Group Blog
 
 
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
7 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
เฮ้อ...เซ็ง...มือถือหาย (2)

วันศุกร์หลังเลิกงาน เราก็ไปเดินเล่นที่ เซ็นตั้น เวิน เพื่อรอเวลา ก่อนออกจากห้างก็ยังหยิบมือถือมาเช็คอยู่เลยว่าทีคนโทรมารึเปล่า พอได้เวลาก็นั่งแท็กซี่ไป พอจ่ายเงินเรียบร้อยก็ลงจากรถ เดินเข้าร้านหยิบกระเป๋าตังค์ออกจากกระเป๋ากางเกงให้เขาตรวจบัตร เสร็จก็เดินเข้าร้าน เก็บกระเป๋าตังค์ลงไป ตบๆ อ้าวเวง...โทรศัพท์หาย วิ่งออกไปรถเท็กซี่ก็หายไปไหนแล้วไม่รู้ มองไปไกลๆ เห็นเท็กซี่คันหนึ่งสีส้มๆชมพูๆเหมือนที่เรานั่งมาจอดอยู่ (มันมืดอ่ะ มองไม่ค่อยชัด) ก็วิ่งไปที่รถ เปิดประตูด้านหลังออกอย่างรวดเร็ว


แป่ววววววววววว บนเบาะหลังไม่มีโทรศัพท์ เบาะฝั่งซ้ายมีผู้โดยสารกำลังหยิบเงินจะจ่าย เบาะฝั่งขวาก็มีคนขับซึ่งดูยังไงก็ไม่ใช่คนเดียวกับคนที่มาส่งเรา (ซึ่งเป็นคนที่เอาโทรศัพท์เราไป) แล้วทั้งคู่ก็หันหน้ามามอง ทำหน้าทำนองว่า อะไรหรอ..... เราก็ “ขอโทษครับ”

เสร็จก็เดินคิด ตอนนั้นว้าวุ่นไปหมด ทำไงดีว๊า ทำไงดี เดินไปเดินมาเจอคนหนึ่งกำลังเดินไปทางร้าน เราก็เอาหนะ

“คุณครับ ขอยืมโทรศัพท์หน่อยได้ไหมครับ พอดีผมทำโทรศัพท์หล่นในแท็กซี่ จะโทรเข้าเครื่องตัวเอง” รัวเป็นชุดกำลังอยู่ในอาการตกใจ

เขาก็ มองทำนองล้อเล่นอ๊ะป่าว “จริงหรอ” ทำหน้าไม่เชื่อ เอามือถือ (ซึ่งพอดีอยู่ในมือเขา) กอดไว้อย่างแน่น

เราก็ ”จริงครับ”

เขาก็ “โทรไปแล้วยังไง”

เราก็ “เผื่อแท็กซี่จะใจดี เอากลับมาคืน” มองโลกในแง่ดีจริงเรา แต่ตอนนั้นคิดงั้นจริงนะ อารมณ์อยากได้คืน พ่อเพิ่งให้มาให้ได้ 2 เดือนเอง เป็นโทรศัพท์อันแรกที่เรามีแล้วถ่ายรูปได้ด้วย เฮ้อ พูดแล้วอายจัง...เป็นคนโลเทค เหอ เหอ

“เบอร์ไรเดี่ยวผมโทรให้”

เราก็ “08x xxx xxxx”

ระหว่างโทรเขาก็ “คงไม่ได้คืนแล้วหละ เขาคงปิดมือถือแล้วหละ นี่ไงจริงด้วย”

เราก็คิด...เฮ้อ ทำไมคนเราถึงเป็นอย่างงี้น๊า ไม่คิดหรอ ว่าคนอื่นเขาจะเดือดร้อน

เขาก็โทรให้อีกหลายรอบนะ แต่ก็อย่างที่ทุกคนคิดหละครับ ไร้ประโยชน์
ระหว่างนั้น เขาก็ “ไม่ได้คืนแล้วหละ ผมก็เคย 3 เครื่องแหนะ”

เราก็ไม่ได้ตอบอะไรไป กำลังคิดถึงว่าจะทำไงดี

เราก็ “โอเคคับ ยังไง ขอบคุณนะครับ” แล้วก็เดินหันหลังจะไปเรียกแท็กซี่กลับ เซ็งงงงงงง

เขาก็เรียกเรากลับชวนคุยอะไรอีกไม่รู้ จำไม่ได้แล๊ะแต่ก็เกี่ยวกับมือถือหายนี่หล่ะ ใจเราคงไปอยู่กับมือถือแล้ว

เราก็กลับไปนะ แล้วก็ “ขอบคุณครับ” หันหลังอีก เขาก็ชวนคุยอีก เป็นยังงี้ประมาณ 3 รอบ

สุดท้ายเราก็ขอลงมายืนบนถนนรอรถแท็กซี่จนได้

ซักเพิ่งเห็นเขาเดินไป ไม่รู้รออะไร เอ....รึว่าหลงเสน่ห์เราหว่า แต่ก็เหอะ ตอนนั้นไม่มีใจคิดอะไรแล้ว เซ็ง อยากกลับบ้าน คนนั้นที่เจอกันวันพุธก็ไม่ไปหาแล๊ะ ไม่รู้เขาจะมองหาเรารึป่าวน้า

สุดท้ายก็เรียกแท็กซี่ได้ ระหว่างทางก็คิด ทำไมน้า ทำไมต้องมาเกิดกับเราด้วย (ไม่เคยโทรศัพท์หายมาก่อน แถมเป็นอันที่พ่อให้อีก ไอ่แท็กซี่คันนั้นเราก็ให้เงินเกินไป (มิเตอร์โชว์ 35 บาท เราให้ไป 40) เสียดายจริงๆ ทำไมเราถึงทำดีกับเขานะ

ปล. พอวันรุ่งขึ้น เริ่มหายเครียด ก็คิดอยากพาเขาไปเลี้ยงข้าวเป็นการขอบคุณเหมือนกันนะ ที่วันนั้นเขาช่วยเราโทรเข้ามือถือเรา ช่วยเราพักนึงทีเดียว ยังไงขอบคุณอีกทีนะครับ ถึงไม่ได้คืน แต่ก็ทำให้รู้ว่าเมืองไทยอย่างน้อยก็ยังมีอีกคนที่มีน้ำใจ


Create Date : 07 เมษายน 2551
Last Update : 7 เมษายน 2551 19:04:12 น. 0 comments
Counter : 325 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sfboy
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Still waiting for someone to brighten up my world.
Friends' blogs
[Add sfboy's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.