10,000 bc เขียนไปเรื่อยเปื่อยน่ะครับ
สวัสดีวันพุธนะครับ
ยังไม่ได้ดูหนังเรื่อง 10,000 BC เลย รู้แต่ว่าหนังโดนนักวิจารณ์ด่าอีกแล้ว หุๆ (แอบดีใจ 555+) จริงๆไม่ต้องแปลกใจหรอกว่าเนื้อเรื่องมันไม่มีอะไรมากเลยจริงๆ มีแค่พระเอกไปช่วยนางเอก ที่ถูกจับตัวไปแค่นั้นเอง เรื่องเลยถูกดองไว้ตั้งนาน แถมยังเอาเนื้อเรื่องไปสร้างเป็นเรื่องอื่นก่อนหน้านี้อีกต่างหาก ซึ่งไม่ต้องแปลกใจหรอกถ้าหนังเรื่องนี้ดีมากๆเป็นขวัญใจนักวิจารณ์ก็คงได้ฉายในช่วงซัมเมอร์ของอเมริกาไปแล้ว หนังเรื่องนี้เหมือนจะใช้ทุนสร้างเยอะ แต่จริงๆแล้วแค่ 70 ล้านเหรียญซึ่งถือว่าไม่เยอะหากเทียบกับผลงานที่ออกมาในแง่ของการสร้างภาพคอมพิวเตอร์กราฟฟิค ที่มันไม่เยอะเพราะ ตัวละครหลักๆอย่างช้างแมมมอส เสือเขี้ยวดาบ หรือไดโนเสาร์ มันไม่ใช่ของใหม่อะไร เพราะมันเป็นตัวละครพื้นๆที่มีอยู่ในเครื่องของบริษัทรับทำ CGทั่วไปอยู่แล้ว ส่วนภาพปิรามิดที่เห็นก็ใช้การสร้างแบบเมืองจำลองย่อส่วน และตัดภาพคนในบลูสกรีนเข้าไป ก็เป็นวิธีแบบโบราณมากๆ แต่ก็ถูกแต่งแสงและภาพด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ภาพจึงออกมาเนียน
ที่ปลายเทียนดีใจคือหนังเรื่องนี้ทำรายรับเปิดตัวถึง 37 ล้านเหรียญที่อเมริกา มีหลายคนเอาหนังเรื่องนี้ไปเทียบกับหนังชาวมายาโบราณขวัญใจนักวิจารณ์ของเมล กิ๊บสันก่อนหน้านั้น จริงๆเรื่องนั้นเนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอก แค่พระเอกถูกจับไปเป็นทาสแล้วหนีการตามล่าแค่นั้นจริงๆ
เพียงแต่หนังของเมล กิ๊บสันสร้างได้ดิบ เถื่อน ซึ่งนักวิจารณ์ย่อมถูกใจกว่าหนังที่เต็มไปด้วยเอ็ฟเฟ็คอย่าง 10,000 BC อยู่แล้ว ทั้งที่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรมากเหมือนกัน หนังของเมล ก็กลายเป็นหนังเทห์แบบเด็กแนว ขณะที่ 10,000 BC กลายเป็นหนังสูตรสำเร็จน่าเบื่อไป
ก็มีคนวิเคราะห์กันว่าทำไมหนังที่ถูกนักวิจารณ์สับเละขนาดนั้นถึงทำรายได้เปิดตัวเข้าขั้นทำสถิติ เพราะชื่อผู้กำกับหรือเปล่า เพราะงานเก่าๆของเขาอย่าง id4 และ the day after tomorrow ก็มีคนชื่นชอบไม่น้อย ( ที่จริงมีเรื่องก็อดซิล่า อีกเรื่อง แต่เรื่องนี้โดนนักวิจารณ์สับเละเหมือนกัน)
จริงๆก็อย่างที่รู้กันว่าหนังแอ็กชั่นแบบนี้ เนื้อเรื่องจะไม่มีอะไรมาก ฉากแอ็กชั่นก็ไม่มีอะไรใหม่ แต่เคล็ดลับการสร้างหนังแบบนี้ให้ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้ มันก็เหมือนกับการเรียงตัวโดมิโน่ เมื่อเราล้มตัวแรกแล้วมันจะต้องล้มทับๆกันไปจนถึงตัวสุดท้าย ซึ่งหมายความว่า อย่าปล่อยให้หนังได้มีช่วงเวลาน่าเบื่อ แม้เนื้อเรื่องมันจะไม่มีอะไรใหม่หรือคาดเดาได้ก็ตาม ตัวอย่างคือหนังเรื่องแรกที่สร้างโดยทฤษฏีนี้คือเรื่อง The mummy ภาค 2 แต่ก็ไม่อยากให้ทำแบบนั้น เพราะเราสามารถสร้างหนังดีๆดูสนุกๆได้ เพียงแต่ต้องอาศัยวิชาความรู้ในหลายๆด้านมาประกอบกันให้มันลงตัว ซึ่งแน่นอนว่ามันทำยากกว่า ท้าทายกว่า และมีความภูมิใจมากกว่า การเขียนบทเป็นหัวใจก็จริง แต่หัวใจอย่างเดียวมันก็ทำให้มีชีวิตไม่ได้
ที่เขียนมาทั้งหมดเป็นความคิดส่วนตัวนะครับ เพราะส่วนใหญ่ก็ทะเลาะกับความเห็นนักวิจารณ์มาตลอด นักวิจารณ์ก็เหมือนกระจกเงา แต่ต่อให้เราแต่งหน้าทาปากใส่ชุดหรู หรือแก้ผ้า สิ่งที่เห็นตรงหน้ากระจกก็คือตัวเราอยู่ดี ดังนั้นควรภูมิใจในสิ่งที่เราเป็นนะครับ
เมื่อช่วงเย็นไปตลาดนัดใกล้บ้าน ก็ปรากฏว่าร้านขายซีดีเถื่อนหายไปหมดแล้วอ่ะครับ สงสัยโดนปราบปรามหนัก ก็ไม่รู้จะซื้ออะไรกินดีเลยไม่ได้ซื้อสักอย่างเลือกไม่ถูก ก็ไปเจอน้องแหม่มมาเดินตลาดนัดกับสามีโดยบังเอิญ น้องแหม่มก็ท้องโย้ใกล้คลอดซะแล้ว จริงๆคนกำลังท้องก็ไม่น่าจะมาเดินมากๆแบบนี้นะครับ ออกกำลังกายนิดๆหน่อยๆก็น่าจะพอ กินอาหารที่มีประโยชน์เยอะๆ ก็อย่างที่บอกเมื่อวานว่าปลายเทียนไม่ได้ข่าวคราวอะไรจากที่ทำงานเก่ามานานมากแล้ว ก็เลยไม่รู้หรอกว่าใครแต่งงานไปกี่คนแล้ว ก็เพิ่งทราบนี่แหละว่าเขาแต่งงานไปแล้ว เพราะมีแค่การ์ดเชิญใบเดียวที่มาที่บ้าน แต่ก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะคำนวณจากอายุเขากับความสวีทกับแฟนเขา ก็นึกอยู่ว่าคงแต่งงานกันเร็วๆนี้แหละ แล้วก็ไม่ผิดจริงๆ วันก่อนอยู่ดีๆก็ปวดฟัน เหมือนเป็นลางอยู่แล้วเชียว ราตรีสวัสดิ์นะครับ
P.S.วันนี้เขียนยาวหน่อย ก็ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมนะครับ เน็ตยังเน่าเหมือนเดิมช่วงนี้ ... เฮ้ออออ
Create Date : 12 มีนาคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 12 มีนาคม 2551 0:09:42 น. |
Counter : 1005 Pageviews. |
|
|
|