No more sailin' … So long sailin' … Bye, bye sailin'... Move on out, Captain...
 
มกราคม 2554
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
4 มกราคม 2554

บทที่ 7 คนไทยมีอะไรที่ชนชาติอื่นไม่มี

ทีนี้เรามาพูดคุยกันกันในเรื่องเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของคนไทย กันนะครับ

แต่ก่อนอื่นขอขึ้นต้นแบบนี้ว่า...ถ้าเราลองสังเกตดู เราจะพบว่าโดยธรรมชาติของธุรกิจสายการบิน จะมีความอ่อนไหวมาก
หากมีสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ที่ส่งผลต่อความรู้สึกไม่ปลอดภัยของผู้โดยสาร ก็จะทำให้คนไม่มีการเดินทางท่องเที่ยว เศรษฐกิจตกต่ำชะลอตัว ภัยธรรมชาติ โรคระบาด การก่อการร้าย ปัญหาการเมือง ฯลฯ

การประกาศรับสมัครงานของสายการบินในประเทศไทยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ถูกกระทบจากทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจสูงมาก การตัดสินใจจะรับพนักงานเมื่อไรและอย่างไร จะขึ้นอยู่กับอิทธิพลจากตัวแปรเหล่านี้นี้อยู่เกือบตลอดเวลา

ดังเช่นเหตุการณ์ บุกยึดพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ของผู้ขุมนุมทางการเมือง ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดือดร้อนและส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย ซบเซา ต่อด้วยการบุกยึดสี่แยกราชประสงค์ คราวนี้ยิ่งหนักหนาสาหัส ภาพข่าวความรุนแรงทางการเมือง ทำให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกไม่กล้ามาเที่ยวเมืองไทยไประยะหนึ่งเลยทีเดียว

ธุรกิจการบินในประเทศไทย ก็เลยพลอยได้รับผลกระทบ มีภาวะชะลอตัวเรื่อยมานับตั้งแต่นั้น บางสายการบินถึงขั้นลดจำนวนพนักงานลง จึงไม่ต้องพูดถึงการรับสมัครพนักงานใหม่ ประเด็นนี้ทุกคนในภาคธุรกิจการท่องเที่ยวและการบินคงทราบดี แต่ประเทศไทยยังนับว่ามีความโชคดีกว่าหลายๆ ประเทศ

อย่างแรกที่เห็นได้ชัดคือ ประเทศไทยคือศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของเอเชีย สายการบินทั่วโลกต่างมีเส้นทางการบินเข้าสู่ประเทศไทย เพราะภูมิประเทศที่มีทั้งทะเลสวย หาดทรายขาว แสงแดดอบอุ่น อาหารการกินที่หลากหลายและอร่อย ศิลปวัฒนธรรม ที่งดงาม

และที่สำคัญที่สุดเอกลักษณ์ความเป็นคนไทยของเรานั่นเอง หรือเราจะเรียกว่าเสน่ห์ของคนไทย ก็คือรอยยิ้มและความมีน้ำใจของผู้คนนั่นเอง

ในแวดวงธุรกิจสายการบิน หลายสายการบินทั่วโลกในยุคปัจจุบันก็นิยมชมชอบเอกลักษณ์ความเป็นคนไทยของเรา....จึงนิยมรับพนักงานคนไทยเข้าทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน...

พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน เป็นตำแหน่งงานที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจคนรุ่นหนุ่มสาวที่เพิ่งจบการศึกษาได้เป็นอย่างมาก และตัวงานก็เป็นงานที่ต้องใช้เสน่ห์ แต่ขณะเดียวกันมันก็มีด้านลบ ที่หลายคนอาจไม่เชื่อว่าเป็นงานที่หนักและบั่นทอนสุขภาพ แต่อย่างไรก็ตาม ภาระหน้าที่ของงานนั้นจะหมดในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่มีงานค้างตามมาที่บ้าน...

ในเที่ยวบินระยะทางไกลๆ เช่นไปยุโรป หรือ อเมริกา เรื่องของการกิน การนอน สำคัญมาก หากต้องบินไปอเมริกานี่ห่างจากเมืองไทย 12-14 ชั่วโมง ต้องปรับเปลี่ยนเวลาเพราะบินข้าม Time Zone บางทีร่างกายของเรายังปรับสภาพไม่ทันเลย คุณต้องบินกลับมาอีกแล้ว กลางวันเป็นกลางคืน กลางคืนเป็นกลางวัน สมองเบลอจนนอนไม่หลับเมื่อตกกลางคืน แล้วไปง่วงจนตาจะลืมไม่ขึ้นเมื่อตอนกลางวัน เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สุขภาพของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทรุดโทรมมาก

อธิบายให้เห็นภาพอีกสักนิดแบบง่ายๆ เพราะการทำงานบนเครื่องบิน เป็นสภาพการทำงานที่ผิดธรรมชาติโดยทั่วไปของมนุษย์ ที่เป็นสัตว์บกอาศัยบนพื้นดิน แต่ต้องดั้นด้นขึ้นไปทำงานบนฟ้าที่มีบรรยากาศเบาบาง มีออกซิเจนน้อยกว่าบนผิวโลก

ดังนั้นในประเด็นนี้ เพื่อความปลอดภัยในการทำงาน องค์กรการบินสากล จึงออกข้อกำหนดในการทำงานสำหรับผู้ปฏิบัติงานบนอากาศยานตามกฎการบินสากล ซึ่งมีรายละเอียดคร่าวๆอยู่ว่า ลูกเรือจะทำการบินได้ไม่เกิน 1,000 ชั่วโมงบินต่อปี หรือประมาณ 70-80 ชั่วโมงต่อเดือน โดยเฉลี่ยก็อยู่ที่ 70 ชั่วโมง

ซึ่งแต่ละเที่ยวบินหากกินเวลานานมากกว่า 10 ชั่วโมง ถ้ารวมคิดเป็นวันแล้วอาจจะเห็นว่า อะไรกันนี่ แอร์-สจ๊วต ทำงานกันแค่ 7-8 วันต่อเดือน เท่านั้นเองนะหรือ ??? อาจจะดูเหมือนว่ามีเวลาว่างค่อนข้างมาก ก็เพราะว่างานที่ทำจะอยู่ในช่วงเวลาสั้น ๆ บนฟ้า ต้องทำทุกอย่างให้ทันตามเวลาที่มีจำกัด ไม่เห็นจะหนักหนาสาหัส หรือลำบากลำบนตรงไหน ในหนึ่งเดือนทำงานไม่กี่วัน มีเวลาเหลือว่างตั้งมากมาย หลายๆคนคงคิดแบบนี้ใช่ไหมครับ

งานบนเครื่องบินมันไม่ใช่งานที่ต้องใช้แรงกายสักเท่าไร ดูภายนอกแล้วมันอาจจะเป็นอย่างนั้น แต่เนื้อแท้ของงานจริงๆ งานหนัก อาจจะว่าแหม... มันจะหนักสักแค่ไหนเชียว แค่เสิร์ฟอาหารบนเครื่องบิน 14 ชั่วโมง 2 มื้อ

... แต่ด้วยความกดอากาศบนเครื่องบิน ด้วยเวลาพักผ่อนที่มันไม่สม่ำเสมอ เวลารับประทานไม่ถูกต้องตรงตามเวลา สิ่งเหล่านี้มันจะทำให้ร่างกายเรา ค่อยๆอ่อนแอลง ฉะนั้นต้องมีร่างกายที่อดทน ร่างกายที่แข็งแรง ถึงตรงนี้ถ้ายังอยากคิดจะประกอบอาชีพนี้ ก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วย การไม่เอาตัวเข้าหาอบายมุข นะครับ

และเพราะความก้าวหน้าในอาชีพการงานของลูกเรือมีอยู่ค่อนข้างจำกัด ในปัจจุบันนี้เราจึงมักจะเห็นแอร์-สจ๊วต ใช้เวลาที่เหลือไปศึกษาเพิ่มเติม ทั้งทางด้านวิชาการ เรียนต่อปริญญาโท ปริญญาเอก ฝึกฝนทางด้านอาชีพ ทำอาหาร ทำขนม เรียนการออกแบบ ตัดเย็บเสื้อผ้า ฯลฯ และเมื่อถึงเวลาอันสมควร ก็เปลี่ยนอาชีพไปทางด้านที่ตัวเองมีความถนัดพิเศษเฉพาะบุคคลตน เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

และโดยส่วนตัวผมคิดว่า คงไม่มีลูกเรือคนไหนอยากจะทำงานไปจนถึงอายุ 50-60 ปี เพราะว่างานนี้มันเป็นงานที่หนัก รูปลักษณ์และภาพพจน์สำคัญมาก รวมทั้งสุขภาพสภาพร่างกายด้วย

และสมัยนี้การแข่งขันทางด้านการให้บริการของสายการบินมีสูงมาก คงไม่มีผู้โดยสารอยากนั่งเครื่องบินที่ยังเอาคุณลุง คุณป้า มาเสิร์ฟ ชา กาแฟ บนเครื่องบินในเที่ยวบินที่เรานั่งหรอก...เห็นด้วยกับผมไหมครับ
และเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ แน่ใจนะครับว่า แอร์-สจ๊วต เป็นงานที่ยังอยุ๋ในความใฝ่ฝันของคุณ หรือเปล่า

ถ้ามั่นใจ...ก็ตามมาเลยครับ



Create Date : 04 มกราคม 2554
Last Update : 4 มกราคม 2554 10:21:58 น. 0 comments
Counter : 377 Pageviews.  

ชนาวิน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




"หากฉันบินๆไปได้ดั่งนก ฉันจะบินๆไปในนภา...."
MySpace Comments
Comments For MySpace Counter Stats

MySpace Comments
New Comments
[Add ชนาวิน's blog to your web]

MY VIP Friend