วันที่สอง หลังจากวุ่นวายเรื่องกระเป๋าที่หนีเราไปเที่ยวอยู่หลายชั่วโมง ในที่สุดเราก็ได้ออกจากที่พักเสียทีค่ะ ปลายทางของเราวันนี้อยู่เกือบๆถึงเมือง Healy ซึ่งเป็นที่ตั้งของยอดเขาที่สูงที่สุดในอเมริกาเหนือ คือ ยอด Denali นั่นเองค่ะ
ออกจาก Anchorage ได้เราก็วิ่งตามถนนชื่อ George Park Highway ค่ะ ถนนสวยมากๆ เช้าๆ อากาศยังอึมครึมอยู่ พอบ่ายฟ้าใสแดดออก ยอดเขา Mt.McKinLey ใน Denali NP ก็เผยโฉมออกมาให้เราเห็นอย่างในรูปที่ค่ะ ขอเล่าต่ออีกนิด ช่วงที่เราไปเป็นช่วงที่ทุกหนทุกแห่งเต็มไปด้วยดอกไม้สีชมพูอย่างในรูปค่ะ ดอกไม้นี้มีชื่อว่า ดอก firewood
ระหว่างทางมีจุดให้ชมวิวหลายที่มากๆค่ะ สองข้างทางเต็มไปด้วยเทือกเขาใหญ่ยักษ์แหงนคอตั้งบ่า แต่เราไถลมากไม่ได้ค่ะ เพราะจะต้องไปให้ถึงที่ทำการอุทยาน Denali National Park ก่อนสองทุ่ม (ก็ตอนเช้ามัวแต่ไปหากระเป๋าอยู่ที่สนามบิน) ถึงกระนั้น ที่จุดชมวิว South Denali นี่พลาดไม่ได้ เพราะเป็นจุดที่เห็นยอด Mt. McKinLey ได้ชัดมากเลยคะ เขาบอกว่ามีเพียง 7 เปอร์เซ็นต์ของคนที่มาเที่ยวแถบนี้แล้วจะได้เห็น เพราะส่วนใหญ่อากาศจะอึมครึมอย่างที่คนที่นี่เรียกว่า smoke ค่ะ
ยอดขาวๆที่เห็นอยู่ข้างหลังนั่นแหละค่ะ Mt. McKinLey อย่างนี้แหละที่เขาเรียกว่า สูงเทียมเมฆ
เราไปถึงที่ Wilderness Center ของ Denali Naltional Park เอาตอนสองทุ่มพอดีค่ะ ก็ยังไม่ปิดแต่ก็หวุดหวิดไป คุณหมีเข้าไปเอาตั๋วรถสำหรับที่จะเข้าไปในอุทยานพรุ่งนี้เช้า คิวยังยาวอยู่พอสมควร อันตั๋วรถนี้เราจองล่วงหน้าทาง internet ค่ะ เพราะถ้าไม่จองมาก่อน มาหวังน้ำบ่อหน้าคงจะอดแน่นอน เพื่อรักษาธรรมชาติ ที่นี่ไม่อนุญาตให้ขับรถเข้าไปเองนะคะ ทุกคนต้องมานั่งรถหน้าตาเหมือนรถโรงเรียนเข้าไปค่ะ
หลังจากนั้นสามทุ่มเศษๆ เราถึงได้เข้าที่พักกัน เราพักที่ Denali Morning Hostel ซึ่งอยู่ข้าง Carol Creek ข้างหลังเป็นภูเขาสูงมากค่ะ ที่พักสวยแอบอิงกับธรรมชาติ เอาไว้มีโอกาสจะเอารูปมาฝากอีกทีค่ะ
กว่าจะอาบน้ำเสร็จได้กินข้าวก็ห้าทุ่มกว่าแล้วค่ะ เราเตรียมอาหารเช้า - แซนด์วิชแฮม และกลางวัน ข้าวไข่ต้มกะน้ำพริกนรก เข้าไปทานข้างในด้วย เพราะในอุทยานไม่มีอาหารและน้ำขายค่ะ
รถออกตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ตอนตีห้าค่ะ
รูปข้างล่างนี่เราเข้าอยู่ใจกลางอุทยานแล้ว สักราวเจ็ดโมงเช้าเห็นจะได้ค่ะ จุดนี้เรียกว่า Polychrome ค่ะ วันที่ไปมี smoke มากเป็นพิเศษเลยมองเห็นไปข้างหน้าได้ไม่ไกลเท่าไหร่ค่ะ ระหว่างทางเจอสัตว์ป่ามากมายหลายชนิด รวบรวมเอาไว้ในบล็อกต่อๆไปค่ะ
Polychrome ยามเช้าอีกรูปค่ะ อากาศค่อนข้างเย็นนะคะ เจ้าของบล็อกยังใส่เสื้อกันหนาวเลยค่ะ แต่สองคนนี้คงเดาถูกว่าตอนบ่ายๆจะร้อน ใส่ขาสั้นมาเตรียมไว้เลยค่ะ
รถคันที่เราแล่นเข้าไปเป็นคันที่สองค่ะ คันแรกออกเกือบๆตีห้า ปลายทางที่ Katishna ซึ่งเป็นจุดไกลที่สุด และมี Wilderness cottage ใครมีสตางค์เยอะหน่อย ก็เข้าไปพักได้ค่ะ จุดถัดไปคือ Wonder Lake นะคะ เราเห็นในรูปแล้วสวยมาก แต่เวลาเราไม่พอก็เลยไปจุดที่สาม เรียกว่า fish creek ค่ะ จาก Polychrome รถพาเราลัดเลี้ยวไปตามภูเขาขนาดใหญ่ (ใหญ่มากจริงๆค่ะ) บางช่วงทางโค้งหักศอกกันศอกหักเลย แล้วก็ลาดลงไปเรื่อยๆจนถึงทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ มีลำธารกลางดงหญ้า ไกด์รถเราก็ถามขึ้นว่ามีใครจะลงไหม ถึง fish creek แล้วนะ ปกติเขาชอบลงมาเดินเล่น ไกด์ก็พูดงึมงำอยู่ในคอ อ้อ ไม่มีใครลง โอเค ไกด์ก็สั่งคนขับ (ซึ่งก็คือคนเดียวกัน เพราะในรถมีเจ้าหน้าที่คนเดียว ทำทุกอย่าง) กลับรถเลยบ๊ายบาย fiish creek ส่วนกะเหรี่ยงสองตัวเหรอ
"น้อง ถึง fish creek แล้วนะ "
"ใช่เหรอพี่ เนี่ยนะ ไม่เห็นมีป้ายเลย"
"ใช่น้องนี่แหละ ไกด์เขาพึ่งบอก"
"ไม่ใช่หรอกมั้ง"
"ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว(โว้ย) ตอนนี้น่ะมันกลับมา stoney hill แล้ว ไม่รีบลงมันจะกลับไป Polychrome แล้ว"
"ลงจะพี่ ลงๆๆ โอ๋ โอ๋ ไม่เป็นไร Stoney hill" ก็ได้
เลยมีภาพ Stoney Hill มาฝากกันด้วยประการฉะนี้
ในหนังสือนำเที่ยวบอกเอาไว้ว่า เมื่อรถโรงเรียน (รถที่เรานั่งเข้าไปหน้าตาเหมือนรถโรงเรียนจริงๆค่ะ)พาเข้าไปถึงข้างในแล้ว เราควรจะลงเดินจากถนนเข้าไปในทุ่งหญ้าราบๆ หรือไต่ภูเขาสูงดู เพราะจะได้สัมผัสถึงความกว้างใหญ่ของที่นี่ สัมผัสความรู้สึกว่าเหมือนมีเราอยู่คนเดียวในความกว้างใหญ่นั้นว่าเป็นอย่างไร
รถที่เรานั่ง เราจะขึ้นหรือลงเมื่อไหร่ก็ได้นะคะ เพียงแต่เราบอกคนขับว่าเราอยากจะลง เขาจะหยุดรถให้เราลงทันที แต่เวลาเราอยากจะเลิกเดินแล้ว ก็ยืนคอยตรงไหนก็ได้ริมถนน ถ้ารถคันที่ผ่านมาเขามีที่ว่าง เขาก็รับเราไปด้วย ถ้าเขาไม่มี เราก็ยืนคอยต่อไปค่ะ
จุดแรกที่เราหยุดคือ Stoney Hill ดังที่เห็นในรูปข้างบน และรูปข้างล่างนะคะ เนื่องจากเราเป็นคู่แรกที่ลงจากรถในยามเช้าตรู่ ผู้คนในรถต่าง say good bye and good luck กันยกใหญ่ จนเรารู้สึกราวกับว่าจะไปผจญภัยก็ไม่ปาน
จาก Stoney Hill มองไปตามถนนจะเป็นทางลงเขารูปตัวเอส ลดเลี้ยวไปตามภูเขาจนไปถึง Fish Creek ถ้ามองกลับไปอีกข้างหนึ่งจะเป็นทางขึ้นเขา เห็นภูเขาสูงเสียดฟ้า ทางด้านซ้ายขวา ด้านหนึ่งเป็นทุ่งราบๆ ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นหนองน้ำเล็กๆ มีดอกไม้สีขาวคล้ายดอกกระดุมเงินขึ้นเต็ม แล้วลาดขึ้นไปเป็นภูเขาสีแดงที่ไม่ค่อยมีต้นไม้
เราเลือกเดินไปทางทุ่งราบ ซึ่งไม่ราบเหมือนตาเห็น เพราะเป็นเนินสูงๆ ต่ำๆ พอได้ที่เหมาะใจ (ซึ่งเป็นที่ที่เห็นในรูปข้างล่างนี่แหละ) ก็นั่งลงกินอาหารเช้าค่ะ เดินไปเดินมาก็ชักจะหิวแล้ว อาหารเช้ามื้อนี้เป็นแซนด์วิชแฮมที่ทำติดมาตั้งแต่เมื่อคืน นับเป็นห้องอาหารเช้าที่วิวสวยและอากาศดีสุดๆไปเลยค่ะ
เราไปส่องใกล้ๆภูเขา เห็น Doll Sheep ที่มีเขาม้วนๆ เดินอยู่บนภูเขาด้วยค่ะ เลยเอารูปมาฝาก เสียดายไม่มีรูปใกล้ๆมาให้ดูด้วย จะให้ปีนไปถ่ายใกล้ๆก็ปีนไม่ไหวอ่ะ เห็น Doll Sheep แล้วเหมือนเห็นเลียงผาที่ม่อนจองเลย ค่าที่ว่ามันไต่อยู่บนผา บนเขาสูงเหมือนกัน
เดินอยู่แถว Stoney Hill ได้พักใหญ่ ก็จับรถกลับไปที่ Toklat ค่ะ ก็ขึ้นเขาไปเรื่อยๆ แล้วก็ลงเขามาอีกที ที่นี่เป็นที่ตั้งของ Visitor Center อีกแห่งหนึ่ง มีนิทรรศการให้ดู มีเขาของกวาง Calibou เรียงรายให้เราไปลองยกเล่นอยู่หลายอัน แล้วก็มีห้องน้ำเรียงกันเป็นพืดยาวเหยียดค่ะ
Visitor Center อันนี้ตั้งอยู่ริมลำธารที่เกิดจาก Glacier ไหลผ่าน (เรียกว่า Outwash ค่ะ) แล้วครูดเอาหน้าดินติดไปด้วยค่ะ เลยเหมือนเห็นลำธารตื้น แลเห็นกรวดสีดำๆ สลับเป็นตอนๆ มีน้ำไหลเป็นทางๆ อย่างที่เห็นในรูปแหล่ะค่ะ ทางซ้ายบนของรูปที่เห็นเป็นเต็นท์นั่นคือส่วนแสดงนิทรรศการ ขายของที่ระลึก และเป็นที่หลบหนาว ถ้าเพ่งดีๆจะเห็นปล่องเรียงเป็นตับ อันนั้นคือห้องน้ำค่ะ
เล่าเรื่องห้องน้ำนิดนึง ห้องน้ำที่นี่ไม่ใช้น้ำและไม่มีกระดาษชำระนะคะ แหะๆ ก็เหมือนส้วมหลุมเราดีๆนี่เอง เลยจำเป็นต้องมีท่อสูงระบายก๊าซค่ะ แถวนั้นกลิ่นรุนแรงอย่าบอกใครเลย ในห้องน้ำมีอุปกรณ์เหมือนที่ใส่สบู่เหลวตามห้างบ้านเราแต่เขาใส่ gel ที่ผสม Alcohol ฆ่าเชื้อโรคไว้แทน พอเสร็จธุระแล้วก็บีบใส่มือถูๆ สะอาดใช้ได้ อิอิ
รูปนี้คุณหมีเค้าชอบของเขามากค่ะ แต่ตอนทำรูปตอนนั้นคนทำยังไม่ค่อยเก่งมายาโฟโต้ชอบสักเท่าไหร่ เลยทำรูปสวยๆเค้าออกมาเบลอๆเสียอย่างนั้น
รถที่เรานั่งเข้าไปหน้าตาเหมือนรถโรงเรียนที่เห็นในรูปนี่แหละค่ะ เพียงแต่เป็นรถโรงเรียนสีเขียว รถออกตั้งแต่ตีห้าถึงสี่โมงเย็นนะคะ ใครตกรถรอบสุดท้ายล่ะก็เตรียมตัวนอนเป็นเพื่อนหมีในอุทยานได้เลย ในอุทยานมีที่ให้กางเต้นท์ได้หลายที่ค่ะ ยิ่งเข้ามาไกลก็ยิ่งจ่ายค่าทีกางเต้นท์แพงนะคะ แล้วต้องแบกมาทุกอย่าง เพราะเอารถเข้าไม่ได้ ก็เรียกว่างานใหญ่เอาการ ของทุกอย่างที่ Hostel ที่เราไปค้างมีให้เช่าหมดค่ะ ทั้งเป้ เต้นท์ รวมไปถึงหม้อสนาม อาหารก็มีขายให้ด้วย ถ้าไปอยู่หลายวันก็น่าลองแบกดูค่ะ
จาก Toklat เราเดินข้ามสะพานในรูปข้างบนไปสักพักแล้วจับรถต่อไป Polychrome ที่แวะไปตอนเช้าค่ะ Polychrome นับเป็นจุดพักที่มีชื่อเสียงจุดหนึ่งใน Denali เพราะสีสันของภูเขาที่นี่เองค่ะ เป็นที่ๆสวยมากๆอีกที่หนึ่งนะคะ แล้วก็น่าทึ่งตรงความใหญ่โตของภูเขาเลยล่ะค่ะ ข้างหนี่งของเราจะเป็นภูเขาลูกแล้วลูกเล่าสูงเสียดฟ้าเบียดกันสลับซับซ้อน อีกข้างเป็นเหวลึกมองเห็น Outwash เป็นเส้นสีเงินอยู่ลิบๆที่ก้นเหว
สองคนที่เห็นเดินอยู่ข้างหน้าเราเป็นชาวญี่ปุ่นค่ะ เขาแวะทานข้าวในศาลาที่ Polychrome พร้อมกันกับเรา เป้ของเขาใหญ่เท่ากับผู้หญิงคนที่เดินอยู่ข้างๆเลย เขากินข้าวปั้นกันเสร็จก็ออกเดินนำหน้าเรา ค่อยๆทิ้งห่างไปทุกที แล้วในที่สุดเขาสองคนก็ปีนขึ้นไปบนเขาข้างหน้า แล้วเราก็มองเห็นเขาเล็กเท่ากับ Doll Sheep ที่เราเห็นอยู่บนสันเขาในรูปก่อนหน้า
ตามถนนเลียบฟ้าเลียบเขาที่ Polychrome รถผ่านหน้าเราไปหลายคัน แต่เรายังทำเก่งว่าเราจะเดินชมวิวไปจนถึง Syber Pass
อีกมุมหนึ่งของ Polychrome ค่ะ เห็นถนนนิดนึง ดูแล้วมนุษย์เรานี่เล็กกระจิดริด เมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ
มาเห็นรูปที่นี่ตอนฤดูอื่นๆ สวยมากๆเลยค่ะ เพราะยอดเขาที่เห็นแดงๆในภาพล้วนแต่มีหิมะปกคลุม ฟ้าหรือก็เป็นสีฟ้าจัดจ้านตัดกันกับสีขาวของหิมะ เราไปหน้าร้อนฟ้าจะไม่ค่อยใสเท่าไหร่ มีควันเยอะมองออกไปไม่ได้ไกลๆ วันที่ไปอากาศร้อนทำสถิติเลยค่ะ เกือบๆ 75F อ่ะ เราสองคนเลยปอกเปลือกเหลือแต่เสื้อยืดตัวเดียว แล้วก็เริ่มคิดถึงขาสั้นกันเลยแหล่ะ
พอมีสาว(เหลือ)น้อยไปเดินเข้าหนึ่งคน ดูภูเขาใหญ่ทะมึนขึ้นทันตาเห็นเลยไหมคะ รูปนี้เดินอยู่แถวๆ Polychrome ค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนเดินเดียวดายอยู่บนดาวอังคาร ประมาณนั้นแหละ
รูปปิดท้ายเป็นรูปพระเอกของทริปบ้างอิอิ สีแตกต่างกันกับรูปที่แล้วมากเลยค่ะ อาจจะเป็นเพราะฝนใกล้ตกก็ได้ อีกอย่างคือกล้องคนละตัวกันค่ะ
จริงๆแล้วเรากะว่าจาก Polychrome จะเดินต่อไปจนถึง Syber pass ซึ่งเป็นถนนที่อยู่ระหว่างหน้าผาสองอัน นั่งรถผ่านตอนเช้าแล้วรู้สึกว่าสวยมากๆค่ะ แต่พอเดินอยู่บน Polychrome ได้สักพักใหญ่ เราเห็นฝนตั้งเค้ามาเลยตัดสินใจโบกรถ เพราะกลัวอดไป Syber pass พอขึ้นรถได้ไม่ถึงห้านาที ฝนตกโครมใหญ่เลยค่ะ แล้วรถเหลือที่นั่งสองที่พอดี พวกที่เดินนำหน้าเราที่ Polychrome เลยเปียกปอนแฉะกันถ้วนทั่วไปเลย ที่แย่ก็คือเราอดลงไปเดินที่ Syber pass อ่ะ แถมรูปก็ไม่มีสักใบเพราะตอนเช้าไม่ได้ถ่ายไว้ เนื่องจากเป็นช่องเขา ถ่ายจากบนรถไม่ได้ เศร้าเลย
แต่ที่ดีอย่างหนึ่งคือจาก Polychrome ไปถึง Syber Pass น่ะ ขนาดนั่งรถยังเกือบชั่วโมงเลย ถ้าเดินไปถึงจริงต้องขาลากแน่นอน แค่นี้คืนนั้นหลับเป็นตาย ตื่นตั้งสิบโมงแน่ะค่ะ
จากที่กะว่าจะอยู่ข้างในจนมืด พอฝนตกไม่ได้แวะที่ไหนต่อก็เลยได้ขับรถเข้ามาอีกทีจนถึงไมล์ที่ 14 ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่เอารถเข้ามาได้ เลยโชคดีได้เห็นมูสสองแม่ลูกในระยะประชิด เอาไว้ติดตามดูรูปได้ในตอนที่แปดนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาชมภาพ พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
โดยเฉพาะภาพที่สอง เก็บภาพยอดเขา Denali
ได้สวยมากเลยค่ะ
ชอบห้องอาหารเช้าที่วิวสวยและอากาศดีค่ะ
อยากไปนั่งอยู่ตรงนั้นบ้าง
แล้วจะรอดูภาพชุดอื่นๆ ต่อไปนะคะ