Bangkok International Book Fair 2007

ช่วงวันที่ 30 มีนาคม ถึงวันที่ 10 เมษายน 2550 เป็นช่วงสำคัญมาก ๆ สำหรับเราค่ะ เพราะต่อให้งานเยอะยังไง ก็ต้องหาวันไปเดินงานสัปดาห์หนังสือที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ให้ได้

ตอนแรกกะว่าจะไปวันที่ 5 เมษาอะค่ะ แต่พอดีน้องจอยจะไปด้วย เราก็เลยเลื่อนไปเป็นวันที่ 9 เมษาแทน เพราะวันที่ 5 น้องจอยลาพักผ่อนกลับบ้านที่ลพบุรี

แล้วบังเอิ๊ญเราได้รับส่วนลด 30% จากสำนักพิมพ์ Bliss Publishing แต่เค้าให้ใช้ได้วันที่ 6-8 เมษาเท่านั้น ด้วยความเสียดายก็เลยตัดสินใจไปมัน 2 วันเลยค่ะ ข้อดีที่จะได้อีกอย่างก็คือเราจะได้แบ่งซื้อหนังสือได้ด้วย ไม่ต้องหอบหนัก ๆ เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

เช้าวันที่ 8 เมษา เราออกจากบ้านตั้งแต่ 9.00 am ขับรถไปจอดไว้ที่สำนักงาน เพราะใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีบางซื่อ ไปถึงงานตอน 10.00 am พอดี จากนั้นก็ไม่ต้องไปขอแผนทงแผนที่อะค่ะ ลุยมันเลย โดยเริ่มตั้งแต่ห้อง Plenary Hall

Booth แรกที่เรามุ่งไปก็คือ Bliss Publishing ค่ะ เนื่องจากวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะใช้คูปองลด 30% ได้ ก็เลยรีบไปซื้อก่อน แบบว่ากลัวหนังสือเค้าจะหมดอะค่ะ แหะ แหะ

ที่สำนักพิมพ์นี้เราได้มาเกือบครบทุกเล่มที่ต้องการ ขาดแต่เรื่อง Monkey Love เท่านั้น ที่พนักงานขายบอกว่า "พิมพ์ออกมาไม่ทันงานนี้" อะค่ะ


Sex, Lies, and Online Dating หรือรักออนไลน์ หัวใจโดนหลอก ...เล่มนี้คนขายต้องถามอายุคนซื้อด้วยค่ะ ได้ยินเค้าอธิบายว่ามันออกแนวอีโรติคนิดนึง เลยจะไม่แนะนำให้คนที่อายุต่ำกว่า 18 ปีอ่าน


Natural Born Charmer หรือหล่อแค่ไหน หัวใจก็ไม่รัก

ได้หนังสือแปลที่มีต้นฉบับภาษาอังกฤษมา 2 เล่มค่ะ นอกนั้นเป็นหนังสือที่แปลมาจากต้นฉบับญี่ปุ่นทั้งนั้น ...เหมือนเค้าจะเน้นขายหนังสือ JBook อะค่ะ


Pool Side หรือรักริมสระ


มิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบ ตอนที่ 10


คินดะอิจิยอดนักสืบ ตอนที่ 8


ซายากะ สาวน้อยนักสืบ ตอนที่ 5

ซื้อหนังสือชุด J-Suspense ครบ 3 เล่มก็มีเกมส์ให้เล่น 1 เกมส์ค่ะ โดยต้องไขปริศนาให้ได้ เพื่อที่จะได้รับพ็อกเก็ตบุ๊ก จาก J-Suspense 1 ปี
v
v



ฆาตกรรมในโรงเรียน ...เล่มนี้คนเขียนเป็นคนเดียวกับคนที่เขียนมิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ แมวสามสียอดนักสืบและซายากะ สาวน้อยนักสืบค่ะ


เพื่อนทางจดหมาย


โทรศัพท์มือถือ ...หน้าปกน่ากลัวมาก ๆ >_<
^
^
2 เล่มนี้ คนเขียนคนเดียวกันค่ะ คือ โยชิมุระ ทัตสึโอะ

ตอนแรกนึกว่าจะได้จากสำนักพิมพ์นี้น้อย แต่ไป ๆ มา ๆ ก็ 9 เล่มอะค่ะ ถ้า Monkey Love ออกทันก็อาจจะกลายเป็น 10 เล่มได้

จาก Bliss Publishing เราก็เริ่มเดินตามล็อก โดยเริ่มจากหลังห้อง ไล่ขึ้นมาค่ะ ผ่าน Booth สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย ได้หนังสือมา 1 เล่ม


Arin's Story เล่ม 5

Booth ของ Pearl Publishing ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Bliss Publishing เลยค่ะ

ที่ Pearl คราวนี้ได้หนังสือหลายเล่มเลย หมดไป 1,900 กว่าบาทอะค่ะ ((เป็นสำนักพิมพ์ที่ได้เงินจากเรามากที่สุดในคราวนี้เลยนะเนี่ย))


อาร์ทิมิส ฟาวล์ และอาณาจักรที่สาบสูญ โดย Eoin Colfer ...เล่มนี้เป็นตอนที่ 5 แล้วอะค่ะ


Half Moon Investigationsโดย Eoin Colfer เช่นกันค่ะ






^
^
3 เล่มนี้เป็นหนังสือไตรภาคชุด In Death ค่ะ


Dear Prince Charming หรือเจ้าชายทรงเสน่ห์ ...เล่มนี้ไม่ได้ตั้งใจซื้อ แต่คิดว่าน่าจะเบาสมองดีก็เลยตัดสินใจซื้อมาอะค่ะ


Sammy's Hill โดย Kristin Gore ...ที่ตัดสินใจซื้อเล่มนี้เพราะนางเอกทำงานอยู่รัฐสภาค่ะ ((เผื่อว่าจะตรงกับชีวิตเราบ้าง)) hahaha


ฆาตกรรมหลังแผ่นฟิล์ม ...เล่มนี้ซื้อเพราะคนขายเชียร์ว่าสนุกมั่กมาก ((แบบว่าบ้ายุอะค่ะ))


และเพราะไม่บ้ายุซื้อหนังสือชุดประกาศิตจอมราชันย์มาอ่าน คนขายก็เลยแถมตัวอย่างที่ตัดมาจากหนังสือมาให้เราอ่านอะค่ะ กะจะให้ติดใจเต็มที่เลยนะเนี่ย (- -')


ได้ผ้าขนหนูผืนเล็กเป็นของแถมค่ะ

จากนั้นเดินสำรวจ Booth ต่าง ๆ เพื่อตัดสินใจว่าจะจอง Harry Potter and the Deathly Hallows กับร้านหนังสือร้านไหนดี สุดท้ายก็ตัดสินใจจองกับ Nanmeebooks อะค่ะ เพราะแถมคูปองลดราคาหนังสือของสำนักพิมพ์ Nanmeebooks รวม 500 บาท หนังสือควินดิชในยุคต่าง ๆ ให้ด้วย ((แม้เราจะมีฉบับภาษาอังกฤษแล้วก็เหอะ)) และน้ำชาเขียว โดยบอกว่าเป็นน้ำยาสัจจะ อะไรสักอย่างด้วย เรียกได้ว่าเห็นแก่ของแถมนั่นแหละค่ะ hahaha


ใบจอง


ของแถมค่ะ

ไม่ได้เดินดูทุก Booth ใน Plenary Hall หรอกนะคะ คือเดินเฉพาะ Booth ที่มีหนังสือที่เราต้องการซื้อเท่านั้น ดังนั้น พอได้หนังสือตามที่คิดแล้ว ก็มุ่งหน้าไปร้านนายอินทร์เป็นที่สุดท้ายของวันนี้เลยอะค่ะ


The Innocent หรือไม่รู้ โดย Harlan Coben


The Last Templar หรือปริศนาสมบัติอัศวิน โดย Raymond Khoury


A Myron Bolitar Novel: The Final Detail หรือซ้อน โดย Harlan Coben ...ถ้าเพื่อน ๆ จำได้ หนังสือชุดนี้เป็น series ที่เราชอบอ่านเพราะชอบวิน เพื่อนของ Myron มาก ๆ เลยค่ะ แบบว่าหน้าตาดี มีชาติตระกูล แต่โหดสุด ๆ

ทั้ง 3 เล่มข้างบนเป็นชุด Unputdownable Mystery ค่ะ


The Harsh Cry of the Heron: The Last Tale of the Otori หรือสิ้นเสียงปักษา โดย Lian Hearn ...เป็นเล่มจบของหนังสือชุด Tales of the Otori ค่ะ

ซื้อครบ 800 บาทเลยได้หนังสือฟรี 1 เล่ม เลือก ฮูย่า! ไอ้ลูกกบ มาอะค่ะ


เห็นหน้าปกแล้วไม่สงสัยเลยใช่ไหมคะว่าทำไมเราถึงเลือกเล่มนี้

ถึงตอนนี้หนังสือเต็มสองมือแล้ว และหนักมากด้วย ก็เลยตัดสินใจกลับค่ะ ((เดินได้ไม่ถึง 2 hrs นะเนี่ย)) แต่ก่อนกลับเดินผ่านซุ้มประชาสัมพันธ์ก็เลยขอแผนที่มาเป็นที่ระลึกซะหน่อยอะค่ะ



พอโผล่จากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีบางซื่อ ก็เดินไปขึ้นรถ taxi บอกให้ไปตึก DSI ลุงคนขับก็ถามด้วยน้ำเสียงสงสารว่า "โห นี่ขนาดวันหยุดยังทำงานอีกเหรอเนี่ย" เราก็ตอบคุณลุงไปว่า "เปล่าค่ะ หนูจอดรถไว้ที่ทำงานเฉย ๆ" พร้อมกับคิดในใจว่า 'ลุงเห็นถุงหนังสือหนูไหมล่ะคะ ไป shopping มาซะเยอะขนาดนี้เนี่ย' (- -')

เช้าวันที่ 9 เมษา ไปทำงานตามปกติ พี่ยี่เจอหน้าเราก็ถามว่าไปเดินงานหนังสือมาหรือยัง เราก็บอกว่าไปมาแล้ว และวันนี้จะไปอีก

พอเลิกงานพี่ยี่ก็ลังเล ๆ เหมือนจะไปงานด้วย แต่พอดีพี่ยี่มีธุระต้องทำก่อน เรากับจอยก็เลยไปกัน 2 คนค่ะ จอดรถไว้ที่ทำงานเหมือนเดิม

ไปถึงงานคราวนี้เดินไปขอแผนที่ที่ประชาสัมพันธ์ก่อนเลยค่ะ ได้อีกฉบับมา



จากนั้นก็เริ่มเดินทีละล็อกใน Plenary Hall ...เนื่องจากซื้อหนังสือส่วนใหญ่ไปแล้วเมื่อวันก่อน วันนี้ก็เลยไม่มีอะไรให้ซื้อมากนัก แต่ก็ได้สมุดระบายสีที่สำนักพิมพ์ใยไหมมา 2 เล่มอะค่ะ





ที่เลือกซื้อสมุดระบายสีมา เพราะรู้สึกว่าสมองส่วนศิลปะของตัวเองชักจะเลือนหายไปแล้ว ควรรื้อฟื้นอย่างยิ่งอะค่ะ (- -')


หนังสือตัวอย่างกล่องบุญ 2 ค่ะ ...ตอนเห็นครั้งแรกคิดว่าจะซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้หวานใจ แต่คิดไปคิดมาคิดว่าหวานใจคงไม่อ่านแหง ๆ พอชี้ให้จอยดูแล้วถามว่าจะซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้หวานใจดีไหม จอยก็บอกว่า "โอ๊ยยย ขานั้นไม่อ่านหรอก" เป็นการยืนยันว่าที่เราคิดน่ะถูกต้อง เลยไม่ซื้ออะค่ะ แหะ แหะ

เดินผ่าน Booth ขายโปสการ์ดเลยได้โปสการ์ดมา 2 ชุด





เดินผ่าน Booth ที่รับทำสติ๊กเกอร์ก็สั่งทำคนละชุดค่ะ



เดินอยู่ใน Plenary Hall ตั้งแต่ 6.15 pm จนเกือบ 8.00 pm อะค่ะ แต่ยังมีอีก 3 Zone ที่ยังไม่ได้เดิน ก็เลยชวนจอยออกไปเดินโซนที่เหลือกัน

ได้หนังสือกฎหมายที่ Booth วิญญูชน มา 3 เล่ม







เหลือบดูเวลา โอ๊ววว เหลืออีกครึ่งชั่วโมงเหลือ Zone D ยังไม่ได้เดิน ก็เลยลากจอยลงไปเดิน แม้จะเดิน Zone C ไม่ทั่วอะค่ะ

ไปถึงก็มุ่งไปที่สำนักพิมพ์ Nation ก่อนเลย


Mary Mary โดย James Patterson ...ที่ซื้อเล่มนี้เพราะคุณโรจนา นาเจริญเป็นคนแปลอะค่ะ


[บุน ชิน ซา บา] คาถาเรียกผี ...เป็นหนังสือแปลจากภาษาเกาหลีอะค่ะ ท่าทางน่ากลัวดี


ห้องเรียนที่ไม่ยอมเปิดรับ โดย Jiro Akagawa ((คนเขียนคนเดียวกับมิเกะเนะโกะ โฮล์มส์ และซายากะค่ะ))


หลอนพยาบาท โดย Jiro Akagawa เช่นเดียวกัน

โชคดีที่เดินเจอ Booth ของบงกชคอมมิคส์ ก่อน 9.00 pm ค่ะ เลยได้หนังสือการ์ตูนติดไม้ติดมือมาด้วย


รักนี้หวานบาดใจ เล่ม 18




^
^
2 เล่มนี้ ซื้อเพราะชอบลายเส้นอะค่ะ

จริง ๆ สติ๊กเกอร์น่ะต้องสั่งทำแล้วไปรับทีหลัง ซึ่งของเรานัดรับ 9.00 pm พอดี ดังนั้น พอได้หนังสือที่ต้องการครบแล้วก็เลยเดินกลับไปรับสติ๊กเกอร์กันแล้วก็เดินทะลุ Plenary Hall ออกไปเจอ Booth ไปรษณีย์ไทยอะค่ะ จอยได้แสตมป์ตาลปัตรไปฝากแฟน ส่วนเราเห็นแสตมป์ 3 บาทสำหรับติดจดหมาย โปสการ์ดลายน่ารักก็เลยซื้อมา 1 แผ่น 10 ดวงค่ะ



เป็นการ shopping ปิดท้ายงานหนังสือครั้งนี้อะค่ะ รวมแล้วคราวนี้จ่ายไปราว ๆ 4-5000 บาทได้ นี่ยังได้ไม่ครบตามต้องการนะคะ เพราะเดินไปดู Princess Diaries: After Eight ที่ Asiabooks แล้วมันหมดก็เลยไม่ได้ซื้ออะค่ะ จะซื้อที่ร้าน Bookazine ก็ขายแพงกว่าตั้ง 100 บาทแน่ะ เสียดายตังค์อะค่ะ แหะ แหะ (- -')

Create Date : 15 เมษายน 2550 Last Update : 17 เมษายน 2550 11:43:47 น. Counter : 2544 Pageviews.		16 comments
Share Tweet