ฝนแปดแดดสี่ ที่นี่ระนอง
13-15 ก.ค. ที่ผ่านมาอุตส่าห์เป็นวันหยุดยาวทั้งทีก็อยากหาที่ไกลๆเที่ยวบ้าง ลงท้ายก็เลือกไปจังหวัดภาคใต้ที่เคยใช้เป็นแต่ทางผ่านอย่างระนองครับ แล้วก็เลยไปตะกั่วป่าหน่อยนึงก่อนกลับ เมืองที่ฟ้าฉ่ำฝนทั้งปีทั้งชาติอยู่แล้ว ไปช่วงหน้าฝนอีก ดีที่ไม่เจอฝนหนักจนเที่ยวไม่ได้นะครับ แค่ฝนตกปรอยๆ สลับกับแดดออกทุกๆ 10 นาที
ถึงจะไม่ใช่ปีใหม่หรือสงกรานต์ แต่เนื่องจากพระราม 2 มีช่วงซ่อมถนน รถจะติดสาหัสเลยรีบออกตั้งแต่ตี 5 โชคดีที่ขับเลยไปออกพุทธมณฑลสาย 4 ที่ไม่ค่อยคุ้นเคย ปรากฏว่าชีวิตดีมากครับ ไม่เจอช่วงซ่อมถนน โผล่ที่กระทุ่มแบน-มหาชัยเลย ถึงดงร้านข้าวแกงแถวเขาย้อยตอนหกโมงครึ่ง หนนี้แวะกินร้านข้าวแกงแม่ล้วนครับ
ที่ชุมพรต่อสาย 4 เพื่อออกขวามาระนอง ถึงระนองราวๆ เที่ยง เจอหมู่บ้านทับหลีต้อนรับอยู่ทางเข้าจังหวัด ก็แวะซื้อซาละเปาเขาสักหน่อย สุ่มไปเจ้าไหนก็อร่อย อันนี้ของเจ๊ต๋อยจ้า | | ช่วงต้นๆของทางเข้าระนอง จะมีแม่น้ำกระบุรีเลียบตลอดสาย 4 ครับ เป็นแม่น้ำที่กั้นระหว่างไทยและพม่า ก่อนจะไหลลงสู่ทะเลอันดามัน เปิดกูเกิ้ลแล้วจิ้มเลือกร้านริมน้ำเอาสักร้าน ได้ร้านนี้มาครับ ร้านอาหารท่าเรือ ที่เทศบาลตำบลน้ำจืด เป็นร้านเก่าแก่เปิดมา 40 ปี มีรูปเจ้าของร้านคนเก่าเป็นคุณแม่ของเจ้าของคนปัจจุบันครับ หน้าคล้ายกันมาก เดมทีร้านนี้เป็นร้านคนจีนชื่อซิ้นจ่ายหม่อ แต่คนเรียกติดปากกันว่าร้านท่าเรือ เพราะอยู่ตรงท่าเรือ เลยเปลี่ยนชื่อร้านซะเลย ตอนนี้เปิดมาถึงรุ่นที่ 3 แล้ว บรรยากาศออกร้างๆหน่อย แต่ช่วงเย็นน่าจะคึกคักมั้ง ร้านอยู่ติดริมน้ำกระบุรี ฝั่งตรงข้ามมองเห็นประเทศพม่าเลยนะครับ อาหารทุกจานร้านนี้จัดว่าเด็ด! เสียดายมากับแม่สองคน สั่งได้หน่อยเดียวก็อิ่มเอม จานกุ้งขึ้นชื่อมากเพราะใช้กุ้งตัวใหญ่สดจากท่าเรือขึ้นมาเลย จัดกุ้งผัดกะปิสะตอไปสักจาน เครื่องแกงเข้มข้น สะตอมันไม่ขม จานนี้แพงกว่ากุ้งผัดกะปิที่คาดหวัง แต่กุ้งก็ใหญ่+เยอะอยู่ครับ อีกจานปลาเก๋าทอดน้ำปลา กลัวกินไม่หมด เลยขอเขาตัวเล็กสุด เซฟกระเป๋าแถมได้ไซส์แบบสองจานอิ่มสองคนพอดี กินอิ่มแล้วก็มาที่เที่ยวแรกของทริปนี้ครับ ซากหัวรถจักรไอน้ำเขาฝาชี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่กองทัพญี่ปุ่นใช้เป็นฐานทัพ ยังคงมีร่องรอยทางรถไฟและอุโมงค์ใต้ดินอยู่ มีซากเรือรบจมอยู่ใต้แม่น้ำกระบุรีช่วงสะพานข้ามคลองละอุ่นด้วยนะครับ แต่ตอนนี้ต่อให้รอน้ำลงก็แทบมองไม่เห็นแล้ว
ตรงนี้มีซากหัวรถจักรไอน้ำ ข้างๆกันมีอาคารพิพิธภัณฑ์สงครามโลก แต่ร้างไปแล้วครับ เดิมทีที่นี่คือทางรถไฟข้ามคอคอดกระ สร้างในปี พ.ศ.2486 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความยาว 91 กม. เพื่อลำเลียงอาวุธ เสบียง และกำลังพล จากชุมพรไปฝั่งอันดามัน พอจบสงครามก็ถูกรื้อถอนไป ขับตามสาย 4 เส้นหลักมาเรื่อยๆเลยนะครับ ช่วงนี้มีทำถนนเยอะอยู่ เข้าออกจังหวัดลำบากนิดๆ ระหว่างทางเข้าเมืองระนองมีน้ำตกปุญญบาล เป็นน้ำตกสายเล็กๆ อยู่ข้างทาง แวะง่ายขนาดนี้ก็ขอจอดรถแวะสักหน่อยครับ เข้ามาน้ำไหลแค่เนี้ย นี่หน้าฝนนะเฮ้ย ชั้นแรกสุดสูง 20 เมตร ไม่ได้ขึ้นไปชั้นบนๆต่อไปเพราะไม่ได้ตั้งใจมาเที่ยวอันนี้อะ ค่าเข้า 20 บาท หน้าน้ำตกมีร้านค้าอยู่นิดหน่อย มีร้านขายเปลือกหอยกับร้านส้มตำ มีทุเรียนใต้ขายด้วย อันนี้ไซส์จิ๋วมากเลยครับ โลละ 40 บาท ถูกมวากกกก!! ซื้อมาลองแบบไม่คาดหวังความอร่อย กล่องนี้ 1 ลูก โลนึงพอดี เนื้อบางล่อนติดเปลือกไปเลยแถมจืดซะ แบบลูกใหญ่ก็มีโลละ 80 แต่เขาแกะ 3 ลูกแล้วยังไม่ได้ที่เลยขอไม่ขาย แค่โลละ 80 ยังเซอร์วิสเป็นเยี่ยม จากน้ำตกปุญญบาลขับมาอีก 3 กม. จะมีร้านกาแฟห้วยค้างคาว โด่งดังเรื่องบรรยากาศติดลำธารธรรมชาติ เครื่องดื่มหลากหลาย มีทั้งกาแฟ ชา โกโก้ นมเย็น มะนาวดองโซดา ส้มจี๊ดน้ำผึ้ง ผลไม้ปั่น ไม่แพงครับ แก้วละ 40-60 บาท เข้ามาถึงตัวเมืองระนอง สถานที่ท่องเที่ยวไม่มากครับจังหวัดนี้ เท่าที่รู้จักก็มีบ่อน้ำร้อนรักษะวารินกับภูเขาหญ้า เคยมาเที่ยวบ้านเพื่อนเมื่อปี 2010 ใช้เวลา 60% เล่นเกมอยู่ในบ้าน และอีก 40% ออกไปรถเสียนอกบ้าน (เป็นทริปที่สิ้นไร้ไม้ตอกสิ้นดี) หนนี้เราจะเที่ยวระนองจริงๆแล้วนะ!
ว่าแล้วก็ดิ่งเข้าโบราณสถานครับ (คนอ่านอุทานพร้อมกันว่า นั่น! ตูนึกไว้ไม่ผิด!) จวนเจ้าเมืองระนอง เป็นจวนของเจ้าพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซู้เจียง) เจ้าเมืองระนองคนแรก สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2420 มีกำแพงล้อมรอบจวน ด้านในมีกลุ่มอาคาร เรือนรับรอง คลังสินค้า บ่อน้ำ ฯลฯ บางอาคารก็ถูกรื้อถอนไปแล้ว ที่สำคัญก็คือนี่ครับ อาคารซินจู๊ เป็นศาลบรรพบุรุษ เก็บภาพถ่ายและป้ายวิญญาณของตระกูลเจ้าเมืองระนองตั้งแต่รุ่นแรกไว้ (ภาพล่างขวา คอซู้เจียงคือรูปที่อยู่ใต้ ร.5) ตระกูลเจ้าเมืองระนองเป็นคนจีนที่อพยพมาทำมาหากินในสยามและเติบโตเป็นเจ้าเมืองในสมัย ร.5 สายนี้ทำงานดีนะครับ พระยารัษฎานุประดิษฐ์ (คอซิมบี้ ณ ระนอง) เจ้าเมืองตรังที่ทำให้การค้าขายของตรังเจริญรุ่งเรืองก็ส่งมาจากสายตระกูล ณ ระนอง ใกล้จวนเจ้าเมืองมี สุสานเจ้าเมืองระนอง ฝังเรียงรายสองข้างฝั่งถนน ที่โดดเด่นที่สุดคือสุสานของคอซู้เจียงเจ้าเมืองระนองคนแรก เป็นสุสานแบบจีนครับ ใกล้ๆกันมีสุสานตระกูลใหญ่ๆ ของระนองอย่างธาราสุขและกมลานนท์อยู่ด้วย ต่อไปคือสถานที่เที่ยวดังของระนองอย่าง บ่อน้ำร้อนรักษะวาริน (แปลเป็นภาษาเกมว่า Healing Water) เคยมากับเพื่อนหนนึง มีแต่บ่อรวม ไม่มีแยกห้อง เลยชอบแจ้ซ้อนมากกว่าครับ มารอบนี้หน้าตาเปลี่ยนไปเยอะเลย แต่ยังคงมีแต่บ่อรวมเช่นเดิม (แป่ว) แถมน้ำร้อนจนลงไม่ได้เลยครับ มีนักท่องเที่ยวพยายามเอาขาแช่พร้อมทำหน้าเจ็บปวด คงคิดว่าไหนๆก็มาแล้วอย่าให้เสียเที่ยว ตาน้ำมาจากสามบ่อ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูกสาว เรียงจากใหญ่ไปเล็กเลยครับ บริเวณบ่อน้ำร้อนมีรับนวดครึ่งชั่วโมง 100 บาท นับว่าแพงสำหรับนวดกลางแจ้งแบบนี้ แต่ฝีมือหมอนวดกลุ่มนี้เขาดีจริงๆนะ มีโยคะบนแผ่นหินร้อนที่ปูบนทางน้ำร้อนใต้ดินด้วย
ร้านขายเปลือกหอยครับ ร้านนี้เป็นร้านแม่ของร้านที่น้ำตกปุญญบาล มีเปลือกหอยเยอะ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หายากอะไร | ร้านอาหารคุ้นลิ้น นี่ก็ร้านดังของระนองครับ แต่ตอนนี้ยังไม่หิวอะ ยังจุกซาละเปาทับหลีกับทุเรียน 40 บาท อยู่เลย | ที่พักอยู่เหนือจวนเจ้าเมืองขึ้นไปหน่อยนึง ขับมาเจอ วัดสุวรรณคีรีวิหาร เหมือนจะเป็นวัดสำคัญเหมือนกัน ไหนๆก็ขับผ่านไปผ่านมาแล้วขอแวะเข้ามาดูหน่อย เคยเป็นวัดร้าง แต่ ร.5 ให้คอซิมก๊อง เจ้าเมืองระนองช่วงนั้นบูรณะขึ้นในปี พ.ศ.2437 วัดใกล้ชายแดนจะได้รับอิทธิพลจากพม่าเยอะแบบนี้ละครับ นี่มาทั้งพระหน้าขาวทั้งเจดีย์ทรงพม่าเลย คืนนี้พักที่นี่ครับ ดิเอลฟ์ (ย่อมาจากคุณช้างเอเลเฟนท์) ที่พักใหม่นิยมทำผนังปูนเปลือยเนอะ ห้องพักที่นี่กว้างมากครับ คนต้อนรับก็อัธยาศัยดี เสียตรงเหม็นกลิ่นบุหรี่ลอยเข้าห้องทั้งคืนเนี่ย มีรอยัลเมียนม่าทีขายที่เคาน์เตอร์นะ สมเป็นจังหวัดที่ใกล้ชิดพม่าจริงๆ
ช่วงเช้ามาเดิน ตลาดสะพานยูง เป็นตลาดชุมชนตั้งแต่แยกสะพานยูงไปถึงหน้าจวนผู้ว่า กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับจังหวัดระนองยกระดับเป็นตลาดประชารัฐเมื่อปี พ.ศ.2561 ตลาดเขามีอยู่แล้วเพิ่มภาพเขียนริมกำแพงนิดหน่อยแล้วก็แปะชื่อประชารัฐเข้าไปให้รู้ว่าเป็นผลงานรัฐบาลนี้นะ กับข้าวที่ซื้อกินไม่มีช้อนพลาสติกให้ครับ เป็นแบบกลับไปนั่งกินที่บ้านล้วนๆ เลยต้องไปนั่งร้านก๋วยจั๊บ
ตลาดนี้ขายในช่วงเช้า ส่วนสายๆ ตลาดวายแล้วก็แล่นรถกันได้ปกติครับ นี่คือถนนที่เราแล่นมาจวนผู้ว่าเมื่อวานนี้เลยแหละ ควายริมทาง "ไม่เคยเห็นควายรึไงเพ่ แหม่ ทำตื่นเต้น"
ออกจากเมืองระนองลงสาย 4 ต่อ เพื่อไปเที่ยวตะกั่วป่าครับ ระหว่างทางแวะวัดบ้านหงาว เพราะสะดุดตากับป้ายพระดีบุกใหญ่ที่สุดในโลก
วัดบ้านหงาว เป็นวัดที่เพิ่งเกิดเมื่อปี พ.ศ.2499 โดยหลวงพ่อเขียดมาปักกลดริมทางแล้วชาวบ้านมาสร้างเพิงที่พักให้ สักพักท่านก็ธุดงค์ต่อ ที่พักสงฆ์ยังคงพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นวัดในปี พ.ศ.2530 อุโบสถที่เห็นนี้เพิ่งสร้างในปี พ.ศ.2550 นี้เองครับ ทำเป็นอุโบสถสองชั้นฉลองโอกาสในหลวง ร.9 ครบ 84 พรรษา พระติปุกะพุทธมหาศากยมุนีศรีรณังค์ หรือหลวงพ่อดีบุกพระประธานหล่อด้วยดีบุกสูง 4 เมตร เป็นพระดีบุกทั้งองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เดิมทีแร่ดีบุกสร้างรายได้ให้แถบนี้มาก แต่ปัจจุบันมูลค่าต่ำเตี้ยติดดินเพราะใช้อย่างอื่นทดแทนหมดแล้วครับ เอามาหล่อพระดีกว่า หลวงพ่อดีบุกรวมกับพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะสองข้างสร้างจากดีบุกหนักรวม 3 ตัน ที่ผนังฝั่งตรงข้ามหลวงพ่อดีบุกแขวนหลวงพ่อดำไว้ เป็นพระหล่อจากดีบุกที่ยังไม่ได้ถลุงเลยมีสีดำ อุโบสถนี้เรียกว่าอุโบสถลอยฟ้า เพราะด้านล่างทำเป็นโถงประชุมสัมมนา | ด้านหลังวัดมีภูเขาหญ้า เพื่อนเคยขึ้นบันไดไป 300 ขั้น ...เพื่อไปดูหญ้าแห้งๆบนยอดเขาครับ ไม่เอาอะ | หมดละครับระนอง เราลงไปเที่ยวตะกั่วป่ากันต่อ ตั้งใจเที่ยวเมืองโบราณบ้านทุ่งตึก แต่มันต้องข้ามเรือไป (เห็นในแผนที่แคบๆก็คิดว่าจะมีสะพานรถข้าม) เปิดดูรีวิวแล้วไม่มีอะไรให้ดู พิพิธภัณฑ์ก็ร้าง เลยข้ามเลยจ้า แวะสวนอนุสรณ์สถานสึนามิบ้านน้ำเค็มแล้วไปเดินแถวเมืองเก่าตะกั่วป่าหน่อยนึง (ซึ่งก็เคยอัพบล็อกไปแล้ว) กลับเส้น 401 เที่ยววัดนารายณ์นิการาม ก็ไม่มีอะไรให้ดู รูปสลักพระนารายณ์ยกไปพิพิธภัณฑ์ถลางที่ภูเก็ต ซึ่งก็เคยไปมาแล้ว สรุปว่าวันที่สองไม่มีอะไรให้อัพบล็อกเบย... จึงขอปิดทริประนองแต่เพียงเท่านี้
ยังคงอยู่แถวถนนเพชรเกษมนะครับ บล็อกต่อไปพาเที่ยวเพชรบุรีครับ
Create Date : 02 ตุลาคม 2562 |
|
37 comments |
Last Update : 2 ตุลาคม 2562 20:31:59 น. |
Counter : 1967 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณhaiku, คุณJinnyTent, คุณอุ้มสี, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณกะว่าก๋า, คุณRinsa Yoyolive, คุณtoor36, คุณKavanich96, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณเริงฤดีนะ, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณThe Kop Civil, คุณเรียวรุ้ง, คุณสองแผ่นดิน, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณTui Laksi, คุณทนายอ้วน, คุณnewyorknurse, คุณmambymam, คุณInsignia_Museum, คุณmcayenne94, คุณSweet_pills, คุณทุเรียนกวน ป่วนรัก, คุณSai Eeuu |
| |
โดย: อุ้มสี 2 ตุลาคม 2562 22:26:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 3 ตุลาคม 2562 0:34:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 5 ตุลาคม 2562 0:10:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 5 ตุลาคม 2562 0:11:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณต่อ (toor36 ) 6 ตุลาคม 2562 0:09:38 น. |
|
|
|
|
|