Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
27 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 
ความฝันของคนวิกลจริต และคนเกือบวิกลจริตอย่างผมก็ฝัน

เมื่อคืนฝันดีมาก....

เป็นประโยคสั้น ๆ ง่าย ๆ ที่บางคนได้ยินแล้วเฉย ๆ
แต่สำหรับความฝันเมื่อคืนแล้ว...มันเป็นความฝันที่ เชื่อได้ว่าไม่มีความฝันไหนดีหว่านี้อีกแล้ว
ที่สำคัญคือผมจำมันได้แทบทุกช็อต

ราวภาพยนตร์ 8 1/2 ของเฟลลินี่
ตัวหนังทั้งหมดไม่เป็นเรื่องราวชัดเจน
มีแต่หมอกของความคลุมเครือที่ถักร้อยเข้าด้วยกัน
กระนั้นฉากแต่ละฉากก็ยังคงสื่อความหมาย
แต่แล้วสุดท้ายผมก็ต้องตื่นขึ้นมา
พบโลกความจริงที่มีลมหายใจของความเบื่อหน่าย สายตาชิงชังโลก เสียงหัวเราะเย้ยหยันลึก ๆ ในลำคอ และทั้งหมดนี้เป็นของผมเอง

ผมไม่ค่อยอยากเล่าความฝันของผมเท่าไหร่นัก มันค่อนข้างยาว (แต่ผมเสือกจำมันได้ ทั้งที่อะไรในโลกความจริง ผมลืมมันง่ายมาก) และถ้าให้เล่าละเอียด มันอาจติดเรทได้

เหตุนี้ทำให้ผมนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งของนักเขียนรัสเซีย ผู้ที่ผมชื่อชอบมากที่สุด ผู้ที่แม้แต่ ฟรอยด์ ก็กล่าวคารวะว่าเป็นนักจิตวิทยาที่ดีที่สุดในโลก ฟิโอดอร์ ดอสโตเยฟสกี้



หลายคนคงจะรู้จักเขาจากผลงานคลาสสิก (เล่มโอฬาร) อย่าง Crime and Punishment กับ The Brother Karamazov

แต่ในที่นี้ผมกำลังจะพูดถึงเรื่องสั้นขนาดยาวเรื่องสุดท้ายของเขา (ไม่นับ Brother Karamaaov ซึ่งเป็นนิยายที่เขียนไม่จบ) แต่เป็นเรื่องแรกของดอสโตเยฟสกี้ ที่ผมได้อ่าน เรื่องสั้นเรื่องนั้นคือ "ความฝันของคนวิกลจริต" หรือในชื่อภาษาอังกฤษคือ "The Dream of a Ridiculous Man"




เรื่องสั้นเรื่องนี้พูดถึงชายผู้สิ้นหวัง หน่ายโลก คนหนึ่งกำลังวางแผนที่จะปลิดชีวิตตนเองที่บ้าน โดยเขาได้เตรียมปืนไว้เอาไว้แล้ว แต่ในระหว่างทางกลับบ้านนั้น เขาได้พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดือดร้อน แต่เขาก็ผละจากเด็กหญิงคนนั้นไปไม่ช่วยอะไร เขาตั้งใจแล้วว่าเขาจะตายคืนนี้

แต่เมื่อเขากลับถึงบ้าน เขาก็ได้ถือปืนค้างไว้โดยที่ยังไม่ยิงตัวเอง เนื่องจากเด็กหญิงผู้ที่เขาไม่ให้ความช่วยเหลือคนนั้น กลายมาเป็นภาพที่ตามหลอกหลอน

[Spoil]เขาคิดถึงเด็กคนนั้นจนเผลอหลับไป

เขาหลับฝันไปว่า
[End of Spoil] เขาตัดสินใจยิงตัวเองในที่สุด หลังจากที่เขาตายแล้ว เขาก็ได้ไปอยู่ในโลกซึ่งเหมือนกันโลกในอุดมคติ เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความสุข และเขาก็เข้าไปรวมเป็นหนึ่งในผู้คนที่เปี่ยมไปด้วยความสุขนั้น จนกระทั่งวันหนึ่งโลกอุดมคติใบนี้ก็เริ่มสั่นคลอน ผู้คนเริ่มบังเกิดความรู้สึกแย่ต่อกัน เริ่มเกิดการแบ่งแยก จนในที่สุดก็เกิดสงคราม โดยผู้ที่เริ่มต้นทำให้ทุกอย่างบังเกิดเลยเถิดนี้ก็คือตัวเขาเอง

[Spoil] เขาตื่นขึ้นมา...พบว่าตัวเองยังมีชีวิตอยู่ แต่เขารู้สึกเปลี่ยนไปจากเดิม เขารู้สึกถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ เพราะเขารู้แล้วว่า ตัวเขาก็เป็นเศษเสี้ยวของความเลวร้าย และความดีงาม [End of Spoil]





Note From Underground กับ The Double ที่ผมเพิ่งอ่านจบไป


แต่ในฝันของผม ไม่ได้เป็นโลกอุดมคติอะไรขนาดนั้น มันเป็นโลกที่บ้าบอคอแตกธรรมดา แต่ผมได้อยู่ในที่ที่อยากอยู่ ไปในที่ที่อยากไป เกลียดและระบายความเกลียดนั้นให้เหือดหายในพริบตาได้ คุยกับคนที่อยากคุยโดยไร้ความขัดเขิน และ...ได้อยู่กับคนที่อยากอยู่ด้วย ยามเมื่อต้องการเขาให้เขาอยู่

(ผมเล่าให้ละเอียดกว่านี้ไม่ได้จริง ๆ มันสวยงามกว่านี้มาก มาก ๆ เลยทีเดียว)








1.)

Title - Fallen Angel
Artist - King Crimson
Album - Red




2.)

Title - The Power to Believe (Part II)
Artist - King Crimson
Album - The Power to Believe




Create Date : 27 พฤศจิกายน 2549
Last Update : 27 พฤศจิกายน 2549 13:29:56 น. 24 comments
Counter : 1329 Pageviews.

 
ชอบ อ่านอยู่ สองเล่ม
1. poor love รักของผู้ยากไร้
2. a faint heart ใจที่ไร้แรง

ที่เหลือ ไม่เคยอ่าน
แต่อาจะชอบ หรือไม่ชอบก็ได้ ถ้าอ่าน



โดย: ดาริกามณี วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:31:00 น.  

 
อ่านแต่ละอย่าง พี่เห็นแล้วอยากเป็นลม 5555


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:10:43 น.  

 
ดอสโตเยฟสกี้ นี่เคยอ่านบ้างสมัยเรียน
ไม่ค่อยชอบมาก
นักเขียนรัสเซีย
ชอบนิโคไล โกกอล มากกว่า

แต่ทั้งหมดทั้งปวง
ตอนนี้ชอบฮารูกิ มูราคามิที่สุด


โดย: grappa วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:31:00 น.  

 
ไม่เคยอ่านสักเล่ม เลยมานั่งฟังดีกว่า ฟัง King Crimson ในบ๊อกนี้บ่อยๆ ชักจะมีแววเสียตังค์มาให้เห็นมั่งแล้วสิ Fallen Angel เสียงกีต้าร์หม่นเศร้าได้ใจมั่กๆ


โดย: Together In 80s Dream วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:48:34 น.  

 
พี่ดาฯ

รักของผู้ยากไร้ (Poor Folk แต่บางฉบับอาจให้ชื่อเป็น Poor love ก็ได้) ผมก็เคยอ่านแล้วชอบเหมือนกัน ตอนนี้เริ่มเลือน ๆ ไปแล้ว อะไรที่มันติดต่อด้วยการเขียนนี้ก็มีเสน่ห์ของมันอยู่จริง ๆ นะ

ส่วน A Faint Heart ไม่รู้เพราะสำนวนแปล หรือผมยังไม่อยู่ในอารมณนั้นก็ไม่ทราบ เลยอ่านแรก ๆ แล้วรู้สึกขัด ๆ ว่าจะลองหาอ่านดู จริง ๆ เล่มมันก็บาง

พี่ I will see U in the next lfie

แรก ๆ มันดูเหมือนจะอ่านยากนะพี่ แต่พอมันอยู่ในอารมณ์หนึ่ง จะรู้สึกเข้าถึงเรื่องของเขามาก

(หมายเหตุ : คารามาซอฟ กับ Crime and Punishment เล่มหนาเตอะนั่น ผมยังไม่ได้อ่านนะครับ อย่าตกใจไป)

พี่ Grappa

ไม่ค่อยได้ตาม มุราคามิ เท่าไหร่ แต่แอบอินกับ Wild sheep chase ฉบับ ภาษาอังกฤษ ตอนต้น ๆ เรื่อง (ไม่ได้อ่านต่อเพราะยืมห้องสมุดมา กับ After The Quake เนี่ยชอบมาก

โกโกล จำไม่ได้ว่าตอนนั้นอ่านเรื่องอะไร ชอบเหมือนกัน แต่ที่แน่ ๆ ยังไม่ได้อ่านเรื่อง "จมูก"

พี่ 80's Dream

อัลบั้มของ King Crimson หายากเหมือนกันครับ ส่วนใหญ่ผมยอมรับเลยว่า ดูดเอา (ถ้าเจอที่ไหนแนะนำด้วยเน้อ)


โดย: ShadowServant วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:30:34 น.  

 
ปกเท่มาก


โดย: PutterZ (ToppuT ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:28:59 น.  

 
เข้ามาเยี่ยมครับ


โดย: กรุณาใช้บริการช่องถัดไป วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:16:01 น.  

 
คุณ Putterz (Topput)

ปกหนังสือ หรือปก CD ครับ


คุณ กรุณาใช่บริการช่องถัดไป

เดี๋ยวไปใช้บริการช่องถัดไปมั่ง


โดย: เฝ้า Blog ชั่วนิรันดร์ เพราะจิตตก Emo แดก (ShadowServant ) วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:40:49 น.  

 
อ๋อ...จำได้แล้วครับ
เคยอ่าน โกโกล เรื่อง ภาพเหมือน (The Portrait)

สติ สตัง ไปไหนหมดเนี่ยตู



โดย: ShadowServant วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:56:11 น.  

 
น่าอ่านจัง อ่านสปอล์ยไปแล้ว ก็ยังน่าสนใจอย่างเคย

อยาก่านจิงๆนะ ไว้ไปหามาอ่านมั่งดีก่า อะไรจิตๆนี่ ถูกจริตเป็นยิ่งนัก

ปอลอ เพลงยังฟังบ่อได้เลย ลำโพงโดนยึดชั่วคราวอ่ะ



โดย: renton_renton วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:10:57 น.  

 
อยากอ่านตั้งนานละ แต่ยังไม่มีเวลาได้อ่านเลยครับ
จริงๆ ผมว่ารัสเซียมีนักจิตวิทยาเก่งนะครับ แต่เสียดาย เพราะระบบสังคมและการเมืองของประเทศในขณะนั้นทำให้มีขีดจำกัดมากไป เหมือนเยอรมัน ความเจริญสาขานี้เลยไปที่อเมริกาหมด


โดย: นายวุ้นกะทิ วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:01:34 น.  

 
เล่มนี้อ่านแล้ว ไม่ประทับใจประเด็นอะไรเป็นพิเศษแฮะ
จะว่าไงดีล่ะ มันเหมือนอ่านเรื่องสั้นสักเรื่อง จบแล้วก็จบน่ะ

...สงสัยเพราะไม่ชอบคิดด้วยมั้ง


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 27 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:47:52 น.  

 
พี่น้องคารามาซอฟเรายังอ่านไม่จบค่ะ ว่าจะหาเวลาว่างจริงๆ เพื่ออ่านใหม่ตั้งแต่แรกอีกซักรอบ

ส่วนความฝันของคนวิกลจริตเพิ่งมีเพื่อนบล็อกพูดถึงอยู่เองแหละ อยากหามาอ่านน่ะ



เป็นอะไรถึงจิตตก? หายไวๆ นะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:39:04 น.  

 
ล้วนแล้วแต่เป็นหนังสือที่อยู่ในกองดองอะค่ะ แหะๆๆๆๆ ^^"


โดย: Clear Ice วันที่: 28 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:54:44 น.  

 
เจ้าของบล็อกหายจิตตกหรือยังครับ

เมื่อคืนผมก็ฝัน แต่ไม่ใช่ฝันดี

ไม่เคยอ่านผลงานนักเขียนนักคิดรัสเซียเลยอ่ะครับ และไม่รู้ว่าตัวเองจะมีศักยภาพพอกับการอ่านงานเขียนแบบนี้หรือเปล่า เพราะอ่านหนังสือประเภทนี้ทีไรมึนทุกที ต้องพลิกไปอ่านซ้ำไปซ้ำมา



โดย: King Of Pain วันที่: 29 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:18:41 น.  

 
renton_renton

อะไรจิต ๆ ดีจริง ๆ แหละครับ
แต่ที่จิตสุด ๆ น่าจะเป็น Note from Underground กับ The Double นั่นแหละ
แต่ Note from Underground จะย่อยง่ายกว่าหน่อยนึง ขณะที่ The Double จะหลอน ๆ


นายวุ้นกะทิ

ดอสโตเยฟสกี้เป็นคนที่เขียนถึงจิตใจตัวละครได้เยี่ยมมากเลยครับ อีกคนที่น่าจะเทียบได้คงเป็นกามูส์ แต่คนหลังนี้เน้นการเข้าถึงความเป็นมนุษย์มากกว่า อย่างเรื่อง "มนุษย์สองหน้า" นี้ผมรู้สึกตงิด ๆ อยากลองเอากลับมาอ่านอีกรอบดูเหมือนกัน


ยาคูลท์

ผมว่าเป็นอารมณ์ร่วมมากกว่าครับ มีคนบอกว่าอ่านวรรณกรรมพวกนี้ต้องคิดมาก แต่ผมว่ามันน่าจะมาจากความรู้สึกเป็นสำคัญ (วรรณกรรมเป็นศิลปะ !!)

ที่คุณยาคูลท์ไม่รู้เรื่องอาจเป็นเพราะเป็นคนปกติดีก็ได้ ขณะที่ผมซึ่งใกล้วิกลจริตอาจจะเข้าถึงความรู้สึกมันได้มากหน่อย


สาวไกด์ใจซื่อ

ขนาดผมเข้าไปกวนตีนใน Blog พี่สาวไกด์ฯ ยังเข้ามาให้กำลังใจ ซึ้งอ่ะ อย่างงี้ต้อง

[Spoil] เข้าไปกวนตีนบ่อย ๆ ซะแล้ววววว[End of Spoil]




Clear Ice

ไว้อารมณ์จิตตก หมดอาลัยตายอยาก ลองหยิบมาอ่านดูครับ แหะ ๆ

King of Pain

มันมาจากสำนวนแปลเป็นส่วนใหญ่ครับ เพราะจากภาษารัสเซีย บางทีต้องมาเป็นภาษาอังกฤษก่อน แล้วพอมาถึงภาษาไทยแล้ว มันเหมือนส่งทอดกันมาหลายไม้แล้วก็อาจเบี้ยว ๆ บ้าง ตรงนี้จะโทษนักแปลถ่ายเดียวก็ไม่ได้ ตอนผมอ่านผมก็พลิกไป ๆ มา ๆ นี่แหละครับ แต่บางตอนที่อินกับมันก็อ่านคล่องปรื๋อเลยนะครับ

หนังสือมันเหมือนคนนั่นแหละ ต้องอาศัยความรู้จักมักคุ้น ให้เวลากับมัน พอเริ่มคุ้นเคยแล้วเราจะรู้เอง และถึงจะตัดสินได้ว่า เราคบกับหนังสือเล่มนี้ได้หรือเปล่า



โดย: ShadowServant วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:44:57 น.  

 
พักนี้ทำไม เครื่องผมเปิด ยูธูป จาก Web มันไม่ค่อยได้ฟะ แต่โชคดีมี URL + Code เป็น Stock เก็บงำไว้

HA-HA!!

เลยแอบเอา MV Life On Mars ของ David Bowie มาให้ดูกัน (จริง ๆ มันก็ไม่ค่อยมีอะไรหรอก) เมื่อก่อนเวลาจิตตกจะชอบเปิดฟังเพลงนี้มาก...เลยเอาลง Blog ด้วย ช่วงเข้ามาใหม่ ๆ เลย





โดย: ShadowServant วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:48:47 น.  

 
จริง ๆ แนวเพลงนี้มันไม่ Emo(Core) นะ
แต่เนื้อเพลงมันโคตร Emo เลยจริง ๆ
เอา MV มาเสียเลย อุว่าฮ่าฮ่า



โดย: ShadowServant วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:55:50 น.  

 
เคยอ่านเรื่องนี้เหมือนกัน ที่อ่านเพราะเล่มมันบางนี่แหละ แต่จำอะไรไม่ได้เลยอ่ะ


โดย: strawberry machine gun วันที่: 30 พฤศจิกายน 2549 เวลา:10:38:29 น.  

 
อืมมม คนเป็นสิ่งไม่สมบูรณ์สินะครับ ต่อให้ไปอยู่ในโลกสมบูรณ์แบบใบไหน ก็ทำให้มันไม่สมบูรณ์จนได้ พื้นฐานเราเป็นแบบนี้นี่


ปล.ชอบเพลงครับ


โดย: นายเบียร์ วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:8:29:16 น.  

 
ผมว่าผู้ชายแบบที่เล่ามา
น่าจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ

รู้สึกไหมบ่อยๆไป ที่เรารู้สึกว่าโลกนี้ น่าเศร้า..จัง


โดย: แร้ไฟ วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:15:53:15 น.  

 
ซื้อมาดองเป็นชาติแล้ว ฮ่าๆๆ


โดย: merveillesxx วันที่: 1 ธันวาคม 2549 เวลา:17:45:17 น.  

 
หวัดดีจ้า
มาเดินชมบล็อคอ่านู่นนี่


โดย: นู๋ตาโต๊โต วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:20:21:17 น.  

 
ง่า ปกติผมจาอ่านแต่หนังสือแนวน่ารักๆสะมากก่า

ท่าทางคุณทาสเงาจะชอบ King Crimson มากๆ ได้ฟังในบล็อกนี้บ่อย งานของพวกเขานี่ผมไม่ได้ฟังมานานล่ะ ก็อาศัยฟังจากบล็อกนี้เอา สงสัยต้องไปขุดงานโปรเกรสซีพเก่าๆเอากลับมาฟังบ้างล่ะ


โดย: newpanda วันที่: 2 ธันวาคม 2549 เวลา:20:50:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ShadowServant
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Friends' blogs
[Add ShadowServant's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.