space
space
space
<<
กุมภาพันธ์ 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728 
space
space
5 กุมภาพันธ์ 2560
space
space
space

มหาอำนาจของโลกในปี 2017



นิตยสาร  American Interest  ตีพิมพ์บทความที่ทำการประเมินศักยภาพมหาอำนาจโลกในปี2017 โดยจัดอันดับให้ 8 ชาติมหาอำนาจหลักของโลกด้านความมั่นคงและแสนยานุภาพทางทหารประกอบด้วย: อเมริกา จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เยอรมัน อินเดีย อิหร่านและอิสราเอลตามลำดับ โดยปีนี้ รัสเซียมีลำดับที่ดีกว่า เยอรมัน และอิสราเองได้เข้าร่วมลิสต์มหาอำนาจโลกเป็นครั้งแรก (ภคพร กุลจิรันธร,2560)

1. สหรัฐอเมริกา

ในปี2016 เป็นปีที่แย่ที่สุดในช่วงการบริหารของปธน.โอบามา มีการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ผิดพลาด และจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่ว่านโยบายของทรัมป์จะเป็นอย่างไรความแข็งแกร่งของสหรัฐฯไม่ได้ขึ้นอยู่กับนโยบายหรือคำสั่งของประธานาธิบดีอย่างเดียว ระบบประชาธิปไตยระบบเศรษฐกิจเสรีนิยม และนวัตกรรมสังคมเป็นแหล่งอำนาจของสหรัฐฯ สหรัฐฯมีระบบเศรษฐกิจที่เป็นพลวัตร มีความยั่งยืนในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรซึ่งเป็น5 ประเทศมหาอำนาจในลิสต์นี้สำหรับศักยภาพทางด้านการทหารของสหรัฐฯ เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก

2. จีน

ในปี 2016 จีนเป็นคู่แข่งที่พอฟัดพอเหวี่ยงตลอดกาลของสหรัฐฯจีนขยายอำนาจอยู่ในทะเลจีนใต้ และทะเลจีนตะวันออก สร้างฐานที่มั่นรวมถึงยึดโดรนของกองทัพสหรัฐฯ เมื่อปลายปี 2016 จีนมีโชคดีหลายประการเช่น ผู้นำฟิลิปปินส์ที่มีแนวโน้มนิยมจีนชนะการเลือกตั้ง และการผลของข้อตกลง TPP จีนจะมีโอกาสขยายการค้าในเอเชีย-แปซิฟิครวมถึงพยายามดึงมาเลเซียออกจากสหรัฐฯ ให้มานิยมจีนและสร้างข้อตกลงแบบไม่เป็นทางการกับไทยและกัมพูชาด้วยแต่จีนก็เริ่มมีปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ภาวะฟองสบู่ ประกอบกับการขยายแสนยานุภาพทางทหารของจีนทำให้จีนต้องลงทุนในเรื่องความมั่นคงมากขึ้นในปี 2016 กองทัพเวียดนามได้ตั้งฐานในทะเลจีนใต้ ตามแบบจีนและอินโดนีเซียก็เลือกที่จะอยู่ตรงข้ามกับจีนในเรื่องเขตอำนาจในทะเลจีนใต้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ตกลงที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรองระหว่างกันเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและการขึ้นมามีอำนาจทางการทหารของจีนส่วนอินเดียเพิ่มกำลังทางทางในมหาสมุทรอินเดียเพื่อตอบโต้กับจีนดังนั้นจีนก็กำลังประสบปัญหาในการต่อต้านของประเทศเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน

3.ญี่ปุ่น

อิทธิพลของญี่ปุ่นมาจากนโยบายการต่างประเทศที่เยี่ยมยอดโดยเฉพาะของ นายกฯ ชินโสะ อาเบะและความพยายามแผ่ขยายอำนาจของจีนที่ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านต้องให้ความร่วมมือกับโตเกียว

ในปี 2016 ญี่ปุ่นยังเป็นด่านหน้าที่ต่อต้านจีนญี่ปุ่นประกาศแผนในการเคลื่อนพลทางยุทธวิธีเข้าไปประจำในทะเลจีนใต้และทดสอบการยิงจรวดในทะเลจีนใต้ เกาหลีเหนือก็เป็นภัยคุกคามที่สำคัญของโตเกียวโดยญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับเกาหลีใต้เพื่อหาข่าวกรองและแนวการป้องการมิสไซล์นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังมีข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับอินเดียในความร่วมมือทางการทหารเพิ่มเติมญี่ปุ่นพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซียไปได้ยังไม่ดีนัก แต่กับทางสหรัฐฯ ญี่ปุ่นได้เปรียบจากนโยบายต่างประเทศของทรัมป์และการไม่สนับสนุนข้อตกลง TPPของทรัมป์เพราะจากความไม่แน่นอนในเรื่องนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯทำให้ญี่ปุ่นครองความเป็นผู้นำในเรื่องภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคแต่ข้อเสียของญี่ปุ่นคือเศรษฐกิจ เนื่องจากมีความซบเซาต่อเนื่อง

4.รัสเซีย

รัสเซียเพิ่มความเป็นมหาอำนาจและแซงลำดับขึ้นมาเป็นมหาอำนาจลำดับ4 เนื่องจากนโยบายของ ปธน. ปูติน จากปฏิบัติการในซีเรียยูเครน และความเสื่อมถอยทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรปปธน.ปูตินได้รับการยอมรับมากขึ้นจากปฏิบัติการในซีเรียในการเรียกคืนอำนาจการปกครองในเมืองอเลปโปโดยไม่สนใจการดูแคลนจากสหรัฐฯ กองทัพรัสเซียยังคงปฏิบัติการสันติภาพในยูเครนให้ความช่วยเหลือการเจรจาของ EU, NATOประกอบกับผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งของ จอร์เจีย เอสโตเนีย และมอลโดว่าเป็นคนที่เป็นพันธมิตรของปูติน ในขณะนี้สหภาพยุโรปกำลังตะลึงกับผลของ BREXITและ สหรัฐฯ ได้ ทรัมป์ ผู้ซึ่งเป็นมิตรกับปูตินมาเป็นประธานาธิบดีทำให้อำนาจของรัสเซียมีมากขึ้นในโลก ข้อเสียของรัสเซียคือเศรษฐกิจเพราะมีความอ่อนไหวมากกับราคาพลังงาน แต่ปี 2016 นั้นมองว่าคู่แข่งต่างๆ ของรัสเซียอ่อนแรง ทำให้รัสเซียสามารถแซงขึ้นมายืนในลำดับ 4 ของประเทศมหาอำนาจได้

5.เยอรมัน

ปี 2016 เยอรมันอ่อนแรงลงทำให้ลำดับด้อยกว่ารัสเซียเนื่องจากผลงานของยุโรปตกลงและเยอรมันเป็นผู้นำในสหภาพยุโรปจึงได้รับผลกระทบนี้ไปด้วยเยอรมันกับรัสเซียเป็นคู่แข่งกันมายาวนาน เนื่องจากเรื่องพลังงาน ที่สหภาพยุโรปจำเป็นต้องพึ่งพิงรัสเซีย และยูเครน (บริษัท ก๊าซพรอม)ซึ่งรัสเซียนำมาเป็นข้อต่อรองในการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับนโยบายของสหภาพยุโรปซึ่งเยอรมันไม่ต้องการ ประกอบกับสหรัฐฯ ได้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี และสหรัฐฯ เป็นพันธมิตรที่ดีของสหภาพยุโรป ทำให้ตอนนี้สถานะของเยอรมันอยู่ในขั้นอ่อนแรง

6.อินเดีย

อินเดียเป็นประเทศประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นประเทศที่มีคนพูดภาษาอังกฤษมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลกและสิ่งนี้ทำให้เศรษฐกิจของอินเดียเติบโตในด้านภูมิศาสตร์ จีน ญี่ปุ่น สหรัฐฯ ต่างต้องการเป็นพันธมิตรกับอินเดียเนื่องจากภูมิศาสตร์เหมาะสมสำหรับเป็นพื้นที่ความมั่นคงของเอเซียในขณะที่ สหภาพยุโรปและรัสเซีย จีบอินเดียในด้านการค้าและข้อตกลงด้านความมั่นคงภายใต้การบริหารงานของ นายกฯ เนรันทรา มูดี้อินเดียสามารถเพิ่มศักยภาพความเป็นมหาอำนาจของตนได้ จากการปฏิรูปเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน แต่ข้อเสียของอินเดียคือ ความขัดแย้งกับแคชเมียร์ ปากีสถานซึ่งอาจจะนำไปสู่ระเบิดนิวเคลียร์ได้ อินเดียทำข้อตกลงทางทะเลกับสหรัฐฯ และญี่ปุ่นและทำสัญญาความมั่นคงกับรัสเซีย ฝรั่งเศส และอิสราเอลเพื่อการปรับปรุงกองทัพอินเดียให้ทันสมัยมากขึ้น

7.อิหร่าน

สงครามตัวแทนระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านยังคงดำเนินต่อไปในปี2016อิหร่านยังคงพอใจกับการเผยแพร่ลัทธิ ชีอะห์ในตะวันออกกลางโดยการส่งเสริมกลุ่มเฮชบอลเลาะห์ในขณะที่ซาอุดิอาราเบียโดนตัวความช่วยเหลือในเบรุตในซีเรีย ทหารชีอะห์ช่วยในการเรียกคืนเมืองอเลปโปและมอบให้อัซซาดอิหร่านยังได้รับพื้นที่ช่วยเหลือเพิ่มเติมในอิรัคและการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ยังคงเป็นไม้เด็ดของอิหร่านรวมถึงกำไรเพิ่มเติมจากความร่วมมือของโบอิ้ง และ แอร์บัสและการลดความตึงของการห้ามค้าขายน้ำมันกับอิหร่านปี 2017 อาจจะเป็นปีที่ลำบากสำหรับเตหะรานเนื่องจากการบริหารงานของทรัมป์จะเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรดั้งเดิมของสหรัฐฯซึ่งไม่ใช่อิหร่าน

8.อิสราเอล

อิสราเอลเข้าลิสต์ประเทศมหาอำนาจปีนี้เป็นปีแรกในลำดับ8 อิสราเองเป็นประเทศเล็ก ๆ ในโลกแห่งความวุ่นวาย ถึงแม้ว่าปี 2016 จะเป็นปีแรกที่สหรัฐโหวตไม่สนับสนุนอิสราเอลในเรื่องสงครามในฉนวนกาซ่า อิสราเอลมีการพัฒนาด้านการทูตเศรษฐกิจ และการทหารในตัวเอง และเป็นปัจจัย 3ประการที่ทำให้อิสราเอลแข็งแกร่งขึ้น ได้แก่ การพัฒนาทางเศรษฐกิจ วิกฤตของภูมิภาคและ ความไม่จริงใจทางการทูต พอจะทำให้เราเห็นว่าการเป็นมหาอำนาจมีหนทางอย่างไรในโลกปัจจุบันการพัฒนาเศรษฐกิจของอิสราเอลเป็นผลพวงมาจากนโยบายของ เออร์โดแกน ของตุรกีที่พยายามจะจำกัดการซื้อพลังงานของตุรกีกับรัสเซีย ทำให้อิสราเอลจำเป็นต้องค้นหาก๊าซธรรมชาติของตนเองและกลายเป็นผู้ส่งออกพลังงานให้แก่ตุรกีโดยการส่งเสริมของ NATO และที่สำคัญอิสราเอลมีโรงเรียนที่ดี มีนโยบายที่มั่นคงและมีนักคิดผู้สร้างสรรค์เป็นจำนวนมากที่สร้างสรรค์นวัตกรรมให้แก่อิสราเอล และกองทัพอิสราเอลอิสราเอลยังมีความเด่นในด้านชลประทานและการเกษตรอิสราเอลสร้างความสัมพันธ์ผ่านการเกษตรกับแอฟริกา และอินเดียเหตุผลสำคัญที่ทำให้อิสราเอลอยู่ในลิสต์มหาอำนาจเนื่องจาก ซีเรียซึ่งเป็นศัตรูของอิสราเอลได้พังไปแล้วทำให้อำนาจในตะวันออกกลางได้เปลี่ยนไปอียิปต์เกลียดฮามาส ISIS มาก ๆ เท่าที่อิสราเอลเกลียดตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างอียิปต์และอิสราเอลแน่นแฟ้นมากและเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการฟื้นคืนความรุ่งเรืองของซุ่นหนี่ห์ในกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับซึ่งมีศัตรูหลักคือ กลุ่มจิฮาดหัวรุนแรง ISIS และ อิหร่านอิสราเอลเป็นส่วนผสมของการข่าวกรองและการทหารที่มีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยสนับสนุนภูมิภาคได้อิสราเอลสามารถใช้ความสามารถทางการทูตของตนเองแก้ไขปัญหาการเมืองรวมถึงสามารถใช้สร้างความสัมพันธ์กับตุรกีได้ข้อควรระวังของอิสราเอลคือกลุ่มเฮชบอลเลาะห์ที่มีจรวดมิสไซล์เป็นพันๆลูกที่พร้อมถล่ม




 

Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2560
0 comments
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2560 7:14:44 น.
Counter : 7725 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

space

สมาชิกหมายเลข 972112
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






space
space
[Add สมาชิกหมายเลข 972112's blog to your web]
space
space
space
space
space