ได้มีโอกาสไปงาน Christmas Party
ที่ The Mansion on the O Street ใน Washington DC มาค่ะ
สถานที่สวยแปลกตาหลากสไตล์ทั้ง Victorian และ Art Deco เลยเอารูปมาฝากกัน
The Masion on the O Street สร้างมาตั้งแต่ปี 1892
เจ้าของคนปัจจุบัน คือ H.H. Leonards Spero ได้เปลี่ยนเป็น Art Gallery, Musuem
และ Bed & Breakfast
ใครสนใจจะลองไปพักก็ได้ ราคาที่พักเริ่ม $250 - $1500 (เอื้อก)
พอดีอากาศหนาวมาก เลยไม่มีรูปข้างหน้ามาให้เห็น
ใครสนใจคลิ้กที่ Logo ได้เลยค่ะ
ง า น เ ลี้ ย ง
พอดีถ่ายตอนจะกลับบ้านแล้วค่ะ ก็เลยไม่มีอาหารให้เห็นแล้ว
วันนั้นอาหารอร่อยมาก เอารายการมาให้หิวเล่นๆ ดังนี้
Roast Turkey-Spiral Ham-Baked Halibut with Asparagus-Steak With Zuccini and Squash
Italian Meatball Soup-Mash Potato-Candy Sweet Potato-Caesar Salad
ที่เหลืออีกมากจำไม่ได้ บางอย่างก็ไม่รู้จักชื่ออีกต่างหาก
ส่วนของหวานมีเค้กสิบกว่าแบบ ทั้งเค้กผลไม้และชอคโคแลตแบบต่างๆ
แถมมี Chocolate Fountain ให้เราเอาผลไม้ลงไปจิ้มแบบฟองดูร์อีกต่างหาก
เรียกว่าอร่อยลืมอ้วนไปหนึ่งวัน
ห้องทานอาหารค่ะ
ไฟระย้า - รูป - ต้นคริสต์มาส ในห้องทานอาหาร
เอกลักษณ์ของที่นี่คือผนังจะเต็มไปด้วยรูปค่ะ แทบจะไม่มีที่ว่างเลย
ห้ อ ง พั ก
เราได้รับอนุญาตให้เดินชมปนสำรวจได้ทุกที่ที่ประตูเปิดเอาไว้ค่ะ
พอดีชั้นสองเป็น Private Club ปิด ก็เลยพลาดไปหนึ่งชั้น
Highlight ของที่นี่คือ Log Cabin สองชั้นใจกลางโรงแรมก็ปิดเช่นกัน
แต่เท่าที่เราได้ดูก็สวยคุ้มค่าเดินขึ้นๆลงๆหลงๆค่ะ
The mansion at the O Street มีสี่ชั้น
และเป็นห้องแถวหลายห้องต่อกันค่ะ จึงเต็มไปด้วยบันได และประตูลับมากมาย
ตามผนังต่างๆประดับไปด้วย รูปวาดหลากหลาย หนังสือ และแผ่นเสียงค่ะ
ดูแล้วเหมือนบ้านในฝันของหนอนหนังสือ และผู้ที่มีดนตรีในหัวใจทั้งหลายเลย
ห้องพักมีหลายแบบ บางห้องก็เป็นห้องนอนอย่างเดียว
บางห้องก็เป็น Suite นะคะ ทำเหมือนบ้านเลย
มีทุึกอย่างทั้งห้องครัวซึ่งใหญ่เท่าครัวตามบ้านปกติ ห้องทานอาหาร
ห้องนั่งเล่นซึ่งมีเก้าอี้น่านอนอ่านหนังสือดี (ที่ตั้งไว้ยั่วสายตาในห้อง) อิงไออุ่นจากเตาผิง
John Lennon
H i s L i f e a n d W o r k S u i t e
ใครเป็นแฟนตัวจริงของ John Lennon คงจะอยากมาพักห้องนี้
ภายในห้องเต็มไปด้วยแผ่นเสียง หนังสือ รูปภาพ
และสิ่งละอันพันละน้อยเกี่ยวกับ John Lennon ค่ะ
มีกีต้าร์วางอยู่ด้วยหลายตัวเลย
ชื่อห้องนี่ เขาไม่ได้เขียนไว้หรอกนะคะ เอามาจากชื่อรูปภาพในห้องค่ะ
Simple Things
อันนี้เป็นชื่อหนังสือรวบรวมคำคมของเจ้าของโรงแรมค่ะ
ถ้าไม่แพงไปหน่อยคงจะซื้อกลับมาเป็นที่ระลึก
เป็นอันว่าจำเอามาฝากหนึ่งประโยคดังนี้
"Friendship is reaching for someone's hand and touching their heart"
มัวแต่ชมเพลิน ที่งานจับของขวัญปีใหม่กันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
เลยไม่ได้ของขวัญ ได้แต่รูปมาฝากกันแทน
M e r r y C h i r s t m a s E v e r y o n e !
see u soon