Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
มิถุนายน 2552

 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
รวมเคล็ดลับคู่ครัว

มีวิธี"เคล็ดลับคู่บ้านคู่ครัว"มาฝากแม่บ้านทั้งมือใหม่และมือเก่ากันค่ะ
รวบรวมมาจากหลายๆที่ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์และสาระดีๆทั้งนั้น ดูกันเลยค่ะ



**หุงข้าวให้นิ่มน่ารับประทาน**
กรณีนี้สามารถใช้ได้ทั้งวิธีหุงข้าวด้วยหม้อไฟฟ้า และหุงด้วยเตาถ่านค่ะ โดยเมื่อใส่น้ำลงในข้าวพร้อมจะนำไปหุงแล้วนั้น ให้บีบมะนาวใส่ลงไปด้วยประมาณ 2-3 หยด (ไม่ควรใส่มากเกินไปเดี๋ยวข้าวจะกลายเป็นข้าวเปรี้ยวไป) แล้วข้าวจะสุกนุ่มชวนรับประทาน

**แก้ข้าวสุกๆ ดิบๆ**
คุณแม่บ้านที่บางครั้งหุงข้าวแล้ว เห็นว่าข้าวนั้นไม่สุก หรือชนิดที่เรียกว่าสุกๆ ดิบๆ จะเททิ้งก็เสียดาย ทดลองวิธีนี้ดูบ้าง รับรองได้ผล คือเมื่อเห็นว่าข้าวกำลังสุกๆ ดิบๆ ให้ละลายน้ำเกลือแล้วใช้พรมบนฝาหม้อ (ต้องปิดฝาให้สนิทจริงๆ) ไม่ช้าข้าวของท่านที่สุกๆ ดิบๆ จะสุกขึ้นมาทันที ไม่ต้องกลัวข้าวจะเค็มด้วย

**มูลข้าวเหนียวให้เก็บได้นาน**
หลังจากที่นึ่งข้าวเหนียวสุกดีแล้ว นำมามูลกับน้ำกะทิ ปิดฝาหม้อ แล้วให้นำหม้อข้าวเหนียวนี้ไปตั้งบนไฟอ่อน ๆ หมุนไปรอบ ๆ ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงยกลง ปล่อยให้ระอุสักครู่ จึงเปิดรับประทานได้ วิธีการแบบนี้จะทำให้ข้าวเหนียวสามารถเก็บไว้ค้างคืนได้โดยไม่บูด และสามารถเก็บไว้รับประทานได้หลาย ๆ วัน โดยที่ไม่ต้องนำเข้าตู้เย็น เพราะจะทำให้ข้าวเหนียวแข็งและไม่อร่อย

**ต้มข้าวไม่ให้ล้นหม้อ**
ขณะเมื่อข้าวต้มกำลังเดือด มักจะมีปัญหา คือมันจะล้นหม้อ ทำให้เราต้องคอยคนอยู่เรื่อย ๆ แต่มีวิธีที่ง่ายกว่านั้นค่ะ โดยเมื่อต้มข้าวต้มให้นำถ้วยกระเบื้องเคลือบใบเล็ก ๆ ใส่ลงไปในหม้อด้วย แล้วข้าวต้มจะไม่ล้นให้เลอะหม้อเลอะเตาอีกต่อไปค่ะ

**นึ่งข้าวมันให้สวย**
วิธีการทำข้าวมันนั้น สามารถทำได้ทั้งวิธีหุง และนึ่ง เมื่อนึ่งแล้วประมาณ 15 นาที จะต้องเปิดฝาภาชนะและใช้พายหรือใช้ทัพพีคนให้กะทิผสมกับข้าวให้ทั่ว กะทิจึงจะไม่ลอยหน้า หรือแตกมัน เพียงเท่านั้น เราก็จะได้ข้าวมันที่สุกนุ่มเป็นเม็ด

**ใบมะกรูดกันแมลงรบกวนข้าวสาร**
ข้าวสารที่เราซื้อเก็บไว้หุง กว่าจะใช้หมดบางครั้งก็มักโดนแมลงตัวเล็กตัวน้อยลงไปก่อกวน แต่ยอมให้แค่ครั้งเดียวค่ะ เพราะคราวหน้ามันไม่มีสิทธิมาก่อกวนข้าวสารเราอีกต่อไป ก็โดยใช้ใบมะกรูดนี่แหละค่ะกำราบ โดยให้วางใบมะกรูดไว้บนข้าวสาร หรืออาจจะใส่ผสมปนเปไว้ในข้าวสารเลยก็ได้ ซึ่งหากข้าวสารมีจำนวนมาก ก็ใส่ใบมะกรูดมากหน่อย รับรองจะไม่มีแมลงมารบกวนอีกต่อไป หากข้าวสารยังใช้ไม่หมดแต่ใบมะกรูดที่วางไว้แห้งหรือหมดกลิ่นไปแล้วก็ให้เปลี่ยนใบมะกรูดเสียใหม่นะค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวเจ้าแมลงได้ใจกลับมารบกวนอีกค่ะ

**การเลือกซื้อผักสด**
การเลือกซื้อผักสดตามฤดูกาล จะได้ผักที่มีราคาไม่แพงและคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยดูขนาดรูปร่าง ความสด สีสัน ควรเลือกซื้อผักที่มีรูพรุนบ้าง เพราะเป็นผักที่ฉีดยาฆ่าแมลงน้อยหรือไม่ได้ฉีดเลย การเลือกผักพื้นบ้านมารับประทานยิ่งปลอดภัยไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมี เช่น หน่อไม้ กระถิน ผักบุ้ง ผักกระเฉด ชะอม ดอกแค เป็นผักที่หาได้ง่ายและปลอดภัยจากสารเคมี

**น้ำผักไม่เหม็นเขียว**
ปัจจุบันนี้คนนิยมนำผักสดมาคั้นน้ำดื่มเพื่อสุขภาพ ซึ่งการนำผักสดมาปั่นคั้นน้ำเลยนั้นอาจทำให้น้ำผักที่ได้มีกลิ่นเหม็นเขียว แต่แก้ไขได้โดยให้แช่ผักเหล่านั้น ก่อนปั่นในน้ำเย็นและน้ำที่ใช้ปั่นควรเป็นน้ำแข็ง การให้ความเย็นจะช่วยลดความเหม็นเขียวได้

**ต้มผักให้สีสวย**
ผักเมื่อต้มเสร็จเรียบร้อยจะมีสีซีด ๆ ไม่น่ารับประทาน วิธีแก้ไข คือ เวลานำผักไปต้มให้บีบมะนาวลงไปในน้ำต้มประมาณ 1-2 หยด เพราะกรดของมะนาวจะช่วยให้ผักมีสีสวยเหมือนสีธรรมชาติของมันเอง

**รักษาสีพริกขี้หนู**
หากต้องการทุบพริกขี้หนูทีละหลายๆ สิบเม็ดใส่ลงในน้ำปลา ต้มยำ หรือตามร้านค้าซึงต้องทุบไว้คราวละมากๆ พริกขี้หนูจะดำไม่น่ารับประทาน ให้บีบมะนาวลงนิดหน่อย สีของพริกขี้หนูจะสีเขียวน่ารับประทาน

**การเลือกซื้อขนมปัง**
การเลือกซื้อขนมปัง ให้เลือกซื้อแต่ขนมปังที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆหรือสังเกตดูจากวันหมดอายุ หากรับประทาน ไม่หมด ให้ใส่ไว้อย่างเดิมในถุงบรรจุขนมปังนั้นๆ ปิดปากถุงให้เรียบร้อย แล้วเก็บไว้ในช่องแช่แข็งจะได้ไม่ขึ้นรา เมื่อต้องการรับประทานก็ให้เอาออกมาจากตู้เย็น ทิ้งไว้ให้น้ำแข็งละลาย หรือนำไปอุ่นในไมโครเวฟ แค่นี้ ขนมปัง ของคุณก็จะยังคงความนุ่ม สดใหม่อยู่เสมอ

**วิธีป้องกันราขึ้นขนมปัง**
หลาย ๆ ท่านคงจะเคยประสบปัญหาเมื่อซื้อขนมปังมาเก็บไว้ แค่เก็บเพียงไม่กี่วันขนมปังจะขึ้นราเสียแล้ว วิธีป้องกันง่าย ๆ แต่ได้ผลค่ะ เมื่อซื้อขนมปังมาให้นำไปเก็บไว้ในช่องแช่แข็งในตู้เย็น เวลาจะรับประทานก็เอาออกมาตั้งทิ้งไว้ให้คลายความเย็น ขนมปังก็จะยังสด ใหม่ นุ่มเหมือนเดิม วิธีนี้ยังสามารถใช้ได้กับขนมเค้กด้วยค่ะ

**ผัดเผ็ดถั่วฝักยาวให้สีเขียวน่ากิน**
ให้นำถั่วไปลวกน้ำร้อนเดือดก่อน แล้วเอาขึ้นมาผัดโดยเร็ว แค่นี้ก็จะทำให้เมนูนี้ของคุณมีสีสันสดใสน่ารับประทาน

**ต้มปลาไม่ให้มีกลิ่นคาว**
ให้เติมใบชาจีนลงไปสัก 6-7 ใบ และจะเพิ่มรสชาติให้ปลายิ่งขึ้น หากทุบหัวหอมแดงใส่ลงไปสัก 2-3 หัว

**ต้มไข่ให้น่ากิน**
วิธี ต้มไข่ ใส่น้ำตั้งไฟให้ น้ำเดือด ก่อน แล้วนำ ไข่ ใส่ลงไป จับเวลา ประมาณ 4 นาที ตักไข่ขึ้นมา นำไปแช่ใน น้ำเย็น ทันที จะทำให้ ปอกเปลือกไข่ ได้ง่าย
ก็จะได้ไข่แดง ที่สุกแบบ เหลวนิด ๆ น่ากิน เหมือน มะตูม/น้ำมะตูม/ยางมะตูม (สมมุติว่าไข่แดงแข็งไป หรือเหลวไป ก็จับเวลา เพิ่มขึ้นหรือลดลงครั้งละ 20 วินาที ก็จะได้ ไข่ต้ม ที่ ไข่แดง เหลวกำลังดี ที่ตรงกับความต้องการของแต่ละคน

**วิธีต้มไก่ให้สวยน่ารับประทาน**
บางคนเวลาต้มไก่เสร็จแล้ว ผิวไก่มักจะเป็นแต้มด่าง ๆ และแห้ง หรือไม่ก็เปื่อยดูแล้วไม่น่ารับประทาน เคล็ดลับคือ เวลาต้มไก่ อย่าปิดฝาหม้อ และให้น้ำที่ต้มท่วมตัวไก่ ต้มจนกะว่าสุกดีแล้วให้ยกลงจากเตา แล้วเอาฝาหม้อปิดไว้ประมาณ 5 นาที จึงเปิดฝาออก แล้วจึงเอาไก่ขึ้นจากหม้อ จะได้ไก่ที่สวยน่ารับประทานค่ะ

**วิธีตุ๋นไก่ให้อร่อย**
ต้องเริ่มจากสับไก่เป็นชิ้นใหญ่ หมักด้วยเกลือ ซอสปรุงรส พริกไทย
และรากผักชีโขลกละเอียด ประมาณ 1-2 ช.ม.แล้วนำใส่กระทะ ยกขึ้นตั้งไฟ
โดยไม่ต้องใส่น้ำมันหรือน้ำผัดให้ไก่เหลืองจนน้ำมันไก่ออก จากนั้นจึงตักไก่ที่เหลืองใส่หม้อ
ใส่น้ำและเครื่องปรุงต่าง ๆ ยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ค่อย ๆ ตุ๋น
จนได้ไก่ที่มีกลิ่นหอม เนื้อนุ่ม และยังได้น้ำซุปที่มีน้ำมันไม่มากด้วย

**เคล็ดไม่ลับกับไข่ตุ๋น**
หลาย ๆ คนเวลาตุ๋นไข่มักจะผสมน้ำลงไปในไข่ด้วย ทำให้เนื้อไข่ตุ๋นที่ได้มักมีรูพรุน ดูไม่น่ารับประทาน มีเคล็ดไม่ลับมาฝากค่ะ เมื่อจะตุ๋นไข่อย่าใช้น้ำเปล่าผสมลงไปนะค่ะ ให้ใช้น้ำข้าวผสมลงไปแทนค่ะ (ไม่ใช่น้ำซาวข้าวนะค่ะ) คราวนี้ก็จะได้ไข่ตุ๋นที่ไม่เป็นรูพรุนอีกต่อไป และรสชาติอร่อยน่ารับประทานค่ะ

**อีกหนึ่งเคล็ดลับของการต้มผักให้สีสวย**
อีกหนึ่งวิธีของการต้มผักให้สีสวย คือ เมื่อตั้งหม้อสำหรับต้มผัก ใส่น้ำแล้วให้เหยาะเกลือแกงลงไปพอประมาณ ยกขึ้นตั้งไฟจนน้ำเดือด แล้วจึงใส่ผักที่จะต้มลงไป รอให้ผักสุก แล้วจึงตักผักออกลงแช่ในน้ำเย็น ผักจะสีสดน่ารับประทานค่ะ

**กรณีเพิ่งซื้อกระทะมาใหม่ๆ**
ก่อนใช้เขาให้เราเทน้ำส้มสายชูลงไปในกระทะ ตั้งไฟให้เดือดสัก 5 นาที (อย่าลืมปิดจมูกด้วยเพราะกลิ่นน้ำส้มสายชูจะฉุนมาก)
แล้วล้างออกให้สะอาด วิธีนี้จะช่วยเวลาทำอาหารๆจะไม่ติดกระทะด้วย หรือจะใช้น้ำข้าวเทลงกระทะ พร้อมตั้งไฟกลางๆ เคี่ยวจนแห้ง แล้วล้างให้สะอาดก็ได้เช่นกัน

**แก้ครกหินขรุขระ**
เวลาที่เราซื้อครกหินมาใหม่ๆ มันมักจะขรุขระและไม่ลื่น มีวิธีแก้คือ ใช้เนื้อมะพร้าวแก่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ในครก โขลกสักพักหนึ่งครกนั้นจะลื่นดี


**ล้างกลิ่นติดกระทะ**
เมื่อทำอาหารแล้วมีกลิ่นของอาหารเก่าติดกระทะ พอนำกระทะมาทำอาหารชนิดใหม่กลิ่นอาหารจะปะปนกับอาหารใหม่ เวลารับประทานเกิดความรู้สึกไม่อร่อย เสียอารมณ์ ทำให้อาหารจานนั้นหมดความน่ากินไปด้วย การล้างกระทะที่มีกลิ่นอาหารติด ให้ใช้ใบชาและผงโซดาผสมกับน้ำใส่ลงในกระทะ ตั้งไฟให้เดือดสักครู่ จึงเทน้ำทิ้ง แล้วล้างกระทะตามปกติ กลิ่นแปลกปลอมต่างๆ จะหมดไป

**วิธีทำให้เนื้อเปื่อย**
เมื่อเวลาผัด ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหรือผัดซีอิ้ว
ให้นำเนื้อสดมาหั่นขวาง กล้ามเนื้อเป็นชิ้นบางๆ
นำแป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ ต่อเนื้อหรือไก่ 1 กิโลกรัม ใส่ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ คลุกให้เข้ากัน
ใส่กล่องปิดฝาแช่ในตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เมื่อนำออกมาผัดจะได้เนื้อที่นุ่ม

**หมักเนื้อให้เปื่อย นุ่ม...อร่อย**
เนื้อสัตว์ที่นำมาประกอบอาหาร ถ้าต้องการให้เปื่อยนุ่ม ไม่ควรใช้โซดาผงที่พ่อค้าเรียกว่าผงทำให้เนื้อเปื่อย เพราะผงดังกล่าวมีส่วนทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารและลำไส้ของเราด้วยหากต้องการทำให้เนื้อเปื่อยนุ่ม ควรใช้ยางมะละกอหรือน้ำสัปปะรดหมักเนื้อสัตว์แทน เพราะเอ็นไซน์ที่อยู่ในยางมะละกอหรือน้ำสัปปะรด จะทำให้เนื้อเปื่อยนุ่มได้ และเอ็นไซน์เมื่อโดนความร้อนก็จะสลายตัว ไม่ทำให้เกิดโทษหรืออันตรายต่อร่างกายแต่ประการใด

**เหล้าช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์**
อาหารประเภทเนื้อสัตว์หากมีกลิ่นคาว ล้างอย่างไรก็ไม่หาย ควรล้างด้วยเกลือแล้วหมักด้วยไวน์ เหล้า วิสกี้ เหล้าไทยก็ใช้ได้ค๊ะเช่น เหล้าขาว โดยใส่เหล้า สัก 2 ช้อนโต๊ะ หมักทิ้งไว้ 10 นาทีแล้วนำไปย่าง หรือทอด เนื้อจะนุ่ม ลิ้น หอมน่ารับประทานมาก

**ทอดกุ้งให้ตัวตรง**
คุณแม่บ้านที่ทอดกุ้งทีไร ตัวกุ้งจะงอไม่สวย ดูแล้วไม่น่ารับประทาน วิธีทำให้กุ้งที่ทอดตัวตรง มีดังนี้ นำกุ้งสดมาแกะเปลือกออก ตัดส่วนหัวทิ้งแล้วบั้งส่วนตัว ใช้สันมีดดัดหลังกุ้งให้ตัวตรง แล้วให้นำไปชุบแป้งสาลีก่อนแล้วค่อยนำมาชุบแป้งโกกิ นำลงไปทอดโดยให้ใช้ไฟกลาง ก็จะได้กุ้งทอดตัวตรงน่ารับประทานค่ะ

**ขิงช่วยให้ปลาทอดไม่ติดกระทะ**
นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยเวลาทอดปลาไม่ให้ติดกระทะ โดยการตั้งน้ำมันในกระทะให้ร้อนพอสมควร เอาขิงสดฝานเป็นชิ้นบาง ๆ ประมาณ 2-3 ชิ้น ใส่ลงในกระทะ เมื่อขิงเกรียมก็ตั้งออก แล้วนำปลาลงไปทอด ปลาก็จะไม่ติดกระทะ

**แก้ความขมของมะระ**
หลาย ๆ คนไม่ชอบกินมะระ เพราะความที่มะระมีรสขมนั่นเอง แต่มีวิธีแก้ไขค่ะ โดยให้หั่นมะระเป็นชิ้น ๆ แล้วให้เอาเกลือป่นใส่ลงไปคลุกกับมะระให้ทั่ว ทิ้งไว้สักครู่ แล้วล้างเอาเกลือออก ความขมของมะระก็จะหมดไป

**ต้มถั่วให้สุกเร็ว**
นำถั่วที่เราต้องการต้ม เช่น ถั่วดำ ถั่วแดง ฯลฯ ใส่ลงในภาชนะ แล้วใส่เกลือเม็ดประมาณ 1 กำมือ ใส่น้ำให้พอท่วมเม็ดถั่ว ซาวด้วยมือให้ทั่ว คนจนเม็ดเกลือละลายหมด แล้วนำไปล้างด้วยน้ำสะอาดอีกหนึ่งครั้ง จึงนำไปต้ม ถั่วก็จะสุกเร็วขึ้น

**วิธีแก้ กาแฟขม**
บางครั้งเมื่อชงกาแฟดื่มปรากฏว่ารสชาติมันขมเกินไป จะเติมน้ำหรือน้ำตาลเพิ่มลงไป ก็จะทำให้รสชาติของกาแฟเสีย ให้ใช้วิธีเติมเกลือลงไปนิดหน่อย ก็จะแก้ไขรสขมของกาแฟได้ค่ะ

**กาแฟแท้หรือกาแฟผสม**
วิธีพิสูจน์ว่ากาแฟที่ซื้อมาเป็นกาแฟแท้หรือไม่ ให้หยิบกาแฟใส่อุ้งมือเล็กน้อย แล้วบีบให้แน่น ถ้าเป็นกาแฟบริสุทธิ์ เมื่อคลายมือออก จะไม่จับกันเป็นก้อน แต่ถ้าเป็นกาแฟผสมเมื่อบีบให้แน่นจะเป็นก้อน หากเป็นกาแฟที่บรรจุใหม่ดมกลิ่นเพียงอย่างเดียว จะแยกไม่ออกว่าเป็นกาแฟผสม


**การกำจัดกลิ่นในเตาไมโครเวฟ**
ให้นำใบชาใส่น้ำพอท่วม ใส่เข้าไปในตู้ไมโครเวฟแล้วเปิดเครื่องให้น้ำร้อนสัก 3 นาที
จากนั้นปล่อยใบชาทิ้งไว้ในตู้ทิ้งข้ามคืน ถึงรุ่งเช้ากลิ่นก็จะหายไป แต่หากกลิ่นสะสมมานาน อาจจะต้องทำหลายรอบ
ทางที่ดีควรหมั่นทำความสะอาดและดูดกลิ่นเป็นประจำจะดีที่สุด หรือหากจะใช้อีกวิธีก็ได้ คือ ใส่น้ำในชามที่ใช้กับไมโครเวฟได้ 1 แก้ว
แล้วใส่ดอกไม้หรือเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมลงไป จากนั้นนำไปใส่ในเตาเปิดเครื่องไว้สัก 7 นาที แล้วเปิดฝาออก กลิ่นหอมก็จะอบอวลไปทั่วห้อง เป็นการกำจัดกลิ่นที่รวดเร็วขึ้น

**วิธีดับกลิ่นในตู้เย็น**

ใช้กากกาแฟใส่ถ้วยตั้งไว้ชั้นล่างของตู้เย็น กลิ่นจะหมดไปเพราะกาแฟดูดกลิ่นได้และถ้าใครชอบสูบบุหรี่ ก็ใช้ขี้บุหรี่ขัดเครื่องชุบโครเมี่ยมก็จะได้เงาสวย

**วิธีทำไม่ให้น้ำมะนาวขม**
ควรนำมะนาวทั้งผลลวกน้ำร้อนเสียก่อน เพื่อชะล้างน้ำมันที่ผิวของมะนาว
แล้วจึงผ่าซีก แกะเมล็ดจึงออกคั้นเอาน้ำออก น้ำมะนาวที่ได้ก็จะไม่ขม
ส่วนใครที่อยากทำเป็นเครื่องดื่ม ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ
เพียงนำน้ำตาลทรายไปละลายน้ำ ผสมกับน้ำมะนาว
ชิมรสไม่ให้เปรี้ยวจนเกินไป เทใส่น้ำแข็ง ร้อน ๆ แบบนี้ชื่นใจดีแท้...

**น้ำมะนาวช่วยขจัดกลิ่นสาบเป็ด**
หลายคนติดใจรสชาติของเนื้อเป็ด แต่ก็รู้สึกรังเกียจกลิ่นสาบของมัน มีวิธีแก้ไขกลิ่นสาบของเป็ดค่ะ คือเมื่อซื้อเป็ดมาเพื่อเตรียมปรุงอาหาร ให้ใช้น้ำมะนาวผสมกับเกลือป่นเล็กน้อย ทาที่หนังเป็ดให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นให้ใช้กระดาษซับมัน (กระดาษที่ใช้สำหรับรองขนมเค้ก) เช็ดคราบน้ำมะนาวที่ตัวเป็ดออกให้หมด กลิ่นสาบของเป็ดก็จะถูกขจัดออกไปค่ะ

**ขจัดกลิ่นคาวติดมีด**
บางครั้งเมื่อมีดที่เราใช้อยู่เป็นประจำ จำเป็นต้องใช้งานร่วมกันในงานหลาย ๆ อย่าง ทั้งหั่นเนื้อ หั่นผัก หรือผลไม้ ทำให้มีกลิ่นคาวติดอยู่กับมีด ซึ่งทำให้ผักหรือผลไม้นั้นคาวไปด้วย ฉะนั้นเมื่อคุณใช้มีดนั้น หั่นของคาว หั่นเนื้อ หรือของที่มีกลิ่น ก็ควรที่จะทำความสะอาดทันที หลังจากใช้งานเสร็จ แล้วใช้น้ำมะนาวล้างมีดอีกครั้ง หรือนำเปลือกมะนาวที่เราคั้นน้ำแล้วนำมาถูที่มีด ก่อนที่จะใช้มีดนั้นหั่นผัก ผลไม้ เพราะน้ำมะนาวมีคุณสมบัติทำให้มีดหายเหม็นคาวได้

**เลือกเนื้อหมู**
เนื้อหมูดีนั้นหนังหมูจะดูเกลี้ยงเกลาและลื่น เมื่อเอามือแตะดูจะรู้สึกเย็น ถ้าเนื้อหมูค้างนาน เวลาแตะดูจะรู้สึกเหนียวหนับและอ่อนนุ่มมาก ถ้าเนื้อหมูที่เป็นโรคสังเกตได้โดยมีเม็ดจุดขาวๆ โตๆ ในเนื้อหมู

**การเลือกซื้อปลาเค็ม**
ปลาเค็ม ไม่ว่าจะเป็นปลาอินทรี ปลาสลิด ปลาช่อน เป็นต้น ก่อนซื้อปลาเค็มพวกนี้ต้องดูสีก่อนว่าเป็นปลาสีหรือปลาย้อมสี แล้วจึงค่อยดมกลิ่นดู ปลาเค็มดีจะมีกลิ่นหอมน่ากิน พยายามดูในปากปลา จะต้องไม่มีเม็ดเกลือ ไม่มีขมวนและเพื่อแน่ใจว่าปลาเค็มนั้นไม่ได้ถูกฉีดดีดีทีมาก่อน จึงควรสังเกตว่าปลาเค็มนั้น มีแมลงตอมหรือไม่ ถ้าแม้แต่แมลงก็ยังไม่มาเกาะ แสดงว่าปลาชิ้นนั้นมียาฆ่าแมลงวันแน่


**แก้ปัญหาทำกับข้าวรสเค็มเกินไป**
หากทำแกงเผ็ดหรือน้ำซุปแล้วเค็มไป ให้ฝานมันฝรั่งดิบ ลงไป เคี่ยวต่อจนมันฝรั่งสุก หากเป็นประเภทพะโล้ หรืออาหารตุ๋นที่เค็มไป ควรเติมน้ำส้มสายชูและน้ำตาลลงไปอย่างละ 1 ช้อนชาจะช่วยลดความเค็มลงได้ค๊ะ

**วิธีคั่วพริกแห้งไม่ให้ส่งกลิ่นรบกวน**
มีวิธีที่จะไม่ให้พริกส่งกลิ่นรบกวนเวลาคั่ว ก่อนจะเอาพริกลงใส่กระทะ ให้เอาเศษผ้าที่สะอาดจุ่มน้ำมันหมู แล้วทากระทะให้ชุ่มพอสมควร แล้วจึงเอาตั้งไฟคั่ว ถึงไฟจะแรงก็ไม่ส่งกลิ่น เวลาโขลกพริกจะติดน้ำมันหมู ผงที่แหลกแล้วจะไม่คลุ้งขึ้นมา


ต้องขอขอบคุณจากแหล่งที่มาทุกๆที่ด้วยนะคะ





Create Date : 19 มิถุนายน 2552
Last Update : 10 เมษายน 2553 5:03:19 น.
Counter : 7735 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

she-sweet
Location :
CA,  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]