนังในโรงสักพักอ้ะ จนกว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้น

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 10 มีนาคม 2563 10:10:16 น.  

 

สวัสดีมีสุขค่ะ

ขอบคุณกำลังใจให้ตะพาบ หาพวกเพาะถั่วงอกด้วยค่ะ

 

โดย: ตะลีกีปัส 10 มีนาคม 2563 13:15:37 น.  

 

รีวิวละเอียดมากเลยครับผม ชอบๆ เลย
ผมดูมา 2 รอบ เอาจริงๆ ก็เก็บรายละเอียดได้ไม่เยอะเท่าไหร่ครับ
บางเรื่องก็ไม่ได้สังเกต หรือคิดตามเลย 555555

อย่างเรื่องฝนตกนี่ผมไม่ได้ compare เลยว่า ตอนที่ดูที่บ้านคนรวย กับตอนที่อยู่บ้านคนจน มันต่างกัน 5555
แต่ชอบโทนหนังที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่สุดท้ายดูหดหู่เล็กๆ
มันก็พีคดีครับ เรียกว่าเหมาะกับออสก้ามาๆ เรื่องนี้

เมื่อก่อนผมติดการดูหนังมากครับ เดือนๆ ดูหนังเยอะมาก
ตอนนี้ถูกสั่งห้ามไปโรงหนังด้วยโควิด-19 T_T เหงาไปเลยครับ
ต้องอาศัย Netflix แทน

รีวิวอีกนะครับ ละเอียดดี ชอบอ่านงานรีวิวที่ได้เห็นความ และการวิเคราะห์ของตัวเองลงไปด้วย อยากอ่านว่าคนอื่นมองเห็นอะไร หมือนที่ผมเห็นไหม หรือผมพลากอะไรไป ^^

 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น 10 มีนาคม 2563 13:21:56 น.  

 

จากบล็อก
แฮริสัน ฟอร์ด ยังเท่ห์ตลอดกาลเลยครับ ยังชอบผลงานของแกหลายๆ เรื่องเลยครับ ดาราฝรั่งยิ่งอายุเยอะยิ่งเยอะประสพการณ์นะครับ 55 เรื่องนี้ขนาด CG ไม่เนียนนะครับ แต่ผมดูแล้วก็ยังดีกว่าของไทยนะครับ พาดพิงอีกละ 555

 

โดย: The Kop Civil 10 มีนาคม 2563 14:41:24 น.  

 

แวะมาเยี่ยมครับ

 

โดย: **mp5** 10 มีนาคม 2563 16:57:40 น.  

 

อ่านตั้งแต่ต้นจนจบครับ
"แผนที่ดีที่สุดก็คือการไม่มีแผน" น่าจะช่วยปลอบใจความผิดพลาดที่ทุกช่วงวัยมีโอกาสเกิดขึ้น เพียงได้ฟังก้รู้สึกดีแล้วครับ

 

โดย: Insignia_Museum 10 มีนาคม 2563 17:33:45 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

แวะมาเยี่ยมและขอบใจที่แวะไปให้กำลังใจที่บล็อกครู ตอน
นี้ กำลังรวบรวมรูปการไปสังเวชนียสถาน ซึ่งมีเหลือแต่ซากอิฐปูน
สถูปให้เป็นสัญลักษณ์เท่านั้น ชีริวคงชอบ ครูชอบตรงพระ
อาจารย์ที่ไปด้วยเป็นวิทยากร อธิบายให้ความรู้ดีมาก จ้ะ
ทริปนี้ คงมีเรื่องเขียนเยอะหน่อยละ 11 วันจ้ะ รอรูปจาก
ญาติธรรมก่อน เป็นพัน ๆ รูป เลือกจนตาลาย ห้าห้า

ชีริวจำผืดแน่นอนว่า มิตติ้งที่เราเจอกัน ตอนนั้นครูอายุ

60 ปลายๆ ครูมาเริ่มเขียนบล็อก โดยให้ลูกศิษย์ทำบล็อกให้
และสมัครให้หลังจากที่ครูเกษียณแล้ว จำได้ว่า กลับจากเที่ยว
อลาสก้า ปี 53 ครูเกษียณปี 51 น่าจะเริ่มเขียนเดือน ก.ค.
ส.ค. ปี 53 มั้ง เขียนเรื่องความรู้เป็นหลักใหญ่ มารู้จัก
เรื่องการโหวดเอาหลังจากเขียนไป ได้สองปีมั้ง ห้าห้า
บล็อกแก๊งจัดมิตติ้งครั้งแรก ที่ร้านกาแฟ ที่มีขนมเป็นซุ้ม ๆ ให้เดินไปตักกิน ครั้งแรกที่จำเพื่อนบล็อกได้ คือ น้องอุ้มสี
น้องอ้อแอ้ม มี้เก๋ นั่งเงียบ ๆ เพราะไม่รู้จักใคร พอครั้งที่สอง
จัดที่โรงแรมอะไรสักแห่ง มีกิจกรรมเกี่ยวกับเรื่องรถไฟฟ้านี่แหละ
ตอนนี้เริ่มรู้จัก ชีริว รู้จัก ต่อ มิตติ้งปีนั้น รู้สึกสนุกมากเลย นะ ปีนั้น รู้สึกเป็นปีที่เจอ น้องก๋าด้วย น้องเนินน้ำ ป้ากุ๊ก ส่วนปีสุดท้ายที่เจอกันกับชีริว คือ ที่เมืองโบราณ เริ่มรู้จัก พี่ภา เพราะนั่งรถชมเมืองคันเดียวกัน
ปีสุดท้ายที่จัดมิตติ้ง ก็เป็นการมิตเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ตาม
สถานที่ต่าง ๆ ชีริวก็ไม่ได้ไป น่าจะปี 59 ที่จัดเป็นปีสุดท้ายมั้ง
ห้าห้า โอกาสที่จะให้ทีมงานจัดอีก คงยากเนาะที่เราจะมาเจอ
กันอีก นะ ชีริว ห้าห้า




 

โดย: อาจารย์สุวิมล 10 มีนาคม 2563 17:58:04 น.  

 

หนังเรื่องนี้ ต้องดูให้ได้เลยค่ะ ดังมาก สมรางวัล

 

โดย: Sai Eeuu 10 มีนาคม 2563 21:14:57 น.  

 

พูดถึงเรื่องเกม
แล้วก็นึกถึงหมิงหมิง
ตอนนี้คุยกับลูกไม่ค่อยรู้เรื่อง
โดยเฉพาะเรื่องเกมนี่ล่ะครับ
วันก่อนถามลูกว่า
เล่นเกมนี้เคลียร์รึยัง
หมิงทำหน้างง
แล้วบอกว่า

"คำนี้เค้าเลิกใช้กับเกมรุ่นใหม่ๆแล้วป๊า
มีแต่เกมยุค 80-90 นั่นล่ะที่ใช้" 5555






 

โดย: กะว่าก๋า 10 มีนาคม 2563 22:24:17 น.  

 

เกี่ยวกับรางวัล Tezuka สาขา Short Work Prize
ตอนแรกผมก็สงสัยเหมือนกัน ว่าการ์ตูนที่ได้รางวัลนี้เป็นไงบ้าง
ลองไล่ ๆ ดูแล้ว ส่วนใหญ่ผมไม่รู้จักเลยครับ เพราะไม่มีแปลไทย
เรื่องที่รู้จักในบ้านเราก็ "Saint Young Men" กับ "สู้ต่อไป ลูเซียส"
(ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 2 เรื่องนี้จัดเป็นเรื่องสั้น
หรือตอนปีที่ได้รับรางวัลเคยเป็น pilot project มาก่อน ^^")

ตอนที่ผมหาข้อมูลเรื่องพวกนี้ เจอสิ่งที่น่าสนใจครับ
คือพวกการ์ตูนที่ได้รางวัล Short Work Prize ในปีต่าง ๆ เนี่ย
ถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมะ กับ Live action หลายเรื่องเลยครับ
แสดงว่าการ์ตูนพวกนั้นน่าจะเป็นพวกการ์ตูนขายไอเดีย
หรือไม่ก็มีอะไรแปลกใหม่ มีศักยภาพนำไปต่อยอดอะไรได้มาก
อย่างเช่น เรื่อง Seiri-chan นี่แหละมั้งครับ

 

โดย: ทุเรียนกวน ป่วนรัก 11 มีนาคม 2563 0:05:23 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

 

โดย: กะว่าก๋า 11 มีนาคม 2563 6:10:18 น.  

 

หนังดีน่าดูมากค่ะน้องชีริว
ความเหลื่อมล้ำในสังคมที่เราตระหนักว่ามีแต่อาจไม่ได้สนใจแบบเจาะลึกมากนัก
การดูหนังเรื่องนี้เหมือนมากระตุ้นให้ฉุกคิดและหันมามองความเป็นจริงมากขึ้นผ่านตัวละครนะคะ
ครอบครัวยากจนแฝงเข้าไปใช้ชีวิตในบ้านครอบครัวที่ร่ำรวยถึงสองครอบครัว
เกิดเหตุการณ์ต่างๆจนถึงโศกนาฏกรรมที่ดึงอารมณ์
ความเหลื่อมล้ำก็ยังคงอยู่สะท้อนความเป็นจริงที่เราเองก็ยังอยู่กับสิ่งนี้

ถึงแม้การไม่เปรียบเทียบระหว่างชนชั้นอาจทำให้ทุกข์น้อยลง
ก็ไม่น่าง่ายนะคะกับการไม่เปรียบเทียบเลยทั้งที่ต้องใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม
อย่างน้อยหนังเรื่องนี้ก็ช่วยให้คนทั่วโลกที่ชมได้ข้อคิดอะไรบ้าง
และสิ่งนั้นอาจตรงใจคนทำหนังเรื่องนี้แล้ว
ประทับใจกับความคิดและการลงมือสร้างหนังเรื่องนี้
ขอบคุณน้องชีริวสำหรับรีวิวด้วยค่ะ



 

โดย: Sweet_pills 11 มีนาคม 2563 8:14:15 น.  

 

บ้านหอมเทียนเหมาะแค่ไปถ่ายรูปละนะ อิอิ ต้องเสียค่าเข้าด้วย เด็กๆ จะสนุกหน่อยทำเทียน

 

โดย: kae+aoe 11 มีนาคม 2563 9:00:58 น.  

 

สวัสดีอีกรอบเด้ออออ

ก็นะ...คนทำเน้นเอารางวัลก็ทำไป บอกแล้วว่าเอาที่สบายใจ 55555

สำหรับเรา บางคนคู่ควรกับรางวัลมากกว่าคนที่ได้รับการโหวตจนได้รางวัลจริงๆ ด้วยซ้ำ

อย่างแกเนี่ย แทรเวลควรได้ คู่ควรมาก

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 11 มีนาคม 2563 9:01:12 น.  

 

สวัสดี จ้ะ น้องชีริว

เอ้า ครูตีความหมาย 60 ปลาย ๆ ของเธอผิดไปคนละทาง
อิอิ 65-70 เหรอ สรุป เราเจอกัน 2 ครั้งเท่านั้นเอง แต่มิตรภาพเราก็อยู่ในขั้นแน่นแฟ้นพอควรนะ ห้าห้า

 

โดย: อาจารย์สุวิมล 11 มีนาคม 2563 10:37:46 น.  

 

เดี๋ยวนี้ติดซีรีย์หรือเนี่ย

เกือบหาทางเข้าไม่เจอแน่ะ ลืมไปหมด ทางเข้าทางออกอยู่ตรงไหน

อยากดูซีรีย์เรื่องนี้ คงตลกน่าดู

 

โดย: ลอยละล่อง บล็อกแกงค์ 12 มีนาคม 2563 13:15:00 น.  

 

จากบล๊อก
หมาใหญ่ไปหน่อยครับ แล้วไม่ควรไปอยู่บนเก้าอี้ตั้งแต่แรกแล้วให้ผมนั่งพื้น ก่อนที่มันจะสะกิดไหล่ - -''

 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น 13 มีนาคม 2563 13:41:55 น.  

 

พี่ก๋าไม่ได้อ่านงานคุณวินทร์ทุกเล่มครับ
ชอบเป็นบางเล่ม
ไม่ค่อยได้ตามเพจพี่เขาด้วย
แต่ใครตามอ่านตลอด
น่าจะพอจับความรู้สึกได้
ว่าพี่เขาไม่น่าจะชอบกลุ่มเสื้อแดงสักเท่าไหร่

หนังสือเล่มนี้ออกมาหลายปีแล้วล่ะครับ



 

โดย: กะว่าก๋า 15 มีนาคม 2563 16:49:32 น.  

 

จากบล็อกที่ไปคุย
ก่อนเข้าการแข่งเราจะได้ยินเสียงธีมเพลง บางครั้งถ้ามีโฆษณาว่าจะถ่ายทอดสดเราก็มักจะได้ยินธีมเพลงเหมือนกันครับ พรีเมอร์ลีกก็มีนะ ตอนนี้ประกาศหยุดชั่วคราว แต่ไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหน อฟช แล้วด้วย

 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) 15 มีนาคม 2563 17:43:03 น.  

 

จากบล็อก
กีฬาวันนี้มีรอบชิงแบดมินตันออลอิงแลนด์ครับ ส่วนหนังผมไม่กล้าไปโรงละครับ 555

 

โดย: The Kop Civil 15 มีนาคม 2563 18:35:51 น.  

 


สวัสดียามเช้าครับน้องชีริว

 

โดย: กะว่าก๋า 16 มีนาคม 2563 6:30:27 น.  

 

ตุรกีนี่จากสองทริปไงเธอ

ทริปแรกจบไปแล้ว นี่ทริปที่สองก็จะจบแล้ว

เธอไม่ไปอ่านอย่างต่อเนื่องไง เลยไม่รู้เรื่องเลย ชิๆๆ

จบนี่ว่าจะเอายุโรปแสนสองมาต่อ 5555

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 16 มีนาคม 2563 10:14:23 น.  

 

จากบล๊อก
ตั้งหัวข้อเรียกแขกตามความรู้สึกเลยครับ 5555
ไทยเดนมาร์คนี่อร่อย แต่เซเว่นไม่มีขาย จะเจอเวลาแวะปั้ม PTT หรือ PT น่ะครับ 20 บาทแหนะ นมปกติแค่ 10-12 บาท

กินนมแทนน้ำนี่....ดีนะเลยครับ ประโยชน์ทั้งนั้น ถ้าที่บ้านไม่ไล่ออกจากกองมรดก หาว่ากินเปลืองก็โอเค 5555

ของหวานนี่....เนื้อ นม ไข่ บันทิงใจดีนะครับ แหะๆ

 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น 17 มีนาคม 2563 10:42:10 น.  

 

ดูมาละะะะ...
ทีแรกเดาตอนจบไม่ออกว่าจะคลี่คลายยังไง
การมีอยู่ของคนบางกลุ่มถูกมองข้าม ทั้งๆ ที่
อยู่บนโลก บนพื้นที่เดียวกัน ดูแล้วมันจี๊ดยังไม่
ไม่รู้

ในเรื่องก็ไม่ได้สื่อถึงนายพัค จะแสดงท่าทีเหยียด
คนจนชัดเจนเท่ากับพล็อตเรื่องทั่วไปขนาดนั้น
แต่มันก็รู้สึกของความต่างของสองครอบครัวนี้ขึ้น
เรื่อยๆ อ่ะ....เลยรู้สึกว่า คำว่า คนจน ไม่ได้แปลว่า
คนที่มีรายได้น้อยและไม่มีศักยภาพในการซื้อ เท่า
คนรวยนะ แต่นี่มันเลยเถิดไปถึงเรื่องสถานภาพ
ความเป็นมนุษย์ที่มองยังไงก็ไม่มีวันมองว่าเท่า
เทียมกันเลยอ่ะ

ปล. สงสารคนขับรถคนแรก

 

โดย: กาบริเอล 17 มีนาคม 2563 14:34:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชีริว
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 89 คน [?]





**5 Latest Entries**
RedLife
เบตง
โดราเอม่อน ตอน ปืนหยั่งรู้ความคิด
ปัว-บ่อเกลือ
โดราเอมอน ตอน ฝาแฝดของโนบิตะ


Friends' blogs
[Add ชีริว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.