PANDITS'

 
มกราคม 2563
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
23 มกราคม 2563
 

เตรียมตัวเตรียมใจก่อนไป (เรียน) ที่ไอร์แลนด์ - Study in Ireland


          สวัสดีค่ะทุกคน กลับมาอีกครั้งกับไอร์แลนด์ (Ireland) ไม่ใช่ไอซ์แลนด์ (Iceland) นะคะ ^^ สำหรับครั้งนี้เราจะขอแชร์คำแนะนำเล็กๆน้อยๆสำหรับเพื่อนๆที่กำลังจะมาเรียนหรือย้ายมาอยู่ที่ไอร์แลนด์ค่ะ ว่าเราควรเตรียมตัวอย่างไร เตรียมใจเรื่องไหน ก่อนที่จะมาใช้ชีวิตที่ประเทศไอร์แลนด์แห่งนี้ เอาเป็นว่ามาลองอ่านกันดูนะ ว่ามีอะไรบ้าง...



1. สภาพอากาศ

เรื่องแรกที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของสภาพอากาศค่ะ เราจำได้ว่าก่อนที่เราจะย้ายมา เราได้หาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศนี้ โดยแหล่งข้อมูลต่างๆบอกเราว่า เราจะเจอทั้งหมด 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูร้อน อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 1 องศาเซลเซียสในฤดูหนาว สูงสุด 25 องศาเซลเซียสในฤดูร้อน และมีฝนตกตลอดทั้งปี ซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริงนะคะ คือ ฝนตกตลอดเวลาจริงๆ และก็หนาวมากจริงๆด้วย แต่มันไม่หนาวที่ 1 องศาเซลเซียสหนะสิ เพราะที่เราเจอมาต่ำสุดอยู่ที่ -8 ติดลบไปเลยจ้าาาาา วันไหนแดดออกทุกคนจะมีความสุขมากเป็นพิเศษ ^^ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่เราอยากจะให้ทุกคนเตรียมมาด้วยก็คือ

-  รองเท้า:  สิ่งนี้สำคัญมากๆ ทุกคนควรเตรียมรองเท้าที่สามารถกันน้ำได้ และใส่สบาย เพราะเมื่อมาอยู่ที่นี่จะต้องเดินเยอะมากๆๆ มากกว่า 10,000 ก้าวต่อวันแน่นอน ดังนั้นรองเท้าที่ดีจึงมีความจำเป็น เป็นอย่างมาก เราว่าเตรียมบู๊ทกันน้ำมาเลย 1 คู่เพราะได้ใช้ทุกฤดูกาลแน่นอนค่ะ

- ถุงเท้า : ถุงเท้านี่ควรเตรียมแบบหนาพิเศษมาเลยนะคะ เท้าเราควรอุ่นไว้ก่อนค่ะ เพราะ ถ้าเท้าของเราเปียกหรืออุ่นไม่มากพอ ตัวเราเองจะรู้สึกหนาวมากเป็นพิเศษค่ะ

- เสื้อกันฝน: นอกจากรองเท้าถุงเท้าที่จำเป็นมากๆแล้ว เสื้อกันฝนก็สำคัญไม่แพ้กันเลย ควรเตรียมเสื้อที่เป็นแบบ Tri-crimates มาจะดีที่สุด ตัวเดียวจบครบทุกฤดูกาล

- Heat-tech cloths: อันนี้คือต้องมีนะคะ ย้ำว่า ต้องมี!!! เอาไว้ใส่ข้างในสุด ซึ่งมันจะช่วยชีวิตเราไว้เยอะเลยทีเดียว โดยเฉพาะในฤดูหนาว หรือถ้าหนาวง่าย ก็ใส่มันไปเลยทั้ง 4 ฤดู

- ผ้าพันคอ หมวก และถุงมือ: สำหรับสิ่งเหล่านี้ก็จำเป็นเช่นกันนะคะ มันจะช่วยบรรเทาความหนาวได้มากเลยทีเดียว ลองนึกดูนะ ว่าเมื่อเราต้องเดินอยู่ข้างนอกในอากาศที่หนาวเย็น ลมแรง ฝนตก ถ้าขาดสิ่งเหล่านี้ไป เราจะรู้สึกหนาวมากแค่ไหน ดังนั้นเป็นไอเท็มที่ควรมีเช่นกันค่ะ

- กระเป๋า: ควรเตรียมกระเป๋าเป้ที่สามารถกันน้ำได้มานะคะ เพราะเราต้องเดินไปเรียน เดินไปซื้อของ แล้วฝนก็ตกอีก  ดังนั้น ของทุกสิ่งควรใช้แบบกันน้ำไว้จะดีที่สุดค่ะ

- ร่ม: สำหรับเรามองว่า ร่มไม่จำเป็นนะคะ หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเรามองว่า ไม่จำเป็น ก็เพราะว่าที่นี่ลมแรง ร่มที่เราใช้กันฝนปกติทั่วไปใช้ไม่ได้ผลที่นี่ค่ะ หรือแม้แต่ร่มที่ขายตามท้องตลาดที่นี่ ก็ใช้ไม่ได้ผลเช่นกัน แต่ถ้าใครอยากพกร่มจริงๆ เราก็แนะนำว่า ให้ซื้อร่มที่ใช้ตามสนามกอล์ฟค่ะ แบบนั้นจะสามารถกันลมและฝนได้ แต่อย่างที่รู้กัน ขนาดของมันก็ใหญ่มาก เกินกว่าจะพกพาไปด้วย ดังนั้น ไม่มีก็ไม่เป็นไรนะ แค่เสื้อกับรองเท้าดีดีก็สามารถกันฝนกันลมหนาวได้ดีพอสมควร หายห่วงแล้วค่ะ ^^

 ทริคในการเอาตัวรอดจากอากาศหนาวสำหรับเราคือ ทำตัวให้อุ่นและห้ามเปียกเด็ดขาด เพราะถ้าเราเปียกเมื่อไหร่ จากอุณหภูมิอยู่ที่ -8 เราจะรู้สึกเป็น -18 ได้ทันที เพราะฉะนั้นก่อนมาที่นี่อุปกรณ์เหล่านี้ควรพร้อมนะคะ อย่างน้อยอย่างละชิ้นสองชิ้นก็ดี ควรมีมาบ้างค่ะ


(ภาพนี้จาก Google: จะเห็นว่าลมแรงมากๆ ร่มแทบปลิว) 


(9 มกราคม 2020 ในวันที่ อุณหภูมิ -8 องศาเซลเซียส)

 

2. ภาษา

จริงๆแล้วไอร์แลนด์มีภาษาประจำชาติคือ ภาษาไอริชหรือเกลิค ที่จัดเป็นภาษาราชการอันดับแรกของเค้า และภาษาอังกฤษใช้เป็นอันดับสอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว คนไอริชเองใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักในการสื่อสาร แทบจะไม่มีใครใช้ภาษาไอริชเลยในปัจจุบัน ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องภาษา ว่าเราจะสื่อสารกับเค้าไม่ได้ เพราะปัญหาจะไม่ได้อยู่ที่ตัวภาษา แต่จะอยู่ที่สำเนียงของเจ้าของภาษาอย่างพวกเค้ามากกว่า ซึ่งสำเนียงไอริชจะฟังค่อนข้างยาก เป็นสำเนียงที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ดังนั้น ไม่ต้องตกใจ ถ้าเราไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่เค้าพูด หรือเค้าไม่เข้าใจเรา เราก็แค่ใจเย็นๆ ตั้งใจฟัง แล้วก็ให้เวลากับตัวเองในการปรับตัว พยายามคุยกับเพื่อนไอริชบ่อยๆ หรือออกไปใช้ชีวิตข้างนอกบ้าง พูดคุยบ่อยๆ แล้วมันจะช่วยให้อะไรหลายๆอย่างค่อยๆดีขึ้นเองค่ะ


(พบปะสังสรรค์ ในวันที่มีแดด - อุ่นกายสบายใจ )
 

3. วัฒนธรรม

นอกจากเรื่องอากาศและภาษาอังกฤษสำเนียงไอริชแล้ว ชาวไอริชยังหลงใหลในเสียงดนตรีเป็นอย่างมาก ซึ่งเราจะเห็นผู้คนโชว์ความสามารถด้านดนตรีของพวกเค้าเองตามท้องถนนอยู่บ่อยๆ หรือแม้แต่การแสดงดนตรีสดตามผับและบาร์ต่างๆในไอร์แลนด์ ดนตรีที่มีความหลากหลาย และการเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ จึงเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงที่ไอร์แลนด์ค่ะ ดังนั้น อย่าลืมหาโอกาสไปดูการแสดงต่างๆของเค้าในระหว่างที่อยู่ที่นี่กันด้วยละกัน เพราะนี่ถือเป็นเอกลักษณ์ของชาวไอริชที่ทั่วโลกต่างชื่นชมในความสามารถของพวกเค้าค่ะ  เหนือสิ่งอื่นใด แอลกอฮอล์จึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มาคู่กับเสียงดนตรี เบียร์ Guinness เป็นเบียร์ที่มีต้นกำเนิด ที่ประเทศไอร์แลนด์และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ดังนั้น เมื่อมาถึงแหล่งผลิตแล้ว ก็อย่าลืมลองชิมดูนะ หรือจะไปทัวร์โรงเบียร์ที่ตั้งอยู่ที่ Dublin สักหน่อยก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไปอีกแบบค่ะ สำหรับคนไอริชเอง เค้าชอบดื่มกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดื่มได้ตลอดเวลา เบาบ้าง หนักบ้างเป็นครั้งคราว อย่างครั้งที่แล้วก่อนปิดเทอม เพื่อนไอริชก็จะชวนกันไปดื่ม 12 บาร์ ติดต่อกันภายในคืนนั้น คือ ดื่มบาร์ละแก้วจนครบ 12 บาร์หรือ 12 แก้วในหนึ่งคืน เป็นต้น ดังนั้น ใครที่เป็นสายปาร์ตี้ ที่นี่เหมาะมากเลยทีเดียวแหละ เพราะพวกเค้ามักจะมีกิจกรรมสนุกๆให้ทำตลอดเวลา ส่วนใครที่ไม่ใช่ ไหนๆก็จะมาแล้ว ลองเปิดใจดูนะคะ ลองไปทำอะไรสนุกๆแปลกใหม่กับพวกเค้าดู อย่างน้อยจะได้รู้ว่ามันเป็นยังไง แถมยังจะได้เพื่อนใหม่ๆเยอะแยะเลยน้าาาา

(นักดนตรีกำลังเล่นเครื่องดนตรีต่างๆริมถนนในเมือง Galway)




 

อ่อ! นอกเหนือจากนี้ นี่อาจจะไม่ใช่วัฒนธรรมของเค้านะคะ แต่เป็นสิ่งที่เราเจอมากับตัว คือ คนที่นี่ทำงานค่อนข้างชิว เราต้องใจเย็นๆนะ ชิวแบบรีบแค่ไหน เราก็ต้องรอ เร่งเค้าไม่ได้ด้วย เราจำได้ว่า ตอนเรามาแรกๆ เราใช้เวลาเปิดบัญชีธนาคาร 1 เดือน กว่าที่เราจะได้มีบัญชีธนาคารเป็นของตัวเองก็ใช้เวลาพอสมควร ดังนั้น รีบแค่ไหนก็เร่งไม่ได้น้าาา  ^^
 

4. อาหาร

อาหารเช้าของที่นี่ก็จะเป็นพวกเบคอน ไข่ดาว แฮม โจ๊กข้าวโอ๊ต ซีเรียลกับนมเป็นหลักๆ ส่วนอาหารขึ้นชื่อ ก็คือ  Fish and chips แทบจะทุกร้านที่ไอร์แลนด์จะต้องมีเมนูนี้ให้เลือกทานอยู่เสมอ  ยังไงถ้ามีโอกาสก็ลองสั่งมาทานดูละกันน้าาา อ่อ! เวลาของมื้ออาหาร คนที่นี่จะทานอาหารกันค่อนข้างสาย โดยเฉพาะมื้อเที่ยง เค้าจะทานกันบ่ายโมงเกือบบ่ายสองโมง มื้อเย็นก็เกือบ 2 ทุ่ม หรือบางบ้านก็ปาไป 3-4ทุ่มเลยทีเดียว จำได้ว่าตอนมาแรกๆ นี่เรียนไปท้องร้องไป หิวข้าว ฮ่าๆๆ ถ้ายังไงก็พกขนมนมเนยเข้าไปทานระหว่างเรียนกันหิวด้วยละกัน

สำหรับเด็กไทยอย่างเราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ อาหารไทย ซึ่ง ไม่ต้องกังวลไปนะคะว่าจะไม่มีให้ทาน มันมีค่ะ มันมี แต่มันมีแบบตามมีตามเกิด พอแก้ขัดได้บ้าง อยากกินของหายากก็ต้องหัดทำเอง ถ้ายากมากทำไม่ได้ ก็อดทนนะ เดี๋ยวมันก็หายอยากไปเองแหละ (เราเป็นบ่อย) ฮ่าๆๆๆ แต่อย่างน้อย ที่นี่เค้าก็มี Asian supermarket ในแต่ละเมืองให้เราได้พอเข้าไปซื้อวัตถุดิบมาทำกินอยู่บ้างน้าาา ถ้าใครทำอาหารไม่เป็นเลย ก็ Youtube, Google เลยค่ะ เพราะเราเองก็เริ่มจาก 0 เหมือนกัน แต่ตอนนี้ก็พอทำเป็นบ้างแล้ว ส่วนราคาของตาม Asian stores ก็แรงเอาการอยู่พอสมควร ดังนั้น ก่อนจะบินมา ถ้าเตรียมจากไทยมาได้ก็เตรียมมาจะดีกว่านะ แต่ก็ต้องระวังเรื่องอาหารที่ห้ามนำเข้าประเทศด้วยนะคะ
 

(ร้าน Steak & Burger ที่ Christmas market ใน Galway ค่ะ)  

(The dirty fries กับ Beef burger ค่ะ) 

(Fish & Chips ในตำนานที่ทุกคนควรลองทาน ^^ )


(คนไอริชทานขนมปังกับมันฝรั่งเป็นหลักนะคะ และนี่ก็คือขนมปังชนิดต่างๆที่เค้าทานกัน) 


(ถ้าอยากได้ปลาสดๆผักผลไม้สดๆก็ไปที่ Farmer market เลยค่ะ อารมณ์คล้ายๆตลาดสดบ้านเรา)

 

5. การเดินทาง

อย่างที่เราเคยบอกว่าที่นี่จะเดินค่อนข้างเยอะ ระยะทาง 1-3 กิโลเนี่ยส่วนใหญ่ก็เดินเท้ากันทั้งนั้น เดินทั้งๆที่ฝนตกๆแบบนั้นแหละ แต่ถ้าไปไกลกว่านี้หน่อย ก็ใช้รถสาธารณะเลยค่ะ รถบัสที่นี่ค่อนข้างดี สะดวกสบาย และนักเรียนอย่างเราก็ได้ส่วนลดในการใช้ด้วยนะ อย่างมหาวิทยาลัยเรา แรกเข้า เค้าจะให้เราทำบัตร Leap student card บัตรนี้ก็เหมือนบัตรเติมเงินรถไฟฟ้าบีทีเอสบ้านเราแหละค่ะ คือเติมเงินเข้าไปในบัตรแล้วก็ใช้จ่ายเวลาขึ้นรถบัส หรือไปทานอาหารตามร้านอาหารต่างๆ ที่มีในลิสของเค้า บัตรนี้ก็จะช่วยให้เราจ่ายน้อยลง ประหยัดได้ ดีไปอีก ^^  หรือบางคนก็ใช้จักรยานในการเดินทางค่ะ จักรยานก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายจัทรยานทั่วไปนะคะ แต่อย่างเพื่อนเราเค้าซื้อจากมหาวิทยาลัย เพราะหลังจากเรียนจบ เค้าสามารถขายคืนให้มหาวิทยาลัยได้ เช่น ซื้อมา 150 Euro มหาวิทยาลัยรับซื้อคืนในราคา 80 Euro เป็นต้น เรามองว่า นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลยทีเดียวนะ อย่างน้อยๆก็ได้เงินคืนบางส่วน ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะซื้อจักรยานก็ลองถามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยดูนะ เผื่อเค้ามีแบบของเรา 

สำหรับถนนหนทาง ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโดยเฉี่ยวหรือว่าโดนชนนะคะ เพราะคนที่นี่เค้าขับรถระวังคนมาก โดยตัวเราจะเดินข้ามถนนตรงทางม้าลายกัน ซึ่งรถก็ต้องหยุดให้คนเดิน และรถจะไปต่อได้ ก็ต่อเมื่อ คนเดินข้ามไปอีกฝั่งเรียบร้อยค่ะ อีกอย่างเค้ามีช่องสำหรับจักรยานวิ่ง อยู่ข้างๆกับช่องเดินเท้าของคนเลยนะคะ ดังนั้น ปลอดภัยทั้งคนเดินและคนใช้จักรยานอย่างแน่นอนค่ะ ส่วนสำหรับใครที่อยากจะท่องเที่ยวในยุโรป ก็ง่ายและสะดวกมากเช่นกัน เพราะบินใกล้นิดเดียว แล้วถูกมากด้วย อย่างตั๋วไปกลับ Dublin-London อยู่ที่ 20 Euro เอง เห็นมั้ยว่าถูกมากกก ถูกแบบ เอ่อออ~ แค่บินไปกินข้าวก็ได้ว๊าาา
 

( นี่คือรถบัสสองชั้นที่คนที่นี่ส่วนใหญ่ใช้ในการเดินทางค่ะ)



(ถนนที่นี่ก็จะประมานนี้นะคะ แยกสำหรับทางเดินเท้าและจักรยานชัดเจนค่ะ)

 

6. อื่นๆ

เวลาไปซื้อของตามร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้า เค้าไม่มีถุงพลาสติกให้นะ เราต้องเตรียมถุงของเราไปเอง หรือถ้าวันไหนลืม หรือมีความจำเป็นที่ต้องใช้ถุงของเค้า เราจะต้องจ่ายเงินค่ะ ก็เหมือนเราซื้อสินค้าเพิ่มอีกตัวนึง แต่เป็นถุงพลาสติกนั่นเอง ดังนั้น ก่อนที่เราจะบินมา ควรเตรียมถุงผ้ามาด้วยซักใบก็น่าจะดีสำหรับเรานะ เพราะมันต้องได้ใช้จริงๆ และเมื่อมาอยู่ที่นี่ ประเทศที่รักและใส่ใจสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมากนี้ นอกจากถุงผ้าที่เราควรพกมาแล้ว เราควรศึกษาเรื่องการแยกขยะมาด้วย เพราะที่นี่ค่อนข้างเข้มงวดเกี่ยวกับการแยกทิ้งขยะให้ถูกที่ถูกทาง อย่างหอพักของเรา ถ้าใครทิ้งขยะลงผิดถัง เค้าก็ปรับเป็นเงินขั้นต่ำ 50 Euro ค่ะ
 

และนั่นแหละค่ะ คือ 6 ข้อคำแนะนำดีๆจากประสบการณ์ของเรา ว่าเพื่อนๆ ควรเตรียมตัวเตรียมใจแบบไหนก่อนที่จะมาเผชิญโลกใหม่ที่นี่ สำหรับเพื่อนๆบางคนที่เคยอ่าน Blog ของเราอาจจะทราบกันดี ว่าก่อนที่เราจะย้ายมาเรียนที่นี่ เราไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับประเทศนี้เลย แล้วยิ่งเมืองที่เรามาอยู่ ก็ไม่เป็นที่รู้จักของผู้คนมากนัก ไม่ค่อยมีข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตให้ได้สืบค้นเท่าไหร่  ดังนั้น เราจึงหวังว่า คำชี้แนะเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ จะสามารถช่วยให้เพื่อนๆมองเห็นภาพมุมกว้างจากประสบการณ์ตรงของเราได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ท้ายนี้ขอให้ทุกคนเดินทางปลอดภัย และสนุกกับการใช้ชีวิตที่ประเทศใหม่อย่างไอร์แลนด์ (Ireland) ค่ะ

 

 




Create Date : 23 มกราคม 2563
Last Update : 27 มกราคม 2563 8:29:40 น. 1 comments
Counter : 3299 Pageviews.  
 
 
 
 
ชอบรูปภาพสวยมากๆค่ะสีสันและอารมณ์ของภาพคิดว่าตัวเองได้ไปเที่ยวด้วยเลยค่ะ ชอบเจ้าของเรื่องบรรยายได้สวยงามและดึงดูดความสนใจ ทำให้อยากไปเที่ยวไอร์แลนด์เร็วๆนี้เลย จากที่ไม่ค่อยได้รู้จักประเทศนี้สักเท่าไหร่ คุณได้นำความสนใจเหล่านั้น เชื่อว่าหลายๆคนก็คงจะเตรียมตัวแพคกระเป๋าเดินทางและไอร์แลนด์คงเป็น1ในbucket list ของพวกเขาแล้ว ขอบคุณมากกนะคะมีโอกาสคงได้ไปเยือนเมืองนี้แน่นอนค่ะ ps. ชอบบรรยากาศของร้านกาแฟ และถนนหนทางดูสงบดี น่าจะตอบโจทย์ของคนชอบอะไรที่ไม่วุ่นวายสักเท่าไหร่ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณได้เขียนอีกหลายๆเรื่องราวนะคะ คิดว่าคุณคงจะมีอีกเยอะเรื่องราวที่ยังไม่กด้เล่าสู่กันฟัง(อ่าน)ค่ะ
 
 

โดย: เพื่อนของยุ้ย IP: 139.99.104.93 วันที่: 23 มกราคม 2563 เวลา:3:48:09 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

สมาชิกหมายเลข 5696189
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add สมาชิกหมายเลข 5696189's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com